xs
xsm
sm
md
lg

หลวงปู่เณรคำเลื่อนกลับไทย ชาวพุทธบี้สอบเงินทำบุญล่องหน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-พศจ.รับแกะรอยเงิน "หลวงปู่เณรคำ" ยาก เหตุไม่ใช่วัดตามกฎหมาย ไม่ทราบสังกัด ส่วนภาพกับสีกาต้องรอพิสูจน์ ศิษย์รุ่นแรกข้องใจกฐินร้อยล้านอยู่ไหน ด้านโฆษกประจำตัวหลวงปู่แจงเลื่อนกลับไทย เพราะญาติโยมนิมนต์อยู่ต่อ ยันเครื่องบิน-เฮลิคอปเตอร์ลูกศิษย์เช่าให้ เผยรถนำขบวน "วิเชียร" เป็นคนจัดให้ ชาวพุทธรวมตัวต้าน ยื่นกองปราบ-ป.ป.ง.ตรวจสอบเงินทำบุญ หวั่นถูกฉ้อโกง พระวัดป่า ระบุไม่ใช่สายหลวงปู่มั่น

นายวิรอด ไชยพรรณนา ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด (พศจ.) ศรีสะเกษ เปิดเผยถึงกรณีที่นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ให้ตรวจสอบพระวิรพล ฉัตติโก หรือหลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก ประธานสงฆ์วัดป่าขันติธรรม บ้านยาง ต.ยาง อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ ว่า การตรวจสอบสถานะการเงินคงเป็นไปได้ยาก เนื่องจากไม่ใช่วัด ทำให้ไม่มีสิทธิ์เข้าไปตรวจสอบ จะส่งเรื่องให้คณะสงฆ์พิจารณาก็ยังไม่ได้เลย อย่างไรก็ตาม อาจต้องอาศัยอำนาจของตำรวจ ส่วนสังกัดก็ทราบเพียงว่าอาจอยู่ที่วัดใต้หรือวัดพระเจ้าใหญ่องค์ตื้อ อ.เมือง จ.อุบลราชธานี ซึ่งเป็นวัดของเจ้าคณะจังหวัดอุบลราชธานี ฝ่ายธรรมยุติ ที่หลวงปู่เณรคำถวายรถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ให้ใช้ปฏิบัติภารกิจของคณะสงฆ์

นอกจากนี้ จากการสอบถามไปยังวัดภูเขาแก้ว อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี ซึ่งเป็นวัดที่หลวงปู่เณรคำบรรพชาเป็นสามเณร ตามที่กล่าวอ้างในประวัติ ทางวัดก็ปฎิเสธ บอกว่าน่าจะเป็นวัดศรีนวล ต.พิบูล อ.พิบูลมังสาหาร ซึ่งต้องรอหลวงปู่เณรคำเดินทางกลับมา จะได้ขอดูใบสุทธิว่าสังกัดวัดไหน

สำหรับเรื่องการขอตั้งวัดนั้น ทราบว่าเคยได้รับอนุญาตให้สร้างวัด ตามหนังสือที่ว่าการอำเภอกันทรารมย์ ที่ ศก 0232/146 ลว. 25 ก.พ.2545 เป็นหนังสือถึงพล.ต.จตุรานนท์ สิงหเดช แจ้งว่า กรมการศาสนา โดยความเห็นชอบของกระทรวงศึกษาธิการ และมหาเถรสมาคม อนุญาตให้สร้างวัดได้ โดยขอให้ก่อสร้างเสนาสนะ เมื่อก่อสร้างแล้ว มีพระภิกษุพักอาศัยไม่น้อยกว่า 4 รูป มีพระภิกษุผู้มีคุณสมบัติเป็นเจ้าอาวาสได้ โดยให้เสนอรายงานขอตั้งวัดให้ถูกต้องตามขั้นตอนที่กฎกระทรวงฉบับที่ 1 (พ.ศ.2507) ออกตามความในพ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ. 2505 บัญญัติไว้ต่อไป ลงนามโดยว่าที่ร.ต.พนม โพธิ์ศรี นายอำเภอกันทรารมย์ในขณะนั้น

ทั้งนี้ หนังสืออนุญาตให้สร้างวัด ลงนามเมื่อวันที่ 13 ก.พ.2545 โดยนายสมานจิต ภิรมย์รื่น อธิบดีกรมการศาสนาในขณะนั้น มีกำหนดตั้งแต่วันที่ 10 ม.ค.2545 ถึงวันที่ 9 ม.ค.2550 แต่เจ้าของที่ดินที่บริจาคที่ดินให้สร้างวัดเป็นผู้เก็บหนังสือเอาไว้ แต่จนถึงวันนี้ยังไม่มีการสร้างวัด ทำให้หนังสืออนุญาตหมดอายุแล้ว ซึ่งจะได้ตรวจสอบว่าทำไมไม่สร้าง และมีความผิดอย่างไรบ้าง ส่วนที่ใช้คำว่าวัดนั้นถือว่าไม่ถูกต้องและไม่เหมาะสม ต้องดำเนินการตามระเบียบต่อไป

ส่วนกรณีภาพคล้ายหลวงปู่เณรคำนอนอยู่กับผู้หญิง ตรวจสอบได้ยาก เพราะไม่ทราบว่าเป็นตัวจริงหรือไม่ และต้องตรวจสอบว่าผู้หญิงเป็นใคร ล่วงละเมิดทางเพศกันหรือไม่ ซึ่งไม่มีใครยอมรับความจริงแน่นอน อย่างไรก็ตาม คาดว่าเป็นภาพจริง แต่ยังต้องพิสูจน์กันต่อไปว่าเป็นหลวงปู่เณรคำจริงหรือไม่

ด้านนายประเสริฐ กาลพัฒน์ ชาวศรีสะเกษ กล่าวว่า เคยเป็นลูกศิษย์รุ่นแรก ทำผ้าป่าไปถวายตั้งแต่ยังเป็นเพิงอยู่ในป่าช้า ซึ่งสมัยก่อนหลวงปู่เณรคำปฏิบัติดีมาตลอด แต่พักหลังตนมีภารกิจมากจึงไม่ได้เข้าไปใกล้ชิดอีก แต่ทราบว่าจัดกิจกรรมบ่อย โดยเฉพาะการทอดกฐินที่ได้เงินหลายร้อยล้านบาท ซึ่งวิจารณ์กันว่าหายไปไหน และมีอีกหลายเรื่องที่อยากจะสอบถาม อาทิ ภาพที่นอนคู่กับผู้หญิง ที่คนถ่ายภาพได้คงจะรู้กันดีว่าเป็นใคร และคงโกหกใครไม่ได้ จึงอยากให้พศ. หรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง เจาะลึกประเด็นปัญหา สังคมหรือญาติโยมจะได้ทราบว่าเอาเงินหลายร้อยล้านบาทไปทำอะไรบ้าง

ขณะเดียวกัน เว็ปไซต์ www.luangpunenkham.com ยังคงประชาสัมพันธ์งานมหาพิธีห่มผ้าฤดูฝนพระแก้วมรกตจำลององค์ใหญ่ที่สุดในโลก โดยหลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก และพระครูภาวนาวรธรรมวิเทศ เจ้าอาวาสวัดโพธิญาณราม ประเทศฝรั่งเศส และคณะสงฆ์จากประเทศศรีลังกา สวิตเซอร์แลนด์ ในวันที่ 27-30 มิ.ย.2556 โดยเวลา 12.00-17.00 น. เปิดให้พุทธศาสนิกชนเข้ากราบนัสการหลวงปู่เณรคำ ณ ห้องรับรอง เวลา 21.00 น. ฟังพระธรรมเทศนาจากหลวงปู่เณรคำ และวันที่ 30 มิ.ย.2556 เวลา 07.00 น. ตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งแด่หลวงปู่เณรคำ เวลา 09.59 น. เริ่มพิธีห่มผ้าฤดูฝนพระแก้วมรกตจำลอง และเวลา 12.00 น. เปิดโอกาสให้พุทธศาสนิกชนเข้ากราบนมัสการถวายผ้าป่า จตุปัจจัย และถวายทองคำหลวงปู่เณรคำ

ด้านนายภาณุ สุขวัลลิ โฆษกฝ่ายฆารวาส ประจำตัวหลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก กล่าวว่า กำหนดการเดิมหลวงปู่จะกลับถึงประเทศไทย เวลา 05.00น. วันที่ 20 มิ.ย. แต่มีญาติโยมที่ฝรั่งเศสนิมนต์ให้อยู่ต่อ จึงเลื่อนไปอีก 2-3 วัน ส่วนภาพที่ปรากฎตามสื่อนั้นเป็นภาพเก่า เครื่องบินเป็นของบริษัท บางกอกเจ๊ต จำกัด ที่เวลาหลวงปู่เณรคำมีกิจนิมนต์เร่งด่วน จะมีญาติโยมเช่าให้ใช้เดินทางเป็นประจำ ส่วนเฮลิคอปเตอร์ก็เป็นของโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ญาติโยมเช่าให้ใช้เดินทางเร่งด่วนเช่นกัน ส่วนที่มีรูปหลวงปู่มาจากการที่ญาติโยมนำไปติดไว้เท่านั้น

ส่วนเรื่องเงินบริจาคไม่เคยมีสักครั้งที่ได้เป็นร้อยล้านบาท และเงินที่ได้ก็นำไปสร้างพระแก้วมรกตจำลองให้แล้วเสร็จ รวมทั้งนำไปช่วยวัดสาขา โดยเงินจะแยกเป็น 2 บัญชี คือ บัญชีของหลวงปู่เณรคำ กับบัญชีของมูลนิธิ ส่วนกรณีรถนำขบวนมาจากการที่พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ปลัดกระทรวงคมนาคม และอดีตผบ.ตร. อนุมัติให้ เพราะเห็นว่ามีกิจนิมนต์มากและเพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง ซึ่งปัจจุบันนี้หน่วยงานใดจะนิมนต์ต้องจองคิวกันข้ามปี อย่างไรก็ตาม คณะศิษย์กำลังรวบรวมข้อมูลเพื่อแถลงข่าวทุกประเด็นเร็วๆ นี้

ขณะที่พระฐกฤต กันตธัมโม โฆษกประจำองค์หลวงปู่เณรคำ และฝ่ายประชาสัมพันธ์วัดป่าขันติธรรม กล่าวว่า ยอมรับว่าวัดป่าขันติธรรมไม่มีสถานะเป็นวัด ซึ่งเป็นเจตนาของหลวงปู่เณรคำ เนื่องจากต้องการสร้างพระแก้วมรกตจำลององค์ใหญ่ที่สุดในโลก โดยไม่ต้องการให้เป็นสมบัติของวัด แต่จะให้เป็นสมบัติของแผ่นดิน โดยมอบให้สำนักพระราชวังดูแล อีกทั้งเมื่อสร้างเสร็จ หลวงปู่เณรคำบอกแล้วว่าจะขอละสังขาร รวมทั้งยุบวัดด้วย ให้เหลือเพียงวิหารและพระแก้วมรกต

"ขั้นตอนต่อไปจะใช้ทองคำหนัก 9 ตัน ทำเป็นเครื่องทรงตามฤดู ส่วนการที่ พศ. จะตรวจสอบเรื่องเงินนั้น อยากให้คุยกับทางหลวงปู่โดยตรงจะดีกว่า"

ที่วัดสามพระยา กรุงเทพมหานคร กลุ่มพุทธศาสนิกชนไทย ยื่นหนังสือต่อพระพรหมดิลก เจ้าอาวาสวัดสามพระยา ในฐานะเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร กรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) ขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีหลวงปู่เณรคำ ซึ่งพระพรหมดิลกชี้แจงว่า ต้องยื่นหนังสือต่อนายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผู้อำนวยการพศ. ซึ่งเป็นเลขานุการมส. นำเสนอเข้าที่ประชุม มส.เท่านั้น

นายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายรวมพลังต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ กล่าวว่า ขอเรียกร้องให้ตรวจสอบสถานะการเงิน โดยเฉพาะการโฆษณาก่อสร้างพระแก้วมรกตองค์ใหญ่ หากไม่ได้จัดสร้างตามวัตถุประสงค์ ก็เข้าข่ายหลอกลวงหรือฉ้อโกง ซึ่งตนจะรวบรวมข้อมูลหลักฐาน เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษกับกองบังคับการ กองปราบปราม ในวันที่ 21 มิ.ย. เวลา 13.00 น. และจะขอให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) ร่วมตรวจสอบด้วย คล้ายกับคดีพระสมเด็จเหนือหัว ที่ได้มีการตรวจสอบมาแล้ว ซึ่งป.ป.ง.สามารถยึดทรัพย์ได้ เพราะนำไปใช้เพื่อประโยชน์ส่วนตน บริวาร หรือพวก

พระกรรมฐานวัดป่าสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ซึ่งเป็นลูกศิษย์ใกล้ชิดพระธรรมวิสุทธิมงคล หรือหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน วัดป่าบ้านตาด กล่าวว่า พระรูปนี้ไม่ใช่พระสายวัดป่าหลวงปู่มั่นแน่นอน คณะสงฆ์วัดป่าไม่เคยรู้จัก แต่พอทราบมาว่ามีกิจกรรมช่วยเหลือสังคม ช่วยคนที่มีปัญหาส่วนตัว เมื่อสำเร็จคนก็มีศรัทธา ถวายสิ่งของให้มากจนเกินความจำเป็นของสงฆ์ โดยแนวปฏิบัติของหลวงปู่เณรคำ แตกต่างจากปฏิปทาของพระสายวัดป่าแน่นอน เพราะพระสายกรรมฐานต้องมักน้อย สันโดษ เคารพพระวินัย คำนึงถึงความรู้สึกของประชาชน
กำลังโหลดความคิดเห็น