นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทา สาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า จากการประสานข้อมูลสภาพ อากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยาพบว่า ช่วงวันที่ 9-13 มิถุนายน 2556 ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ด้าน รับลมมรสุมจะมีฝนเพิ่มขึ้นและฝนตกหนักบางแห่ง โดยเริ่ม ในพื้นที่ภาคใต้ฝั่งตะวันตกก่อน จากนั้นจะส่งผลกระทบต่อ พื้นที่ภาคกลางด้านตะวันตก ภาคตะวันออก และภาคเหนือด้านตะวันตกในระยะต่อมา
ดังนั้นจึงขอเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย 21 จังหวัดภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่ง ตะวันตกประกอบด้วย แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง ตาก กำแพงเพชร สุโขทัย พิษณุโลก อุทัยธานี กาญจนบุรี ราชบุรี ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด สตูล ตรัง กระบี่ ภูเก็ต พังงา และระนอง ติดตามพยากรณ์อากาศและประกาศเตือนภัยอย่างใกล้ชิด พร้อมปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด รวมถึงหมั่นสังเกตสัญญาณความผิดปกติทางธรรมชาติ จะได้อพยพหนีภัยได้อย่างทันท่วงที ส่วนคลื่นลมในทะเลอันดามัน และอ่าวไทยจะมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ชาวเรือควรเพิ่มความระมัดระวังการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้
นายฉัตรชัย กล่าวต่อไปว่า ปภ.ได้ประสาน 21 จังหวัด และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 2 สุพรรณบุรี เขต 8 กำแพงเพชร เขต 9 พิษณุโลก เขต 10 ลำปาง เขต 12 สงขลา เขต 17 จันทบุรี และเขต 18 ภูเก็ต จัดเจ้าหน้าที่และมิสเตอร์เตือนภัยติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์ภัยตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมจัดเตรียมเครื่องมืออุปกรณ์ประจำจุดเสี่ยงให้พร้อมเผชิญเหตุ และช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้ทันทีที่เกิดสถานการณ์ภัย รวมถึงตรวจสอบฝาย อ่างเก็บน้ำ คันกั้นน้ำให้อยู่ในสภาพมั่นคงแข็งแรง เป็นต้น
ดังนั้นจึงขอเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย 21 จังหวัดภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่ง ตะวันตกประกอบด้วย แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง ตาก กำแพงเพชร สุโขทัย พิษณุโลก อุทัยธานี กาญจนบุรี ราชบุรี ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด สตูล ตรัง กระบี่ ภูเก็ต พังงา และระนอง ติดตามพยากรณ์อากาศและประกาศเตือนภัยอย่างใกล้ชิด พร้อมปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด รวมถึงหมั่นสังเกตสัญญาณความผิดปกติทางธรรมชาติ จะได้อพยพหนีภัยได้อย่างทันท่วงที ส่วนคลื่นลมในทะเลอันดามัน และอ่าวไทยจะมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ชาวเรือควรเพิ่มความระมัดระวังการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้
นายฉัตรชัย กล่าวต่อไปว่า ปภ.ได้ประสาน 21 จังหวัด และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 2 สุพรรณบุรี เขต 8 กำแพงเพชร เขต 9 พิษณุโลก เขต 10 ลำปาง เขต 12 สงขลา เขต 17 จันทบุรี และเขต 18 ภูเก็ต จัดเจ้าหน้าที่และมิสเตอร์เตือนภัยติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์ภัยตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมจัดเตรียมเครื่องมืออุปกรณ์ประจำจุดเสี่ยงให้พร้อมเผชิญเหตุ และช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้ทันทีที่เกิดสถานการณ์ภัย รวมถึงตรวจสอบฝาย อ่างเก็บน้ำ คันกั้นน้ำให้อยู่ในสภาพมั่นคงแข็งแรง เป็นต้น
