ASTVผู้จัดการรายวัน- สัญจรกรุงเก่า ก.คมนาคมเอาใจ “ปทุมธานี”ชงปรับปรุงขนส่งทางบก เชื่อมกทม.-ภาคกลางตอนบน ลงทุน 4.3 หมื่นล้านบาท สั่งศึกษาความเป็นไปได้ ขยายเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีม่วงกับรถไฟฟ้าสายสีชมพู เป็น“รถไฟไฟสายสีทอง” พร้อมไฟเขียวกลุ่มภาคกลางตอนบน 5.2 หมื่นล้านบาท
วานนี้(18 ก.ค.56) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ทำภารกิจในพื้นที่ จ.สระบุรี และ จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วยนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมว.คมนาคม นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง โดยเดินทางไปกราบสักการะรอยพระพุทธบาท ณ พระมณฑป วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร ตำบลขุนโขลน อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี ซึ่งเป็นพระอารามหลวงชั้นเอกชนิดพิเศษ อายุ 379 ปี โอกาสนี้ นายกฯถวายดอกเข้าพรรษาและปิดทองรอยพระพุทธบาท พร้อมถวายเครื่องไทยธรรม พานธูปเทียนแพ เทียนเข้าพรรษา ผ้าไตรแด่พระธรรมปิฎก (ชวลิต อภิวฑฺฒโน ป.ธ.9) เจ้าอาวาสวัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหารและเจ้าคณะจังหวัดสระบุรี โดย เจ้าคณะฯ ได้ให้พรแก่นายกฯ คณะรัฐมนตรี และประชาชน มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง เจริญรุ่งเรืองในหน้าที่การงาน ขอให้คิดและกระทำสิ่งใดเป็นไปด้วยความราบรื่น และประสบความสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี ตลอดจนขอให้อยู่ร่วมกันในครอบครัวและสังคมด้วยความสงบสุขตลอดไป
ทั้งนี้ นายกฯ ถือโอกาสทักทายประชาชนและข้าราชการ ที่มารอให้การต้อนรับ ขณะที่บริเวณด้านหน้า ทางขึ้นพระพุทธบาท มีกลุ่มประชาชนจำนวนหนึ่ง มาชูป้ายข้อความโจมตีนายกฯ และบางคนใส่หน้ากากขาว
ต่อมาเวลา 11.30 น.นายกฯเดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ มาบริษัท ซี.พี.อินเตอร์เทรด จำกัด (ข้าวตราฉัตร)อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอายุธยา พร้อมด้วยพล.อ.พฤณท์ สุวรรณทัต รมช.คมนาคม นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย นายพีระพันธุ์ พาลุสุข รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รมว.สาธารณสุข นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย รมช.คลัง และนายยรรยง พวงราช รมช.พาณิชย์ รับฟังยุทธศาสตร์การขนส่งทางน้ำ
จากนั้นเวลา 14.05 น.น.ส.ยิ่งลักษณ์ พร้อมคณะเดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์มาถึงศูนย์ศิลปาชีพบางไทร อ.บางไทร จ. พระนครศรีอยุธยา โดยพูดคุยเกี่ยวกับการดำเนินการของศูนย์ศิลปาชีพ ฯและได้รับมอบภาพวาดสีน้ำมันรูปไก่เจ้ ใป็นที่ระลึก ทั้งนี้นายกฯ ได้สักการะพระโพธิ์สัตว์กวนอิม พันพระหัตถ์ที่แกะสลักจากไม้จันทร์เหลืองอายุกว่า 1,000 ปี ก่อนจะเยี่ยมชมผลงานภาพวาดสีน้ำมันของผู้พิการที่เข้ารับฝึกอาชีพโดยซื้อภาพสีน้ำมันรูปเสือ และภาพสีน้ำมันของน้ำมันรูปปลา ภาพละ5,500 บาท
เวลา15.40น. นายกฯ ได้เดินทางมายังอนุสรณ์สถานแห่งความจงรักภักดี (ทุ่งหันตรา) เพื่อสักการะพระพุทธปางประจำพระชนมวารพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฯ จากนั้นได้พบปะประชาชนที่มาคอยให้การต้อนรับ ซึ่งมีกลุ่มกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีแห่งชาติ อสม. กองทุนพัฒนาเมือง และกลุ่ม"เฟรนด์ส ออฟ ยิ่งลักษณ์" โดยเซ็นต์ชื่อลงในไปรษณียบัตรที่มีข้อความว่า "ส่งกำลังใจสู่จังหวัดชายแดนใต้" พร้อมปล่อยปลาคาร์ฟจำนวน 9 ตัว
ช่วงเย็น นายกฯเดินทางมาที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ ร่วมประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจในภูมิภาค (กรอ. ภูมิภาค) ภาคกลางตอนบน จ.ปทุมธานี, นนทบุรี, สระบุรี และ จ.พระนครศรีอยุธยา
นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบโครงการพัฒนาพื้นที่ภาคกลางตอนบน 1 จำนวน 4 จังหวัด ตามข้อเสนอของภาคเอกชน รวม 12 โครงการ ทั้งเรื่องการส่งเสริมการค้าการลงทุนการพัฒนาโครงข่ายคมนาคมและระบบโลจิสติกส์ การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ และการส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยที่ประชุมได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปดำเนินงานต่อไป
นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงข้อเสนอด้านการส่งเสริมการค้าและการลงทุน ประกอบไปด้วย โครงการพัฒนานวัตกรรมการเลี้ยงโคนมและนมอินทรีย์ครบวงจร วงเงินประมาณ 89 ล้านบาท รวมไปถึงการเร่งรัดและทบทวนประกาศกระทรวงมหาดไทยให้ใช้บังคับผังเมืองรวม แบ่งเป็น การขอยกเลิกพื้นที่สีเขียวในผังเมืองรวมพระนครศรีอยุธยา ช่วงถนนสายเอเชีย และการปรับปรุงประกาศกระทรวงมหาดไทยให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดสระบุรี และสุดท้ายเป็นการพัฒนาครัสเตอร์อุตสาหกรรมการเกษตร โดยให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นเจ้าภาพหลักเร่งพัฒนา
ด้าน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ด้านการพัฒนาโครงข่ายคมนาคมและระบบโลจิสติกส์มี 5 โครงการ คือ เร่งรัดดำเนินโครงการก่อสร้างเส้นทาง 3 แห่ง ทั้งถนนวงแหวนต่างระดับสาย 9 เชื่อมโยง จังหวัดนนทบุรี พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี ทางด่วนโทล์เวย์ (รังสิต-ประตูน้ำพระอินทร์) ให้เสร็จภายในปี 58 และงานก่อสร้างเส้นทางหมายเลข 32 ต่อเชื่อมกับสถานีรถไฟมาบพระจันทร์ ที่อำเภอนครหลวง การเร่งรัดการขยายช่องจราจรจาก 2 ช่องจราจรเป็น 4 ช่องจราจร 3 เส้นทาง ทั้งถนนเลียบคลองเจ็ด ฝั่งตะวันตก ระยะทาง 10.4 กม. เส้นทางหมายเลข 33 ช่วงอำเภอนครหลวง-อำเภอบางปะหัน เพื่อการขนส่งลงทางน้ำของแม่น้ำป่าสัก และถนน 3056 อำเภอภาชี-อำเภออุทัย-อำเภอบางปะอิน เส้นทางหลักของทางออกนิคมอุตสาหกรรมโรจนะไปกรุงเทพฯ
รวมทั้งการก่อสร้างขยายถนนหมายเลข 9 จากแยกทางต่างระดับ 340 จาก 4 ช่องจราจรเป็น10 ช่องจราจร ระยะทางประมาณ 40 กม. หรือจากถนนกาญจนาภิเษก หรือวงแหวนรอบนอกฝั่งตะวันตก ไปจนถึงถนนพหลโยธิน นอกจากนี้ยังมีการขยายเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีม่วงจากบางใหญ่-ไทรน้อย ระยะทางประมาณ 2.8 กม. เพื่อเชื่อมโยงกับรถไฟฟ้าสายสีชมพูบนถนนชัยพฤกษ์ ระยะทาง 9 กม. และสุดท้ายเป็นโครงการศึกษา 2 โครงการ คือ การปรับปรุงสะพานนวลฉวี เพื่อการสัญจรทางเรือ และการยกระดับเส้นทางรถไฟ เพื่อการแก้ไขปัญหาการจราจร กรณีเส้นทางรถไฟฝ่ากลางเมือง จังหวัดสระบุรี
โดยโครงการทั้งหมดนั้นรมว.คมนาคม ได้ชี้แจงว่า ส่วนใหญ่สอดคล้องกับการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม 2 ล้านล้านบาทอยู่แล้ว หากกฎหมายผ่านก็สามารถดำเนินการได้ และด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ มี 2 โครงการ คือ โครงการก่อสร้างประตูระบายน้ำคลองบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี และพัฒนาเส้นทางขนส่งทางน้ำในแม่น้ำป่าสัก อำเภอเสาไห้-อำเภอนครหลวง
ด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยว นายสนธยา คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม เปิดเผยว่า มี 2 โครงการ คือ โครงการพัฒนาศาลากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา (หลังเก่า) และโครงสร้างการบริหารจัดการ การจัดระเบียบสถานที่ท่องเที่ยวโบราณสถานเพื่อเป็นศูนย์บริการท่องเที่ยวเมืองมรดกโลก และการพัฒนาถนนสระบุรี - ปากบาง ให้เป็น“ถนนวัฒนธรรม ไทย-ญวน” เพื่อการท่องเที่ยว จังหวัดสระบุรี
นอกจากนี้นายสมศักย์ ภูรีศรีศักดิ์ รมว.ท่องเที่บวและการกีฬา เปิดเผยว่า เอกชนยังได้เสนอเร่งรัดการวางแผนการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาความแออัดรองรับนักท่องเที่ยวที่สนามบินสุวรรณภูมิและสนามบินภูเก็ต เพื่อเตรียมรองรับฤดูการท่องเที่ยว ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้มอบให้กระทรวงคมนาคมและกระทรวงท่องเที่ยวและการกีฬารับหน้าที่ไปแก้ไขแล้ว
ด้านนายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ได้มีข้อเสนอเรื่องการรณรงค์เพื่อดำเนินการด้านการใช้แรงงานเด็กและการใช้แรงงานบังคับ ทบทวนเกณฑ์การรวมธุรกิจที่ต้องขออนุญาต ภายใต้ พ.ร.บ. การแข่งขันทางการค้า พ.ศ. 2542 และแก้ไข พ.ร.บ.ศุลกากร ในประเด็นว่าด้วยโทษสำหรับกรณีที่ไม่ได้มีเจตนาหรือหลีกเลี่ยงภาษี
รายงานข่าวแจ้งว่า กรอ.ยังเห็นชอบโครงการต่างๆ ตามกรอบวงเงินจังหวัด จังหวัดละ 100 ล้านบาทเศษ และงบประมาณของกลุ่มจังหวัดอีก 100 ล้าน รวมกว่า 500 ล้านบาท
ขณะที่ยังเสนอของบประมาณ พัฒนาพื้นที่-อาชีพ กว่า 52,000 ล้านบาท ขณะ จ.ปทุมธานีเตรียมเสนอปรับปรุงขนส่งทางบก เชื่อมกทม.-ภาคกลางตอนบนวงเงิน 43,000 ล้านบาท
รายงานข่าวว่า ในส่วนของ จ.พระนครศรีอยุธยา ได้ระดมเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 กว่า 1,800 นาย สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและทหารในบางส่วน เพื่อมารักษาความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกด้านการจราจร โดยเปิดศูนย์ปฏิบัติการควบคุมและสั่งการปฏิบัติการตั้งอยู่ภายในมหาวิทยาลัยฯ นอกจากนี้นายวิเชียร พวงลำเจียก นายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย จะยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีเพื่อขอให้แก้ปัญหาเรื่องน้ำในการทำนา ขณะที่กลุ่มมวลชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากการประกอบอาชีพ กลุ่มที่ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุการณ์อุทกภัยเมื่อปี 2554 มายื่นหนังสือขอความช่วยเหลือจากรัฐบาลด้วย ซึ่งทางจ.พระนครศรีอยุธยาได้เตรียมสถานที่รองรับกลุ่มมวลชนที่อาจเกิดขึ้น บริเวณอาคารอธิการบดี ตั้งอยู่ด้านหน้ามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ ซึ่งจุดนี้จะมีผู้บริหารระดับสูงของจังหวัดคอยรับเรื่องราวร้องเรียนร้องทุกข์พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการ
วานนี้(18 ก.ค.56) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ทำภารกิจในพื้นที่ จ.สระบุรี และ จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วยนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมว.คมนาคม นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง โดยเดินทางไปกราบสักการะรอยพระพุทธบาท ณ พระมณฑป วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร ตำบลขุนโขลน อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี ซึ่งเป็นพระอารามหลวงชั้นเอกชนิดพิเศษ อายุ 379 ปี โอกาสนี้ นายกฯถวายดอกเข้าพรรษาและปิดทองรอยพระพุทธบาท พร้อมถวายเครื่องไทยธรรม พานธูปเทียนแพ เทียนเข้าพรรษา ผ้าไตรแด่พระธรรมปิฎก (ชวลิต อภิวฑฺฒโน ป.ธ.9) เจ้าอาวาสวัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหารและเจ้าคณะจังหวัดสระบุรี โดย เจ้าคณะฯ ได้ให้พรแก่นายกฯ คณะรัฐมนตรี และประชาชน มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง เจริญรุ่งเรืองในหน้าที่การงาน ขอให้คิดและกระทำสิ่งใดเป็นไปด้วยความราบรื่น และประสบความสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี ตลอดจนขอให้อยู่ร่วมกันในครอบครัวและสังคมด้วยความสงบสุขตลอดไป
ทั้งนี้ นายกฯ ถือโอกาสทักทายประชาชนและข้าราชการ ที่มารอให้การต้อนรับ ขณะที่บริเวณด้านหน้า ทางขึ้นพระพุทธบาท มีกลุ่มประชาชนจำนวนหนึ่ง มาชูป้ายข้อความโจมตีนายกฯ และบางคนใส่หน้ากากขาว
ต่อมาเวลา 11.30 น.นายกฯเดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ มาบริษัท ซี.พี.อินเตอร์เทรด จำกัด (ข้าวตราฉัตร)อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอายุธยา พร้อมด้วยพล.อ.พฤณท์ สุวรรณทัต รมช.คมนาคม นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย นายพีระพันธุ์ พาลุสุข รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รมว.สาธารณสุข นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย รมช.คลัง และนายยรรยง พวงราช รมช.พาณิชย์ รับฟังยุทธศาสตร์การขนส่งทางน้ำ
จากนั้นเวลา 14.05 น.น.ส.ยิ่งลักษณ์ พร้อมคณะเดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์มาถึงศูนย์ศิลปาชีพบางไทร อ.บางไทร จ. พระนครศรีอยุธยา โดยพูดคุยเกี่ยวกับการดำเนินการของศูนย์ศิลปาชีพ ฯและได้รับมอบภาพวาดสีน้ำมันรูปไก่เจ้ ใป็นที่ระลึก ทั้งนี้นายกฯ ได้สักการะพระโพธิ์สัตว์กวนอิม พันพระหัตถ์ที่แกะสลักจากไม้จันทร์เหลืองอายุกว่า 1,000 ปี ก่อนจะเยี่ยมชมผลงานภาพวาดสีน้ำมันของผู้พิการที่เข้ารับฝึกอาชีพโดยซื้อภาพสีน้ำมันรูปเสือ และภาพสีน้ำมันของน้ำมันรูปปลา ภาพละ5,500 บาท
เวลา15.40น. นายกฯ ได้เดินทางมายังอนุสรณ์สถานแห่งความจงรักภักดี (ทุ่งหันตรา) เพื่อสักการะพระพุทธปางประจำพระชนมวารพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฯ จากนั้นได้พบปะประชาชนที่มาคอยให้การต้อนรับ ซึ่งมีกลุ่มกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีแห่งชาติ อสม. กองทุนพัฒนาเมือง และกลุ่ม"เฟรนด์ส ออฟ ยิ่งลักษณ์" โดยเซ็นต์ชื่อลงในไปรษณียบัตรที่มีข้อความว่า "ส่งกำลังใจสู่จังหวัดชายแดนใต้" พร้อมปล่อยปลาคาร์ฟจำนวน 9 ตัว
ช่วงเย็น นายกฯเดินทางมาที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ ร่วมประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจในภูมิภาค (กรอ. ภูมิภาค) ภาคกลางตอนบน จ.ปทุมธานี, นนทบุรี, สระบุรี และ จ.พระนครศรีอยุธยา
นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบโครงการพัฒนาพื้นที่ภาคกลางตอนบน 1 จำนวน 4 จังหวัด ตามข้อเสนอของภาคเอกชน รวม 12 โครงการ ทั้งเรื่องการส่งเสริมการค้าการลงทุนการพัฒนาโครงข่ายคมนาคมและระบบโลจิสติกส์ การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ และการส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยที่ประชุมได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปดำเนินงานต่อไป
นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงข้อเสนอด้านการส่งเสริมการค้าและการลงทุน ประกอบไปด้วย โครงการพัฒนานวัตกรรมการเลี้ยงโคนมและนมอินทรีย์ครบวงจร วงเงินประมาณ 89 ล้านบาท รวมไปถึงการเร่งรัดและทบทวนประกาศกระทรวงมหาดไทยให้ใช้บังคับผังเมืองรวม แบ่งเป็น การขอยกเลิกพื้นที่สีเขียวในผังเมืองรวมพระนครศรีอยุธยา ช่วงถนนสายเอเชีย และการปรับปรุงประกาศกระทรวงมหาดไทยให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดสระบุรี และสุดท้ายเป็นการพัฒนาครัสเตอร์อุตสาหกรรมการเกษตร โดยให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นเจ้าภาพหลักเร่งพัฒนา
ด้าน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ด้านการพัฒนาโครงข่ายคมนาคมและระบบโลจิสติกส์มี 5 โครงการ คือ เร่งรัดดำเนินโครงการก่อสร้างเส้นทาง 3 แห่ง ทั้งถนนวงแหวนต่างระดับสาย 9 เชื่อมโยง จังหวัดนนทบุรี พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี ทางด่วนโทล์เวย์ (รังสิต-ประตูน้ำพระอินทร์) ให้เสร็จภายในปี 58 และงานก่อสร้างเส้นทางหมายเลข 32 ต่อเชื่อมกับสถานีรถไฟมาบพระจันทร์ ที่อำเภอนครหลวง การเร่งรัดการขยายช่องจราจรจาก 2 ช่องจราจรเป็น 4 ช่องจราจร 3 เส้นทาง ทั้งถนนเลียบคลองเจ็ด ฝั่งตะวันตก ระยะทาง 10.4 กม. เส้นทางหมายเลข 33 ช่วงอำเภอนครหลวง-อำเภอบางปะหัน เพื่อการขนส่งลงทางน้ำของแม่น้ำป่าสัก และถนน 3056 อำเภอภาชี-อำเภออุทัย-อำเภอบางปะอิน เส้นทางหลักของทางออกนิคมอุตสาหกรรมโรจนะไปกรุงเทพฯ
รวมทั้งการก่อสร้างขยายถนนหมายเลข 9 จากแยกทางต่างระดับ 340 จาก 4 ช่องจราจรเป็น10 ช่องจราจร ระยะทางประมาณ 40 กม. หรือจากถนนกาญจนาภิเษก หรือวงแหวนรอบนอกฝั่งตะวันตก ไปจนถึงถนนพหลโยธิน นอกจากนี้ยังมีการขยายเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีม่วงจากบางใหญ่-ไทรน้อย ระยะทางประมาณ 2.8 กม. เพื่อเชื่อมโยงกับรถไฟฟ้าสายสีชมพูบนถนนชัยพฤกษ์ ระยะทาง 9 กม. และสุดท้ายเป็นโครงการศึกษา 2 โครงการ คือ การปรับปรุงสะพานนวลฉวี เพื่อการสัญจรทางเรือ และการยกระดับเส้นทางรถไฟ เพื่อการแก้ไขปัญหาการจราจร กรณีเส้นทางรถไฟฝ่ากลางเมือง จังหวัดสระบุรี
โดยโครงการทั้งหมดนั้นรมว.คมนาคม ได้ชี้แจงว่า ส่วนใหญ่สอดคล้องกับการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม 2 ล้านล้านบาทอยู่แล้ว หากกฎหมายผ่านก็สามารถดำเนินการได้ และด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ มี 2 โครงการ คือ โครงการก่อสร้างประตูระบายน้ำคลองบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี และพัฒนาเส้นทางขนส่งทางน้ำในแม่น้ำป่าสัก อำเภอเสาไห้-อำเภอนครหลวง
ด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยว นายสนธยา คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม เปิดเผยว่า มี 2 โครงการ คือ โครงการพัฒนาศาลากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา (หลังเก่า) และโครงสร้างการบริหารจัดการ การจัดระเบียบสถานที่ท่องเที่ยวโบราณสถานเพื่อเป็นศูนย์บริการท่องเที่ยวเมืองมรดกโลก และการพัฒนาถนนสระบุรี - ปากบาง ให้เป็น“ถนนวัฒนธรรม ไทย-ญวน” เพื่อการท่องเที่ยว จังหวัดสระบุรี
นอกจากนี้นายสมศักย์ ภูรีศรีศักดิ์ รมว.ท่องเที่บวและการกีฬา เปิดเผยว่า เอกชนยังได้เสนอเร่งรัดการวางแผนการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาความแออัดรองรับนักท่องเที่ยวที่สนามบินสุวรรณภูมิและสนามบินภูเก็ต เพื่อเตรียมรองรับฤดูการท่องเที่ยว ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้มอบให้กระทรวงคมนาคมและกระทรวงท่องเที่ยวและการกีฬารับหน้าที่ไปแก้ไขแล้ว
ด้านนายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ได้มีข้อเสนอเรื่องการรณรงค์เพื่อดำเนินการด้านการใช้แรงงานเด็กและการใช้แรงงานบังคับ ทบทวนเกณฑ์การรวมธุรกิจที่ต้องขออนุญาต ภายใต้ พ.ร.บ. การแข่งขันทางการค้า พ.ศ. 2542 และแก้ไข พ.ร.บ.ศุลกากร ในประเด็นว่าด้วยโทษสำหรับกรณีที่ไม่ได้มีเจตนาหรือหลีกเลี่ยงภาษี
รายงานข่าวแจ้งว่า กรอ.ยังเห็นชอบโครงการต่างๆ ตามกรอบวงเงินจังหวัด จังหวัดละ 100 ล้านบาทเศษ และงบประมาณของกลุ่มจังหวัดอีก 100 ล้าน รวมกว่า 500 ล้านบาท
ขณะที่ยังเสนอของบประมาณ พัฒนาพื้นที่-อาชีพ กว่า 52,000 ล้านบาท ขณะ จ.ปทุมธานีเตรียมเสนอปรับปรุงขนส่งทางบก เชื่อมกทม.-ภาคกลางตอนบนวงเงิน 43,000 ล้านบาท
รายงานข่าวว่า ในส่วนของ จ.พระนครศรีอยุธยา ได้ระดมเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 กว่า 1,800 นาย สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและทหารในบางส่วน เพื่อมารักษาความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกด้านการจราจร โดยเปิดศูนย์ปฏิบัติการควบคุมและสั่งการปฏิบัติการตั้งอยู่ภายในมหาวิทยาลัยฯ นอกจากนี้นายวิเชียร พวงลำเจียก นายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย จะยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีเพื่อขอให้แก้ปัญหาเรื่องน้ำในการทำนา ขณะที่กลุ่มมวลชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากการประกอบอาชีพ กลุ่มที่ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุการณ์อุทกภัยเมื่อปี 2554 มายื่นหนังสือขอความช่วยเหลือจากรัฐบาลด้วย ซึ่งทางจ.พระนครศรีอยุธยาได้เตรียมสถานที่รองรับกลุ่มมวลชนที่อาจเกิดขึ้น บริเวณอาคารอธิการบดี ตั้งอยู่ด้านหน้ามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ ซึ่งจุดนี้จะมีผู้บริหารระดับสูงของจังหวัดคอยรับเรื่องราวร้องเรียนร้องทุกข์พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการ