xs
xsm
sm
md
lg

โชเฟอร์รถพ่วงหลับใน ข้ามเกาะชนรถทัวร์ดับ19

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สลด! โศกนาฏกรรมรับเข้าพรรษาบนถนนมิตรภาพ อ.แก่งคอย จ.สระบุรี รถพ่วง 18 ล้อข้ามเกาะกลางถนน ประสานงารถทัวร์โดยสารไฟลุกท่วม คลอกผู้โดยสารตายทั้งเป็น 19 ศพ เจ็บ 20 ราย คนขับรถพ่วงสารภาพหลับในจริง ด้าน "ชัชชาติ" สั่งตั้งศูนย์อำนวยการที่สภ.แก่งคอย อำนวยความสะดวกญาติ เรียก "เอ็มดี" บขส.หารือด่วน สุดอาลัย! บรรดาญาติพี่น้องผุ้เสียชีวิตที่เดินทางไปพร้อมกับรถบัสสายกรุงเทพ - ร้อยเอ็ด แห่รับศพที่สถาบันนิติเวชวิทยา อีกรายรถทัวร์โดยสารสายอุบลราชธานี-พัทยา ชนท้ายพ่วง 18 ล้อ บนถนนกบินทร์บุรี-นครราชสีมา ขณะลงจากเขา โชคดีไม่มีใครตาย แต่เจ็บระนาว 50 ราย

เมื่อเวลา 04.50 น. วานนี้ (23 ก.ค.) ร.ต.ท.อัศวเทพ จันทนารี ร้อยเวร สภ.แก่งคอย จ.สระบุรี รับแจ้งอุบัติเหตุรถพ่วง 18 ล้อ ชนประสานงากับรถทัวร์โดยสาร และมีรถกระบะพุ่งชนซ้ำอีกคัน จนเกิดไฟลุกไหม้รถทัง 3 คัน บนถนนมิตรภาพ กม. 19-20 หมู่ 9 ต.ทับกวาง จึงประสานหน่วยกู้ภัยไปยังที่เกิดเหตุ พบรถดับเพลิงของเทศบาลตำบลทับกวาง กำลังฉีดน้ำสกัดเพลิง

หลังเพลิงสงบพบว่าเป็นรถทัวร์บขส. 2 ชั้น สายร้อยเอ็ด-กรุงเทพฯ ทะเบียน 14-5994 กรุงเทพมหานคร ชนอัดกับรถพ่วง 18 ล้อ ทะเบียน 71-1807 นครปฐม สภาพด้านหน้าพังยับเยิน อยู่บนเกาะกลางถนน และรถกระบะโตโยต้า วีโก้ สีขาว ทะเบียน ฒง 3925 กรุงเทพมหานคร โดยในรถทัวร์พบศพผู้โดยสารถูกไฟคลอกตายทั้งเป็น 19 ศพ ส่วนผู้โดยสารมาในรถกระบะบาดเจ็บ 1 คน คือ นางตรีนุช จรอนันต์ ถูกนำส่งโรงพยาบาลแก่งคอย ส่วนนายณรงค์ศักดิ์ จรอนันต์ สามีซึ่งเป็นคนขับ และลูกไม่ได้รับบาดเจ็บ

ขณะที่คนขับรถพ่วง คือ นายสะอาด บุญยัง บาดเจ็บที่ศรีษะและขา ถูกนำส่งโรงพยาบาลแก่งคอย ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้อายัดตัวไว้ดำเนินคดีแล้ว ส่วนคนขับรถทัวร์โดยสารมือ 1 นายอมรศักดิ์ อินทนพ และมือ 2 นายชาญชัย แนบเสลา เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ

สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า รถพ่วง 18 ล้อขับออกจากจ.สระบุรี มุ่งหน้าจะไปอ.มวกเหล็ก ซึ่งสันนิษฐานว่าคนขับหลับใน และเสียหลักข้ามเกาะกลางถนนมาอีกฝั่ง ขณะที่รถทัวร์โดยสารมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯด้วยความเร็ว ประกอบกับมีฝนตกเล็กน้อย เป็นเหตุให้เบรคไม่ทัน ชนประสานงากับรถพ่วง 18 ล้อ ขณะเดียวกันรถกระบะที่ขับตามรถพ่วงมาเบรคไม่ทันเช่นกัน จึงพุ่งชนท้ายรถพ่วง และเกิดเพลิงลุกไหม้รถที่เกิดอุบัติเหตุทันที

ต่อมา นายถาวร พรหมมีชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี ไปดูจุดเกิดเหตุ และไปเยี่ยมผู้ป่วยที่โรงพยาบาลแก่งคอย ขณะที่ญาติผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตที่ทราบข่าว ต่างทยอยมาที่โรงพยาบาลแก่งคอย ทำให้บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า ขณะที่นายถาวรสอบถามคนขับรถพ่วง ให้ปากคำว่าขับรถออกจากจากตัวเมืองสระบุรี เพื่อไปรับปูนซีเมนต์พีทีไอ. ที่อ.แก่งคอย แต่เมื่อถึงจุดเกิดเหตุได้หลับใน รถจึงข้ามเกาะกลางถนนไปชนกับรถทัวร์

สำหรับผู้บาดเจ็บทราบ 20 คน ประกอบด้วย 1.ร.ต.ธนันท์ ปิ่นบัณฑิต อายุ 30 ปี 2.นายจิตต์ แก้วคำลือ อายุ 46 ปี 3.นายสะอาด บุญยัง อายุ 29 ปี 4.นายณัฐพงศ์ ประทุมรัตน์ อายุ 17 ปี 5.นายณรงค์ศักดิ์ จรอนันต์ อายุ 31 ปี 6.ด.ช.ณัฐวุฒิ จรอนันต์ อายุ 4 ปี 7.นางตุ้มทอง สุขพ่วง อายุ 43 ปี 8.นางรติรัตน์ บุญแสง อายุ 40 ปี 9.น.ส.สิริสวัสดิ์ วันทอง อายุ32 ปี 10.น.ส.พรวีนัส อนุวัน อายุ 31 ปี

11.น.ส.ฉัตรทิพย์ วงศ์ป้อม อายุ 32 ปี 12.น.ส.กิติยา ทองคำ อายุ 22 ปี 13.น.ส.ณภัชสรา โพธิ์กมล อายุ 31 ปี 14.น.ส.เดือนนภา สุ่มมาตย์ อายุ 27 ปี 15.น.ส.ตรีนุช ไชยทะ อายุ 29 ปี 16.น.ส.อัมมร กรนาม อายุ 33 ปี 17.น.ส.ปรียารินทร์ ประติหนูสุข อายุ 34 ปี 18น.ส.สมเพียร เสโน อายุ 46 ปี 19. ส.ต.อ.หญิงอรวรรณ อสิกัน อายุ 27 ปี 20.น.ส.ณัฐิยาพร ประทุมรัตน์ อายุ 21 ปี

ทั้งนี้ เมื่อ 3-4 ปีก่อน เคยเกิดโศกนาฎกรรมรถทัวร์เบรกแตกลงเนินถนนมิตรภาพ มีผู้เสียชีวิตถึง 27 ศพมาแล้ว

เวลา 15.00 น. เจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง และมูลนิธิร่วมกตัญญู ลำเลียงศพทั้ง 19 ศพ มายังสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ เบื้องต้นทราบชื่อเพียง 6 ศพ คือ ด.ช.อภิชาติ ชัยพอ อายุ 13 ปี นายอำนาจ ชัยพอ บิดาด.ช.อภิชาติ นายสาคร สวัสดิ์ผล นายชาญชัย แนบเสนา นายทศพร แสงสุภา และนายอมรศักดิ์ อินทนพ โดยทั้งหมดสภาพถูกไหม้เกรียม ต้องผ่าพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคล

น.ส.ปาริฉัตร บุญเมือง อายุ 31 ปี เพื่อนนายสาคร สวัสดิผล ผู้เสียชีวิต กล่าวว่า นายสาครได้โทรศัพท์หาพี่สาวว่าประสบอุบัติเหตุ และติดอยู่ในรถทัวร์ จากนั้นไม่สามารถติดต่อได้ จนมาทราบว่าเสียชีวิตแล้ว ซึ่งก่อนเกิดเหตุนายสาครมักจะพูดกับเพื่อนเสมอว่ากลัวเสียชีวิต และเป็นห่วงแม่ ซึ่งตั้งใจว่าช่วงสิ้นปีนี้จะลาออกจากงานและเพื่อกลับไปดูแลแม่ที่จ.ร้อยเอ็ด

พล.ต.ต.นพ.พรชัย สุธีรคุณ ผู้บังคับการสถาบันนิติเวชวิทยา กล่าวว่า ต้องตรวจว่าเสียชีวิตก่อนหรือหลังถูกไฟคลอก เพื่อใช้เป็นแผนป้องกันอุบัติภัยในอนาคต รายที่มีประวัติการทำฟันหรือตำหนิตามร่างกาย สามารถพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลได้ภายใน 1 วัน ส่วนที่ถูกไฟคลอกและไม่มีประวัติการทำฟัน ต้องตรวจดีเอ็นเอจากบิดามารดาหรือทายาท จะทราบผลภายใน 48 ชั่วโมง

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ได้มอบหมายให้บริษัท ขนส่ง จำกัด(บขส.) ประสานกับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จัดตั้งศูนย์ดูแลผู้ประสบเหตุ ศูนย์กลางอยู่ที่สภ.แก่งคอย เพื่ออำนวยความสะดวกญาติผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตทุกราย และวันที่ 24 กรกฎาคม จะเชิญนายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร กรรมการผู้จัดการใหญ่บขส. มาหารือมาตรฐานด้านความปลอดภัย

นายชัชชาติ กล่าวว่า ทั้งนี้จากการตรวจสอบความเร็วของรถทัวร์โดยสารจากระบบบอกตำแหน่งบนพื้นผิวโลกหรือจีพีเอส พบว่าขับมาด้วยความเร็ว 78 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งถือว่าไม่เร็วมาก ประกอบกับบขส.มีมาตรการคุมเข้ม จึงไม่น่าจะมาจากความบกพร่องของบขส. แต่น่าจะเป็นที่รถพ่วง 18 ล้อที่ข้ามฝั่งเข้ามาชนมากกว่า

****สุดอาลัย!ญาติแห่รอรับศพ

วันนี้(23 ก.ค) เมื่อเวลา 15.00 น. ที่สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูและป่อเต็กตึ้ง ร่วมกันเคลื่อนย้ายศพจำนวน 19 ศพ จากอุบัติเหตุดังกล่าว มาให้แพทย์นิติเวชตรวจพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลก่อนที่จะให้ญาติมารับศพไปบำเพ็ญกุศล ทั้งนี้ เหตุการณ์นี้มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 21 คน โดยเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 19 คน และเสียชีวิตที่โรงพยาบาลแก่งคอย 2 คน ส่วนผู้บาดเจ็บมีมากกว่า 20 คน สำหรับบรรยากาศที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ ในขณะนี้ได้มีญาติและเพื่อนเดินทางมารอรับศพผู้เสียชีวิต โดยจากการสอบถาม นางสาวปาริฉัตร บุญเมือง อายุ 31 ปี เพื่อนของนายสาคร สวัสดิผล ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งทำงานเป็นหัวหน้าพนักงานบริษัทกฎหมายไทย กล่าวว่า หลังเกิดเหตุนายสาครได้โทรศัพท์ไปหาพี่สาวว่า ประสบอุบัติเหตุและติดอยู่ภายในรถทัวร์ก่อนจะไม่สามารถติดต่อได้ จนกระทั่งมาทราบว่านายสาครเสียชีวิตแล้ว นอกจากนี้ ยังกล่าวอีกว่า ช่วงก่อนเกิดเหตุนายสาครมักจะพูดกับเพื่อนอยู่เสมอว่า ตนเองกลัวเสียชีวิต และเป็นห่วงแม่ซึ่งตั้งใจว่าช่วงสิ้นปีนี้จะลาออกจากงานและเพื่อกลับไปดูแลแม่ ที่ จ.ร้อยเอ็ด

****หวิดเกิดโศกนาฏกรรมซ้ำที่ปราจีนบุรี

อีกราย เวลา 03.30 น. วันเดียวกัน ร.ต.ท.ติพล วาดโคกสูง พนักงานสอบสวนสภ.วังขอนแดง อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี รับแจ้งอุบัติเหตุรถทัวร์โดยสารชนกับรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ บนถนนกบินทร์บุรี-นครราชสีมา กม. 42 หมู่ 4 ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี ช่วงทางลงเขาโทน มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก จึงประสานตำรวจทางหลวงป้อมขุนศรี หน่วยกู้ภัยสัจจะพุทธธรรมกบินทร์บุรี ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ

พบรถทัวร์โดยสารสายอุบลราชธานี-พัทยา ทะเบียน 10-7734 นครราชสีมา ชนกับต้นไม้ข้างทาง ด้านซ้ายตัวถังรถฉีกขาดตั้งแต่หน้ารถถึงท้ายรถ จอดขวางถนนอยู่ ภายในรถพบผู้โดยสาร 50 คนได้รับบาดเจ็บ หน่วยกู้ภัยจึงรีบนำส่งโรงพยาบาลนาดี

ห่างจากรถทัวร์โดยสารไปประมาณ 50 เมตร พบรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ ทะเบียน 60-6079 กรุงเทพมหานคร จอดขวางถนนเช่นกัน

สอบสวนนายทองอาน อ่างมณี อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 43 ต.วารินชำราบ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี คนขับรถทัวร์โดยสาร ให้การว่าขับรถทัวร์มาจากจ.อุบลราชธานี และแวะจอดพักที่สถานีขนส่งจังหวัดนครราชสีมา จากนั้นออกเดินทางมุ่งหน้าไปจ.ระยอง เมื่อถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นทางลงเขาและมืด พบว่ามีรถพ่วง 18 ล้อเกิดอุบัติเหตุจอดขวางถนน จึงพยายามหักพวงมาลัยหลบแต่ไม่พ้น ทำให้รถไปเฉี่ยวท้ายรถพ่วง และเสียหลักชนต้นไม้ข้างทาง
กำลังโหลดความคิดเห็น