ASTV ผู้จัดการรายวัน - “ทนายสุวัตร” พบ ผบช.น. ตั้งประเด็นคำถาม 13 ข้อสงสัยคดีการเสียชีวิตของ “เอกยุทธ” ด้าน “แจ๊ด” เตรียมตอบคำถามใน 1 สัปดาห์ อดีตรอง ผกก.สันติบาล ให้ข้อมูล ตร. ระบุ “เอกยุทธ” รู้ตัวกำลังถูกจ้างวานฆ่า ผบช.น.กำชับหา “พระสมเด็จ เกศไชโย” มูลค่ากว่า 20 ล้านพร้อมของสำคัญเอกยุทธ 4 อย่าง
วานนี้ (18 มิ.ย.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความนายเอกยุทธ อัญชันบุตร เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึง พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ขอให้สืบสวน 13 ประเด็นต้องสงสัยในคดีการฆาตกรรมนายเอกยุทธ ประกอบไปด้วย
1. มูลเหตุจูงใจ หากผู้ต้องหาประสงค์ต่อทรัพย์จริง เหตุใดจึงนำทรัพย์สินไปทิ้งน้ำ
2. การลงมืออุ้มนายเอกยุทธ ก่อเหตุเพียงผู้ต้องหา 2 คนหรือไม่ ทำไมนายเอกยุทธไม่ต่อสู้ขัดขืนหรือหลบหนี
3. ให้ติดตามหาโทรศัพท์มือถือของนายสันติภาพที่คุยระหว่างอยู่ที่ร้านอาหารตามภาพวงจรปิด โดยตรวจสอบว่านายสันติภาพพูดคุยกับใคร
4. ให้ติดตามนายเปี๊ยก ตามที่นายสันติภาพกล่าวอ้างว่าเป็นผู้นำกุญแจมือและโทรศัพท์มาให้
5. การตามหาฮาร์ดดิสก์กล้องวงจรปิดที่หายไป และให้ผู้เชี่ยวชาญกู้คืนข้อมูล
6. คำให้การของผู้ต้องหายังมีความขัดแย้ง เช่น มีการแวะพักที่บ้านแห่งหนึ่งในจังหวัดนครศรีธรรมราช ต้องตรวจสอบว่าเป็นบ้านของใคร และแวะทำอะไร
7. หาหลักฐานกล้องวงจรปิดจุดที่นายเอกยุทธถูกฆ่าตาย และตามหาพยาน รวมถึงคนขับรถสิบล้อที่นายเอกยุทธวิ่งไปขอความช่วยเหลือ
8. ให้ตรวจสอบว่าใบหน้าของนายเอกยุทธถูกทำร้ายหรือไม่
9. บุคคลใดนำกระเป๋าใส่เอกสารของนายเอกยุทธไป
10. ประเด็นลูกอัณฑะของนายเอกยุทธถูกทำร้าย
11. ประเด็นพบผู้ต้องสงสัยบริเวณปากซอยประดิพัทธิ์ 17
12. ขอให้ตำรวจตรวจสอบรถโฟล์คตู้ของกลางอีกครั้ง เพื่อหาลายนิ้วมือแฝง และดีเอ็นเอของบุคคลอื่น
13. หาเสื้อผ้านายเอกยุทธ เพราะอาจทิ้งหลักฐานดีเอ็นเอ เพราะอาจมีเลือดของผู้ร่วมกระทำผิดติดอยู่
** “คำรณวิทย์”ยันสัปดาห์หน้าคืบ
ด้าน พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. กล่าวภายหลังได้รับหนังสือดังกล่าวว่าว่า เห็นด้วยกับประเด็นข้อสงสัยของนายสุวัตรที่นำมามอบให้ และมีบางข้อที่ตำรวจก็สงสัยเช่นกันใน 13 ประเด็น เพียงแต่ในบางเรื่องตำรวจก็ต้องรอคอยผลการตรวจพิสูจน์ทางจากทางแพทย์ ทางวิทยาศาสตร์ เป็นต้น คาดว่าจะใช้เวลาตรวจสอบไม่เกิน 1 สัปดาห์จะมีความคืบหน้า
พล.ต.ท.คำรณวิทย์กล่าวด้วยว่า ไม่อยากให้มองกันว่าคดีนี้มีการวางแผนซ่อนเงื่อนอำพราง บอกตรงๆ จากประสบการณ์การสืบสวนของตัวเอง รู้สึกเสียดายและสงสารนายเอกยุทธ เสียดายที่ว่านายเอกยุทธพยายามส่งสัญญาณต่างๆ มาให้แล้ว ทั้งเรื่องทิ้งแหวนไว้ในรถ ส่งสัญญาณเขียนเช็คลงปี พ.ศ.ผิด แต่ไม่มีใครรับสัญญาณนั้น นายเอกยุทธหายตัวไปตั้งแต่คืนวันที่ 6 มิ.ย. แต่มาแจ้งความที่ สน.วังทองหลาง เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.เวลาเที่ยงคืน ยืนยันได้ว่าหากวันที่ 7 มิ.ย.มาแจ้งความ มีการติดตามสืบสวนหาตัวนายเอกยุทธ แผนต่างๆ ที่คนร้ายวางไว้จะไม่มีอะไรเลย
“หากมาแจ้งตำรวจก่อนตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. ไม่เกิน 21.00 น.วันเดียวกัน ผมได้ตัวนายเอกยุทธแน่นอน เพราะ 19.00 น.ยังมีสัญญาณนายเอกยุทธที่ติดต่อญาติอยู่ ดังนั้น คดีนี้ผมอยากให้เป็นอุทาหรณ์ หากมัวแต่มาไม่ไว้ใจกัน กระทั่งสุดท้ายมันสายไปแล้ว” พล.ต.ท.คำรณวิทย์ระบุ
ผู้สื่อข่าวถามนายสุวัตรว่า ญาติต้องการให้เก็บศพนายเอกยุทธไว้เพื่อตรวจสอบเพิ่มเติมหรือไม่ นายสุวัตรกล่าวว่า ต้องอยู่ที่ความจำเป็นของแนวทางการสอบสวน แต่หากเห็นว่าทุกอย่างได้ทำหมดแล้ว ก็จะมีการฌาปนกิจศพในวันที่ 29 มิ.ย.นี้ อย่างไรก็ตาม ทางญาติก็สงสัยและเห็นด้วยในประเด็นการเสียชิวิตทั้ง 13 ข้อ
พล.ต.ต.นัยวัฒน์ เผดิมชิต ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 4 ที่ประสานงานเรื่องกล้องวงจรปิด กล่าวว่า จะมีการเรียกช่างเทคนิคของบริษัทที่รับติดตั้งกล้องวงจรปิดให้บ้านนายเอกยุทธมาสอบเพื่อยืนยันความชัดเจนในด้านเทคนิควิธีว่าสามารถดูภาพได้หรือไม่ หากดูไม่ได้เกิดเพราะสาเหตุใด
ต่อข้อถามว่า ประเด็นแผนประทุษกรรมของคนร้าย เชื่อได้ว่าสามารถทำได้แค่เพียงสองคนหรือไม่ พล.ต.ท.คำรณวิทย์กล่าวว่า ยืนยันว่าตำรวจยังไม่ได้รีบสรุปคดี ยังเปิดกว้างในการรับข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับคดี ทั้งนี้ หากใครมีเบาะแสก็สามารถแจ้งได้ โดยเฉพาะในผู้ที่ขับรถอยู่ถนนลาดกระบัง ในช่วงเวลา 03.00 น.ของคืนวันที่ 7 มิ.ย.คาบเกี่ยววันที่ 8 มิ.ย. และเห็นนายเอกยุทธวิ่งออกมาขอความช่วยเหลือ ก็สามารถเข้ามาให้ข้อมูลได้ อีกทั้งตำรวจยังติดใจกับคำให้การของนายบอล ที่บอกว่านายเอกยุทธวิ่งไปขอความช่วยเหลือต่อรถยนต์คันหนึ่งที่วิ่งผ่าน
พล.ต.ท.คำรณวิทย์กล่าวว่า ตามที่ให้การคือคนร้ายต้องการเงิน แต่วิธีการอย่างไรเราไปหยั่งรู้ไม่ได้ แต่ตำรวจก็ไม่ได้เชื่อ แต่มีเหตุผลที่ไม่สามารถเปิดเผยได้เพราะอยู่ในสำนวนการสอบสวน
ผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีมีการนำทรัพย์สินไปขายที่ย่านเยาวราช นายสุวัตรกล่าวว่า เป็นการตรวจพบสัญญาณโทรศัพท์ และสัญญาณไอแพดของนายเอกยุทธ ซึ่งเป็นเรื่องที่ทางญาติและทนายเป็นฝ่ายตรวจสอบเองก่อนจะไปแจ้งความ ทำให้น่าเชื่อว่าอาจจะมีโทรศัพท์มือถือ ไอแพด หรือทรัพย์สินอื่นๆ ของนายเอกยุทธไปขายในย่านนั้น แต่ตั้งเป็นประเด็นสงสัยเท่านั้น
*** “สันธนะ” ยันเอกยุทธถูกอุ้มฆ่าแน่
ที่ สน.วังทองหลาง พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตรอง ผกก.ตำรวจสันติบาล ได้เข้าพบและยื่นหลักฐานตั๋วเครื่องบินให้แก่ พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ อรัญวัฒน์ รอง ผบก น.4 เพื่อใช้ในการสืบสวนคดีนายเอกยุทธ
พ.ต.ท.สันธนะกล่าวว่า คดีนี้กำลังจะกลายเป็นอีกคดีหนึ่งที่ใกล้ปิดประเด็น และเงียบหายไปจากสังคมไทย ดังนั้นในวันนี้ตนจึงอยากจะให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในการเข้าชี้แจงว่าเมื่อวันที่ 25 เมษายนที่ผ่านมานั้นตนได้พบกับนายเอกยุทธโดยบังเอิญบนเครื่องบินสายการบินคาเธ่ย์แปซิฟิค แอร์ไลน์ ชั้นธุรกิจ ขณะเดินทางกลับมายังประเทศไทย จึงได้มีโอกาสพูดคุยกับนายเอกยุทธบนเครื่องบิน เพราะที่ผ่านมาตนได้รู้จักกับนายเอกยุทธมาก่อนเป็นอย่างดีตั้งแต่สมัยตนเป็นร้อยตำรวจเอก ระยะเวลากว่า 30 ปี จะเรียกนายเอกยุทธว่า “ป๊อด” ระหว่างการสนทนานายเอกยุทธได้บอกกับตนว่ามีกลุ่มบุคคลที่มุ่งหมายจะเอาชีวิตของตน จนต่อมาก็ได้เกิดเหตุการณ์การเสียชีวิตของนายเอกยุทธในที่สุด
“ผมได้เข้ามาให้ข้อมูลต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อเป็นการยืนยันว่าได้มีการพบกับนายเอกยุทธจริง ซึ่งสามารถมีการตรวจสอบย้อนหลังได้ว่านายเอกยุทธโดยสารในสายการบินนั้นเช่นเดียวกัน ผมอยากจะขอยืนยันว่า การตายขอนายเอกยุทธเป็นคดีฆาตกรรมที่มีการจ้างวานฆ่า โดยมีกลุ่มองค์กรอาชญากรรมรับจ้างฆ่าสั่งการลงมาเป็นทอดๆ ซึ่งหากสำนักงานตำรวจแห่งชาติยังปล่อยให้องค์กรนี้ยังคงอยู่ทุกคนในประเทศก็จะไม่สามารถมีชีวิตที่ปลอดภัยได้” พ.ต.ท.สันธนะกล่าว
พ.ต.ท.สันธนะกล่าวอีกว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับนักการเมืองโดยตรง แต่เป็นคนใกล้ชิดของนักการเมืองระดับชาติ โดยมีมูลเหตุมาจากความแค้นส่วนตัว และน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับสิ่งที่นายเอกยุทธเคยแสดงความคิดเห็นทางการเมืองผ่านสื่อสังคมออนไลน์ เพราะหากคดีที่เกิดขึ้นเป็นการประสงค์ต่อทรัพย์ นายเอกยุทธน่าจะมีวิธีการที่จะเอาชีวิตรอด ไม่ใช่วิ่งหนีหัวซุกหัวซุนเช่นนี้ อีกทั้งการตายที่เป็นการเปลือยกายก็เป็นการทำตามคำสั่งเพื่อเป็นการประจานเนื่องจากความแค้นส่วนตัว และอยากให้ตำรวจตรวจสอบการติดต่อสื่อสารของนายสันติภาพ เพ็งด้วง หรือบอล คนขับรถ ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา เพราะเชื่อว่าน่าจะมีการติดต่อกับผู้ร่วมขบวนการอย่างแน่นอน
** ลงพื้นที่หาหลักฐาน 4 อย่าง
ขณะเดียวกัน ที่สะพานจุดกลับรถย่านลาดกระบัง จุดที่นายเอกยุทธ เสียชีวิต เจ้าหน้าที่ตำรวจนำโดย พ.ต.อ.เอก เอกศาสตร์ รอง ผบก.น.3 พ.ต.อ.ปิยะวัฒน์ บุญยืนอนนต์ ผกก.สน.ฉลองกรุง พ.ต.อ.สรรคห์กิจ บำรุงสุขสวัสดิ์ ผกก.สน.วังทองหลาง ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตรวจค้นวัตถุพยานหลักฐาน (EOD) จำนวน 4 นาย และอาสาสมัครกู้ภัยสยามรวมใจกว่า 50 นายเข้าตรวจพื้นที่หาวัตถุพยานหลักฐานอย่างละเอียดในรัศมี 500 เมตร
พ.ต.อ.สรรคห์กิจ บำรุงสุขสวัสดิ์ ผกก.สน.วังทองหลาง เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าทีมทนายนายเอกยุทธพร้อมญาติได้เดินทางไปพบ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น.โดยกำชับว่าทางตำรวจยังขาดวัตถุพยานที่สำคัญ 4 อย่าง อยากให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยติดตามกลับคืนมาให้ได้ ประกอบไปด้วย 1. กุญแจมือที่คนร้ายใช้ล็อกนายเอกยุทธ 2. แว่นสายตานายเอกยุทธที่ทำจากวัสดุไทเทเนียม 3. สร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 10 บาท พร้อมพระเครื่องสมเด็จวัดเกศไชโย มูลค่าประมาณ 20 ล้านบาท และ 4. กระดุมเสื้อ
พ.ต.อ.สรรคห์กิจกล่าวว่า ผบช.น.ได้เน้นย้ำหาพยานหลักฐาน 1 ใน 13 ประการที่สำคัญ เช่น กล้องวงจรปิด ยี่ห้อ Av.Tech ซึ่งยังไม่สามารถหาเจอ
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า เจ้าหน้าที่หาพยานวัตถุหลักฐานมาทั้งหมด 4 นาย แต่ได้นำเครื่องตรวจค้นวัตถุใต้พื้นดินมาเพียง 1 เครื่อง ซึ่งมีความสามารถในการตรวจจับวัตถุใต้พื้นดินความลึกไม่เกิน 1ฟุต กว้าง 1 ฟุต
ภายหลังการตรวจค้นเป็นเวลากว่า 1 ชั่วโมง ล่าสุดเจ้าที่พบเสื้อแจ็คเก็ตสีขาวซึ่งอยู่ในสภาพใหม่เอี่ยม ตกอยู่ในพงหญ้าจุดใกล้เคียงกับจุดคำให้การของผู้ต้องหาที่อ้างว่าลงมือฆ่ารัดคอเอกยุทธประมาณ 50 เมตร อย่างไรก็ตามได้มีการเก็บหลักฐานเสื้อแจ็คเก็ตดังกล่าวเตรียมส่งตรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง
**** ตั้งกก.ดูหลักพฤติกรรมศาสตร์
ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พ.ต.อ.อภิชัย ธิอามาตย์ รอง ผบก.ป.รักษาราชการแทน ผบก.ป.กล่าวว่า หลังจากที่ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.มอบหมายให้ทาง บก.ป.สอบสวนในเชิงลึกเพื่อหาสาเหตุและแรงจูงใจในคดีร่วมกันฆ่านายเอกยุทธ อัญชันบุตร นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ชื่อดัง เพื่อนำข้อมูลมาวิเคราะห์ ว่า ทาง พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ผบก.ป.ได้มอบหมายให้ตน แต่งตั้งคณะทำงานขึ้นมา 1 ชุด เพื่อรวบรวมข้อมูลต่างๆ มาประมวลตามหลักพฤติกรรมศาสตร์
ทั้งนี้ จะประสานข้อมูลร่วมกับคณะทำงานของกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ขอดูสำนวนคดีที่พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำผู้ต้องทั้งหมดไว้แล้ว เพื่อนำมาวิเคราะห์สาเหตุ รวมทั้งตรวจสอบปูมหลัง ประวัติส่วนตัวของนายสันติภาพ เพ็งด้วง รวมทั้งผู้ต้องหารายอื่นๆ
นอกจากนี้ยังต้องตรวจสอบพฤติกรรมของนายเอกยุทธ ด้วยว่าที่ผ่านมามีพฤติกรรมเป็นอย่างไร ตนได้มอบหมายให้ พ.ต.ท.นิคม ชัยเจริญ สว.กก.1.บก.ป.และชุดสืบสวน คอยประสานข้อมูลกับทาง บช.น.อย่างต่อเนื่อง
ในส่วนของการสอบปากคำผู้ต้องหา ที่อยู่ในเรือนจำนั้น ทางพนักงานสอบสวน บก.ป.อาจจะต้องเดินทางไปร่วมสอบปากคำผู้ต้องหากับทางพนักงานสอบสวน บช.น.ด้วย ซึ่งคาดว่าภายในวันที่ 21 มิถุนายนนี้ พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รอง ผบช.น.จะเรียกประชุมคณะทำงาน และแบ่งหน้าที่ รวมทั้งมอบหมายงานให้ทาง บก.ป.รับมาดำเนินการอีกครั้งหนึ่ง
วานนี้ (18 มิ.ย.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความนายเอกยุทธ อัญชันบุตร เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึง พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ขอให้สืบสวน 13 ประเด็นต้องสงสัยในคดีการฆาตกรรมนายเอกยุทธ ประกอบไปด้วย
1. มูลเหตุจูงใจ หากผู้ต้องหาประสงค์ต่อทรัพย์จริง เหตุใดจึงนำทรัพย์สินไปทิ้งน้ำ
2. การลงมืออุ้มนายเอกยุทธ ก่อเหตุเพียงผู้ต้องหา 2 คนหรือไม่ ทำไมนายเอกยุทธไม่ต่อสู้ขัดขืนหรือหลบหนี
3. ให้ติดตามหาโทรศัพท์มือถือของนายสันติภาพที่คุยระหว่างอยู่ที่ร้านอาหารตามภาพวงจรปิด โดยตรวจสอบว่านายสันติภาพพูดคุยกับใคร
4. ให้ติดตามนายเปี๊ยก ตามที่นายสันติภาพกล่าวอ้างว่าเป็นผู้นำกุญแจมือและโทรศัพท์มาให้
5. การตามหาฮาร์ดดิสก์กล้องวงจรปิดที่หายไป และให้ผู้เชี่ยวชาญกู้คืนข้อมูล
6. คำให้การของผู้ต้องหายังมีความขัดแย้ง เช่น มีการแวะพักที่บ้านแห่งหนึ่งในจังหวัดนครศรีธรรมราช ต้องตรวจสอบว่าเป็นบ้านของใคร และแวะทำอะไร
7. หาหลักฐานกล้องวงจรปิดจุดที่นายเอกยุทธถูกฆ่าตาย และตามหาพยาน รวมถึงคนขับรถสิบล้อที่นายเอกยุทธวิ่งไปขอความช่วยเหลือ
8. ให้ตรวจสอบว่าใบหน้าของนายเอกยุทธถูกทำร้ายหรือไม่
9. บุคคลใดนำกระเป๋าใส่เอกสารของนายเอกยุทธไป
10. ประเด็นลูกอัณฑะของนายเอกยุทธถูกทำร้าย
11. ประเด็นพบผู้ต้องสงสัยบริเวณปากซอยประดิพัทธิ์ 17
12. ขอให้ตำรวจตรวจสอบรถโฟล์คตู้ของกลางอีกครั้ง เพื่อหาลายนิ้วมือแฝง และดีเอ็นเอของบุคคลอื่น
13. หาเสื้อผ้านายเอกยุทธ เพราะอาจทิ้งหลักฐานดีเอ็นเอ เพราะอาจมีเลือดของผู้ร่วมกระทำผิดติดอยู่
** “คำรณวิทย์”ยันสัปดาห์หน้าคืบ
ด้าน พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. กล่าวภายหลังได้รับหนังสือดังกล่าวว่าว่า เห็นด้วยกับประเด็นข้อสงสัยของนายสุวัตรที่นำมามอบให้ และมีบางข้อที่ตำรวจก็สงสัยเช่นกันใน 13 ประเด็น เพียงแต่ในบางเรื่องตำรวจก็ต้องรอคอยผลการตรวจพิสูจน์ทางจากทางแพทย์ ทางวิทยาศาสตร์ เป็นต้น คาดว่าจะใช้เวลาตรวจสอบไม่เกิน 1 สัปดาห์จะมีความคืบหน้า
พล.ต.ท.คำรณวิทย์กล่าวด้วยว่า ไม่อยากให้มองกันว่าคดีนี้มีการวางแผนซ่อนเงื่อนอำพราง บอกตรงๆ จากประสบการณ์การสืบสวนของตัวเอง รู้สึกเสียดายและสงสารนายเอกยุทธ เสียดายที่ว่านายเอกยุทธพยายามส่งสัญญาณต่างๆ มาให้แล้ว ทั้งเรื่องทิ้งแหวนไว้ในรถ ส่งสัญญาณเขียนเช็คลงปี พ.ศ.ผิด แต่ไม่มีใครรับสัญญาณนั้น นายเอกยุทธหายตัวไปตั้งแต่คืนวันที่ 6 มิ.ย. แต่มาแจ้งความที่ สน.วังทองหลาง เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.เวลาเที่ยงคืน ยืนยันได้ว่าหากวันที่ 7 มิ.ย.มาแจ้งความ มีการติดตามสืบสวนหาตัวนายเอกยุทธ แผนต่างๆ ที่คนร้ายวางไว้จะไม่มีอะไรเลย
“หากมาแจ้งตำรวจก่อนตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. ไม่เกิน 21.00 น.วันเดียวกัน ผมได้ตัวนายเอกยุทธแน่นอน เพราะ 19.00 น.ยังมีสัญญาณนายเอกยุทธที่ติดต่อญาติอยู่ ดังนั้น คดีนี้ผมอยากให้เป็นอุทาหรณ์ หากมัวแต่มาไม่ไว้ใจกัน กระทั่งสุดท้ายมันสายไปแล้ว” พล.ต.ท.คำรณวิทย์ระบุ
ผู้สื่อข่าวถามนายสุวัตรว่า ญาติต้องการให้เก็บศพนายเอกยุทธไว้เพื่อตรวจสอบเพิ่มเติมหรือไม่ นายสุวัตรกล่าวว่า ต้องอยู่ที่ความจำเป็นของแนวทางการสอบสวน แต่หากเห็นว่าทุกอย่างได้ทำหมดแล้ว ก็จะมีการฌาปนกิจศพในวันที่ 29 มิ.ย.นี้ อย่างไรก็ตาม ทางญาติก็สงสัยและเห็นด้วยในประเด็นการเสียชิวิตทั้ง 13 ข้อ
พล.ต.ต.นัยวัฒน์ เผดิมชิต ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 4 ที่ประสานงานเรื่องกล้องวงจรปิด กล่าวว่า จะมีการเรียกช่างเทคนิคของบริษัทที่รับติดตั้งกล้องวงจรปิดให้บ้านนายเอกยุทธมาสอบเพื่อยืนยันความชัดเจนในด้านเทคนิควิธีว่าสามารถดูภาพได้หรือไม่ หากดูไม่ได้เกิดเพราะสาเหตุใด
ต่อข้อถามว่า ประเด็นแผนประทุษกรรมของคนร้าย เชื่อได้ว่าสามารถทำได้แค่เพียงสองคนหรือไม่ พล.ต.ท.คำรณวิทย์กล่าวว่า ยืนยันว่าตำรวจยังไม่ได้รีบสรุปคดี ยังเปิดกว้างในการรับข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับคดี ทั้งนี้ หากใครมีเบาะแสก็สามารถแจ้งได้ โดยเฉพาะในผู้ที่ขับรถอยู่ถนนลาดกระบัง ในช่วงเวลา 03.00 น.ของคืนวันที่ 7 มิ.ย.คาบเกี่ยววันที่ 8 มิ.ย. และเห็นนายเอกยุทธวิ่งออกมาขอความช่วยเหลือ ก็สามารถเข้ามาให้ข้อมูลได้ อีกทั้งตำรวจยังติดใจกับคำให้การของนายบอล ที่บอกว่านายเอกยุทธวิ่งไปขอความช่วยเหลือต่อรถยนต์คันหนึ่งที่วิ่งผ่าน
พล.ต.ท.คำรณวิทย์กล่าวว่า ตามที่ให้การคือคนร้ายต้องการเงิน แต่วิธีการอย่างไรเราไปหยั่งรู้ไม่ได้ แต่ตำรวจก็ไม่ได้เชื่อ แต่มีเหตุผลที่ไม่สามารถเปิดเผยได้เพราะอยู่ในสำนวนการสอบสวน
ผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีมีการนำทรัพย์สินไปขายที่ย่านเยาวราช นายสุวัตรกล่าวว่า เป็นการตรวจพบสัญญาณโทรศัพท์ และสัญญาณไอแพดของนายเอกยุทธ ซึ่งเป็นเรื่องที่ทางญาติและทนายเป็นฝ่ายตรวจสอบเองก่อนจะไปแจ้งความ ทำให้น่าเชื่อว่าอาจจะมีโทรศัพท์มือถือ ไอแพด หรือทรัพย์สินอื่นๆ ของนายเอกยุทธไปขายในย่านนั้น แต่ตั้งเป็นประเด็นสงสัยเท่านั้น
*** “สันธนะ” ยันเอกยุทธถูกอุ้มฆ่าแน่
ที่ สน.วังทองหลาง พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตรอง ผกก.ตำรวจสันติบาล ได้เข้าพบและยื่นหลักฐานตั๋วเครื่องบินให้แก่ พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ อรัญวัฒน์ รอง ผบก น.4 เพื่อใช้ในการสืบสวนคดีนายเอกยุทธ
พ.ต.ท.สันธนะกล่าวว่า คดีนี้กำลังจะกลายเป็นอีกคดีหนึ่งที่ใกล้ปิดประเด็น และเงียบหายไปจากสังคมไทย ดังนั้นในวันนี้ตนจึงอยากจะให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในการเข้าชี้แจงว่าเมื่อวันที่ 25 เมษายนที่ผ่านมานั้นตนได้พบกับนายเอกยุทธโดยบังเอิญบนเครื่องบินสายการบินคาเธ่ย์แปซิฟิค แอร์ไลน์ ชั้นธุรกิจ ขณะเดินทางกลับมายังประเทศไทย จึงได้มีโอกาสพูดคุยกับนายเอกยุทธบนเครื่องบิน เพราะที่ผ่านมาตนได้รู้จักกับนายเอกยุทธมาก่อนเป็นอย่างดีตั้งแต่สมัยตนเป็นร้อยตำรวจเอก ระยะเวลากว่า 30 ปี จะเรียกนายเอกยุทธว่า “ป๊อด” ระหว่างการสนทนานายเอกยุทธได้บอกกับตนว่ามีกลุ่มบุคคลที่มุ่งหมายจะเอาชีวิตของตน จนต่อมาก็ได้เกิดเหตุการณ์การเสียชีวิตของนายเอกยุทธในที่สุด
“ผมได้เข้ามาให้ข้อมูลต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อเป็นการยืนยันว่าได้มีการพบกับนายเอกยุทธจริง ซึ่งสามารถมีการตรวจสอบย้อนหลังได้ว่านายเอกยุทธโดยสารในสายการบินนั้นเช่นเดียวกัน ผมอยากจะขอยืนยันว่า การตายขอนายเอกยุทธเป็นคดีฆาตกรรมที่มีการจ้างวานฆ่า โดยมีกลุ่มองค์กรอาชญากรรมรับจ้างฆ่าสั่งการลงมาเป็นทอดๆ ซึ่งหากสำนักงานตำรวจแห่งชาติยังปล่อยให้องค์กรนี้ยังคงอยู่ทุกคนในประเทศก็จะไม่สามารถมีชีวิตที่ปลอดภัยได้” พ.ต.ท.สันธนะกล่าว
พ.ต.ท.สันธนะกล่าวอีกว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับนักการเมืองโดยตรง แต่เป็นคนใกล้ชิดของนักการเมืองระดับชาติ โดยมีมูลเหตุมาจากความแค้นส่วนตัว และน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับสิ่งที่นายเอกยุทธเคยแสดงความคิดเห็นทางการเมืองผ่านสื่อสังคมออนไลน์ เพราะหากคดีที่เกิดขึ้นเป็นการประสงค์ต่อทรัพย์ นายเอกยุทธน่าจะมีวิธีการที่จะเอาชีวิตรอด ไม่ใช่วิ่งหนีหัวซุกหัวซุนเช่นนี้ อีกทั้งการตายที่เป็นการเปลือยกายก็เป็นการทำตามคำสั่งเพื่อเป็นการประจานเนื่องจากความแค้นส่วนตัว และอยากให้ตำรวจตรวจสอบการติดต่อสื่อสารของนายสันติภาพ เพ็งด้วง หรือบอล คนขับรถ ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา เพราะเชื่อว่าน่าจะมีการติดต่อกับผู้ร่วมขบวนการอย่างแน่นอน
** ลงพื้นที่หาหลักฐาน 4 อย่าง
ขณะเดียวกัน ที่สะพานจุดกลับรถย่านลาดกระบัง จุดที่นายเอกยุทธ เสียชีวิต เจ้าหน้าที่ตำรวจนำโดย พ.ต.อ.เอก เอกศาสตร์ รอง ผบก.น.3 พ.ต.อ.ปิยะวัฒน์ บุญยืนอนนต์ ผกก.สน.ฉลองกรุง พ.ต.อ.สรรคห์กิจ บำรุงสุขสวัสดิ์ ผกก.สน.วังทองหลาง ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตรวจค้นวัตถุพยานหลักฐาน (EOD) จำนวน 4 นาย และอาสาสมัครกู้ภัยสยามรวมใจกว่า 50 นายเข้าตรวจพื้นที่หาวัตถุพยานหลักฐานอย่างละเอียดในรัศมี 500 เมตร
พ.ต.อ.สรรคห์กิจ บำรุงสุขสวัสดิ์ ผกก.สน.วังทองหลาง เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าทีมทนายนายเอกยุทธพร้อมญาติได้เดินทางไปพบ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น.โดยกำชับว่าทางตำรวจยังขาดวัตถุพยานที่สำคัญ 4 อย่าง อยากให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยติดตามกลับคืนมาให้ได้ ประกอบไปด้วย 1. กุญแจมือที่คนร้ายใช้ล็อกนายเอกยุทธ 2. แว่นสายตานายเอกยุทธที่ทำจากวัสดุไทเทเนียม 3. สร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 10 บาท พร้อมพระเครื่องสมเด็จวัดเกศไชโย มูลค่าประมาณ 20 ล้านบาท และ 4. กระดุมเสื้อ
พ.ต.อ.สรรคห์กิจกล่าวว่า ผบช.น.ได้เน้นย้ำหาพยานหลักฐาน 1 ใน 13 ประการที่สำคัญ เช่น กล้องวงจรปิด ยี่ห้อ Av.Tech ซึ่งยังไม่สามารถหาเจอ
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า เจ้าหน้าที่หาพยานวัตถุหลักฐานมาทั้งหมด 4 นาย แต่ได้นำเครื่องตรวจค้นวัตถุใต้พื้นดินมาเพียง 1 เครื่อง ซึ่งมีความสามารถในการตรวจจับวัตถุใต้พื้นดินความลึกไม่เกิน 1ฟุต กว้าง 1 ฟุต
ภายหลังการตรวจค้นเป็นเวลากว่า 1 ชั่วโมง ล่าสุดเจ้าที่พบเสื้อแจ็คเก็ตสีขาวซึ่งอยู่ในสภาพใหม่เอี่ยม ตกอยู่ในพงหญ้าจุดใกล้เคียงกับจุดคำให้การของผู้ต้องหาที่อ้างว่าลงมือฆ่ารัดคอเอกยุทธประมาณ 50 เมตร อย่างไรก็ตามได้มีการเก็บหลักฐานเสื้อแจ็คเก็ตดังกล่าวเตรียมส่งตรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง
**** ตั้งกก.ดูหลักพฤติกรรมศาสตร์
ที่ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พ.ต.อ.อภิชัย ธิอามาตย์ รอง ผบก.ป.รักษาราชการแทน ผบก.ป.กล่าวว่า หลังจากที่ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.มอบหมายให้ทาง บก.ป.สอบสวนในเชิงลึกเพื่อหาสาเหตุและแรงจูงใจในคดีร่วมกันฆ่านายเอกยุทธ อัญชันบุตร นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ชื่อดัง เพื่อนำข้อมูลมาวิเคราะห์ ว่า ทาง พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ผบก.ป.ได้มอบหมายให้ตน แต่งตั้งคณะทำงานขึ้นมา 1 ชุด เพื่อรวบรวมข้อมูลต่างๆ มาประมวลตามหลักพฤติกรรมศาสตร์
ทั้งนี้ จะประสานข้อมูลร่วมกับคณะทำงานของกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ขอดูสำนวนคดีที่พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำผู้ต้องทั้งหมดไว้แล้ว เพื่อนำมาวิเคราะห์สาเหตุ รวมทั้งตรวจสอบปูมหลัง ประวัติส่วนตัวของนายสันติภาพ เพ็งด้วง รวมทั้งผู้ต้องหารายอื่นๆ
นอกจากนี้ยังต้องตรวจสอบพฤติกรรมของนายเอกยุทธ ด้วยว่าที่ผ่านมามีพฤติกรรมเป็นอย่างไร ตนได้มอบหมายให้ พ.ต.ท.นิคม ชัยเจริญ สว.กก.1.บก.ป.และชุดสืบสวน คอยประสานข้อมูลกับทาง บช.น.อย่างต่อเนื่อง
ในส่วนของการสอบปากคำผู้ต้องหา ที่อยู่ในเรือนจำนั้น ทางพนักงานสอบสวน บก.ป.อาจจะต้องเดินทางไปร่วมสอบปากคำผู้ต้องหากับทางพนักงานสอบสวน บช.น.ด้วย ซึ่งคาดว่าภายในวันที่ 21 มิถุนายนนี้ พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รอง ผบช.น.จะเรียกประชุมคณะทำงาน และแบ่งหน้าที่ รวมทั้งมอบหมายงานให้ทาง บก.ป.รับมาดำเนินการอีกครั้งหนึ่ง