xs
xsm
sm
md
lg

เตือน39จว.รับมือมรสุม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-ปภ.เตือน 39 จังหวัด รับมือมรสุม 12-14 มิ.ย.นี้ คาดมีฝนตกซุกหนาแน่น เผยน้ำป่าถล่มน่าน บ้านพัง 6 หลัง คนสูญหาย 1 ราย ขณะที่ "พังงา-สตูล-กระบี่" อ่วมแล้วหลายอำเภอ ถูกน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร ชาวบ้านต้องเก็บของหนีน้ำมาอาศัยบนถนนกันวุ่น

นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จากการประสานข้อมูลสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยาพบว่าร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างเข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณทะเลจีนใต้ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ส่งผลให้ในช่วงวันที่ 12 -14 มิ.ย.นี้ ทั่วทุกภาคของประเทศมีฝนตกชุกหนาแน่น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากในบางพื้นที่

ทั้งนี้ ขอเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย 39 จังหวัด ประกอบด้วย จ.กาญจนบุรี ราชบุรี ขอนแก่น มหาสารคาม ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร กำแพงเพชร อุทัยธานี พิษณุโลก ตาก สุโขทัย เพชรบูรณ์ อุตรดิตถ์ ลำปาง เชียงใหม่ ลำพูน แม่ฮ่องสอน สตูล อุดรธานี หนองคาย เลย หนองบัวลำภู บึงกาฬ เชียงราย พะเยา แพร่ น่าน จันทบุรี ระยอง ตราด ชลบุรี ภูเก็ต กระบี่ ตรัง พังงา และ จ.ระนอง ติดตามพยากรณ์อากาศและประกาศเตือนภัยอย่างใกล้ชิด พร้อมปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด รวมถึงหมั่นสังเกตสัญญาณความผิดปกติทางธรรมชาติจะได้อพยพหนีภัยได้อย่างทันท่วงที ส่วนคลื่นลมในทะเลอันดามัน และอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรง คลื่นสูง 2-3 เมตร ชาวเรือควรเพิ่มความระมัดระวังการเดินเรือและเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้

นายฉัตรชัยกล่าวว่า ปภ.ได้ประสาน 39 จังหวัด และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 2 สุพรรณบุรี เขต 6 ขอนแก่น เขต 7 สกลนคร เขต 8 กำแพงเพชร เขต 9 พิษณุโลก เขต 10 ลำปาง เขต 12 สงขลา เขต 14อุดรธานี เขต 15 เชียงราย เขต 17 จันทบุรี และเขต 18 ภูเก็ต จัดเจ้าหน้าที่และมิสเตอร์เตือนภัยติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์ภัยตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมจัดเตรียมเครื่องมืออุปกรณ์ประจำจุดเสี่ยงให้พร้อมเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้ทันทีที่เกิดสถานการณ์ภัยแล้ว

สำหรับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากภาวะฝนตกหนัก และพายุคลื่นลมแรง สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดในพื้นที่ หรือสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป

นายฉัตรชัยกล่าวอีกว่า เมื่อเช้าวันที่ 11 มิ.ย.ที่ผ่านมา ได้เกิดฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องในหลายพื้นที่ ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก ใน จ.น่าน และน้ำท่วมขังใน จ.ภูเก็ต โดย จ.น่าน เกิดน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่บ้านป่าแพะ หมู่ที่ 3 บ้านห้วยเลียบ หมู่ที่ 5 ต.แม่ขะนิง บ้านพานทอง หมู่ที่ 8 ต.น้ำมวบ อ.เวียงสา บ้านเรือนได้รับความเสียหายบางส่วน 6 หลัง ประชาชนสูญหาย 1 ราย ปภ.น่าน ร่วมกับหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องให้ความช่วยเหลือและเร่งสำรวจความเสียหายในเบื้องต้น ปัจจุบันระดับน้ำลดลงเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว

ด้านสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.พังงา เริ่มขยายวงกว้างในหลายอำเภอ โดยเฉพาะในพื้นที่ อ.ตะกั่วป่า ทางเจ้าหน้าที่ ตชด.425 ตะกั่วป่า เจ้าหน้าที่ ปภ.พังงา และเจ้าหน้าที่กู้ภัย ได้เข้าช่วยเหลือชาวบ้าน บ้านบางลาน หมู่ที่ 4,5,6 และ ต.โคกเคียน ต.บางไทร ต.ตำตัว หลังจากมีปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากในพื้นที่มีฝนตกตลอดเวลา ทำให้บ้านเรือนประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ราบลุ่มมีน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร ชาวบ้านต้องนำเต้นท์ขนาดใหญ่มากางบนถนนและเร่งเข้าไปขนสิ่งของภายในบ้านที่ถูกน้ำท่วมออกมาไว้บนถนน ขณะที่ในเขตเทศบาลตะกั่วป่า น้ำเริ่มไหลเข้าถนนศรีตะกั่วป่า ซึ่งทางเทศบาลตะกั่วป่าได้ใช้เครื่องสูบน้ำเร่งระบายออกไหลสู่คลองตะกั่วป่า เพื่อป้องกันน้ำท่วม

เบื้องต้นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมมี 4 อำเภอ อ.ตะกั่วป่า มี ต.บางม่วง อ.คุระบุรี ต.แม่นางขาว อ.ทับปุด บ้านบางเหรียง และ อ.กะปง บ้านสะพานเสือ บ้านช้างเชื่อ และบ้านปากพู่ ซึ่งในขณะนี้ในพื้นที่จังหวัดพังงา ยังมีฝนตกอย่างต่อเนื่องชาวบ้านที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมต่างเฝ้าระวังและเก็บของไว้ที่สูงหลังจากปริมาณน้ำจากพื้นที่ อ.กะปง ไหลลงมายัง อ.ตะกั่วป่า เพื่อระบายสู่ทะเลเพิ่มสูงและมีสีขุ่น

ส่วนฝนที่ตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่ จ.สตูล ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมขังหลายจุด โดยเฉพาะในพื้นที่หมู่ที่ 4 เขตเทศบาลตำบลคลองขุด อ.เมืองสตูล ชาวบ้านต้องขนของหนีน้ำกันจ้าละหวั่นหลังฝนตกกระหน่ำตลอดทั้งคืน ขณะเดียวกัน พื้นที่รอบนอกใน อ.ละงู มีน้ำท่วมขังบางจุด โดยได้เพิ่มระดับสูงขึ้น และขยายวงกว้าง โดยเฉพาะริมคลองละงูเนื่องระดับน้ำได้เอ่อล้นตลิ่งแล้ว

ทางด้านในพื้นที่ อ.ปลายพระยา จ.กระบี่ หลังมีฝนตกลงมาต่อเนื่องส่งผลทำให้น้ำไหลหลากจากเทือกเขารอยต่อ จ.พังงา และกระบี่ ไหลลงคลองอิปัน และน้ำจากอ่างเก็บน้ำบ้านปากหยาทะลักไปตามลำคลองสาขาท่วมสวนเนื้อที่หลายร้อยไร่ และท่วมบ้านเรือนประชาชนแล้วกว่า 30 หลัง ในพื้นที่ ต.ปลายพระยา อ.ปลายพระยา และระดับน้ำยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทางหน่วยกู้ภัยปลายพระยา ได้เข้าช่วยเหลือนำสิ่งของขึ้นที่สูง

โดยที่บ้านของนางชุ้น แก้วประกอบ อายุ 90 ปี อยู่บ้านเลขที่ 78 ม.1 ต.ปลายพระยา ต้องขึ้นไปอาศัยที่ชั้น 2 ของบ้าน โดยระดับน้ำสูงท่วมบ้านชั้นล่างแล้ว 30 ซม. ส่วนถนนทางหมู่บ้าน หลัง รพ ปลายพระยาน้ำท่วมสูง 1 เมตร รถไม่สามารถผ่านได้ ขณะเดียวกันได้มีลมพัดแรง ส่งผลให้มีต้นไม้ล้มขวางถนนหลายพื้นที่ เช่น ถนนสายปลายพระยา อ่าวลึก และถนนเพชรเกษม ต.ทับปริก อ.เมืองกระบี่
กำลังโหลดความคิดเห็น