ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์-เพราะความล้มเหลวจากนโยบายรับจำนำข้าว ของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ทั้งการรับจำนำในราคาสูงเกินจริง จนระบายข้าวไม่ออก มีการทุจริต คอร์รัปชัน ส่งผลให้มีการขาดทุนไปแล้วกว่า 2 แสนล้าน ทำให้ความน่าเชื่อถือ คะแนนนิยมของรัฐบาลอยู่ในสภาวะขาลงอย่างหนัก
เพราะตัวเลขมันฟ้องว่า การที่เงินของประเทศาติหายไปกว่า 2 แสนล้านภายในไม่ถึง 2 ปีนั้น ไปถึงมือชาวนาไม่ถึงแสนล้าน แล้วอีกกว่าครึ่งหนึ่งหายไปไหน คำตอบที่คิดได้อย่างหยาบๆ คือ ส่วนหนึ่งเป็นการขายข้าวขาดทุน อีกส่วนหนึ่งคือ คอร์รัปชั่น และเมื่อตัวเลขฟ้องว่ามีการการระบายข้าวออกไปเพียงน้อยนิด ดังนั้นการขาดทุนจากการขายข้าวก็ไม่สูงเท่าไร ตัวเลขที่สูงจึงไปอยู่ที่การทุจริต คอร์รัปชัน
การจัดซื้อจัดจ้าง รับเหมา ประมูล หรือสัมปทานโครงการต่างๆ ของภาครัฐ ที่มีผู้เคยคิดออกมาว่า มีการชักหัวคิว 20-30 เปอร์เซ็นต์นั้น เมื่อเทียบกับการชักหัวคิว ผูกขาดการค้าข้าว ผ่านโครงการรับจำนำแล้ว ดูจิ๊บจ๊อยไปเลย เพราะอย่างหลังนี้ฟาดกันพุงปลิ้นถึง 40-50 เปอร์เซ็นต์
แล้วอย่างนี้มีหรือที่รัฐบาลจะล้มโครงการ แม้จะมีเสียงคัดค้านอื้ออึง แต่ยิ่งลักษณ์ ก็ไม่สามารถอธิบายให้ประชาชนคลายข้อสงสัยได้ ได้แต่ท่องสคิปต์ว่า ชาวนาได้ประโยชน์ ขอให้ชาวนาเถอะค่ะ
ประเทศชาติไม่เจ๊งคราวนี้ จะไปเจ๊งคราวไหน
ที่ผ่านมา ไม่ว่ารัฐบาลใด เมื่อเจอภาวะขาลง ก็มีสูตรสำเร็จในการแก้ไขสถานการณ์อยู่ 2-3 เรื่อง คือ ออกข่าว ออกนโยบายปราบปรามยาเสพติด จัดแถลงข่าวจับกุมยาบ้ารายใหญ่ หลายล้านเม็ด กำหนดมาตรการปราบปรามคอร์รัปชัน เกณฑ์ข้าราชการ นักการเมืองมายืนเรียงแถวประกาศเป็นวาระแห่งชาติ และ สุดท้ายก็ปรับคณะรัฐมนตรี
สูตรสำเร็จที่ว่า ในช่วง 2 สัปดาห์ที่แล้ว รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ทำมาหมดแล้ว แต่สถานการณ์ก็ไม่ดีขึ้น เพราะประชาชนรู้ทันว่า นั่นเป็นแค่การสร้างภาพ สร้างข่าว ไม่ได้มีผลในทางปฏิบัติอย่างจริงจัง โดยเฉพาะในเรื่องทุจริต คอร์รัปชันนั้นใครๆ ก็รู้ว่า ตัวการใหญ่ก็คือคนใกล้ชิดนายกฯ คนในรัฐบาล และเครือข่ายพวกพ้อง
เหมือนที่ สุภา ปิยะจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลัง ออกมาแฉว่า มีการโกงกันทุกขั้นตอน โกงกันทุกเมล็ด ตั้งแต่ระดับล่างยันระดับบน
ถ้าระดับล่างหมายถึงพวกข้าราชการ ฝ่ายปฏิบัติ หรือพ่อค้า โรงสี แล้วระดับบนจะหมายถึงใคร ถ้าไม่ใช่นักการเมืองในรัฐบาล
การออกมาประกาศปราบคอร์รัปชันของนายกฯ ยิ่งลักษณ์ หลังการปรับคณะรัฐมนตรี เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา จึงเป็นแค่ปาหี่ทางการเมืองฉากหนึ่งเท่านั้น
ก่อนจะไปทัวร์ต่างประเทศที่โปแลนด์ และตุรกี ตามโปรแกรมที่ได้จ้างบริษัทล็อบบี้ยิสต์ ไปติดต่อไว้ล่วงหน้า เป็นการหลบออกไปให้พ้นสถานการณ์ในประเทศ พ้นหน้านักข่าวชั่วคราว
เพราะเรื่องที่จะต้องตอบในช่วงนี้ มีทั้งเรื่องทุจริตจำนำข้าว การปรับครม.แล้วไปนั่งควบรมว.กลาโหม หวังล้วงโผทหาร การแก้ปัญหาความรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ล้วนเป็นเรื่องที่ตอบยาก เพราะไม่รู้เรื่องทั้งสิ้น
ลองนึกถึงภาพเก่าๆ ที่นายกฯยิ่งลักษณ์ ตอบคำถามผู้สื่อข่าว แล้วลองจินตนาการดูว่า ถ้ามาเจอคำถามเรื่องร้อนๆในช่วงนี้ คำตอบที่ออกมาจากปากนายกฯ จะเป็นอย่างไร คิดแล้วอายแทนจริงจริง !!