xs
xsm
sm
md
lg

หุ้นพุ่ง31จุดโล่งQEไม่ถอนทองคำดีดขึ้น400บ.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTV ผู้จัดการรายวัน - หุ้นพุ่ง 31 จุด สถาบันควงโบรกฯเข้าช้อนกว่า 2พันล้าน ต่างชาติยังทยอยซื้อกลับอีก 471 ล้านบาท หลังมีความชัดเจนเฟดไม่สามารถเร่งถอนมาตรการQEได้ไว จากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังไม่ฟื้นตัวแข็งแกร่ง โบรกฯชี้เป็นปัจจัยบวกหนุนดัชนีบวกเพิ่มต่อ แต่ยังผันผวน ด้านทองคำไม่น้อยหน้า รับกระแสไม่เร่งถอนQE บวกเพิ่มจากวันเสาร์อีก 400 บาท

ความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทย วานนี้ (23ก.ค.) ดัชนีปรับตัวในแดนบวกตลอดทั้งวัน โดยปิดที่ระดับ 1,513.31 จุด เพิ่มขึ้น 31.47 จุด หรือ 2.12% มูลค่าการซื้อขาย 50,500.14 ล้านบาท หลังมีความชัดเจนว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ(QE) คงยังไม่ชะลอหรือลดขนาดในระยะเวลาสั้น นี้ รวมถึงผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนได้ผ่านจุดต่ำสุดในไตรมาส 2/56 ไปแล้ว และ จีนปรับลดเพดานดอกเบี้ยเงินกู้ลง

ทั้งนี้ ระหว่างวันดัชนีปรับตัวสูงสุดที่ระดับ 1,513.32 จุด และต่ำสุดที่ระดับ 1,497.59 จุด ขณะที่ สถาบันซื้อสุทธิ 1,850.01 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์(บล.) ซื้อสุทธิ 537.63 ล้านบาท เช่นเดียวกับ นักลงทุนต่างประเทศ ซื้อสุทธิ 471.57 ล้านบาท โดยนักลงทุนขายสุทธิ 2,859.20 ล้านบาท

นายสมชาย เอนกทวีผล ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซียไซรัส กล่าวว่า แนวโน้มดัชนีหุ้นไทยในวานนี้ที่ดีดตัวกลับขึ้นมา เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่คลายความกังวลจากมาตรการผ่อนคลายทางการเงินของสหรัฐหรือ QE จึงทำให้มีแรงซื้อกลับเข้ามา ประกอบกับประเทศจีนได้ประกาศปรับเพดานอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลง และประเทศญี่ปุ่นที่ประเมินตัวเลขเศรษฐกิจดีขึ้น ทำให้นักลงทุนเริ่มที่จะกลับมาทยอยลงทุน ซึ่งพบว่าเป็นการทยอยปรับขึ้นทั้งภูมิภาค

ในส่วนความกังวลต่อการปรับลดผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ หรือ GDP ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท . ประกาศออกมานั้น เป็นค่ากลางในการอ้างอิง ซึ่งบางไตรมาสอาจปรับตัวลดลง หรือสูงขึ้นกว่าประมาณการณ์ที่คาดเอาไว้ ซึ่งยังคงต้องติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจทั่วโลกต่อเนื่องอย่างใกล้ชิด โดยในระยะนี้อาจจะยังไม่มีข่าวร้ายหรือปัจจัยภายนอกที่จะเข้ามากระทบต่อตลาดหุ้นไทย และอัตราและเปลี่ยนก็ยังคงอยู่เกณฑ์ที่ส่งผลดีกับภาคการส่งออกอยู่

อย่างไรก็ตามคาดว่าตลาดหุ้นในวันนี้(24ก.ค.) จะยังคงอยู่ในแดนบวก แต่อาจจะมีสลับกับการแกว่งตัวผันผวนอยู่บ้าง โดยกรอบแนวรับดัชนีคาดว่าจะอยู่ที่ 1,490-1,500 จุด โดยกรอบแนวต้านคาดว่าจะอยู่ที่ 1,515-1,520 จุด ทั้งนี้นักลงทุนควรเลือกลงทุนในหุ้นรายตัวที่มีราคาไม่แพงตามมูลค่าหุ้น ในหุ้นกลุ่มหลักที่มีปัจจัยพื้นฐานดี

นายปริญทร์ กิจจาทรพิทักษ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เคทีบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นได้ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้เล็กน้อย โดยสามารถขึ้นยืนเหนือ 1,500 จุด โดยปัจจัยบวกหลักมาจากแนวโน้มมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐ(QE)ที่มีความชัดเจนแล้วว่าจะยังไม่สามารถลดหรือชะลอได้ในระยะเวลาสั้น รวมถึงผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนผ่านจุดที่ต่ำสุดคือในช่วงไตรมาส 2/56 ไปแล้ว ส่งผลให้ในช่วงนี้แม้การแถลงผลประกอบการจะออกแย่ แต่ดัชนีก็ยังปรับขึ้นไปได้

ดังนั้น แนวโน้มนี้ (24 ก.ค.)คาดว่าดัชนียังจะเดินหน้าขึ้นไปได้ต่อ แต่อย่างไรก็ตาม อาจยังมีความผันผวนอยู่จากเรื่องมาตรการ QE ซึ่งยังเป็นปัจจัยบวก รวมถึงการประกาศผลประกอบการที่ขณะนี้เป็นเพียงช่วงเริ่มต้นเท่านั้น พร้อมให้แนวรับไว้ที่ 1,500 จุด และแนวต้าน 1,520 จุด

ขณะเดียวกันวานนี้ สมาคมค้าทองคำประกาศราคาทองคำ (96.5%) ประจำวันที่ 23 ก.ค. 2556 ประกาศครั้งแรก เมื่อเวลา 09.25 น. ปรับขึ้น 450 บาท เมื่อเทียบจากราคาปิดตลาดวันเสาร์ที่ผ่านมา(20ก.ค.56) โดยราคาทองคำแท่งรับซื้อบาทละ 19,450 บาท ขายออกบาทละ 19,550 บาท ราคาทองคำรูปพรรณรับซื้อบาทละ 19,162.24 บาท ขายออกบาทละ 19,950 บาท

ทองคำดีด450บาทขายรับเฟดไม่เร่งยุบQE

ส่วนราคาทองคำปิดตลาดวันเสาร์ 20ก.ค.56 ราคาทองคำแท่งรับซื้อ 19,000 บาท ขายออกบาทละ 19,100 บาท ราคาทองคำรูปพรรณรับซื้อ 18,722.60 บาท ขายออกบาทละ 19,500 บาท

นายธนรัชต์ พสวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า ราคาทองปรับตัวสูงขึ้นประมาณ 450 บาท ตามราคาตลาดโลก หลังจากนักลงทุนคลายความกังวล นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ระบุว่า เฟดยังคงมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ต่อไป หลังจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ฟื้นตัวไม่เต็มที่ จึงทำให้ราคาสินทรัพย์เสี่ยง และสินค้าโภคภัณฑ์ราคาสูงขึ้น ประกอบกับทองคำทะลุแนวต้าน 1,300 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ทำให้มีแรงซื้อกลับขึ้นมามาก เคลื่อนไหวประมาณ 1,336 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ โดยต้องลุ้นว่าทองคำจะผ่านแนวต้านที่ 1,340 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ได้หรือไม่ หากผ่านได้จะขึ้นไปทดสอบ 1,370 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์

อย่างไรก็ตาม การมองทิศทางราคาทองคำระยะนี้ต้องมองแค่ระยะสั้น โดยราคาสามารถเปลี่ยนแปลงตามแถลงการณ์ของเฟด ซึ่งต้องรอติดตามผลการประชุมเฟดกลางสัปดาห์หน้าอีกครั้ง โดยราคาทองรอบนี้อาจจะปรับตัวขึ้นค่อนข้างมาก เพราะเงินดอลลาร์อ่อนค่าจากความวิตกกังวลที่เมืองดีทรอยต์ ของสหรัฐฯ ยื่นศาลขอพิทักษ์ทรัพย์ล้มละลาย จึงทำให้ราคาทองปรับขึ้นได้ แต่เมื่อทองคำมาถึงแนวต้านที่ประมาณ 20,000 บาท ราคาทองมีโอกาสถูกเทขายทำกำไร และต้องติดตามสถานการณ์ค่าเงินบาท หากอ่อนค่าลงต่อเนื่องจะมีผลทำให้ราคาทองคำในประเทศสูงขึ้น

โดยล่าสุด ปิดตลาด ราคทองคำแท่งจากสมาคมค้าทองคำ ทองคำแท่ง รับซื้อ 19,400 บาท ขายออก 19,500 บาท และทองคำรูปพรรณ รับซื้อ 19,116 บาท ขายออก 19,900 บาท
กำลังโหลดความคิดเห็น