xs
xsm
sm
md
lg

ปรับครม.เร็ว สู้มรสุมขาลง จับตา“มือเก๋า–บิ๊กเนม”พรึ่บ หมอมิ้ง–บิ๊กจิ๋ว–สุวัจน์–สมศักดิ์

เผยแพร่:

**ขยับเตรียมปรับ ครม.กันจริงๆจังแล้ว "ยิ่งลักษณ์ 5" หลังยิ่งบริหารงานไป ยิ่งป้อแป้ๆ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯปูกรรเชียง ชักเริ่มยอมรับสภาพความไม่เอาไหน เบื่อผลงานพวก รมต.ตัวสำรอง วันนี้เมื่อตัวจริงหลุดพันธนาการ บ้านเลขที่ 111 แล้ว ก็เอามาทำงานทำการดีกว่านั่งเลี้ยงหลานอยู่บ้านเฉยๆ
หลังมรสุมวิกฤติศรัทธาถาโถมใส่รัฐบาล โดยเฉพาะโครงการรับจำนำข้าว นโยบายที่ทำให้ชนะเลือกตั้งอย่างถล่มทลาย กลายเป็นของเสียจากฝีมือคนในตระกูลชินวัตร ที่อ้าปากกินทุกอย่าง และรัฐมนตรีที่ไม่เอาอ่าว ทำงานได้แค่ตามใบสั่ง ก็คงต้องถึงเวลาเปลี่ยนตัวตามเสียงเรียกร้องทั้งภายในภายนอก เสียที
งานนี้ช้างมาฉุดก็ไม่อยู่ “เจ๊แดง ซาลาเปา”เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ จะยื้อไว้ก็คงไม่ไหว อย่างดีก็รักษาเก้าอี้ให้เด็กในคาถา ย้ายไปอยู่กระทรวงอื่น
กระทรวงพาณิชย์ เป็นจุดสำคัญที่ทำให้รัฐบาลคะแนนนิยมตกต่ำดำดิ่ง สาละวนอยู่กับการแก้ไขปัญหาข้าว เรื่องอื่นๆ ก็สอบตกกราวรูด สินค้าแพง พินาศย่อยยับหมด ขืนให้“บุญทรง เตริยาภิรมย์”นั่งอยู่ต่อไปก็ซวยทั้งรัฐบาล และดูท่าว่าต้องเลยเถิดไปถึงการปรับครม.เศรษฐกิจ ขุนคลัง "โต้งไวท์ไล " กิตติรัตน์ ณ ระนอง เพื่อนรักนายกฯ อยู่ยาก เพราะนายใหญ่หนีคดี ทักษิณ ชินวัตร ไม่ปลื้มอย่างแรง จ้องเขี่ยทิ้งเรื่อยมา บริหารประเทศได้แค่ทรงๆ ทรุดๆ ติดอยู่ที่น้องสาวขอไว้ แต่งวดนี้คงหมดวีซ่า !!
ข่าวล่ามาแรง หัวหน้าทีมเศรษฐกิจคนใหม่ “หมอมิ้ง”นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช คนสนิททักษิณ หมอหัวเอียงซ้าย จะมาเป็นรองนายกฯ คุมทีมเศรษฐกิจ และโยกเอา“เดอะต๋อง”วราเทพ รัตนากร ไปเป็น รมว.คลัง
**“หมอมิ้ง”เป็นกลุ่มคนตุลาฯ ที่ช่วยงานพรรคมาตลอด พวกเดียวกับ “เสี่ยอ้วน”ภูมิธรรม เวชยชัย และ“เสี่ยอ๋อย”จาตุรนต์ ฉายแสง มีเพาเวอร์ได้รับการสนับสนุนจากคนในพรรค
ยามนี้ ยิ่งลักษณ์ จำเป็นต้องได้คนทำงานมืออาชีพมาช่วยงานอย่างเร่งด่วน ถึงกับบ่นกับคนใกล้ชิด รวมทั้งตวาด รมต.เอาดื้อๆ อยู่หลายครั้ง ถึงการบริหารงานต่างๆว่า“บรมห่วย”สะท้อนชัดเจนว่า ถึงเวลาปรับเปลี่ยนเอาตัวจริงเข้ามา เอาตัวปลอมออกไป ยิ่งลักษณ์ เริ่มรู้สภาพลำพังตัวเอง“เอาไม่อยู่”ต้องมีทีมงานชั้นดีมาเสริม
ไม่ใช่เอาทีมงานกระจอกๆ มาดึงแข้งดึงขา !!
จาตุรนต์ ที่มีฝีไม้ลายมือเป็นที่ยอมรับของคนในพรรค แม้จะมีภาพลักษณ์โดดเด่น เป็นตัวของตัวเองไม่ค่อยฟังใคร ยิ่งลักษณ์ไม่ค่อยปลื้มนัก แต่ก็จำเป็นต้องหยิบจับมาใช้งานเพื่อกู้ภาพลักษณ์โดยรวมของรัฐบาล
ส่วน ภูมิธรรม อาจต้องทำหน้าที่เลขาธิการพรรคเพื่อไทยไปก่อน เพราะงานในพรรคยังเยอะอยู่ ต้องไปเก็บกวาดขี้ที่รุ่นก่อนๆ ทำเลอะเทอะไว้
สำหรับงานทางด้านความมั่นคง Old Soldier Never Die “บิ๊กจิ๋ว”พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ เตรียมคัมแบ๊ก กลับมาดูแลรับผิดชอบ ด้วยความเหมาะสมทั้งเรื่องมวลชน ส.ส.ความหวังใหม่เก่าที่อยู่ในพรรคเพื่อไทย ส.ส.อีสานบางส่วน ยังให้ความเคารพ ยกให้เป็นหัวหน้ามุ้ง ขณะที่เรื่องปัญหาภาคใต้ ที่ยังรุนแรงน่าวิตก ก็อาจจะเข้ามารับหน้าแก้ปัญหาให้รัฐบาล
แน่นอนว่า“สารวัตรเหลิม”ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี มีดีแต่ปาก ใช้ปากทำงาน คงต้องย้ายตูดไปที่อื่น เพราะอยู่ที่ไหนก็ทำงานได้ พูดเก่งขนาดนี้ อยู่ที่ไหนก็พูดได้ น่าจะลงล็อกที่ “กระทรวงยุติธรรม”ไปนั่งทำคดี หาทางช่วยทักษิณกลับบ้านอย่างปากว่าจริงๆ จังๆ เสียที
ส่วน“บิ๊กผิว”พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก เจ้าของเก้าอี้ ก็อาจต้องพักงานการเมืองไปชั่วคราว หรือถ้ายังเหนียว ก็ระเห็จไปกระทรวงอื่น แต่ไม่มีทางไปไหนใหญ่กว่าเดิม เพราะผลงานไม่มี ไปนั่งกระทรวงใหญ่ๆ จะมีแต่เสียงยี้มากกว่าเสียงชื่นชม
ย้ำว่าการปรับ ครม.ครั้งนี้ ต้องการมืออาชีพตัวจริง จะมาเล่นขายของไม่ได้แล้ว รัฐบาลอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ หากเดินทางผิดซ้ำซาก มีหวังอายุไม่ยืน อาจต้องยุบสภาก่อนครบวาระ ชั่วโมงนี้จึงต้องระดมขุนพลทั้งภายใน ภายนอก
**มองไปที่พรรคร่วมรัฐบาล เห็นสัญญาณแปร่งๆ หรือ “สุวัจน์ ลิปตพัลลภ”จะโดดเข้ามาเป็น รมว.อุตสาหกรรม เสียเอง แต่คนระดับนี้ นายกฯ คงต้องมอบตำแหน่งรองนายกฯ พ่วงให้อีกตำแหน่ง
ส่วนคนที่จ้องจะเข้ามาตาเป็นมันอาจสมหวังเอาคราวนี้ “สมศักดิ์ เทพสุทิน”แกนนำกลุ่มมัชฌิมา ในพรรคภูมิใจไทย ที่ขนสมาชิกเข้ามาอยู่ชายคาพรรคเพื่อไทยแล้ว 7-8 คน เพียงแต่ชื่อยังติดกับพรรคเดิม งูเห่าเลื้อยไปเลื้อยมา ในฐานะที่สนิทสนมกับ “เจ๊แดง”กินข้าวเย็น ข้าวเที่ยงกันประจำ ในเมื่อเด็กในคาถาทำงานไม่ได้เรื่อง ก็เอา ระดับบิ๊กเนม การันตีฝีมืออย่างสมศักดิ์ มาทำงานประสานกันเหมือนเก่าก่อน
**“สมศักดิ์”ทำโปรเจกต์ “เยาวภา”รับหน้าที่เหรัญญิก !!
สำหรับคนที่ดูแล้วน่าจะปิ๋ว ส่อกินแห้วพุงกาง “เจ๊หน่อย”สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เจ้าแม่ กทม. จอมดราม่า คดีคอมพ์ สธ.ฉาว ยังไม่รู้ออกหัวออกก้อย หลังพ่ายแพ้ศึกเลือกตั้งซ่อมดอนเมือง ก็ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ต้องหันกลับไปพึ่งทางธรรมเหมือนเดิม เพราะช่องทางการเมืองตอนนี้ตีบตัน ไร้คนเหลียวแล
ส่วน“โภคิน พลกุล”แม้ระยะหลังทำงานให้พรรค เป็นมือกฎหมายชั้นดี แต่มีชนักติดหลัง เรื่องรถ - เรือดับเพลิง อาจต้องรอไปอีก 1 รอบ
ด้าน“คางคกตู่”จตุพร พรหมพันธุ์ คงต้องขึ้นวอรอตำแหน่งไปอีก ในยามที่กระแสไม่ดี จำเป็นต้องปรับ ครม.เพื่อภาพลักษณ์มากที่สุด ขืนเอา“จตุพร” เข้ามาจะเกิดรอยด่างดำทันที ชั่วโมงนี้ใช้บริการ“เต้น”ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ถึงอย่างไรก็ยังดูดีกว่าเยอะ
การปรับ ครม.งวดนี้อาจมาเร็วกว่าที่คาด เพราะปัจจัยภายนอกรุมเร้า ภายในพรรคก็เรียกร้อง ทั้งด้วยหวังดีเพื่อกู้ภาพลักษณ์ และก็หวังไม่ดี จ้องเอาเก้าอี้มาผลัดกันนั่ง ทำท่าว่าจะปรับกันเร็วๆ นี้ ก่อนเปิดสมัยประชุมสภาแน่นอน และจำเป็นต้องเอาขาใหญ่ระดับแกนนำ ควบคุมลิ่วล้อ ส.ส.ได้ จะบริหารกันแบบไร้ทิศทางเหมือนเดิมไม่ได้แล้ว จำเป็นต้องเอาพวกมากบารมีคุม ส.ส.ได้ ทางภาคเหนือก็มี “เยาวภา”เป็นหลักใหญ่อยู่แล้ว คงต้องหาคนมาช่วยดูทางด้านอีสาน อีก 2-3 คน “บิ๊กจิ๋ว”ก็พอได้ และก็มี “เฮียเพ้ง”พงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล ที่ดูแลอยู่บางส่วน
สถานการณ์การเมืองข้างหน้ามีแต่เรื่องร้อนท้าทายรัฐบาล เรื่องกฎหมายการเงิน เรื่องแก้รัฐธรรมนูญ ที่สำคัญคือ กฎหมายนิรโทษกรรม - ปรองดอง ที่จำเป็นต้องทำเพื่อ“นายใหญ่”หากรัฐบาลไม่แข็งแกร่งคงยืนระยะต้านทานลำบาก ที่ผ่านมาก็พิสูจน์แล้วว่ามีอาการทุกครั้งที่โดนถล่ม แม้แต่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ
**ดังนั้นตอนนี้ต้องเอาต้นไม้ใหญ่ๆ มายืนสู้ลมแรง เอาพวกไม้หลักปักขี้เลนออกไป ก่อนจะต้องพังไปทั้งรัฐบาล !!
กำลังโหลดความคิดเห็น