ASTVผู้จัดการรายวัน - ชาวนาเซ็ง! “พาณิชย์”บีบรับจำนำข้าวเปลือกเจ้าปี 56/57 เหลือตันละ 1.35 หมื่นจากที่ไปรีบปากไว้ 1.5 หมื่น เตรียมถกคลังก่อนชง กขช. ด้านปชป.จวก"ปู"ตรวจโรงานข้าวถุง ชิ่ง “จำนำข้าว” ไร้โกง "วรงค์" แฉลายเซ็น "มาดามกง" เอี่ยวจีทูจี ด้าน “บิ๊กปู”ควงรมต. เยี่ยมโรงผลิตข้าวถุงตราฉัตร กินข้าวโชว์สร้างเชื่อมั่น ส่วน “ชัยภูมิ-เชียงราย”จ่อออกหมายจับโกงข้าว
วานนี้ (18 ก.ค. 56) เวลา 12.30 น. น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้เยี่ยมชมโรงปรับปรุงคุณภาพข้าวนครหลวง บ.เครือเจริญโภคภัณฑ์ เป็นโรงงานปรับปรุงคุณภาพข้าวที่ใหญ่ที่สุดและทันสมัยที่สุดในประเทศไทย ที่ผ่านการสีแล้วจากโรงสี โดยมีระบบควบคุมที่มีมาตรฐานสูงสุด ทั้งนี้ ภายในโรงงานมีห้องแลปสำหรับตรวจคุณภาพมาตรฐานข้าว รวมถึง ห้อง Command Room สำหรับตรวจสอบการทำงานภายในโรงงาน พร้อมร่วมทดสอบคุณภาพข้าวที่หุงสุกแล้วและรับประทานข้าวโชว์สื่อมวลชน เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคและประชาชนด้วย
จากนั้น นายกฯกล่าวว่า มาดูกระบวนการนำข้าวสารมาบรรจุถุง ซึ่งอยู่ในขั้นตอนปลายน้ำ โดยโรงงานมีการคัดกรองข้าวก่อนจะมีการบรรจุถุงอย่างมีมาตรฐาน ซึ่งเป็นข้อดีที่รัฐบาลจะนำไปปรับปรุงในหน่วยงานของภาครัฐ โดยจะนำระบบกล้องวงจรปิด และระบบการเชื่อมต่อข้อมูลจากโรงสี ซึ่งทางกระทรวงพาณิชย์ได้เตรียมการพัฒนาระบบ เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการสต๊อกข้าว
โดยขอให้ประชาชนมั่นใจว่าข้าวสารบรรจุถุงมีมาตรฐาน ปัญหาสารรมควันตกค้างที่เกิดขึ้นนั้นมาจากบางขั้นตอนในการผลิตเท่านั้น ดังนั้นขอให้ทุกฝ่ายตรวจข้อมูลก่อนมีการเผยแพร่ข่าวออกมา เพื่อไม่ให้เกิดผลเสีย รวมถึงขอให้ทุกฝ่ายช่วยกันสร้างความเชื่อมั่น เพื่อไม่ให้กระทบต่อการส่งออก
"มาดูมาตรฐานของเอกชน เพื่อทำให้ประชาชนเกิดความมั่นใจ กว่าจะเป็นข้าวถุงมีขั้นตอนในการตรวจมีมาตรฐานต่างๆ มากพอสมควร อยากให้สบายใจ การเจอปัญหาอาจอยู่ที่บางขั้นตอน ไม่ได้หมายความว่าเป็นทั้งกระบวนการ" น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าว
ด้าน นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า คุณภาพข้าวสารบรรจุถุงอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ซึ่งกระทรวงฯ ได้สุ่มตรวจข้าวบรรจุถุงที่จำหน่ายในท้องตลาดกว่า 100 ตัวอย่าง ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าสารปนเปื้อนจริง แต่ไม่เกินค่ามาตรฐานที่กำหนดและไม่เป็นอันตราย ซึ่งขอให้ประชาชนมั่นใจ โดยหลังจากนี้จะออกเป็นกฎกระทรวงเพื่อกำหนดค่ามาตรฐานของสารปนเปื้อนในข้าวบรรจุถุงว่าต้องมีค่าไม่เกินเท่าไหร่ ทั้งนี้หากประชาชนไม่สบายใจเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวสามารถส่งเรื่องมาที่กระทรวงฯ ก็จะส่งเจ้าหน้าที่องค์การอาหารและยา(อย.)ลงพื้นที่ไปตรวจสอบโกดังและโรงสีทันที
**ปชป.จี้นายกต้องสังคายนาข้าวทั้งระบบ
นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค สุ่มตรวจข้าวถุง ว่า ตนไม่กล่าวโทษว่ามีความจงใจที่จะให้เกิดสารตกค้างหรือไม่ แต่ขอตั้งข้อสังเกตว่าที่ต้องรมยาซ้ำซ้อนมี เหตุผลอะไร หรือว่าเพราะข้าวในสต๊อคมีมากจนจำหน่ายไม่ทัน และเป็นผลจากโครงการจำนำที่มีข้าวในสต๊อคกว่า 20 ล้านตัน จนระบายไม่ทันด้วยหรือไม่จึงทำให้มีการรมยาซ้ำแล้วซ้ำอีก
ส่วนที่นางสาวยิ่งลักษณ์ เดินทางไปตรวจโรงงานข้าวตราฉัตรนั้น ตนเสียดายเพราะโรงงานที่นายกฯไปไม่ใช่โรงงานที่มีค่าสารตกค้างเกินมาตรฐาน ทำไมไม่ไปโรงงานที่มีปัญหาค่าสารตกค้างเกินมาตรฐานซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการแก้ปัญหามากกว่า
จึงเห็นว่านายกต้องสังคายนาข้าวทั้งระบบ ไม่ใช่ขอให้สื่อมวลชนเลิกถามเรื่องข้าว เพราะถ้านายกไม่ตอบแล้วจะให้ประชาชนไปถามใคร
อยากให้นายกฯพึงคิดว่าปัญหาของข้าวที่เกิดตั้งแต่การโกง การขาดทุน จนถึง ข้าวเน่า นั้น ความจริงมีความสอดคล้องต่อเนื่องกัน
ทั้งนี้ยังเรียกร้องให้นายกฯ ติดตามการนำเข้าข้าวจากพม่าและกัมพูชา ว่าทำไมต้องมีการนำเข้าข้าวจากพม่าและเขมรเพราะไม่มีความจำเป็น
**วรงค์ ปูดลายเซ็น “มาดามกง”จีทูจี
วันเดียวกัน น.พ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊คส่วนตัว สอบถามความจริงใจในการปราบการทุจริตคอรัปชั่นของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ พร้อมแสดงลายมือชื่อของนางเชา ยาน กง หรือมาดามกง ที่ลงนามเป็นตัวแทนในการซื้อข้าวระบบจีทูจีด้วย
น.พ.วรงค์ ยังตั้งข้อสังเกตประมูลข้าว ที่กระทรวงพาณิชย์กำลังเร่งระบายโดยมีเป้าหมายเดือนละ 5 แสน- 1 ล้านตัน ว่า จะทำให้เกิดปรากฏการณ์มหัศจรรย์คือ ข้าวสารถูกกว่าข้าวเปลือก เพราะปกติรัฐบาลรับจำนำข้าวเปลือกตันละ 15,000 บาท แต่ราคาต้นทุนเมื่อแปลงเป็นข้าวสารอยูที่ตันละ 24,000 บาท ในขณะที่ราคาข้าวสารในตลาดปัจจุบันที่อยู่ที่ตันละ 14,700-15,000 บาท
ต้องจับตาในหลายประเด็นดังนี้คือ 1 การประมูลแบบยกคลังผู้เข้าร่วมประมูลจะไม่มั่นใจในคุณภาพสินค้า อีกทั้งมีกระแสข่าวว่าข้าวที่จะเปิดประมูลคือคลังแถวกำแพงเพชร ซึ่งพ่อค้าไม่มั่นใจ เพราะกังวลว่าเป็นคลังที่อาจซุกข้าวเสื่อมสภาพเอาไว้ โอกาสที่จะมีการแข่งขันแล้วรัฐจะได้ราคาดีจึงลดน้อยลง 2 การที่รัฐบาลประกาศประมูลทุกเดือน ในแต่ละเดือนอาจมากกว่า 2-3 ครั้ง ทำให้พ่อค้าไม่จำเป็นต้องแข่งเพราะทราบว่าไม่ได้ครั้งนี้อาจไปประมูลครั้งหน้า ยิ่งทำให้ราคาไม่สูง 3 โดยปกติแล้ว ณ ขณะนี้ ราคาข้าวสารที่มีการแอบซื้อกันจากคนในวงการที่ไปซื้อข้าวจากเครือข่ายคนของรัฐบาลจะอยู่ที่ราคาตันละ 12,000 บาท จากเหตุผลทั้งหมดจะทำให้รัฐบาลไม่ได้ราคาสูงกว่า 12,000 บาทต่อตัน ถ้าระบายข้าวสารในราคานี้เท่ากับรัฐบาลจะขาดทุนตันละ 12,000 บาท โดยงวดนี้รัฐบาลมีเป้าหมายระบาย 150,000 ตัน ก็จะขาดทุนเฉพาะล็อตนี้ 1,800 ล้านบาท
สิ่งที่เกิดขึ้นคือข้าวสารจะถูกกว่าข้าวเปลือก แต่ตนไม่เชื่อว่าผู้บริโภคจะได้ประโยชน์ เพราะพ่อค้าต้องนำข้าวไปปรับปรุง เนื่องจากไม่ทราบว่าคุณภาพข้าวเป็นอย่างไรจากนั้นก็คงขายในราคาตลาดตามปกติ จึงกลายเป็นโอกาสพ่อค้าไม่ใช่โอกาสของผู้บริโภค เพราะข้าวถุงคงไม่ลดราคา ในขณะที่รัฐบาลก็มีแต่เจ๊งกับเจ๊ง แต่ครั้งนี้จะเป็นการขาดทุนที่พิสูจน์ตัวเลขได้จึงอยากให้ประชาชนติดตามด้วย
"หากรัฐบาลขายข้าวสารในราคาถูกก็ต้องติดตามดูด้วยว่าเมื่อพ่อค้าต้นทุนถูกการผลิตข้าวสารถุงควรจะต้องถูกลงด้วยเพื่อเป็นการดูแลผู้บริโภค โดยไปคำนวณต้นทุนที่เหมาะสมในการขายข้าวให้กับผู้บริโภค เพราะอย่างน้อยการขาดทุนของรัฐบาลจากเงินภาษีของประชาชน ก็จะยังมีส่วนหนึ่งคืนกลับมาให้ประชาชนบ้าง แต่ถ้ารัฐบาลไม่ทำอะไรเลยนอกจากการระบายข้าวราคาถูก ก็จะทำให้รัฐบาลเจ๊ง ประชาชนไม่ได้รับการดูแลให้ซื้อข้าวในราคาที่เป็นธรรม ในขณะที่คนกำไรคือ พ่อค้าข้าว"
** บีบรับจำนำ56/57 เหลือ 1.35 หมื่น/ตัน
น.ส.วิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับ 3 สมาคมชาวนา ถึงการกำหนดราคาการรับจำนำข้าว ปี 2556 /2557 ว่า ได้มีการหารือถึงต้นทุนการทำนาของเกษตรกร ที่ในเบื้องต้นได้ข้อสรุปที่ 8,000 - 9,000 บาทต่อไร่ ซึ่งราคาที่เกษตรกรต้องการในการรับจำนำ คือ จะต้องไม่ต่ำกว่าตันละ13,500 บาท ถึงจะสามารถรับได้ ซึ่งในวันจันทร์ที่ 29 กรกฎาคมนี้ จะมีการหารือร่วมกันอีกครั้ง หลังจากรัฐบาลได้มีการทบทวนมาตรการในการลดต้นทุนให้กับเกษตรกรแล้ว และดูราคาที่เหมาะสม เพื่อไม่เป็นภาระงบประมาณ ซึ่งการกำหนดราคา จะต้องได้ข้อสรุปก่อนเริ่มต้นฤดูนาปี 2556/2557 อย่างแน่นอน
***ชาวนาเซ็ง! โม้ไว้เยอะสุดท้ายขอลด
นายวิเชียร พวงลำเจียก นายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย กล่าวว่า พอใจในระดับหนึ่ง แต่ยังไม่รับปากไม่ได้ว่าชาวนาส่วนใหญ่พอใจราคานี้หรือไม่ เพราะรัฐบาลได้ทำสัญญาประชาคมกับชาวนาไว้มากในการยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ แล้วตอนนี้มาบอกทบทวนราคา ก็ต้องขอนำตัวเลขไปชี้แจงบให้ชาวนาทั่วประเทศทราบก่อน
นายภูติ ศรีสมุทรนาค นายกสมาคมส่งเสริมชาวนาไทย กล่าวว่า ราคา 13,500 บาท ถือเป็นราคาที่ถอยลงมามากจากตันละ 15,000 บาท และชาวนายังถอยในเรื่องปริมาณการรับจำนำต่อครัวเรือนจาก 5 แสนบาท ลงมาเหลือ 4 แสนบาท ซึ่งช่วยรัฐประหยัดงบประมาณไปได้มากแล้ว แต่ไม่ได้หมายความว่า ชาวนารับในตัวเลขรับจำนำใหม่ที่ตันละ 13,500 บาทแล้ว เพราะต้องไปหารือกับสมาชิกก่อน
**”พาณิชย์”ตรวจข้าวถุง-ข้าวในโกดัง
นายยรรยง พวงราช รมช.พาณิชย์ กล่าวภายหลังการประชุมเกี่ยวกับศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการค้าข้าวเสื่อมคุณภาพ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า ที่ประชุมจะร่วมกันตรวจสอบข้าวสารที่ขายในท้องตลาดให้ถี่ขึ้นกว่าปกติ โดยในเบื้องต้นจะเน้นข้าวสารบรรจุถุงแบรนด์ที่มีผู้บริโภคจำนวนมาก รวมถึงจะตรวจสอบข้าวของโรงสี ผู้ส่งออกต่างๆ และข้าวสารในสต๊อกของรัฐบาลที่ฝากเก็บอยู่ในโกดังต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับคนไทย และผู้ซื้อต่างประเทศ โดยเริ่มตรวจสอบได้ตั้งแต่สัปดาห์หน้า
**จับเถ้าแก่เชียงราย-ชัยภูมิโกงชาวนา
อีกด้านคณะอนุกรรมการติดตามกำกับดูแลการรับจำนำข้าวจังหวัดเชียงราย ยังคงติดตามคดีผู้ประกอบการรับซื้อข้าว 2 รายใน อ.เทิง ไม่จ่ายใบประทวนตามโครงการรับจำนำข้าวนาปรังฤดูกาล 2555/2556 ช่วงเดือนพฤษภาคมถึงกรกฎาคม ทำให้ชาวนาใน อ.ขุนตาล และ อ.เทิง 111 รายที่นำข้าวไปส่งมอบให้รวม 1,015,042 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 8,997,462 บาท ได้รับความเสียหาย และเข้าแจ้งความดำเนินคดีต่อนายพีร์นิทัศน์ เขื่อนเชียงสา ท่าข้าววิจิตรา นายณัชสัณห์ และนางธนัญรัตน์ รัศมิ์ธนหาญ โรงสีนิธิผลการเกษตร อ.เทิง
ล่าสุดมีรายงานว่า นายพีร์นิทัศน์ เขื่อนเชียงสา ผู้ประกอบการท่าข้าววิจิตรา ได้เข้าพบพนักงานสอบสวนแล้ว ขณะที่ผู้ถูกกล่าวหาอีก 2 ราย คือ นายณัชสัณห์ และนางธนัญรัตน์ รัศมิ์ธนหาญ เจ้าของโรงสีนิธิผลการเกษตร อ.เทิง ถูกควบคุมตัวได้ภายบ้านพัก
ที่จ.ชัยภูมิ หลังชาวบ้านในอำเภอแก้งคร้อ จ.ชัยภูมิเข้าร้องเรียนนายพรศักดิ์ เจียรณัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ว่าการรับจำนำข้าวของโรงสี 1 แห่งในพื้นที่อำเภอบ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ มีการทุจริตไม่ชอบมาพากลในการการรับจำนำข้าว หลังเจ้าหน้าที่นำกำลังเข้าตรวจสอบข้าวในโกดังพบมีข้าวหายไปรวม 750 ตัน แบ่งเป็นเปลือกหายไปจำนวน 612 ตัน ข้าวสารสีแปรรูปแล้วอีก 129 ตัน รวมมูลสูงค่ากว่า 11 ล้านบาท พบหลักฐานชัดเจนว่ามีการปลอมแปลงเอกสารขนย้ายข้าวออกจากโกดังไปส่งต่อให้กับโรงสีอีก 2 แห่ง ที่มีเอี่ยวในการนำข้าวในโกดังจ.ชัยภูมิหายไปเวียนเทียนสวมสิทธิ์ในครั้งนี้ด้วย ซึ่งเป็นโรงสีนอกพื้นที่อยู่ที่จ.นครราชสีมา 1 แห่ง และเป็นโรงสีใกล้เคียงในพื้นที่จ.ชัยภูมิ ด้วยอีก 1 แห่ง โดยเตรียมที่จะขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ที่มีส่วนร่วมในการทุจริตในเบื้องต้นไม่น้อยกว่า 13 ราย แยกเป็นเจ้าของโรงสี 3 แห่ง 3 ราย ชาวนาร่วมฮั้ว 9 ราย และน่าจะมีเจ้าหน้าที่ของรับมามาเกี่ยวข้องด้วยอีก 2 ราย
** จี้ยกเลิกสอบ"สุภา"หวั่นขรก.เสียกำลังใจ
ที่ประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.)ศึกษาตรวจสอบเรื่องการทุจริต และเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภา ที่มีน.ส.รสนา โตสิตระกูล สว.กรุงเทพมหานคร ในฐานะประธานกมธ. ได้พิจารณากรณีกระทรวงการคลังตั้งคณะกรรมการสอบ น.ส.สุภา ปิยะจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการปิดบัญชีสินค้าเกษตรโครงการรับจำนำของกระทรวงการคลัง ที่ออกมาเปิดเผยข้อมูลโครงการรับจำนำข้าว
ทั้งที่กระทรวงการคลังได้มอบหมายให้ นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ รองปลัดกระทรวงการคลัง พร้อมด้วยนายปัญญา ฉายะจินดาวงศ์ ผู้ช่วยปลัดกระทรวงการคลังเข้ามาชี้แจง
นายรังสรรค์ ได้ชี้แจงว่า ปลัดกระทรวงการคลังเป็นผู้ตั้งคณะกรรมการสอบน.ส.สุภา จริง แต่เป็นเพียงการสอบถึงข้อเท็จจริงที่ได้มีการเสนอต่อสื่อ ไม่ได้เป็นการสอบสวนความผิดทางวินัยแต่อย่างใด เพราะการตรวจสอบของข้าราชการประจำถือเป็นเรื่องปกติ ก็เพื่อให้ผู้ถูกสอบได้ชี้แจงข้อเท็จจริง
ด้านนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหา ในฐานะกมธ. กล่าวฝากให้ปลัดกระทรวงการคลังทบทวนคำสั่ง เพราะหากยังเดินหน้าต่อ อาจทำให้เกิดปัญหาในอนาคต
ขณะที่นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.สรรหา ในฐานะกมธ. กล่าวเรียกร้องให้ปลัดกระทรวงการคลังยกเลิกคำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบน.ส.โดยด่วน ซึ่งนายรังสรรค์ ยืนยันจะนำข้อเสนอแนะของกมธ.ไปรายงานให้ปลัดกระทรวงการคลังรับทราบ
**ภท. จี้ “ธาริต”ดันข้าวเป็นคดีพิเศษ
ที่รัฐสภา ในการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2557 นายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ ส.ส.นครราชสีมา กมธ.จากพรรคภูมิใจไทย ได้กล่าวถึงการทำหน้าที่ของดีเอสไอ ว่า มีการรับเรื่องที่สังคมให้ความสนใจไว้สอบสวน เช่น คดีเณรคำ คดีรถยนต์หรู แต่เรื่องที่สำคัญอย่างโครงการรับจำนำข้าว ที่มีข่าวว่ามีการทุจริตและสร้างความเสียหาย กลับไม่ได้ถูกนำมาดำเนินการ ทั้งที่ตามกฎหมายถือว่าเรื่องนี้เข้าข่ายเป็นคดีพิเศษตามที่กฎหมายกำหนด
**กังวลราคาอาจพังทลายในพริบตา
ในรายงานเรื่อง Thai farm subsidy creates rice mountain ที่เขียนโดยเอมิโกะ เทราโซโนะ บรรณาธิการออนไลน์ของไฟแนนเชียลไทม์ส ระบุว่าโครงการรับซื้อข้าวของรัฐบาลไทย ส่งผลให้สต๊อกข้าวของประเทศพุ่งสูงราว 17-18 ล้านตัน และด้วยที่ฤดูกาลเก็บเกี่ยวรอบใหม่ที่จะเริ่มต้นเดือนตุลาคมนี้ รัฐบาลไทยก็จะเป็นต้องระบายสต๊อกข้าวที่มีอยู่เพื่อเพิ่มทุนสำหรับการรับซื้อรอบใหม่
“ตลาดข้าวคงต้องเฝ้าระวังระดับสูง ก่อนหน้าที่กรุงเทพฯเตรียมเปิดประมูลข้าวราว 350,000 ตันอย่างเร็วที่สุดในช่วงต้นสัปดาห์หน้า ขณะที่ คอนเซฟเชียน คัลเป นักวิเคราะห์ข้าวระดับอาวุโสขององค์การอาหารและการเกษตรในกรุงโรม ประเทศอิตาลี เตือนว่าหากไทยเทข้าวเข้าสู่ตลาด มันจะส่งผลกระทบต่อราคาข้าวในตลาดโลกอย่างร้ายแรง “มีความเป็นไปได้ที่หายนะจะตามมา” เธอกล่าว
