กลุ่มแนวร่วมแบ่งแยกดินแดนแขวนป้ายผ้าโจมตีรัฐไทยทั่ว 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และในสงขลา เกือบ 100 จุด โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า แถลงข่าวตอบโต้ป้ายผ้าใส่ร้าย จนท.รัฐ ด้าน "ภราดร" สั่งจับตา "บีอาร์เอ็น" ลดเหตุรุนแรงวันนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า เวลา 06.30 น.วานนี้ (9 ก.ค.) ตำรวจ สภ.เมืองยะลา ได้รับแจ้งพบแผ่นป้ายข้อความแขวนไว้บนสะพานที่บ้านกำปงบารู ม.3 ต.สะเตงนอก อ.เมืองยะลา จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบพบมี 2 ป้ายผ้าเขียนข้อความ "ภาษารูมี (มลายูกลาง)" มีความหมายว่า "ยึดครองโดยสยามมีแต่หลอกลวง" นอกจากนี้ ยังพบป้ายในลักษณะเดียวกันอีกที่บ้านควน ม.5 ต.พร่อน 1 ป้าย บ้านท่าสาป ม.1 ต.ท่าสาป 1 ป้าย บ้านพงกาเสาะ ม.7 ต.บุดี 1 ป้าย
ส่วนในพื้นที่ อ.บันนังสตา พบ 2 จุด คือที่บ้านตาโล๊ะดือลง ม.4 ต.ตาเนาะปูเต๊ะ และบ้านรานอ ต.ตาเนาะปูเต๊ะ และในพื้นที่ อ.รามัน พบ 2 จุดคือที่บ้านบือยอง ม.3 ต.กายูบอเกาะ และที่บ้านกาลูปัง ม.1 ต.กาลูปัง
**ที่ปัตตานีพบบางป้ายติดระเบิดปลอม
ส่วนในพื้นที่ จ.ปัตตานี ช่วงเวลา 07.00 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจในหลายอำเภอ ได้รับแจ้งเช่นกันว่ามีการนำป้ายผ้าที่มีข้อความกล่าวโจมตีรัฐไทยนำไปแขวนตามจุดต่างๆ ทางเจ้าหน้าที่จึงกระจายกำลังเข้าตรวจสอบ พบเป็นแผ่นป้ายผ้าขนาดกว้าง 1 เมตร ยาว 2-3 เมตร เขียนเป็นภาษารูมี (มาลายูกลาง) ด้วยสีดำและสีแดง มีใจความโจมตีรัฐไทยว่า “ผู้ก่อการร้าย ผู้ทำลาย ผู้หลอกลวง ผู้ใส่ร้าย คือนักล่าอาณานิคมสยาม" ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดเข้ามาเก็บกู้
นอกจากนี้ ที่บริเวณหน้าโรงพยาบาลยะรัง คนร้ายได้นำวัตถุต้องสงสัยมาวางไว้ใต้แผ่นผ้า เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดเข้าทำการเก็บกู้จึงพบว่าเป็นระเบิดปลอมภายในกล่องมีโทรศัพท์มือถือพ่วงสายไฟ
จากการตรวจสอบในพื้นที่ จ.ปัตตานี พบมีกลุ่มแนวรวมนำแผ่นป้ายดังกล่าวนำมาแขวนรวมทั้งสิ้นใน 7 อำเภอรวม 33 จุด ซึ่ง พล.ต.ต.เอกภพ ประสิทธิ์วัฒนชัย ผบก.ภ.จว.ปัตตานี เชื่อว่ากลุ่มคนร้ายกระจายกำลังเข้ามาก่อเหตุในช่วงเช้ามืดเพื่อเข้ามาก่อกวนในช่วงของการถือศีลอดในเดือนรอมฎอน
**นราฯพบทั้ง 9 อำเภอรวม 26 จุด
เช่นเดียวกับที่ จ.นราธิวาส ช่วงเวลา 07.30 น. ร.ต.อ.ประจวบ นิ่มเรือง หน.ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด นปพ.นราธิวาส และพนักงานสอบสวนในพื้นที่ 9 อำเภอ 11 สถานี ได้ร่วมกันเดินทางตระเวนปลดป้ายผ้าสีขาว ขนาดตั้งแต่ 3 หลา ถึง 5 หลาที่คนร้ายได้เขียนด้วยสีน้ำมันเป็นอักษรภาษายาวี และภาษารูมี ด้วยสีแดงและสีน้ำเงิน โดยนำไปผูกไว้กับกิ่งไม้ริมถนน สายไฟฟ้า เสาไฟฟ้าที่ติดตั้งไว้บริเวณเกาะกลาง และป้ายต้อนรับเดือนรอมฎอน ซึ่งมีใจความแปลเป็นภาษาไทยว่า "โหดร้าย + ทำลาย + หลอกลวง + ใส่ร้าย = ผู้ปกครองสยาม" โดยตรวจสอบพบในเบื้องต้นพบรวม 26 จุด
**โผล่สงขลา14ป้าย-ผู้ว่าฯสั่งดูแลเข้ม
ด้าน จ.สงขลา ก็พบป้ายผ้าในลักษณะเดียวกันกับในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ถูกนำไปแขวนไว้ริมถนน และสายไฟฟ้า รวมทั้งหมด 4 จุด รวม 14 ป้ายในพื้นที่คือ อ.จะนะ เทพา และ อ.สะบ้าย้อย หลังเกิดเหตุนายายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้สั่งให้นายอำเภอเรียกกำนัน ผู้ใหญ่มาสอบปากคำ
**โฆษกทหารแถลงโต้ป้ายผ้าใส่ร้าย จนท.
เวลา 10.00 น.ที่ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า ทาง กอ.รมน.ภาค 4 สน. ขอชี้แจงเพื่อสร้างความเข้าใจว่า ความจำเป็นในการใช้กำลัง เพื่อดูแลด้านความมั่นคงในทุกรูปแบบ กำลังในพื้นที่ จชต. ใช้กำลังพลเรือน ตำรวจ ทหาร เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยภายใน ดูแลปกป้องประชาชนให้มีความปลอดภัย ทำพื้นที่ให้ปลอดภัย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่พี่น้องประชาชน และหน่วยราชการต่างๆ ในการเข้าไปพัฒนาในพื้นที่ และยังคงใช้กำลังตามหน้าที่ตราบใดที่ยังมีเหตุความรุนแรงในพื้นที่ดำรงอยู่
โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ยังกล่าวอีกว่า ทาง กอ.รมน.ภาค 4 สน. พร้อมที่จะปฏิบัติงานเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของพี่น้องประชาชน ด้วยการบังคับใช้กฎหมายดูแลความปลอดภัย และจัดการกับปัญหาภัยแทรกซ้อนทุกรูปแบบ เพื่อให้พี่น้องประชาชนมีความมั่นใจโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเดือนรอมฎอนอันประเสริฐ ประจำปี ฮ.ศ.1434 และจากสถานการณ์ก่อกวนในพื้นที่ด้วยการผลิตป้ายผ้าจากแหล่งเดียวกัน แล้วนำไปติดตั้งในพื้นที่ต่างๆ เพื่อทำให้สังคมทั่วไปเข้าใจว่าเป็นความต้องการของสังคมส่วนใหญ่ จึงอยากเรียกร้องให้ทุกส่วนลุกขึ้นมาปกป้องสิทธิของตนเอง
**สมช.สั่งจับตา"บีอาร์เอ็น"ลดเหตุรุนแรง
ทางด้าน พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวถึงแนวทางการวางมาตรการป้องกันเหตุรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ช่วงเดือนรอมฎอนว่า ได้ยึดหลักแนวทางของจุฬาราชมนตรี ส่วนแนวทางการลดเหตุในช่วงเดือนรอมฎอนที่ตัวแทนกลุ่มบีอาร์เอ็นส่งมานั้น มีทั้งข้อเรียกร้องและข้อเสนอแนะ โดยเรารับฟังและนำมาพิจารณาหารือกัน ตามข้อตกลงกันตั้งแต่วันที่ 10 ก.ค.เป็นต้นไป เหตุการณ์จะต้องลดลง แต่ก็ต้องดูข้อเท็จจริงกันต่อไปด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า เวลา 06.30 น.วานนี้ (9 ก.ค.) ตำรวจ สภ.เมืองยะลา ได้รับแจ้งพบแผ่นป้ายข้อความแขวนไว้บนสะพานที่บ้านกำปงบารู ม.3 ต.สะเตงนอก อ.เมืองยะลา จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบพบมี 2 ป้ายผ้าเขียนข้อความ "ภาษารูมี (มลายูกลาง)" มีความหมายว่า "ยึดครองโดยสยามมีแต่หลอกลวง" นอกจากนี้ ยังพบป้ายในลักษณะเดียวกันอีกที่บ้านควน ม.5 ต.พร่อน 1 ป้าย บ้านท่าสาป ม.1 ต.ท่าสาป 1 ป้าย บ้านพงกาเสาะ ม.7 ต.บุดี 1 ป้าย
ส่วนในพื้นที่ อ.บันนังสตา พบ 2 จุด คือที่บ้านตาโล๊ะดือลง ม.4 ต.ตาเนาะปูเต๊ะ และบ้านรานอ ต.ตาเนาะปูเต๊ะ และในพื้นที่ อ.รามัน พบ 2 จุดคือที่บ้านบือยอง ม.3 ต.กายูบอเกาะ และที่บ้านกาลูปัง ม.1 ต.กาลูปัง
**ที่ปัตตานีพบบางป้ายติดระเบิดปลอม
ส่วนในพื้นที่ จ.ปัตตานี ช่วงเวลา 07.00 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจในหลายอำเภอ ได้รับแจ้งเช่นกันว่ามีการนำป้ายผ้าที่มีข้อความกล่าวโจมตีรัฐไทยนำไปแขวนตามจุดต่างๆ ทางเจ้าหน้าที่จึงกระจายกำลังเข้าตรวจสอบ พบเป็นแผ่นป้ายผ้าขนาดกว้าง 1 เมตร ยาว 2-3 เมตร เขียนเป็นภาษารูมี (มาลายูกลาง) ด้วยสีดำและสีแดง มีใจความโจมตีรัฐไทยว่า “ผู้ก่อการร้าย ผู้ทำลาย ผู้หลอกลวง ผู้ใส่ร้าย คือนักล่าอาณานิคมสยาม" ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดเข้ามาเก็บกู้
นอกจากนี้ ที่บริเวณหน้าโรงพยาบาลยะรัง คนร้ายได้นำวัตถุต้องสงสัยมาวางไว้ใต้แผ่นผ้า เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดเข้าทำการเก็บกู้จึงพบว่าเป็นระเบิดปลอมภายในกล่องมีโทรศัพท์มือถือพ่วงสายไฟ
จากการตรวจสอบในพื้นที่ จ.ปัตตานี พบมีกลุ่มแนวรวมนำแผ่นป้ายดังกล่าวนำมาแขวนรวมทั้งสิ้นใน 7 อำเภอรวม 33 จุด ซึ่ง พล.ต.ต.เอกภพ ประสิทธิ์วัฒนชัย ผบก.ภ.จว.ปัตตานี เชื่อว่ากลุ่มคนร้ายกระจายกำลังเข้ามาก่อเหตุในช่วงเช้ามืดเพื่อเข้ามาก่อกวนในช่วงของการถือศีลอดในเดือนรอมฎอน
**นราฯพบทั้ง 9 อำเภอรวม 26 จุด
เช่นเดียวกับที่ จ.นราธิวาส ช่วงเวลา 07.30 น. ร.ต.อ.ประจวบ นิ่มเรือง หน.ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด นปพ.นราธิวาส และพนักงานสอบสวนในพื้นที่ 9 อำเภอ 11 สถานี ได้ร่วมกันเดินทางตระเวนปลดป้ายผ้าสีขาว ขนาดตั้งแต่ 3 หลา ถึง 5 หลาที่คนร้ายได้เขียนด้วยสีน้ำมันเป็นอักษรภาษายาวี และภาษารูมี ด้วยสีแดงและสีน้ำเงิน โดยนำไปผูกไว้กับกิ่งไม้ริมถนน สายไฟฟ้า เสาไฟฟ้าที่ติดตั้งไว้บริเวณเกาะกลาง และป้ายต้อนรับเดือนรอมฎอน ซึ่งมีใจความแปลเป็นภาษาไทยว่า "โหดร้าย + ทำลาย + หลอกลวง + ใส่ร้าย = ผู้ปกครองสยาม" โดยตรวจสอบพบในเบื้องต้นพบรวม 26 จุด
**โผล่สงขลา14ป้าย-ผู้ว่าฯสั่งดูแลเข้ม
ด้าน จ.สงขลา ก็พบป้ายผ้าในลักษณะเดียวกันกับในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ถูกนำไปแขวนไว้ริมถนน และสายไฟฟ้า รวมทั้งหมด 4 จุด รวม 14 ป้ายในพื้นที่คือ อ.จะนะ เทพา และ อ.สะบ้าย้อย หลังเกิดเหตุนายายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้สั่งให้นายอำเภอเรียกกำนัน ผู้ใหญ่มาสอบปากคำ
**โฆษกทหารแถลงโต้ป้ายผ้าใส่ร้าย จนท.
เวลา 10.00 น.ที่ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า ทาง กอ.รมน.ภาค 4 สน. ขอชี้แจงเพื่อสร้างความเข้าใจว่า ความจำเป็นในการใช้กำลัง เพื่อดูแลด้านความมั่นคงในทุกรูปแบบ กำลังในพื้นที่ จชต. ใช้กำลังพลเรือน ตำรวจ ทหาร เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยภายใน ดูแลปกป้องประชาชนให้มีความปลอดภัย ทำพื้นที่ให้ปลอดภัย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่พี่น้องประชาชน และหน่วยราชการต่างๆ ในการเข้าไปพัฒนาในพื้นที่ และยังคงใช้กำลังตามหน้าที่ตราบใดที่ยังมีเหตุความรุนแรงในพื้นที่ดำรงอยู่
โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ยังกล่าวอีกว่า ทาง กอ.รมน.ภาค 4 สน. พร้อมที่จะปฏิบัติงานเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของพี่น้องประชาชน ด้วยการบังคับใช้กฎหมายดูแลความปลอดภัย และจัดการกับปัญหาภัยแทรกซ้อนทุกรูปแบบ เพื่อให้พี่น้องประชาชนมีความมั่นใจโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเดือนรอมฎอนอันประเสริฐ ประจำปี ฮ.ศ.1434 และจากสถานการณ์ก่อกวนในพื้นที่ด้วยการผลิตป้ายผ้าจากแหล่งเดียวกัน แล้วนำไปติดตั้งในพื้นที่ต่างๆ เพื่อทำให้สังคมทั่วไปเข้าใจว่าเป็นความต้องการของสังคมส่วนใหญ่ จึงอยากเรียกร้องให้ทุกส่วนลุกขึ้นมาปกป้องสิทธิของตนเอง
**สมช.สั่งจับตา"บีอาร์เอ็น"ลดเหตุรุนแรง
ทางด้าน พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวถึงแนวทางการวางมาตรการป้องกันเหตุรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ช่วงเดือนรอมฎอนว่า ได้ยึดหลักแนวทางของจุฬาราชมนตรี ส่วนแนวทางการลดเหตุในช่วงเดือนรอมฎอนที่ตัวแทนกลุ่มบีอาร์เอ็นส่งมานั้น มีทั้งข้อเรียกร้องและข้อเสนอแนะ โดยเรารับฟังและนำมาพิจารณาหารือกัน ตามข้อตกลงกันตั้งแต่วันที่ 10 ก.ค.เป็นต้นไป เหตุการณ์จะต้องลดลง แต่ก็ต้องดูข้อเท็จจริงกันต่อไปด้วย