xs
xsm
sm
md
lg

หน้ากากขาวเล็งขึงป้ายผ้าล้อมทำเนียบฯประจานโบว์ดำปู

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

จากกรณีการเปิดตัวของ “คณะเสนาธิการร่วม- กองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ”เมื่อวันที่ 20 ก.ค.ที่ผ่านมา ที่ราชตฤณมัยสมาคมแห่งประเทศไทย หรือสนามม้านางเลิ้ง โดยมี พล.ร.อ.ชัย สุวรรณภาพ อดีตรองผู้บัญชาการทหารสูงสุด และประธานองค์การพิทักษ์สยาม (อพส.) เป็นแกนนำพร้อมกับยื่นข้อเรียกร้อง ให้รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้ปฏิบัติ คือ ให้รัฐบาลแสดงจุดยืนในความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ด้วยการหยุดการกระทำอันไม่ควร การจาบจ้วงละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมช.กลาโหม ลาออกจากตำแหน่ง รมว.กลาโหม และ รมช.กลาโหม จากผลพวงคลิปถั่งเช่า ให้รัฐบาลยุติโครงการกู้เงินเพื่อบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท และร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ให้สภาผู้แทนราษฎรถอน ร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง และ ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ทุกฉบับที่เสนอ และเตรียมพิจารณาในสภาฯออกไปทั้งหมด โดยให้เวลารัฐบาล 7 วัน มิฉะนั้นจะนัดชุมนุมขับไล่รัฐบาลในวันที่ 4 ส.ค.นี้
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการเคลื่อนไหวของกลุ่มดังกล่าวว่า แค่การเปิดตัว พล.ร.อ.ชัย สุวรรณภาพ ประธาน อพส. คนใหม่ และเปิดตัวคณะเสนาธิการร่วม ประกอบด้วยกลุ่มบุคคลที่เห็นแล้วก็รู้ว่า อยู่ตรงข้ามรัฐบาล และพรรคเพื่อไทยมาโดยตลอด ไม่ต่างจากฝนตกขี้หมูไหล คนอะไรมารวมกัน ทั้งนี้ รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ บริหารมา 2 ปี บ้านเมืองกำลังเดินไปด้วยดี แต่ก็มีกลุ่มบุคคลที่ใครก็รู้ว่ามีแนวคิดเพียงอย่างเดียว คือ ล้มรัฐบาล ไม่เคยเคารพเสียงประชาชนตามระบอบประชาธิปไตย สลับหน้าออกมา น่าจะเป็นแนวร่วมฝ่ายค้าน และกลุ่มต่อต้านอื่นๆ
สำหรับการยื่นเงื่อนไข 6 ข้อ เป็นเพียงข้ออ้างเพื่อจะมาเป็นชุมนุมขับไล่รัฐบาล ซึ่งรัฐบาลก็ไม่ได้เป็นไปตามที่กล่าวหาแต่อย่างใด ผลโพลก็สำรวจออกมาชัดเจนแล้วว่า ต้องการให้รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ บริหารประเทศต่อไป ไม่ต้องการให้ยุบสภา หรือลาออก ถ้าทำอย่างนั้นก็จะเป็นการสูญเสียงบประมาณโดยใช่เหตุด้วย
ดังนั้น อยากให้บุคคลเหล่านี้ฟังเสียงสะท้อนของประชาชนบ้าง อย่าเอาอคติส่วนตัวเป็นที่ตั้ง ขับไล่รัฐบาลเหมือนคนหน้ามืดตามัว ไม่ว่าใครก็ตาม ถ้าอยากไล่รัฐบาลก็ควรเล่นตามกติกา ไปลงสนามเลือกตั้ง อีก 2 ปีข้างหน้าดีกว่า
นายพร้อมพงศ์ ยังกล่าวถึงกรณี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ ออกมากล่าวถึงกรณีนายภิญโญ พงษ์เจริญ โหรชื่อดัง และนายกสมาคมโหรแห่งประเทศไทย ถูกทำร้าย โดยอ้างว่าเกิดจากการเมืองฝ่ายรัฐบาล ทั้งที่ข้อเท็จจริงยังไม่มีการพิสูจน์ทางคดี นายสุเทพ พยายามเสี้ยม สร้างความขัดแย้ง คนเป็นอดีตรองนายกฯ ที่คุมตำรวจ เอาสมองส่วนไหนคิดว่ารัฐบาลอยู่เบื้องหลัง แทนที่จะรอความชัดเจนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือกระบวนการยุติธรรมก่อน แต่กลับเอามันปากเข้าว่า หวังผลทางการเมืองในมิติเดิมๆ เหมือนเป็นพวกไร้สติ
การที่นายสุเทพ บอกว่าเหตุการณ์ทางการเมืองจะรุนแรงในช่วงเดือน ส.ค. และก.ย. จะมีการต่อสู้ ทั้งภายในและภายนอกสภา โดยเฉพาะช่วงที่พิจารณากฎหมายสำคัญ เช่น ร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท การทำนายอย่างนี้เหมือนรู้ธงตั้งแต่ต้น อยากถามว่าความวุ่นวายที่จะเกิดขึ้น นายสุเทพ และสมาชิกพรรคฝ่ายค้าน จะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดขึ้นหรือไม่ การที่รัฐบาลผลักดัน ร่างพ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาทนั้น เป็นการทำเพื่อประชาชน และอนาคตของประเทศ รัฐบาลไม่เคยข่มขู่ประชาชน ฝ่ายค้าน หรือกลุ่มการเมืองใดๆ ขณะที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็ไม่เคยมาบงการรัฐบาล หรือพรรคเพื่อไทย ตามที่นายสุเทพ กล่าวหา นายสุเทพ ต้องเลิกความคิดอคติ เจ้าคิดเจ้าแค้น หันมาหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างสร้างสรรค์ เลิกกุข่าว กล่าวหารัฐบาลและพ.ต.ท.ทักษิณรายวัน
นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กล่าวว่า รัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลที่มาจากประชาชนกว่า 15 ล้านคน ตามระบอบประชาธิปไตย มีอำนาจบริหารประเทศตามรัฐธรรมนูญ ยินดีรับฟังเสียงของประชาชนทุกกลุ่ม ที่ติชมด้วยความสุจริตใจ แต่ไม่ยอมจำนนต่อการข่มขู่ของใคร และกลุ่มคนดังกล่าวเหล่านี้ ก็เป็นขาประจำที่คัดค้านคนเสื้อแดง และพรรคเพื่อไทยอย่างเสมอต้นเสมอปลาย และมักจะมีข้อกล่าวหาเดิมๆ เช่น เรื่องสถาบันฯ ตนขอยืนยันว่ารัฐบาลนี้ และพ.ต.ท.ทักษิณ และคนไทยทุกคนเทิดทูนสถาบันฯ ตนแปลกใจว่าคนเพียงไม่กี่คนอาศัยความชอบธรรมจากไหน มาเรียกตนเองว่ากองทัพประชาชน และที่บอกจะโค่นระบอบทักษิณนั้น ตนขอย้ำว่า มันไม่มีหรอกระบอบทักษิณ มีแต่มรดกทักษิณ เช่น 30 บาทรักษาทุกโรค กองทุนหมู่บ้าน โอทอป SML สนามบินสุวรรณภูมิ ตนจึงเรียกร้องให้กลุ่มคนเหล่านี้ได้เคลื่อนไหวภายใต้กรอบของรัฐธรรมนูญ อย่าย่ามใจดำเนินการผิดกฏหมาย ยึดสนามบินสุวรรณภูมิ หรือทำนาในทำเนียบฯ เช่นในอดีต และเรียกร้องให้เคลื่อนไหวโดยสันติ ปราศจากอาวุธ เพราะประเทศกำลังเดินหน้า
"ประชาชนกำลังให้โอกาสรัฐบาลนี้แก้ไขปัญหาทั้งสร้างระบบน้ำ สร้างระบบขนส่ง โปรดอย่านำประเทศเข้าไปสู่ความขัดแย้ง อย่าจับประเทศเป็นตัวประกัน เพราะถ้าเราไม่เคารพกติกาประชาธิปไตย ประเทศไทยจะไม่สงบ และถ้าอยากได้อำนาจในการบริหารประเทศ ก็ควรไปตั้งพรรคการเมือง และให้ประชาชนเลือกตั้งเข้ามา อย่าเอาความคิดของตนเป็นใหญ่ สำคัญว่าตัวเองเหนือคนอื่น ราวกับเป็นสุภาพบุรุษจุฑาเทพ เพราะคนส่วนใหญ่ของประเทศจะไม่ยอมให้มีการละเมิดรัฐธรรมนูญ และใช้ความรุนแรงล้มรัฐบาลเช่นในอดีต " นายนพดล กล่าว
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี กลุ่มกองทัพประชาขนโค่นระบอบทักษิณ จัดแถลงข่าว เปิดตัวคณะเสนาธิการ พร้อมข้อเรียกร้องรัฐบาล 6 ข้อ และขู่ว่านัดรวมพล 4 ส.ค. ว่า ตนไล่เรียงดูชื่อ ดูหน้า รายบุคคลแล้ว พวกนี้ก็หน้าเดิมๆ ข้อเรียกร้องเดิมๆ จุดมุ่งหมายหลักคือ ป่วนรัฐบาล เป็นฟิล์มม้วนเดิมที่นำมาฉายกี่ครั้งๆ ก็เรื่องเดิมๆ ไม่ใช่ เสธ. ที่ย่อมาจาก เสนาธิการ แต่น่าจะมาจาก เศษ. ที่มาจาก เศษเหลือของความแค้น เศษความพยายามรอบแล้วรอบเล่า ตนอยากถามพวกเศษ. เหล่านี้ว่า ไม่เหนื่อยบ้างหรือ ไม่เกรงใจประชาชนบ้างเลยหรือ ออกมาฮึ่มฮั่ม เรียกค่ากับข้าว พอรายได้ไม่มา มาแต่รายจ่าย ก็บอกว่า ยุติ นายทุนไม่สนับสนุน นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ ก็สารภาพเสียสิ้นว่าระบอบทักษิณ ไม่มีอยู่จริง มีแต่ระบอบหากิน เพราะเงินไม่มา ก็เป็นยายช้อยเก็บฉาก ตนไม่รู้ว่าที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ฟันธงเดือน ส.ค.-ก.ย.นี้ บ้านเมืองจะร้อนแรง ต้องสู้กันทั้งในและนอกสภาฯ นั้น นายสุเทพ คาดหวังสูงเกินไปกับคนเหล่านี้หรือไมกี่ครั้งแล้ว ที่ออกแขก แล้วก็แป๊กทุกราย ตนไม่ได้ท้าทาย แต่แค่อยากขอโอกาสให้ประเทศได้พักบ้าง แล้วพวกเศษ. ที่จะก่อการ ไม่เข็ด ไม่เบื่อบ้างหรือ ตอนออกมาก็บอกว่า ชุมนุมม้วนเดียวจบ สุดท้ายม้วนเดียวจอดทุกราย เพราะประชาชนเขาไม่ให้ราคา เป็นห่วงก็แต่การใช้ความรุนแรงในสภา ล้อมกรอบ กระชาก ลากเก้าอี้ ปาแฟ้ม มันเป็นภาพลักษณ์ที่ติดลบของประเทศ จึงอยากขอเตือนไปยังกลุ่มพวกแกนนำต่างๆ ที่พยายามจะปลุกหรือเชิญชวนให้ออกมาเรียกร้อง เพื่อสนองเจตนารมณ์ของคนพวกนั้น ให้มั่นคง อย่าหลงเชื่อคนพวกนี้ อย่าเข้ามาเป็นหมากในกระดาน ผลสุดท้ายประชาชนไม่ได้อะไร หากไม่ช่วยทำให้ประเทศพัฒนา ก็ขอร้องว่าอย่ามากดประเทศให้ตกต่ำลง

**เตรียมจัดงานวันคล้ายวันเกิดทักษิณ

นายอนุสรณ์ ยังกล่าวถึงกรณี ภาคีเครือข่ายประชาชนคนรักทักษิณในหลายพื้นที่ เตรียมจัดงานวันคล้ายวันเกิดให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในวันที่ 26 ก.ค.นี้ ว่า เท่าที่ทราบ จะมีการจัดพร้อมกันในหลายจังหวัด ทั่วทั้งประเทศ ส่วนใหญ่น่าจะเป็นการจัดอย่างเรียบง่าย ตามกำลังศักยภาพของเครือข่ายประชาชนแต่ละกลุ่มในพื้นที่ ซึ่งเป็นการจัดงานอย่างต่อเนื่องประจำทุกปี เพื่อแสดงความเคารพ ศรัทธา และระลึกถึง รูปแบบก็แตกต่างกันไปตามประเพณีของแต่ละภูมิภาค บางพื้นที่ มีการทำบุญเลี้ยงพระ พิธีสืบชะตาเสริมบารมี ต่ออายุ มีนิทรรศการผลงานของ พ.ต.ท.ทักษิณ อ่านบทกวี การแสดง การจัดงานดังกล่าว น่าจะมีการเชิญแกนนำ หรือบุคคลสำคัญต่างๆไปร่วมงานด้วยตามสมควร โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ตนทำงานเชื่อมประสานกับภาคีเครือข่ายประชาชน 3 จังหวัด คือ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร ทราบว่า เตรียมงานอย่างคึกคัก โดยจะจัดงานพร้อมกัน 3 จังหวัด ในวันที่ 26 ก.ค. ที่วัดศรีจอมธาตุ อ.พังโคน จ.สกลนคร วัดบ้านนาหลวง ต.ท่าค้อ อ.เมืองฯ จ.นครพนม วัดศรีมงคลใต้ อ.เมืองฯ จ.มุกดาหาร พี่น้องประชาชนที่สนใจเข้าร่วม ใกล้ที่ไหนก็เชิญได้ทุกจังหวัด ตั้งแต่เวลา 09.00 น. เป็นต้นไป

**ชี้กระแสยุบสภา แค่ข่าวปล่อย

นายเจริญ จรรย์โกมล รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 เปิดเผยว่า เรื่องกระแสข่าวยุบสภานั้น ยอมรับว่า ส่วนตัวได้ยินข่าวดังกล่าวมาบ้าง แต่ในแกนนำพรรคเพื่อไทย ยังไม่มีการพูดคุยกันถึงเรื่องนี้ รวมถึงฝ่ายนิติบัญญัติก็เช่นกัน แต่ตนเองได้พูดคุยกับนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎรแล้ว เชื่อว่าเป็นเพียงข่าวลือและไม่เชื่อว่าจะมีเหตุจนทำให้ต้องยุบสภา
ขณะที่นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่ากระแสข่าวยุบสภาที่เกิดขึ้น เป็นเพียงข่าวปล่อยของฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลเท่านั้น เพราะในช่วงนี้ยังไม่มีปัจจัยใดที่จะทำให้เกิดขึ้น อีกทั้งพรรคร่วมรัฐบาล และพรรคเพื่อไทย ยังรักกันเหนียวแน่นจึงไม่มีเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ทั้งนี้เชื่อว่าในการเปิดประชุมสภาสมัยสามัญทั่วไป ในวันที่ 1 ส.ค.นี้ จะไม่รุนแรง เพราะกฎหมายที่นำเข้าสู่สภา ล้วนมีความจำเป็นต่อประเทศ และเป็นประโยชน์ต่อประชาชน ส่วนการก่อม็อบจากภายนอกนั้นมองว่าเป็นเรื่องปกติ และยังเป็นกลุ่มเดิมที่อยู่ฝั่งตรงข้ามรัฐบาล ที่พยายามก่อการชุมนุมแต่ไม่ติด ซึ่งรัฐบาลยินดีรับฟังความเห็นของทุกฝ่ายอยู่แล้ว

**หน้ากากขาวเตรียมทำป้ายผ้าประจานถึงทำเนียบ

เมื่อเวลา 14.00น. วานนี้ (21ก.ค.) กลุ่มหน้ากากขาว ได้ทยอยไปชุมนุมหน้าห้างเซ็นทรัลเวิลด์ เพื่อร่วมกันทำกิจกรรมแสดงความไม่เห็นด้วยต่อการบริหารประเทศของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โดยกลุ่มผู้ชุมนุมประมาณ 3,000 คน ได้ร่วมเขียนข้อความบนผ้าขาวความยาวประมาณ 2,000 เมตร เพื่อระบายความในใจถึง "ผลงานชิ้นโบว์ดำ" ของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเรื่องการทุจริต คอร์รัปชัน รวมไปถึงนโยบายที่ล้มเหลวของรัฐบาล เช่น โครงการรับจำนำข้าว และการกู้เงิน 2ล้านล้านบาท ซึ่งผ้าดังกล่าวทางกลุ่มจะนำไปล้อมบริเวณทำเนียบรัฐบาลในสัปดาห์หน้า
ทั้งนี้ มีรายงานว่า ได้มีความขัดแย้งกันเล็กน้อยในกลุ่มผู้ชุมนุม โดยผู้ชุมนุมบางส่วนเห็นว่าควรมีการเคลื่อนมวลชนไปแสดงพลังไปยังหอศิลปวัฒธรรม กทม. เหมือนเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา แต่มีบางส่วนเห็นว่าควรจะปักหลักทำกิจกรรมอยู่ด้านหน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ แต่สุดท้ายกลุ่มผู้ชุมนุมยังคงเคลื่อนขบวนไปยังหน้าหอศิลปวัฒนธรรม ตามเดิม
สำหรับมาตรการรักษาความปลอดภัยนั้น มีเจ้าหน้าที่ตำรวจกระจายกำลังอยู่โดยรอบ เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย และอำนวยความสะดวกในการจราจร

**"วสิษฐ์"ขอ"แม้ว"แผ่เมตตาให้ประเทศดีกว่า

พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร ผู้ประสานงานกลุ่มไทยสปริง กล่าวถึงกรณีนายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ออกมาระบุว่า ได้แผ่เมตตาให้กับผู้ประสานงานไทยสปริง จากกรณีที่ได้พาดพิงพฤติกรรมการบริหารโดยใช้ประชานิยมนำหน้า สร้างความเสียหายให้ชาติบ้านเมือง และเห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณ น่าจะอยู่ในภาวะของคนจิตไม่ปกติว่า พ.ต.ท.ทักษิณ คงจะเดือดร้อนมากที่ถูกพาดพิงว่ามีอาการทางจิต หรือพูดภาษาไทยง่ายๆ ว่าเป็นบ้า ความจริงเป็นแค่การตั้งข้อสังเกตจากพฤติกรรมหลายๆ ครั้งที่ผ่านมา ซึ่งนายแก้วสรร อติโพธิ ผู้ประสานงานไทยสปริง เป็นผู้เริ่มต้นก่อน อย่างไรก็ตาม การแผ่เมตตาแทนที่จะด่าทอ ถือว่าเป็นเรื่องที่น่ารัก จึงค่อนข้างประทับใจ เพราะไม่คิดว่าจะได้รับการแผ่เมตตาจากพ.ต.ท.ทักษิณ หรือนายนพดล และเห็นว่า นายนพดลจำเป็นต้องพูด เพราะรับใช้เขา แต่เมื่อพูดแล้วก็ต้องเหมาว่ารู้กันทั้งนายและขี้ข้า
พล.ต.อ.วสิษฐ กล่าวว่าตนไม่แน่ใจว่า ทั้งสองคนเข้าใจคำว่าเมตตาหรือเปล่า เพราะไม่เคยได้ยินว่ามีพื้นความรู้ หรือการปฏิบัติเกี่ยวกับศาสนาพุทธมากน้อยแค่ไหน อาจารย์ของพ.ต.ท.ทักษิณ ที่เป็นพระ ได้ข่าวว่าโดนสึกไปเรียบร้อยแล้ว และไม่เคยได้ยินว่ามีความรู้เรื่องแผ่เมตตามากน้อยแค่ไหน จึงอยากให้ความรู้ว่า เมตตา มีความหมายว่าความปรารถนาให้เป็นสุข คู่กันกับคำว่ากรุณาคือความปรารถนาจะให้พ้นทุกข์ การแผ่เมตตาเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของชาวพุทธ ซึ่งตนก็แผ่เมตตาวันละหลายครั้ง เริ่มจากการแผ่ให้ตัวเองก่อน จึงจะแผ่ให้คนอื่น แต่ถ้าผูกพันกับใครเป็นพิเศษจะแผ่เมตตาให้คนนั้นด้วย จึงอยากให้นายนพดล และพ.ต.ท.ทักษิณ ทราบว่า ตนแผ่เมตตาให้พ.ต.ท.ทักษิณทุกคืน เพราะอยากให้เป็นสุข รู้ว่าทุกข์มาก กลับบ้านไม่ได้ ต้องนั่งเครื่องบินเร่ร่อนเหมือนสัมภเวสี จึงเชื่อว่ามีความทุกข์มาก เมื่อได้ยินว่าเขาแผ่เมตตาให้ตน ก็แสดงว่าที่ตนแผ่เมตตาไปไม่เสียหลายมีการย้อนกลับมา
“สิ่งที่ผมอยากเห็นมากกว่าการแผ่เมตตาให้พวกผมคือ อยากให้ทักษิณแผ่เมตตาให้ประเทศไทยหน่อย เพราะเขารังแกประเทศไทยมานานหลายปีแล้ว และคนที่เดือดร้อนเพราะเขามีมากมายไปหมด ขอให้แผ่เมตตาและประกาศให้รู้หน่อยว่าแผ่เมตตาให้เมืองไทย คนไทยที่เดือดร้อนของเขาของน้องสาวเขา และรัฐบาลที่เขาบงการอยู่ แผ่เมตตาแล้วอย่าลืมแผ่กรุณาด้วย เพราะเมตตาคือปรารถนาจะให้เป็นสุข ส่วนกรุณาคือปรารถนาจะให้พ้นทุกข์ เพราะเวลานี้เราทุกข์กัน ไหนๆ ดูไทยสปริงอยู่แล้ว ก็ขอแจ้งไปถึงนายนพดล และพ.ต.ท.ทักษิณด้วย”พล.ต.อ.วสิษฐ กล่าว.
กำลังโหลดความคิดเห็น