กมธ.ทหารเรียก ผบ.เหล่าทัพชี้แจง 18 ก.ค.นี้ แฉแผนนิรโทษผ่านสภากลาโหมทำได้ทั้ง 3 ช่องทาง “ผบ.เหล่าทัพ-รมว.กห.-กรมพระธรรมนูญ” โดยอ้างความมั่นคงของชาติ เพื่อไทยโวยยังไม่มีแผนเข้ากลาโหม เหตุไม่มีมติดันกฎหมายปรองดอง อ้าง "แม้ว" บอกไม่ต้องสนใจคลิป เป็นเรื่องการเมือง ปล่อยให้เงียบไปเอง ขณะที่ "แม้ว-ชายจืด-เจ๊แดง" บินด่วนไปกัมพูชา ร่วมงานศพพ่อฮุนเซน
พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ประธานที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการการทหาร สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยถึงกรณีคลิปเสียงคล้าย พล.อ.ยุทธศักดิ์ สนทนากับ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่า กรรมาธิการฯได้มีการหารือกันในที่ประชุม เมื่อวันที่ 11 ก.ค.ที่ผ่านมา ว่าจะมีการดำเนินการในกรณีนี้อย่างไรต่อไป แต่เนื่องจากเป็นการหารือครั้งแรก และคณะกรรมาธิการฯ ก็มีความเห็นที่หลากหลาย จึงยังไม่มีข้อสรุปที่ชัด แต่ที่ประชุมได้ตกลงกันว่า ในการประชุมครั้งหน้าวันที่ 18 ก.ค.นี้ จะนำประเด็นนี้ เข้าหารืออีกครั้ง และจะเชิญผบ.เหล่าทัพเข้าชี้แจงด้วย คาดว่าน่าจะมีข้อสรุปในประเด็นดังกล่าว ทั้งนี้โดยส่วนตัวคิดว่าประเด็นนี้เป็นที่จับตาของสังคม ทางกรรมาธิการฯจึงต้องมีการดำเนินการตรวจสอบเพื่อความกระจ่าง
***แฉ 3 แผนนิรโทษผ่านสภากลาโหม
รายงานข่าวระบุว่าจากกรณีคลิปการสนทนาเสียงคล้าย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ กับ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมช.กลาโหม ถึงการเสนอ พ.ร.บ.นิรโทษกรรมเข้าสู่การพิจารณาของสภากลาโหม ที่มี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ และ รมว.กลาโหม เป็นประธานสภากลาโหม หากจะนำเข้าพิจารณาในสภากลาโหมก็สามารถทำได้ 3 แนวทาง ตามเงื่อนไขการเป็นสมาชิกสามารถเสนอได้
"ปกติสภากลาโหมจะมีการประชุมเดือนละ 1 ครั้ง ส่วนการเสนอของสมาชิก เป็นลักษณะรายงานต่อที่ประชุมเพื่อรับทราบและขอให้ที่ประชุมลงความเห็นร่วมกัน อ้างเป็นสำคัญเกี่ยวกับความมั่นคง ความสงบเรียบร้อยของประเทศหรือเรื่องที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนโดยตรงถือว่าเข้าข่าย"
โดยสมาชิกในสภากลาโหมประกอบด้วยนายทหารระดับสูงที่มีคุณวุฒิจากสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม 5 นาย กรมราชองครักษ์ 3 นาย กองทัพไทย 5 นาย กองทัพบก 5 นาย กองทัพเรือ 5 นาย กองทัพอากาศ 5 นาย รวมทั้ง รมว.กลาโหม และ รมช.กลาโหม ก็เป็นสมาชิกสภากลาโหมด้วย
การเสนอไม่เพียงแต่ ผบ.เหล่าทัพ ช่องทางที่ 2 น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ และ รมว.กลาโหม ในฐานะประธานสภากลาโหม หรือ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมช.กลาโหม จะเสนอเป็นวาระจร หรือวาระเร่งด่วนได้ โดยมอบหมายให้สำนักนโยบายและแผน กระทรวงกลาโหมบรรจุเป็นวาระเข้าไปสู่สภากลาโหมเพื่อขอรับความเห็นชอบ โดยเฉพาะกรณีของ พ.ร.บ.นิรโทษกรรม กระทำได้เมื่อ รมว.กลาโหมหรือ รมช.กลาโหม มีความเห็นว่าเป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบต่อส่วนรวมและความมั่นคงของประเทศ
นอกจากนี้ ช่องที่ 3 ยังมีกรมพระธรรมนูญที่เกี่ยวข้องโดยตรง กับคดีต่างๆของกำลังพล สามารถเสนอต่อที่ประชุมสภากลาโหม โดยผ่านมายังสำนักนโยบายและแผนกระทรวงกลาโหม หากมองว่าอาจส่งผลกระทบต่อกำลังโดยส่วนรวมและต้องหาทางออกด้วยการเสนอ พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ซึ่งถือเป็นทางออกสุดท้ายเมื่อถึงทางตันจริงๆ ส่วนจะต้องมีการโหวตหรือไม่ขึ้นอยู่กับความเห็นชอบส่วนรวมต่อการลงมติของสมาชิกในที่ประชุม โดยมี รมว.กลาโหม เป็นประธาน
***โวยยังไม่มีแผนดันนิรโทษฯ ผ่านกลาโหม
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวกรณีมีการนำเสนอ พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ในสภากลาโหมว่า ไม่น่าจะเป็นความจริง กฎหมายดังกล่าวต้องนำเสนอในรัฐสภา เมื่อ ถามถึง กรณี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน ประกาศรณรงค์ให้ ส.ส.ในพรรคร่วมสนับสนุนเลื่อนร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง พิจารณาเป็นวาระแรก ขณะที่พรรคเคยมีมติสนับสนุนร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม นายพร้อมพงศ์ตอบว่า พรรคเพื่อไทย ยืนยัน มติเดิม คือสนับสนุน ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับนายวรชัย
ส่วนร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง ยังไม่มีมติว่าจะเลื่อนพิจารณาหรือนำมาพิจารณาร่วมกับร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เนื่องจากเห็นว่าต้องให้ความช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อนจากคดีการเมืองก่อน ทั้งนี้ หากในการประชุมสภาฯ จะมี ส.ส.ลุกขึ้นเสนอเลื่อนญัตติร่าง พ.ร.บ.ปรองดองเป็นวาระแรก ถือเป็นเอกสิทธิ์ แต่ขึ้นอยู่กับเสียงส่วนใหญ่จะสนับสนุน หรือไม่ แต่เชื่อว่า ส.ส.หรือ รัฐมนตรี ก็ต้องเคารพมติพรรค โดยเฉพาะผู้ที่คิดเสนอเลื่อนต้องคิดถึงมติพรรคด้วย แต่มั่นใจว่าประเด็นนี้จะไม่สร้างความขัดแย้งภายในพรรคเพื่อไทย
** "แม้ว"บอกไม่ต้องไปใส่ใจเรื่องคลิป
นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย ในฐานะแกนนำกลุ่ม 42ส.ส. ที่เสนอ ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ให้สัมภาษณ์จากกรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีนว่า ตนพร้อมเพื่อนส.ส.จำนวนหนึ่ง เดินทางไปกรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน มีโอกาสได้พบและสนทนากับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หลายเรื่อง โดยท่านบอกให้ส.ส.ไปทำงาน อย่ามัวทะเลาะกัน รวมทั้งท่านยืนยันแล้วว่า วันที่ 26 ก.ค. ซึ่งเป็นวันคล้ายวันเกิด ปีนี้ท่านจะไม่จัดงาน เพราะเห็นว่าที่ผ่านมามีส.ส.เดินทาง และมาอวยพรมากแล้ว เลยไม่อยากรบกวน
เมื่อถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ได้พูดถึงเรื่องคลิปลับบ้างหรือไม่ นายสมคิด กล่าวว่า ไม่มี วันไปพบเป็นวันที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เข้ากระทรวงกลาโหมพอดี พ.ต.ท.ทักษิณ เลยบอกว่า เดี๋ยวนายกฯจะเข้ากระทรวงกลาโหม ส่วนเรื่องคลิป ท่านบอกเพียงว่า "อย่าไปสนใจ เรื่องไม่เป็นเรื่อง มันเรื่องการเมือง ก็งี้แหละ ส.ส.ไปทำงานให้ชาวบ้านดีกว่า ไปบอกให้เขารู้เงินกู้ 2 ล้านล้านบาทมา จะมาทำอะไร ไปบอกให้เขาเข้าใจ"
อย่างไรก็ดี ส่วนตัวมองว่า เนื้อหาในคลิปเป็นการสนทนาปรับทุกข์กัน ที่อ่านจากการถอดเทป บอกท่านวางแผนจะกลับบ้าน ก็ไม่ได้พูด ไม่คิดว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะไปจัดการอะไรกับกองทัพ ในเมื่อในปี 2557 ผบ.เหล่าทัพ จะเกษียณอายุราชการ ก็ต้องแต่งตั้งกันเข้ามา แต่การเมืองคงไปล้วงลูกไม่ได้ เพราะทหารมี พ.ร.บ.กลาโหม สภากลาโหมอยู่แล้ว พวกแม่ทัพนายกอง ก็คงตกลงเลือกจะเอาคนนี้ๆ ขึ้นมา เป็นไปตามระบบของเขา การเมืองไปทำอะไรไม่ได้
เมื่อถามว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้าน ระบุว่าหากมีการผลักดันการนิรโทษพา พ.ต.ท.ทักษิณ กลับบ้านในรูปแบบพ.ร.ก.จริงๆ ถึงกลับมาแล้ว หากมีการยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ ถ้าระบุ พ.ร.ก.ใช้ไม่ได้ ถึงกลับมาโทษก็ยังอยู่ เรื่องนี้จึงอาจเป็นการถูกหลอกให้มาติดคุกหรือไม่ นายสมคิด กล่าวว่า เรื่องพ.ร.ก.นิรโทษ ก็พูดกันไป พวกเราก็รู้ ถ้ามาอย่างนี้ ฝ่ายค้านต้องยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ เพราะไม่ใช่เรื่องจำเป็นเร่งด่วน นายอภิสิทธิ์ ก็พูดไป แต่คนทำจริงๆ คือพวกตนที่อยู่ในสภาฯ อย่างที่ขับเคลื่อน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม แม้จะช้าหน่อย แต่ชัวร์ พ.ร.ก.ต้องเร่งด่วน นายอภิสิทธิ์ พูดเพื่อตีปลาหน้าไซ ถ้าเราจะดันพ.ร.ก.ไปดันพ.ร.บ.ปรองดอง ของ ร.ต.อ.เฉลิม ไม่ดีกว่าหรือ แต่เรื่องนี้ก็โยงกันไป ในความเป็นจริงคงทำไม่ได้ ขนาดร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง คราวที่แล้วยังยุ่งอยู่เลย
** "แม้ว-ชายจืด- เจ๊แดง" บินด่วนกัมพูชา
รายงานข่าวจากพรรคเพื่อไทย แจ้งว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย รวมถึงแกนนำคนสำคัญของพรรคบางคน กำลังเร่งเดินทางไปประเทศกัมพูชา เพื่อร่วมงานศพ บิดา สมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ที่ถึงแก่อนิจกรรม
***ปชป.จี้ "ปู" ตรวจสอบคลิปจริงจัง
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ประธานส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า รัฐบาลก็ควรเร่งทำความจริงเรื่องนี้ให้เป็นที่กระจ่าง เพราะรัฐบาลก็คงตระหนักดีว่า คลิปฉาวนี้สร้างผลสะเทือนในทางลบให้หลายฝ่าย และเป็นปัญหาต่อการบริหารงานของรัฐบาลในหลายด้าน อย่างยากที่จะหลีกเลี่ยงได้
ดังนั้นการทำความจริงเรื่องคลิปฉาวให้ปรากฏ จะช่วยลดปัญหาที่ถาโถมเข้าใส่รัฐบาลได้ จึงอยากเรียกร้องรัฐบาลเร่งตรวจสอบว่า เป็นคลิปปลอมหรือคลิปจริง ขณะที่นายกรัฐมนตรีก็บอกเองว่า คงต้องรอให้ตรวจสอบก่อน จึงอยากเรียกร้องให้นายกฯ เร่งรัดให้มีการตรวจสอบอย่างจริงจัง อย่าทำแบบลูบหน้าปะจมูก แต่ถ้ายังไม่เร่งรัดการตรวจสอบอย่างจริงจัง ตนจะเสนอให้มีการตั้งกระทู้ถามเรื่องนี้ทันที ที่เปิดการประชุมสภาในวันที่ 1ส.ค. เพื่อทำความจริงให้ปรากฏต่อสาธารณชนต่อไป
นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงคลิปเสียงสนทนาระหว่าง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กับ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมช.กลาโหม ซึ่งหลายคนออกมายอมรับแล้วว่า เป็นเสียงของบุคคลทั้งสอง แต่ยังอ้างว่าเป็นคลิปตัดต่อ ว่า เนื้อหาในการสนทนาของคลิปดังกล่าว มีผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติ ตั้งแต่การเข้าไปแทรกแซงกองทัพ การพาดพิงถึงการแสวงหาประโยชน์ในประเทศเพื่อนบ้านผ่านนายทหารระดับสูงของประเทศดังกล่าว การใช้สภากลาโหม สภาความมั่นคงแห่งชาติ ลักไก่ออก พ.ร.ก.นิรโทษกรรม และความพยายามที่จะใช้สถาบันพระมหากษัตริย์ มาเป็นเกราะกำบังให้กับตัวเอง ซึ่งประชาชนต้องการความจริง รัฐบาลจะทำเป็นไม่รู้เรื่อง แล้วปล่อยผ่านไปไม่ได้ เพราะไม่ใช่เรื่องสายสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลกับกองทัพ เนื่องจากทั้ง 4 ประเด็นเกี่ยวข้องกับประชาชนทุกคน เราไม่สามารถไว้วางใจให้รัฐบาลที่มีแผนลึกล้ำในการทำเพื่อประโยชน์ให้ครอบครัว และตัวเอง โดยใช้อำนาจหน้าที่ ที่ประชาชนมอบให้ไปทำ
ดังนั้นรัฐบาลต้องชี้แจงในเรื่องนี้ และการที่นายกฯ ระบุว่า จะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปตรวจสอบนั้น ก็ขอถามว่ามอบให้ใครไปทำ
"ผมไม่อยากบอกว่านายกฯ พูดแบบขายผ้าเอาหน้ารอด จึงอยากให้สั่งการให้นำคลิปดังกล่าวไปตรวจสอบว่า เสียงสนทนาเป็นของ พ.ต.ท.ทักษิณ และพล.อ.ยุทธศักดิ์ หรือไม่ หากใช่มีการตัดต่อช่วงใดของการสนทนาหรือไม่ เพราะผ่านมาหนึ่งสัปดาห์แล้ว ไม่มีความคืบหน้าใดๆ จึงไม่เชื่อว่านายกฯ จะมีการสั่งการแล้วจริงๆ สิ่งที่เกิดขึ้นนายกฯ จึงเพียงแต่ตอบให้พ้นตัว แต่ไม่ได้ตรวจสอบความจริงตามที่บอกกับสาธารณชน สังคมไม่ควรปล่อยให้นายกฯ ไร้จริยธรรมเช่นนี้ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นยังมีผลกระทบไปถึงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเพื่อนบ้านด้วย เนื่องจากมีการพาดพิงถึงการหาประโยชน์จากโครงการทวายด้วย จึงไม่อยากให้นายกฯ กลืนน้ำลายตัวเอง" นายชวนนท์ กล่าว
** ความเชื่อมั่นต่อเหล่าทัพน่าเป็นห่วง
นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน กล่าวว่า คลิปเสียงสนทนาคล้ายพ.ต.ท.ทักษิณกับ พล.อ.ยุทธศักดิ์ นั้น ตอกย้ำคำประกาศของพ.ต.ท.ทักษิณ ในงานรำลึก 2 ปีเหตุการณ์จลาจลที่ราชประสงค์ ที่ให้คนเสื้อแดงพายเรือกลับ ตนจะขับรถขึ้นภูเขาคนเดียว เพราะในบทสนทนาของคลิปเสียงยืนยันว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ได้ส่งตัวแทนเจรจากับฝ่ายที่เรียกว่าอำมาตย์ตลอดเวลา เพื่อกลับบ้าน และลบล้างความผิดของตัวเอง ไม่ได้ผูกตัวเองกับการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย อย่างที่ประกาศกับคนเสื้อแดงแต่อย่างใด การโจมตีอำมาตย์ ก็แค่ความแค้นส่วนตัวทางการเมืองเท่านั้น ถ้าเจรจายอมความกันได้ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็พร้อมยอม
ตลอด 4-5 ปีของขบวนการเสื้อแดง จึงจอดป้ายอยู่แค่สถานีทักษิณ เพื่อทักษิณ ก้าวไม่ข้ามไปไม่ถึงการต่อสู้เพื่อคนส่วนใหญ่ หรือประชาธิปไตย หรือคนยากคนจนคนระดับล่าง อย่างที่กล่าวอ้างกัน ในคลิปสนทนาชัดเจนว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ให้ราคาคนเสื้อแดง ไม่อยู่ในโรดแมปกลับบ้าน และกลับมาก็ยังจะขอยืนอยู่กับสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ที่คนเสื้อแดงโจมตีและวิพากษ์วิจารณ์อีก
ส่วนท่าทีของผู้นำเหล่าทัพ ที่มองเรื่องนี้เป็นเรื่องเล็กนั้น เป็นท่าทีที่น่าผิดหวัง ทำให้ความศรัทธาเชื่อมั่นของประชาชนต่อกองทัพในฐานะสถาบันแย่ลง ตอนนี้ไม่ว่าประชาชนสีไหน ขั้วไหน ระดับความหวาดระแวงต่อกองทัพไม่ได้แตกต่างกันเลย
วิกฤติศรัทธาต่อกองทัพเป็นเรื่องใหญ่ ถ้าผู้นำเหล่าทัพคิดแต่จะเอาตัวรอด ไม่สนใจสถาบันกองทัพที่ต้องทำงานกับประชาชนในช่วงเปลี่ยนผ่านสู่ระเบียบโลกใหม่ และ AEC บทสนทนาในคลิปน่าเป็นห่วงกองทัพจะถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง แต่ท่าทีของผู้นำเหล่าทัพต่อคลิปเสียง น่าเป็นห่วงมากยิ่งกว่า
** "แก้วสรร"แฉคอร์รัปชั่นระบอบทักษิณ
สำหรับความเคลื่อนไหวในเว็บไซต์ ไทยสปริงฟอรั่ม นายแก้วสรร อติโพธิ อดีตกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) กล่าว ในเพจไทยสปริง ถึงขบวนการคอร์รัปชันของระบอบทักษิณ ว่า เริ่มลงทุนก่อตั้งพรรคไทยรักไทยด้วยเงิน 4 พันกว่าล้านบาท เมื่อได้อำนาจรัฐ ก็เริ่มทุจริตจากระดับนโยบาย โดยมีขุนนางสวามิภักดิ์ ตั้งแต่ปลัดกระทรวง อธิบดี และบอร์ดรัฐวิสาหกิจ ที่สั่งการได้มาทำงานให้ และต้องมีคุณสมบัติปากแข็ง ไม่ซัดทอด ซึ่งในขณะนี้รัฐบาลก็มีการแต่งตั้งคนของตัวเองตั้งแต่ปลัด อธิบดี บอร์ดรัฐวิสาหกิจ และกำลังจะเอากองทัพอีก กระบวนการคอร์รัปชั่นดังกล่าว จะไม่กลัวองค์กรตรวจสอบ เพราะจะเลือกเอาคนที่เคยร่วมทำผิดมาด้วยกัน
ดังนั้นคนที่เป็นใหญ่ในระบอบทักษิณ จะเป็นคนที่เคยหากินร่วมกันมาก่อน เป็นแรงโน้มถ่วงที่คนเลวไหลมารวมกันงับเบ็ด และตอนนี้กำลังล่อ ผบ.เหล่าทัพอยู่ ซึ่งจะสำเร็จหรือไม่ก็ต้องดูใจกัน
กระบวนการคอร์รัปชันของระบอบทักษิณ จะมีการพลิกแพลงระบบกฎหมาย เพื่อแสวงหาประโยชน์เช่น การอ้างว่าเงินกู้ไม่ใช่เงินแผ่นดิน ใช้มติครม.มาเป็นฐาน หรือหากจำเป็น ก็จะทำถึงขั้นแก้กฎหมาย เหมือนที่เคยทำมาแล้ว เช่น การแก้กฎหมายเพิ่มเพดานถือหุ้นของต่างชาติ ในกิจการโทรคมนาคมจาก 25 % เป็น 49.99 % แก้วันนี้พรุ่งนี้ขายหุ้นให้สิงคโปร์เลย ทั้งที่กฎหมายยังไม่ผ่าน ระบอบทักษิณ จึงไม่กลัวกฎหมาย พร้อมแก้ไขได้ และจะมีการหากินจากการเพิ่มมูลค่ากับตัวโครงการ
จึงสรุปได้ว่า ขบวนการทุจริตจะประกอบด้วย ระดับสูง ฝืนกฎหมาย กินส่วนต่างมูลค่าหรือ โครงการที่สร้างขึ้นมา เช่นกรณีการเพิ่มมูลค่าหุ้นชินคอร์ป ฯจนมีมูลค่าสูงขึ้นโดยใช้อำนาจรัฐมากำหนดนโยบาย ปรนเปรอธุรกิจของตัวเองอย่างหน้าด้าน มีการแก้ไขสัญญาถึง 5 ครั้ง ส่วนรัฐเสียหายนับแสนล้าน ทำให้ศาลฎีกาฯ ตัดสินว่าเป็นทรัพย์ที่ไม่ควรได้ จนนำไปสู่การยึดทรัพย์ และยังมีการซุกหุ้นไว้ที่คนในครอบครัว การซื้อขายจ่ายเป็นตั๋วสัญญาใช้เงิน เป็นเรื่องหลอกทั้งนั้น
“นายกฯยิ่งลักษณ์ก็เหมือนกัน ได้เงินปันผลก็ส่งให้คุณหญิงพจมานหมด โกหกศาลว่าซื้อเพชรพลอย เล่นเงินตรา เราได้คนตอแหลเป็นนายกฯ ทุกวันนี้ก็โกหกตลอด คนโกหกไม่โกหกวันเดียว ฟ้องก็ฟ้องมา ผมจะได้เอาหลักฐานยืนยันในชั้นศาล นอกจากนี้ยังไม่เสียภาษี กรมสรรพากรเขาเรียกกันเลยว่า เป็นแผนกชินคอร์ป คนที่เป็นหัวหน้าแผนกก็เป็นรมช.ในขณะนี้ คนที่รับใช้ทักษิณตั้งแต่อดีต ก็ยังรับใช้อยู่จนถึงทุกวันนี้”
ระบอบทักษิณได้สยายปีกยึดข้าราชการให้มารับใช้ได้ทั้งระบบ บิดเบือนกฎหมาย ใช้อัยการ กฤษฎีกาเป็นลูกคู่ ยกตัวอย่างการปล่อยเงินกู้เอ็กซิมแบงก์ให้พม่า 4,000 ล้านบาทในยุคที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นนายกรัฐมนตรี ในตอนแรกให้กู้ 3,000 ล้านบาท มีการอ้างว่าช่วยเหลือประเทศเพื่อนบ้าน แต่มาขอเพิ่มอีก 1,000 ล้านบาท ซื้อสินค้าชินแซทเทิลไลท์ ซึ่งคณะของบริษัทนี้ขึ้นเครื่องบินลำเดียวกับ
พ.ต.ท.ทักษิณไปย่างกุ้ง แยกทีมเจรจาให้ผู้นำพม่าซื้อสินค้าของตนเอง นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางไปด้วย แสดงว่ามีการชงให้พม่ากู้เพิ่ม โดยพ.ต.ท.ทักษิณ บอกให้นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย อดีตรมว.คลัง สมัยนั้นอนุมัติ แต่นายสุรเกียรติ ชี้แจงว่าไม่สามารถทำได้ เพราะชินแซทฯ เป็นของนายกรัฐมนตรีไทย เป็นประโยชน์ทับซ้อน ในที่สุด พ.ต.ท.ทักษิณ บอกให้ส่งเรื่องมาไม่ต้องรับผิดชอบเดี๋ยวสั่งเอง เชื่อว่าพม่าคงไม่คบแล้ว เพราะล่าสุดมีการพูดพาดพิงอีก นี่ก็เป็นครั้งที่สองแล้ว
นายแก้วสรร ยังกล่าวถึงการทุจริตในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ผ่านการทำโครงการเมกะโปรเจกต์ เช่น โครงการบริหารจัดการน้ำจากเงินกู้ 3.5 แสนล้าน ว่าการทำโครงการดังกล่าวจะมีปัญหาตามมามาก เพราะไม่ได้คิดอย่างรอบคอบ ไม่ทำประชาพิจารณ์ รวมถึงการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมก่อนทำสัญญาจะทำให้ผิดกฎหมาย ซึ่งตนคิดว่าถ้าหน้าด้านทำ ในทางกฎหมายรอดยาก เพราะกฎหมายเขียนว่า ก่อนดำเนินการในกิจการที่กระทบถึงสิ่งแวดล้อมอย่างรุนแรง จะต้องจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นเพื่อประกอบการพิจารณา จึงต้องทำก่อนเซ็นสัญญา อีกทั้งการรวมกลุ่มงานไว้ด้วยกัน โดยไม่มีราคากลาง แต่ให้เอกชนเป็นผู้กำหนด ขณะที่รัฐบาลตั้งงบประมาณวงเงินสูง ๆ แล้วจ่ายเงินตามจริง ซึ่งมันกำหนดไม่ได้
“ดังนั้น 24 % ที่จะต้องจ่าย ผมคิดว่าเป็นระบบที่กำหนดขึ้นมาเพื่อทุจริต แล้วลองคิดดูว่า 24 % ของ 3.5 แสนล้าน เป็นเงินเท่าไหร่ นอกจากนี้จะมีการเหมาช่วง โดยคนที่อนุญาตให้เหมาช่วงคือรัฐบาล ซึ่งจะเป็นคนออกตั๋ว และจะเป็นคนเก็บตั๋ว จะมีเช็คสองใบให้ผู้รับเหมาอีกใบหนึ่งต้องไปให้คนเก็บตั๋ว นี่คือรูที่จะเกิดการทุจริต”
** ชี้ "ทักษิณ" เป็นคนป่วยทางจิต
ด้านนายต่อตระกูล ยมนาค อดีตนายกสมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวถึงโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านว่า เป็นโครงการแรกในประวัติศาสตร์ ตั้งแต่มีกฎหมายเรื่องสิ่งแวดล้อมที่จะเซ็นสัญญากับผู้รับเหมาโดยไม่มีการทำประชาพิจารณ์ และผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ทั้งที่ต้องทำก่อนที่จะมีการเซ็นสัญญา การออกแบบไปก่อสร้างไปจะต้องมีความชำนาญมาก อย่างกรณีโฮปเวล ก็ทำแบบนี้จนกระทั่งสร้างไปถึงจุดที่จะต้องเลี้ยวที่ไม่พอไปขอที่การรถไฟ การรถไฟก็ไม่รู้ ไปถามรัฐมนตรีก็พ้นจากตำแหน่งไปแล้ว จะไปข้างบนก็ไม่ได้ผ่านสวนจิตรลดา เกิดปัญหาที่ไม่คิดไว้ก่อน เหมือนกับเขื่อนที่ตอนนี้มีแต่แบบคร่าว ๆ รายละเอียดก็ยังไม่มี
“ผมติดตามความเปลี่ยนแปลงของ พ.ต.ท.ทักษิณ คิดว่ามีปัญหาเรื่องสมอง อาจจะมีปัญหากินเหล้ามาก อดนอน ใช้ถั่งเช่า ไวอะกร้ามาก จนทำให้สิ่งที่คิดว่าฉลาดเฉลียวกลับผิดหมด แล้วไปด่าคนอื่นว่าโง่ด้วย เช่นการจำนำข้าวบอกคิดคนเดียวได้ผล ด่าเวียดนามด้วย ทั้งที่ไม่มีหลักคิด จึงคิดว่าเขาหมดสภาพแล้ว แต่เราก็แย่เพราะต้องไปรองรับอารมณ์มัน ผมคิดว่าเขาป่วย”นายต่อตระกูลกล่าว.