เมื่อวานนี้ (3ก.ค.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางไปเยือนประเทศโปแลนด์ ถึงกรณีที่ฝ่ายค้านมองว่า การที่รัฐบาลคงราคารับจำนำข้าวที่ตันละ 15,000บาท และเร่งผ่านพ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้าน แล้ร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปี 2557 เป็นสัญญาณเตรียมการยุบสภาว่า
"โถเพิ่งมี ครม.ชุดใหม่ ขอให้ครม.ชุดใหม่ทำงานก่อนดีไหม ไม่มีเรื่องยุบสภาหรอกค่ะ"
ส่วนแรงกระเพื่อมจากจากพรรคเพื่อไทย ภายหลังจากปรับครม.นั้น ก็เป็นความคิดเห็น เชื่อว่าสมาชิกในพรรคจะเข้าใจ เพราะทุกคนต่างตั้งใจเข้ามาทำงาน เราน้อมรับ ทุกคนอยากช่วยเหลือบ้านเมือง ต้องดูที่บทบาทว่า เราจะช่วยกันตรงไหนอย่างไร เชื่อว่าพูดคุยกันได้
**"เหลิม"ยอมรับน้อยใจถูกลดชั้น
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน เปิดเผยว่า วันนี้ (4 ก.ค.) เวลา 09.00 น. จะเดินทางไปทำงานที่กระทรวงแรงงาน โดยจะเริ่มงานในทันที ส่วนกระแสข่าวที่ว่า จะลาออกจากตำแหน่งนั้น อย่าคิดอะไรมาก เพราะการเมืองไม่มีอะไรแน่นอน ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงได้เสมอ ตนทำงานการเมืองมากว่า 30 ปีแล้ว เข้าใจสภาพการเมืองไทยดี ว่าเป็นอย่างไร ฉะนั้นการทำงานที่กระทรวงแรงงาน ก็จะทำอย่างเต็มที่ เหมือนเดิม
ส่วนกรณีที่ไปพบแพทย์ ก็เป็นการนัดตรวจสุขภาพตามกำหนด สำหรับกระแสข่าวที่ระบุว่า ตนน้อยใจที่ถูกลดตำแหน่งนั้น ยอมรับว่า มีบ้าง แต่ก็คิดว่าการเมือง ไม่มีอะไรแน่นอน
นายไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย ในฐานะแกนนำกลุ่มอีสานพัฒนา กล่าวถึงการปรับครม.ว่า ยังไม่สามารถบอกได้ว่า ดีหรือไม่ดี อย่างไร โดยเฉพาะการไปนำคนนอกเข้ามาหลายคนนั้น ต้องรอดูผลงานว่าจะเป็นอย่างไร ซึ่งตนเชื่อว่าการปรับครม.ครั้งนี้ เพื่อเตรียมรับศึกตะลุมบอนช่วงเดือนสิงหาคมนี้
ทั้งนี้ แกนนำกลุ่มอีสานพัฒนา ยังกล่าวถึงกรณีส.ส.จำนวนหนึ่ง ไม่พอใจการปรับครม. เพราะโควต้าคนนอกมีมากเกินไป แต่พื้นที่ภาคอีสาน ภาคเหนือ ซึ่งมี ส.ส.จำนวนมาก กลับมีตัวแทนเข้าไปเป็นรัฐมนตรีน้อย และอาจลาออกจากพรรคเพื่อไทย ไปตั้งพรรคใหม่นั้น ยืนยันว่า ในส่วนของของตน ยังไม่ได้มีการพูดคุยกัน ส่วนกลุ่มอื่น ก็อาจมีการหารือกันบ้าง
นายไพจิต ยังมั่นใจว่า ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง จะไม่ลาออกจากตำแหน่งอย่างแน่นอน
" ยังไม่เคยเห็น เป็นรัฐบาลอยู่ บริหารประเทศอยู่ หากร.ต.อ.เฉลิมจะไขก๊อก ถือว่ารุนแรง แต่เชื่อว่าไม่น่ามี ไม่น่าเป็นไปได้ " นายไพจิต กล่าว
** คุยพ.ร.บ.กลาโหมกัน"ปู"ล้างโผได้
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวถึง กรณีที่มีการมองว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เข้ามาควบตำแหน่งรมว.กลาโหม เพื่อจะมาล้วงลูกการปรับย้ายนายทหาร ว่า จะล้วงไหน จะล้วงได้อย่างไร รู้หรือไม่ว่า เขาปรับย้ายกันอย่างไร การปรับย้ายทุกครั้ง มีพ.ร.บ.กลาโหมอยู่ ต้องมีการประชุมหารือกันในระหว่างเหล่าทัพ และต้องมีความเห็นชอบร่วมกัน ที่ผ่านมาไม่มีใครมาล้วงได้ เพราะหน้าที่กระทรวงกลาโหม ต้องรบกับกับอริราชศัตรู ดังนั้นการจะตั้งคนขึ้นมาทำหน้าที่นี้ ถือว่ามีความสำคัญ จึงต้องมี พ.ร.บ.กลาโหม เพื่อให้การคัดเลือกเกิดความเป็นธรรม ทั้งนี้ ผบ.เหล่าทัพ ทุกท่านมีวุฒิภาวะที่ดีเพียงพอที่จะคัดเลือกคนในกองทัพขึ้นมา อย่ามองว่าตั้งคนขึ้นมาเพื่อเป็นประโยชน์กับตัวเอง คิดว่าประเทศชาติสำคัญกว่านั้น การจะตั้งใครขึ้นมารับผิดชอบทำอะไรสำคัญๆ ต้องมีการไตร่ตรอง ใคร่ครวญ มีคณะกรรมการของแต่ละเหล่าทัพตัดสินขึ้นมา
" ที่ผ่านมาตั้งแต่มีการใช้ พ.ร.บ.กลาโหม ยังไม่เคยมีปัญหาความขัดแย้งในส่วนของเหล่าทัพ ผมไม่พูดถึงส่วนอื่น ซึ่งมีการเสนอขึ้นมาตามลำดับชั้น หากไม่ดี หรือทำงานไม่ได้ ผู้บังคับบัญชาที่เสนอมาต้องรับผิดชอบ การแต่งตั้งทุกครั้ง ยังไม่เคยมีการใช้มติอะไร และยังไม่เคยพูดคำว่ามติในที่ประชุมด้วยซ้ำ ทุกครั้ง ผบ.เหล่าทัพเสนอในส่วนของเหล่าทัพตนเองขึ้นมาในที่ประชุม โดยในที่ประชุมจะสอบถามว่าคนนี้ทำงานอย่างไร โตมาจากที่ไหน ที่ผ่านมาไม่เคยขัดแย้งกัน เป็นวัฒนธรรมของกองทัพ อย่าเอาความรู้สึกมาตัดสินว่า ต้องเป็นอย่างนั้น ถ้าอะไรที่ไม่ชอบธรรม หรือไม่ถูกต้อง เหล่าทัพคงไม่ทำตาม เพราะมี พ.ร.บ.กลาโหมอยู่" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า เราทำตามกฎหมาย ทำตามคำสั่งทุกประการ ไม่ใช่ว่าเลือกข้าง เลือกสี เพื่องบประมาณ หากคิดแบบนี้เป็น ผบ.ทบ.ไม่ได้ หากต้องไปงอนง้อใคร เพื่อเป็นผบ.ทบ. ตนไม่เป็น เพราะไม่เคยขอตำแหน่งใครตั้งแต่เด็ก ดังนั้นได้สอนทุกคนว่า ให้ผู้บังคับบัญชาเลือกเขาด้วยความดี เลือกแล้วเป็นที่ยอมรับของคนในกองทัพ ไม่ใช่เลือกใครก็ได้มาเป็น ถามว่าจะสั่งใครเขาได้หรือไม่ นี่คือสิ่งที่พ.ร.บ.กลาโหม มีไว้ป้องกัน หากมีอะไรนอกเหนือไปกว่านี้ คงเป็นเรื่องโชคชะตา ฟ้าลิขิต ประเทศไทย คงต้องมีทหารห่วยๆ มาดูแลกองทัพ หากถึงเวลาไปใช้งาน ก็ไปใช้ก็แล้วกัน อาจจะดีกว่าตนเป็นก็ได้
** "ปู"เข้ากลาโหมตรวจแถวทหาร10 ก.ค.
รายงานข่าวระบุว่า พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมว.กลาโหม ได้แจ้งต่อ พล.อ.ทนงศักดิ์ อภิรักษ์โยธิน ปลัดกระทรวงกลาโหม ว่า ในวันที่ 10 ก.ค. นี้ เวลา 08.29 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะ รมว.กลาโหม จะเดินทางมาที่กระทรวงกลาโหม เพื่อตรวจแถวทหารกองเกียรติยศ และรับฟังบรรยายสรุป พร้อมให้นโยบาย โดยจะเดินทางไปที่ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) เพื่อสักการะพระสยามเทวาธิราช และสักการะศาลหลักเมือง จากนั้นจะเดินทางเข้ามาในกระทรวงกลาโหม เพื่อสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวง อาทิ เจ้าพ่อหอกลอง พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 5 พระยาสุรศักดิ์มนตรี
จากนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะขึ้นแท่นรับทหารกองเกียรติยศจาก 3 เหล่าทัพ โดยมี พล.อ.ยุทธศักดิ์ พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) พล.ร.อ.สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) และข้าราชการระดับสูงในกองทัพ เข้าร่วมพิธี ภายหลังจากเสร็จพิธีการแล้ว น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะเข้ารับฟังบรรยายสรุปการทำงานของกระทรวงกลาโหมที่ห้องภาณุรังษี จากนั้น จะให้นโยบายการทำงานต่อนายทหารชั้นผู้ใหญ่ทั้งหมด
**"ประชา"ยอมรับหนักใจ เจองานหิน
พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง กล่าวถึงสถานการณ์ทางการเมือง โดยเฉพาะกรณีข่าวการเปลี่ยนตัวประธานแนวร่วมประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (นปช.) ที่มองกันว่า มีความเชื่อมโยงกับการที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุอาจมีการยุบสภาว่า ตนขอไม่แสดงความเห็นเรื่องนี้ แต่การที่ฝ่ายค้านจะมองอย่างไร ก็เป็นเรื่องของเขา เป็นเรื่องของความคิดที่สามารถแตกต่างกันได้
“การที่ฝ่ายค้านบอกจะล้มรัฐบาล ส่วนตัวมองเป็นเรื่องธรรมดา ฝ่ายค้านเขามีหน้าที่ล้มรัฐบาล อันนี้แน่นอน อยู่ที่รัฐบาลจะทำอย่างไรให้ดีที่สุด โดยยึดประเทศ และประชาชนเป็นหลัก”พล.ต.อ.ประชา กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในฐานะที่ดูแลด้านความมั่นคง ประเมินสถานการณ์การเมืองหลังจากนี้ 6 เดือน ก่อนที่จะสิ้นปีอย่างไร รองนายกฯ กล่าวว่า คงเร็วไปที่จะประเมินตรงนี้ เพราะเพิ่งเข้ามารับงาน ขอศึกษาข้อมูลจากสำนักข่าวกรอง และสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.)ก่อน
เมื่อถามว่า หากถึงช่วงเวลาหนึ่ง ที่การเมืองร้อนๆ คิดว่าจะรับมือไหวหรือไม่ พล.ต.อ.ประชา กล่าวว่า “คำว่าไหวหรือไม่ไหว มันขึ้นอยู่กับเหตุการณ์ แต่ถ้าถามว่า หนักใจไหม ก็ต้องยอมรับว่าภารกิจมันหนัก ไม่ใช่เรื่องธรรมดา งานด้านความมั่นคงนั้น ทุกท่านก็ทราบดี ความหนักใจก็มีบ้าง แต่เราก็ต้องทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ” พล.ต.อ.ประชา กล่าว
**"หน้ากากขาว"กทม. หยุดชุมนุมชั่วคราว
ด้านกลุ่มหน้ากากขาวได้โพสแถลงการณ์ ผ่านเฟซบุ๊กของกลุ่ม V For Thailand มีเนื้อหาระบุว่า ขอพักกิจกรรม เพื่อกลับไปทบทวนบทบาทของทุกกลุ่ม ที่กำลังดำเนินการโค่น อำนาจเผด็จการ และคอร์รัปชัน ว่า แนวทางของท่าน ใช่แนวทางที่เราชาว Vต้องการหรือไม่ V For Thailand ขอประกาศพักกิจกรรมในกรุงเทพมหานคร แล้ว Vจะกลับมาเปิดกิจกรรม Season ต่อไป เมื่อทุกกลุ่ม ทุกท่านพร้อมที่จะดำเนินการในวิถีแห่งความเป็น V = We = พวกเรา = ประชาชน ที่ไม่ใช่คนของใคร แต่เป็นคนที่จะทำหน้าที่เพื่อประเทศไทย
ต่อมาทางกลุ่ม V For Thailand ได้โพสข้อความระบุว่า " ที่ผ่านมาความรุนแรง การยั่วยุ และการฟังคนสั่งให้เดินไปข้างหน้า เราเสียพี่น้องคนไทยไปกี่คนแล้ว แต่เราก็ยังแพ้พวกโกงชาติบ้านเมือง เพราะอะไร อารมณ์ที่โกรธเกลียด และความอยากเอาชนะ ในทีเดียว แลกด้วยเลือดเนื้อ แต่ยังพ่ายแพ้มัน คุ้มค่าหรือไม่ เราคือประชาชน มีอาวุธเดียวคือ ความสามัคคี การพักคือให้ผู้ที่นำพาคนทั้งหลาย หัดรู้จักสามัคคีกันเองเสียก่อน หากผู้ที่มีบทบาท กลับเดินคนและทาง แล้วมวลชนที่เดินตาม จะเป็นอย่างไร ด้วยความเคารพ การพัก เพื่อให้ทุกคนกลับไปทบทวน บทบาทของตัวเอง และนำแนวคิดมาปรับจูนเข้าหากัน เพียงระยะเวลาสั้นๆ หากทำไม่ได้ การใหญ่ ที่ต้องการชนะ คนที่มีทั้งอำนาจ และกำลังคน คุณจะสู้กับเขาด้วยอะไร เอาความแตกแยกกับ อารมณ์ที่ต้องการเอาชนะ อย่างนั้นหรือ "
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับสาเหตุที่กลุ่มหน้ากากขาว ออกแถลงการณ์ดังกล่าว เนื่องมาจากกรณีการชุมนุมเมื่อวันที่ 30 มิ.ย. ที่ผ่านมานั้น ได้เกิดเหตุการณ์ดึงมวลชนกลุ่มผู้ชุมนุมของกลุ่มหน้ากากขาว จากกลุ่มผู้ชุมนุมจากท้องสนามหลวง ทางกลุ่มหน้ากากขาวเห็นว่า การชุมนุมของกลุ่มอาจจะเสียหลักการ และเสียจุดยืน เจตนารมย์ของกลุ่มได้ จึงได้ออกแถลงการณ์เพื่อให้มวลชนที่เข้าร่วมจากกลุ่มต่างๆ ได้ทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม กลุ่มหน้ากากขาวต่างจังหวัด ยังยืนยันที่จะเดินหน้าขับไล่รัฐบาล ที่โกงกินบ้านเมืองต่อไป โดยยังคงนัดรวมตัวกันในวันอาทิตย์ที่ 7 ก.ค.นี้
**"ไชยวัฒน์"ปัดครอบงำหน้ากากขาว
นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ แกนนำกลุ่มคนไทยรักชาติรักแผ่นดิน กล่าวถึง กรณีที่กลุ่มหน้ากากขาว ประกาศยุติการชุมนุมชั่วคราว เนื่องจากเกิดการแย่งชิงมวลชนว่า ตนไม่ได้เกี่ยวข้องกับกลุ่มหน้ากากขาว แต่เห็นด้วยในกิจกรรม เพราะเป็นการแสดงความในใจในการเคลื่อนไหว ซึ่งเป็นวิธีที่มีความเหมาะสมของกลุ่มพลังเงียบ ที่ไม่อยากเป็นเครื่องมือ ไม่อยากสังกัดกลุ่มใด หรือเป็นอิสระชน แต่ปัญหาที่เกิดขึ้น มีการอยากแสดงความเป็นเจ้าของ ตนเห็นว่าเป็นเรื่องน่าเสียดาย เพราะกระแสข่าวที่ออกมาไม่น่าจะเป็นผลดีกับกลุ่มหน้ากากขาว จึงอยากให้ผู้รับผิดชอบกับการเคลื่อนไหว มาตระหนัก และจัดการปัญหาที่เกิดขึ้นให้ผ่านไปได้ด้วยดี โดยเฉพาะประกาศให้ชัดเจนว่า มีจุดยืนตรงนี้ โดยไม่อ้างอิงกับกลุ่มใด หากพบว่าจะมีการครอบงำ ขอให้เลิกสิ่งเหล่านี้
ส่วนกระแสข่าวว่า กลุ่มสนามหลวง แย่งชิงมวลชนกลุ่มหน้ากากขาวนั้น ตนไม่ทราบข้อมูลจริง ๆ เพราะไม่เคยไปเข้าร่วมด้วย แต่อาจมีเจตนาของกลุ่มธรรมาธิปไตย ที่ชุมนุมที่สนามหลวง เป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยเท่านั้น ไม่ได้เกี่ยวข้องครอบงำ ดังนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการพูดเกินเลยไปหรือไม่ ทั้งนี้จุดยืนของกลุ่มสนามหลวง ยังสนับสนุนการเคลื่อนไหวของกลุ่มหน้ากากขาว อยากให้มีการเคลื่อนไหวเชิงปริมาณ ในฐานะเจ้าของอำนาจอธิปไตย ถึงแม้รูปแบบของทั้งสองกลุ่มแตกต่างกัน แต่มีเป้าหมายปฏิเสธนักการเมืองเช่นเดียวกัน ตนจึงแปลกใจว่าข่าวการเข้าไปครอบงำกลุ่มหน้ากากขาวเกิดขึ้นได้อย่างไร เพราะจะเป็นเรื่องผิดตั้งแต่มีแนวคิดแล้ว
"โถเพิ่งมี ครม.ชุดใหม่ ขอให้ครม.ชุดใหม่ทำงานก่อนดีไหม ไม่มีเรื่องยุบสภาหรอกค่ะ"
ส่วนแรงกระเพื่อมจากจากพรรคเพื่อไทย ภายหลังจากปรับครม.นั้น ก็เป็นความคิดเห็น เชื่อว่าสมาชิกในพรรคจะเข้าใจ เพราะทุกคนต่างตั้งใจเข้ามาทำงาน เราน้อมรับ ทุกคนอยากช่วยเหลือบ้านเมือง ต้องดูที่บทบาทว่า เราจะช่วยกันตรงไหนอย่างไร เชื่อว่าพูดคุยกันได้
**"เหลิม"ยอมรับน้อยใจถูกลดชั้น
ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน เปิดเผยว่า วันนี้ (4 ก.ค.) เวลา 09.00 น. จะเดินทางไปทำงานที่กระทรวงแรงงาน โดยจะเริ่มงานในทันที ส่วนกระแสข่าวที่ว่า จะลาออกจากตำแหน่งนั้น อย่าคิดอะไรมาก เพราะการเมืองไม่มีอะไรแน่นอน ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงได้เสมอ ตนทำงานการเมืองมากว่า 30 ปีแล้ว เข้าใจสภาพการเมืองไทยดี ว่าเป็นอย่างไร ฉะนั้นการทำงานที่กระทรวงแรงงาน ก็จะทำอย่างเต็มที่ เหมือนเดิม
ส่วนกรณีที่ไปพบแพทย์ ก็เป็นการนัดตรวจสุขภาพตามกำหนด สำหรับกระแสข่าวที่ระบุว่า ตนน้อยใจที่ถูกลดตำแหน่งนั้น ยอมรับว่า มีบ้าง แต่ก็คิดว่าการเมือง ไม่มีอะไรแน่นอน
นายไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย ในฐานะแกนนำกลุ่มอีสานพัฒนา กล่าวถึงการปรับครม.ว่า ยังไม่สามารถบอกได้ว่า ดีหรือไม่ดี อย่างไร โดยเฉพาะการไปนำคนนอกเข้ามาหลายคนนั้น ต้องรอดูผลงานว่าจะเป็นอย่างไร ซึ่งตนเชื่อว่าการปรับครม.ครั้งนี้ เพื่อเตรียมรับศึกตะลุมบอนช่วงเดือนสิงหาคมนี้
ทั้งนี้ แกนนำกลุ่มอีสานพัฒนา ยังกล่าวถึงกรณีส.ส.จำนวนหนึ่ง ไม่พอใจการปรับครม. เพราะโควต้าคนนอกมีมากเกินไป แต่พื้นที่ภาคอีสาน ภาคเหนือ ซึ่งมี ส.ส.จำนวนมาก กลับมีตัวแทนเข้าไปเป็นรัฐมนตรีน้อย และอาจลาออกจากพรรคเพื่อไทย ไปตั้งพรรคใหม่นั้น ยืนยันว่า ในส่วนของของตน ยังไม่ได้มีการพูดคุยกัน ส่วนกลุ่มอื่น ก็อาจมีการหารือกันบ้าง
นายไพจิต ยังมั่นใจว่า ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง จะไม่ลาออกจากตำแหน่งอย่างแน่นอน
" ยังไม่เคยเห็น เป็นรัฐบาลอยู่ บริหารประเทศอยู่ หากร.ต.อ.เฉลิมจะไขก๊อก ถือว่ารุนแรง แต่เชื่อว่าไม่น่ามี ไม่น่าเป็นไปได้ " นายไพจิต กล่าว
** คุยพ.ร.บ.กลาโหมกัน"ปู"ล้างโผได้
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวถึง กรณีที่มีการมองว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เข้ามาควบตำแหน่งรมว.กลาโหม เพื่อจะมาล้วงลูกการปรับย้ายนายทหาร ว่า จะล้วงไหน จะล้วงได้อย่างไร รู้หรือไม่ว่า เขาปรับย้ายกันอย่างไร การปรับย้ายทุกครั้ง มีพ.ร.บ.กลาโหมอยู่ ต้องมีการประชุมหารือกันในระหว่างเหล่าทัพ และต้องมีความเห็นชอบร่วมกัน ที่ผ่านมาไม่มีใครมาล้วงได้ เพราะหน้าที่กระทรวงกลาโหม ต้องรบกับกับอริราชศัตรู ดังนั้นการจะตั้งคนขึ้นมาทำหน้าที่นี้ ถือว่ามีความสำคัญ จึงต้องมี พ.ร.บ.กลาโหม เพื่อให้การคัดเลือกเกิดความเป็นธรรม ทั้งนี้ ผบ.เหล่าทัพ ทุกท่านมีวุฒิภาวะที่ดีเพียงพอที่จะคัดเลือกคนในกองทัพขึ้นมา อย่ามองว่าตั้งคนขึ้นมาเพื่อเป็นประโยชน์กับตัวเอง คิดว่าประเทศชาติสำคัญกว่านั้น การจะตั้งใครขึ้นมารับผิดชอบทำอะไรสำคัญๆ ต้องมีการไตร่ตรอง ใคร่ครวญ มีคณะกรรมการของแต่ละเหล่าทัพตัดสินขึ้นมา
" ที่ผ่านมาตั้งแต่มีการใช้ พ.ร.บ.กลาโหม ยังไม่เคยมีปัญหาความขัดแย้งในส่วนของเหล่าทัพ ผมไม่พูดถึงส่วนอื่น ซึ่งมีการเสนอขึ้นมาตามลำดับชั้น หากไม่ดี หรือทำงานไม่ได้ ผู้บังคับบัญชาที่เสนอมาต้องรับผิดชอบ การแต่งตั้งทุกครั้ง ยังไม่เคยมีการใช้มติอะไร และยังไม่เคยพูดคำว่ามติในที่ประชุมด้วยซ้ำ ทุกครั้ง ผบ.เหล่าทัพเสนอในส่วนของเหล่าทัพตนเองขึ้นมาในที่ประชุม โดยในที่ประชุมจะสอบถามว่าคนนี้ทำงานอย่างไร โตมาจากที่ไหน ที่ผ่านมาไม่เคยขัดแย้งกัน เป็นวัฒนธรรมของกองทัพ อย่าเอาความรู้สึกมาตัดสินว่า ต้องเป็นอย่างนั้น ถ้าอะไรที่ไม่ชอบธรรม หรือไม่ถูกต้อง เหล่าทัพคงไม่ทำตาม เพราะมี พ.ร.บ.กลาโหมอยู่" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า เราทำตามกฎหมาย ทำตามคำสั่งทุกประการ ไม่ใช่ว่าเลือกข้าง เลือกสี เพื่องบประมาณ หากคิดแบบนี้เป็น ผบ.ทบ.ไม่ได้ หากต้องไปงอนง้อใคร เพื่อเป็นผบ.ทบ. ตนไม่เป็น เพราะไม่เคยขอตำแหน่งใครตั้งแต่เด็ก ดังนั้นได้สอนทุกคนว่า ให้ผู้บังคับบัญชาเลือกเขาด้วยความดี เลือกแล้วเป็นที่ยอมรับของคนในกองทัพ ไม่ใช่เลือกใครก็ได้มาเป็น ถามว่าจะสั่งใครเขาได้หรือไม่ นี่คือสิ่งที่พ.ร.บ.กลาโหม มีไว้ป้องกัน หากมีอะไรนอกเหนือไปกว่านี้ คงเป็นเรื่องโชคชะตา ฟ้าลิขิต ประเทศไทย คงต้องมีทหารห่วยๆ มาดูแลกองทัพ หากถึงเวลาไปใช้งาน ก็ไปใช้ก็แล้วกัน อาจจะดีกว่าตนเป็นก็ได้
** "ปู"เข้ากลาโหมตรวจแถวทหาร10 ก.ค.
รายงานข่าวระบุว่า พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมว.กลาโหม ได้แจ้งต่อ พล.อ.ทนงศักดิ์ อภิรักษ์โยธิน ปลัดกระทรวงกลาโหม ว่า ในวันที่ 10 ก.ค. นี้ เวลา 08.29 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะ รมว.กลาโหม จะเดินทางมาที่กระทรวงกลาโหม เพื่อตรวจแถวทหารกองเกียรติยศ และรับฟังบรรยายสรุป พร้อมให้นโยบาย โดยจะเดินทางไปที่ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) เพื่อสักการะพระสยามเทวาธิราช และสักการะศาลหลักเมือง จากนั้นจะเดินทางเข้ามาในกระทรวงกลาโหม เพื่อสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวง อาทิ เจ้าพ่อหอกลอง พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 5 พระยาสุรศักดิ์มนตรี
จากนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะขึ้นแท่นรับทหารกองเกียรติยศจาก 3 เหล่าทัพ โดยมี พล.อ.ยุทธศักดิ์ พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) พล.ร.อ.สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) และข้าราชการระดับสูงในกองทัพ เข้าร่วมพิธี ภายหลังจากเสร็จพิธีการแล้ว น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะเข้ารับฟังบรรยายสรุปการทำงานของกระทรวงกลาโหมที่ห้องภาณุรังษี จากนั้น จะให้นโยบายการทำงานต่อนายทหารชั้นผู้ใหญ่ทั้งหมด
**"ประชา"ยอมรับหนักใจ เจองานหิน
พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง กล่าวถึงสถานการณ์ทางการเมือง โดยเฉพาะกรณีข่าวการเปลี่ยนตัวประธานแนวร่วมประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (นปช.) ที่มองกันว่า มีความเชื่อมโยงกับการที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุอาจมีการยุบสภาว่า ตนขอไม่แสดงความเห็นเรื่องนี้ แต่การที่ฝ่ายค้านจะมองอย่างไร ก็เป็นเรื่องของเขา เป็นเรื่องของความคิดที่สามารถแตกต่างกันได้
“การที่ฝ่ายค้านบอกจะล้มรัฐบาล ส่วนตัวมองเป็นเรื่องธรรมดา ฝ่ายค้านเขามีหน้าที่ล้มรัฐบาล อันนี้แน่นอน อยู่ที่รัฐบาลจะทำอย่างไรให้ดีที่สุด โดยยึดประเทศ และประชาชนเป็นหลัก”พล.ต.อ.ประชา กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในฐานะที่ดูแลด้านความมั่นคง ประเมินสถานการณ์การเมืองหลังจากนี้ 6 เดือน ก่อนที่จะสิ้นปีอย่างไร รองนายกฯ กล่าวว่า คงเร็วไปที่จะประเมินตรงนี้ เพราะเพิ่งเข้ามารับงาน ขอศึกษาข้อมูลจากสำนักข่าวกรอง และสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.)ก่อน
เมื่อถามว่า หากถึงช่วงเวลาหนึ่ง ที่การเมืองร้อนๆ คิดว่าจะรับมือไหวหรือไม่ พล.ต.อ.ประชา กล่าวว่า “คำว่าไหวหรือไม่ไหว มันขึ้นอยู่กับเหตุการณ์ แต่ถ้าถามว่า หนักใจไหม ก็ต้องยอมรับว่าภารกิจมันหนัก ไม่ใช่เรื่องธรรมดา งานด้านความมั่นคงนั้น ทุกท่านก็ทราบดี ความหนักใจก็มีบ้าง แต่เราก็ต้องทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ” พล.ต.อ.ประชา กล่าว
**"หน้ากากขาว"กทม. หยุดชุมนุมชั่วคราว
ด้านกลุ่มหน้ากากขาวได้โพสแถลงการณ์ ผ่านเฟซบุ๊กของกลุ่ม V For Thailand มีเนื้อหาระบุว่า ขอพักกิจกรรม เพื่อกลับไปทบทวนบทบาทของทุกกลุ่ม ที่กำลังดำเนินการโค่น อำนาจเผด็จการ และคอร์รัปชัน ว่า แนวทางของท่าน ใช่แนวทางที่เราชาว Vต้องการหรือไม่ V For Thailand ขอประกาศพักกิจกรรมในกรุงเทพมหานคร แล้ว Vจะกลับมาเปิดกิจกรรม Season ต่อไป เมื่อทุกกลุ่ม ทุกท่านพร้อมที่จะดำเนินการในวิถีแห่งความเป็น V = We = พวกเรา = ประชาชน ที่ไม่ใช่คนของใคร แต่เป็นคนที่จะทำหน้าที่เพื่อประเทศไทย
ต่อมาทางกลุ่ม V For Thailand ได้โพสข้อความระบุว่า " ที่ผ่านมาความรุนแรง การยั่วยุ และการฟังคนสั่งให้เดินไปข้างหน้า เราเสียพี่น้องคนไทยไปกี่คนแล้ว แต่เราก็ยังแพ้พวกโกงชาติบ้านเมือง เพราะอะไร อารมณ์ที่โกรธเกลียด และความอยากเอาชนะ ในทีเดียว แลกด้วยเลือดเนื้อ แต่ยังพ่ายแพ้มัน คุ้มค่าหรือไม่ เราคือประชาชน มีอาวุธเดียวคือ ความสามัคคี การพักคือให้ผู้ที่นำพาคนทั้งหลาย หัดรู้จักสามัคคีกันเองเสียก่อน หากผู้ที่มีบทบาท กลับเดินคนและทาง แล้วมวลชนที่เดินตาม จะเป็นอย่างไร ด้วยความเคารพ การพัก เพื่อให้ทุกคนกลับไปทบทวน บทบาทของตัวเอง และนำแนวคิดมาปรับจูนเข้าหากัน เพียงระยะเวลาสั้นๆ หากทำไม่ได้ การใหญ่ ที่ต้องการชนะ คนที่มีทั้งอำนาจ และกำลังคน คุณจะสู้กับเขาด้วยอะไร เอาความแตกแยกกับ อารมณ์ที่ต้องการเอาชนะ อย่างนั้นหรือ "
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับสาเหตุที่กลุ่มหน้ากากขาว ออกแถลงการณ์ดังกล่าว เนื่องมาจากกรณีการชุมนุมเมื่อวันที่ 30 มิ.ย. ที่ผ่านมานั้น ได้เกิดเหตุการณ์ดึงมวลชนกลุ่มผู้ชุมนุมของกลุ่มหน้ากากขาว จากกลุ่มผู้ชุมนุมจากท้องสนามหลวง ทางกลุ่มหน้ากากขาวเห็นว่า การชุมนุมของกลุ่มอาจจะเสียหลักการ และเสียจุดยืน เจตนารมย์ของกลุ่มได้ จึงได้ออกแถลงการณ์เพื่อให้มวลชนที่เข้าร่วมจากกลุ่มต่างๆ ได้ทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม กลุ่มหน้ากากขาวต่างจังหวัด ยังยืนยันที่จะเดินหน้าขับไล่รัฐบาล ที่โกงกินบ้านเมืองต่อไป โดยยังคงนัดรวมตัวกันในวันอาทิตย์ที่ 7 ก.ค.นี้
**"ไชยวัฒน์"ปัดครอบงำหน้ากากขาว
นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ แกนนำกลุ่มคนไทยรักชาติรักแผ่นดิน กล่าวถึง กรณีที่กลุ่มหน้ากากขาว ประกาศยุติการชุมนุมชั่วคราว เนื่องจากเกิดการแย่งชิงมวลชนว่า ตนไม่ได้เกี่ยวข้องกับกลุ่มหน้ากากขาว แต่เห็นด้วยในกิจกรรม เพราะเป็นการแสดงความในใจในการเคลื่อนไหว ซึ่งเป็นวิธีที่มีความเหมาะสมของกลุ่มพลังเงียบ ที่ไม่อยากเป็นเครื่องมือ ไม่อยากสังกัดกลุ่มใด หรือเป็นอิสระชน แต่ปัญหาที่เกิดขึ้น มีการอยากแสดงความเป็นเจ้าของ ตนเห็นว่าเป็นเรื่องน่าเสียดาย เพราะกระแสข่าวที่ออกมาไม่น่าจะเป็นผลดีกับกลุ่มหน้ากากขาว จึงอยากให้ผู้รับผิดชอบกับการเคลื่อนไหว มาตระหนัก และจัดการปัญหาที่เกิดขึ้นให้ผ่านไปได้ด้วยดี โดยเฉพาะประกาศให้ชัดเจนว่า มีจุดยืนตรงนี้ โดยไม่อ้างอิงกับกลุ่มใด หากพบว่าจะมีการครอบงำ ขอให้เลิกสิ่งเหล่านี้
ส่วนกระแสข่าวว่า กลุ่มสนามหลวง แย่งชิงมวลชนกลุ่มหน้ากากขาวนั้น ตนไม่ทราบข้อมูลจริง ๆ เพราะไม่เคยไปเข้าร่วมด้วย แต่อาจมีเจตนาของกลุ่มธรรมาธิปไตย ที่ชุมนุมที่สนามหลวง เป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยเท่านั้น ไม่ได้เกี่ยวข้องครอบงำ ดังนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการพูดเกินเลยไปหรือไม่ ทั้งนี้จุดยืนของกลุ่มสนามหลวง ยังสนับสนุนการเคลื่อนไหวของกลุ่มหน้ากากขาว อยากให้มีการเคลื่อนไหวเชิงปริมาณ ในฐานะเจ้าของอำนาจอธิปไตย ถึงแม้รูปแบบของทั้งสองกลุ่มแตกต่างกัน แต่มีเป้าหมายปฏิเสธนักการเมืองเช่นเดียวกัน ตนจึงแปลกใจว่าข่าวการเข้าไปครอบงำกลุ่มหน้ากากขาวเกิดขึ้นได้อย่างไร เพราะจะเป็นเรื่องผิดตั้งแต่มีแนวคิดแล้ว