xs
xsm
sm
md
lg

SGPหนุนรัฐขึ้นLPGครัวเรือนแย้มผลดำเนินงานไตรมาส2ฝืด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน – สยามแก๊สฯหนุนการปรับขึ้นราคาแอลพีจีภาคครัวเรือนก.ก.ละ 50 สตางค์/เดือน เริ่ม 1 ก.ย.นี้ ชี้ทำให้บริษัทฯมีรายได้เพิ่มขึ้น แต่มาร์จินไม่เปลี่ยน ชี้ผลดำเนินงานไตรมาส 2/56 ไม่ค่อยดี เหตุราคาแอลพีจีในตลาดโลกลดลง

นางจินตณา กิ่งแก้ว รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์ จำกัด จำกัด (มหาชน) (SGP) เปิดเผยกรณีที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) โดยมีน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเห็นชอบการปรับขึ้นราคาขายก๊าซปิโตรเลียมเหลว (แอลพีจี)ภาคครัวเรือนกิโลกรัมละ 0.50 บาท/เดือน มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.นี้ว่าบริษัทฯเห็นด้วยกับนโยบายดังกล่าว มีผลให้บริษัทฯมีรายได้เพิ่มสูงขึ้นจากเดิมที่เคยประมาณการไว้ว่าปีนี้จะมียอดขายรวม 6 หมื่นล้านบาท แต่มาร์จินจะไม่ปรับเพิ่มขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมา กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงชดเชยราคาขายแอลพีจีภาคครัวเรือน ทำให้ประชาชนได้ใช้ในราคาที่ถูกเมื่อเทียบกับราคาในตลาดโลก ซึ่งการปรับขึ้นราคาขายแอลพีจีครัวเรือนจากปัจจุบัน18.13 บาท/กิโลกรัมในครั้งนี้ จะทำให้กองทุนน้ำมันฯไม่ต้องแบกรับภาระมากขึ้น

“ปัจจุบัน บริษัทฯมีรายได้จากการขายแอลพีจีภายในประเทศคิดเป็น 50-60%ของยอดขายที่ 6 หมื่นล้านบาท ดังนั้น การปรับขึ้นราคาขายแอลพีจีครัวเรือนอีกกิโลกรัมละ 50 สตางค์/เดือนจนสะท้อนต้นทุนโรงแยกก๊าซฯ ที่ 24.82 บาท/กิโลกรัม ทำให้รายได้ของบริษัทฯเพิ่มขิ้น แต่มาร์จินไม่เปลี่ยนแปลง รวมทั้งบริษัทฯไม่มีแผนที่จะนำเข้าแอลพีจีมาจำหน่ายในประเทศเองแทนการซื้อจากปตท.แม้ว่ารัฐจะปรับราคาภาคครัวเรือนก็ตาม “

สำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาส 2 /2556 ไม่ค่อยดี เมื่อเทียบจากไตรมาสก่อน ที่มีรายได้ 1.4 หมื่นล้านบาท และกำไรสุทธิ 0.49 ล้านบาท เนื่องจากราคาแอลพีจีในตลาดโลกไม่ได้สูงขึ้น และบริษัทฯมีต้นทุนค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นด้วย อาทิ ค่าเสื่อมราคา เป็นต้น อย่างไรก็ตาม บริษัทฯยังคาดหวังว่าราคาแอลพีจีตลาดโลกในครึ่งปีหลังจะสูงขึ้นกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจากช่วงเดือนก.ค.ที่ผ่านมา ราคาแอลพีจีเริ่มปรับตัวสูงขึ้น โดยประเมินว่าราคาน่าจะใกล้เคียงปีก่อนที่ตันละ 950 เหรียญสหรัฐ/ตัน

อย่างไรก็ตาม ในปีนี้บริษัทฯตั้งเป้ารายได้เติบโตขึ้น 15-20% อยู่ที่ 6 หมื่นล้านบาท จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 4.77 หมื่นล้านบาท เนื่องจากในปีนี้จะรับรู้รายได้จากธุรกิจก๊าซแอลพีจีที่มาเลเซีย 2 พันล้านบาท และปริมาณการขายก๊าซแอลพีจีในปีนี้เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 2.4 ล้านตัน ดีกว่าปีก่อนที่มีปริมาณการขายอยู่ 2 ล้านตัน โดยตลาดแอลพีจีในประเทศโตขึ้น 8%จากปีก่อน

นอกจากนี้ ยังมีแผนลงทุนซื้อธุรกิจแอลพีจีในเอเชียเพิ่มเติมอีก 2 ราย จากเดิมลงทุนซื้อกิจการแอลพีจีในต่างประเทศหลายแห่งทั้งเวียดนาม มาเลเซีย สิงคโปร์ และจีน เพื่อสร้างความเข้มแข็งในการดำเนินธุรกิจ พร้อมทั้งมีแนวคิดจะซื้อแอลพีจีโดยตรงจากประเทศผู้ผลิตในตะวันออกกลางแทนการซื้อผ่านเทรดเดอร์ หากบริษัทฯมีปริมาณการซื้อขายแอลพีจีมากเพียงพอ
กำลังโหลดความคิดเห็น