“บมจ.สยามแก๊ส” คาดรายได้ทั้งปี 6 หมื่นลบ. เหตุบริษัทฯ ผ่านวิกฤตผันผวนจากการขายขาดทุนมาแล้ว คาดครึ่งปีหลังยอดสั่งซื้อแก๊สหุงต้มจากต่างประเทศพุ่งเพราะเข้าสู่ฤดูหนาว แย้มเตรียมเข้าซื้อคลังแก๊สเพิ่มในกลุ่มประเทศ AEC ให้ครบทุกประเทศ เผยรัฐปล่อยลอยตัวสินค้าอุปโภคบริโภคกระทบระยะสั้นเท่านั้น
นางจินตนา กิ่งแก้ว รองกรรมการผู้จัดการ บมจ.สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์ หรือ SGP กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทฯ ได้เน้นขายในต่างประเทศเป็นหลัก เนื่องจากราคาปรับตัวขึ้นมากว่า 100 เหรียญสหรัฐ/ตัน ทำให้รายได้ของบริษัทฯ เพิ่มมากขึ้น โดยตลอดช่วงเวลาตั้งแต่ธันวาคมปีที่แล้วจนถึงมิถุนายนปีนี้ บริษัทฯ ประสบปัญหาจากความผันผวนของราคาแก๊สหุงต้ม ซึ่งคาดว่าหลังจากไตรมาส 3 ปีนี้เป็นต้นไป บริษัทจะมีรายได้ที่เพิ่มมากขึ้นเนื่องจากในต่างประเทศเริ่มเข้าสู่ฤดูหนาวส่งผลให้มียอดสั่งซื้อแก๊สเพิ่มมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ผลกระทบจากการลอยตัวสินค้าอุปโภคบริโภคโดยการผลักภาระให้ผู้บริโภคนั้นที่คาดว่าจะกระทบต่อบริษัทนั้น แม้ว่ายอดขายจะลดลงไปบ้าง แต่จะเป็นเพียงระยะเวลาสั้นๆ เท่านั้น เนื่องจากแก๊สเป็นเชื้อเพลิงหลักที่จำเป็นต้องใช้ทั้งในภาคครัวเรือน และอุตสาหกรรม โดยมีอัตราการใช้แก๊สในประเทศปีนี้จะเพิ่มขึ้นร้อยละ 8-9 หรือคิดเป็นปริมาณกว่า 1.3 ล้านตัน
“จากการคำนวณมาร์จิ้นการขายไปยังต่างประเทศนั้น ซึ่งพิจารณาจากส่วนต่างระหว่างต้นทุน และราคาขาย (สเปรด) ซึ่งปัญหาต้นทุนที่ผันผวนได้ผ่านไปเรียบร้อยแล้ว โดยในปีนี้บริษัทฯ คาดว่าจะเริ่มมีกำไรในไตรมาสที่ 3 สำหรับกำลังการผลิตในปีนี้บริษัทตั้งเป้าไว้ที่ 2.4 ล้านตัน/ปี เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 15% โดยความต้องการใช้ในประเทศประมาณ 1.3-1.4 ล้านตัน/ปี และความต้องการใช้ในต่างประเทศเฉลี่ย 1-1.1 ล้านตัน/ปี นอกจากนี้ บริษัทมีแผนในการเข้าซื้อคลังบรรจุก๊าซในกลุ่มประเทศอาเซียน หรือ AEC เพิ่มอีก 1 แห่ง นอกเหนือจากเวียดนามเหนือ เวียดนามใต้ มาเลเซียตะวันออก มาเลเซียตะวันตก ที่ยังไม่มีก็เป็นกัมพูชา พม่า อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปในอีก 3 เดือนข้างหน้า โดยมีขนาดบรรจุประมาณ 1 หมื่นตัน ซึ่งมูลค่าการซื้อกิจการครั้งนี้ใช้งบลงทุนกว่าร้อยล้านบาท และในส่วนของรายได้รวมปีนี้บริษัทฯ ยังคงตั้งเป้าไว้ที่ 6 หมื่นล้านบาท”
ทั้งนี้ บริษัทเตรียมการที่จะขยายปั๊มแก๊ส LPG ในปีนี้ให้ครบ 40 สถานี ซึ่งปัจจุบันเปิดไปแล้ว 33 สถานี โดยกำลังดำเนินการก่อสร้างใกล้เสร็จอีก 3-4 สถานี โดยใช้เงินลงทุนเฉลี่ย 10 ล้านบาท/สถานีบริการ ซึ่งที่ดินในการตั้งสถานีส่วนใหญ่เป็นที่ดินเช่าระยะยาว 10 ปี มากกว่าที่ดินซื้อ ด้วยข้อจำกัดของทำเล และต้นทุนราคาที่ดินที่สูงขึ้น
