สุดอาลัย! บรรดาญาติพี่น้องผู้เสียชีวิตที่เดินทางไปพร้อมกับรถทัวร์สายกรุงเทพฯ-ร้อยเอ็ด แห่รอรับศพที่สถาบันนิติเวชวิทยา
วันนี้ (23 ก.ค) เมื่อเวลา 15.00 น.ที่สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู และ ป่อเต็กตึ๊ง ร่วมกันเคลื่อนย้ายศพจำนวน 19 ศพ จากอุบัติเหตุรถพ่วง 18 ล้อ พุ่งชนรถโดยสารประจำทางสายกรุงเทพฯ-ร้อยเอ็ด ทะเบียน 14-5994 กรุงเทพมหานคร บนถนนมิตรภาพฝั่งขาเข้า ต.ทับกวาง อ.แก่งคอย จ.สระบุรี จนเกิดไฟไหม้ลุกท่วมทั้งคัน มาให้แพทย์นิติเวชตรวจพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคล ก่อนที่จะให้ญาติมารับศพไปบำเพ็ญกุศล ทั้งนี้ เหตุการณ์นี้มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 21 คน โดยเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 19 คน และเสียชีวิตที่โรงพยาบาลแก่งคอย 2 คน ส่วนผู้บาดเจ็บมีมากกว่า 20 คน
สำหรับบรรยากาศที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ ในขณะนี้ได้มีญาติและเพื่อนเดินทางมารอรับศพผู้เสียชีวิต โดยจากการสอบถาม นางสาวปาริฉัตร บุญเมือง อายุ 31 ปี เพื่อนของ นายสาคร สวัสดิผล ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งทำงานเป็นหัวหน้าพนักงานบริษัทกฎหมายไทย กล่าวว่า หลังเกิดเหตุนายสาครได้โทรศัพท์ไปหาพี่สาวว่า ประสบอุบัติเหตุและติดอยู่ภายในรถทัวร์ก่อนจะไม่สามารถติดต่อได้ จนกระทั่งมาทราบว่านายสาครเสียชีวิตแล้ว นอกจากนี้ ยังกล่าวอีกว่า ช่วงก่อนเกิดเหตุนายสาครมักจะพูดกับเพื่อนอยู่เสมอว่า ตนเองกลัวเสียชีวิต และเป็นห่วงแม่ ซึ่งตั้งใจว่าช่วงสิ้นปีนี้จะลาออกจากงานและเพื่อกลับไปดูแลแม่ ที่ จ.ร้อยเอ็ด
พล.ต.ต.พรชัย สุธีรคุณ ผู้บังคับการสถาบันนิติเวชวิทยา กล่าวถึงขั้นตอนการตรวจเอกลักษณ์บุคคลศพที่ถูกไฟคลอกจากอุบัติเหตุดังกล่าวว่า ต้องตรวจสาเหตุการเสียชีวิตว่าเสียชีวิตก่อนหรือหลังถูกไฟคลอก โดยดูจากก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ในร่างกาย รวมถึงประมวลตำแหน่งที่นั่งบนรถทัวร์ เพื่อใช้เป็นแผนป้องกันอุบัติภัยในอนาคต ในรายที่มีประวัติการทำฟันหรือตำหนิร่องรอยตามร่างกาย สามารถพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลได้ภายใน 1 วัน ส่วนที่ถูกไฟคลอกและไม่มีประวัติการทำฟันต้องตรวจดีเอ็นเอจากบิดามารดาหรือทายาท จะทราบผลภายใน 48 ชั่วโมง
รถทัวร์ประสานงารถพ่วงบนถนนมิตรภาพเสียชีวิต 19 เจ็บ 20 ราย (ชมคลิป)