ASTVผู้จัดการรายวัน- เปิดซองประมูลโครงการน้ำ ITD กวาด 5 โมดูล ส่วน K-Water ได้ 2 โมดูล เสนอราคาเกือบเต็มเพดานงบ คาดเตรียมต่อรอง 11-13 มิ.ย.นี้ ด้าน "ปลอด"ย้ำ ต้องแก้ปัญหาน้ำท่วมอย่างยั่งยืน "ชวนนท์ "ซัด"ปลอด"เร่งสรุปแบ่งเค้กก้อนโต หวังเปอร์เซ็นต์จากการอนุมัติโครงการ โดยไม่สนใจว่าจะเดินหน้าได้จริงหรือไม่
นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) กล่าวในการแถลงผลการจัดพิจารณาคัดเลือกกลุ่มบริษัทเอกชน ในการยื่นซองราคา และซองเทคนิค เพื่อประมูลงานตามนัดหมายในโครงการเพื่อออกแบบและก่อสร้างระบบบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืนและระบบแก้ไขปัญหาอุทกภัยของประเทศไทย ว่า ประเทศไทยเป็นประเทศที่อยู่ในวิสัยที่จะถูกน้ำท่วมได้ตลอดเวลา และปัญหาน้ำท่วม ก็เป็นปัญหาที่เปราะบาง และถือว่าเป็นปัญหาที่กระทบต่อความมั่นคงของชาติ ทั้งในเรื่องของเศรษฐกิจ ชีวิต และทรัพย์สินของประชาชน รัฐบาลมีความเชื่อมั่นที่จะทำให้ประชาชนใช้ชีวิตแบบปราศจากภัยพิบัติทุกรูปแบบ ที่สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา เพราะฉะนั้นการแก้ไขแบบครั้งเดียวจบ ถึงแม้จะเป็นโครงการที่มีขนาดใหญ่ แต่ก็เป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาในเรื่องน้ำเช่นเดียวกับหลายๆ ประเทศทั่วโลก
ด้านนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ รองประธาน กบอ. กล่าวว่า การประมูลในครั้งนี้ มีบริษัทที่สนใจมารับ ทีโออาร์ 398 ราย บริษัทที่รวมกลุ่มกันเพื่อยื่นข้อเสนอ 34 กลุ่ม 114 ราย ซึ่งบริษัทและกลุ่มบริษัท ที่ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติมีจำนวน 8 กลุ่ม 42 ราย และ สุดท้ายคือบริษัท และกลุ่มบริษัท ที่ได้รับการคัดเลือกมีจำนวน 6 กลุ่ม 30 ราย แต่กิจการร่วมค้าญี่ปุ่น-ไทย และกิจการร่วมค้าทีมไทยแลนด์ ได้ขอถอนตัวไป จึงเหลือเพียงแค่ 4 กลุ่ม
นายธงทอง จันทรางศุ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกโครงการเพื่อออกแบบและก่อสร้างระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืนและระบบแก้ไขปัญหาอุทกภัยของประเทศไทย เปิดเผยผลการคัดเลือกกลุ่มบริษัทเอกชนที่ได้คะแนนทางด้านเทคนิคตามเกณฑ์และผ่านเข้าไปในรอบของการเปิดซองราคาประกอบด้วย ITD-Power China ได้คะแนนสูงสุดโมดูล A1,A2,A4,B1,B3 ส่วน LOXLEY ได้คะแนนสูงสุด โมดูล A6/B4 งานคลังข้อมูล-เตือนภัย , K-Water ได้คะแนนสูงสุดโมดูล A3, A5 และ Summit SUT ได้คะแนนสูงสุดโมดูล B2
สำหรับการเปิดซองข้อเสนอด้านราคาในแต่ละโมดูล บริษัทที่เสนอราคา ดังนี้
A1 อ่างเก็บน้ำ ผลการเปิดซอง ITD เสนอราคา 49,999 ล้านบาท จากราคาเพดาน 50,000 ล้านบาท
A2 ผังเมืองและพื้นที่ปิดล้อม ผลการเปิดซอง ITD เสนอราคา 26,000 ล้านบาท เท่าราคาเพดาน 26,000 ล้านบาท
A3 แก้มลิง ผลการเปิดซอง K-Water เสนอราคา 9,999 ล้านบาท จากราคาเพดาน 10,000 ล้านบาท
A4 ปรับปรุงลำน้ำ ผลการเปิดซอง ITD เสนอราคา 17,000 ล้านบาท เท่าราคาเพดาน 17,000 ล้านบาท
A5 ทางน้ำหลาก ผลการเปิดซอง K-Water เสนอราคา 153,000 ล้านบาท เท่าราคาเพดาน 153,000 ล้านบาท
A6/B4 คลังข้อมูลและการพยากรณ์เตือนภัย ผลการเปิดซอง LOXLEY เสนอราคา 3,997 ล้านบาท จากราคาเพดาน 4,000 ล้านบาท
B1 อ่างเก็บน้ำ ผลการเปิดซอง ITD เสนอราคา 11,999 ล้านบาท จากราคาเพดาน 12,000 ล้านบาท
B2 ผังเมืองและพื้นที่ปิดล้อม ผลการเปิดซอง SUMMIT SUT เสนอราคา 13,933 ล้านบาท จากราคาเพดาน 14,000 ล้านบาท
และ B3 ปรับปรุงลำน้ำ ผลการเปิดซอง ITD เสนอราคา 5,000 ล้านบาท เท่าราคาเพดาน 5,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ คิดเป็นยอดวงเงินรวม 290,930 ล้านบาท ซึ่งยังไม่เกินวงเงิน 2.91 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นวงเงินสุทธิที่ได้มีการปรับปรุงกรอบวงเงินกู้จาก 350,000 ล้านบาท มาเหลืออยู่ที่ 301,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ ขั้นตอนการเจรจาที่จะเกิดขึ้นนั้น ตนจะหารือกับคณะทำงานแล้วค่อยทำการเจรจา ซึ่งน่าจะสามารถเจรจากับบริษัทผู้ประมูลได้ในช่วงวันที่ 11-13 มิ.ย. นี้ เพื่อในวันที่ 14 มิ.ย. ตนจะต้องรายงานต่อทาง กบอ. และทำเอกสารส่งถึงสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เพื่อนำเรื่องเข้าที่ประชุมครม. ในวันที่ 18 มิ.ย.นี้
** ปชป.ซัดผลเปิดซองประมูลน้ำ แบ่งเค้กก้อนโต
นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ผลการประมูลที่ออกมา เป็นไปตามที่คนไทยทั้งประเทศวิตกกังวล ว่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของการฮั้วประมูล และจะเป็นจุดเริ่มต้นของอนุสาวรีย์แห่งการทุจริต คอร์รัปชัน เพราะในการประมูลงานทั้ง 9 กลุ่มโมดูล มีบริษัทเข้าร่วมประมูล 4 บริษัท ซึ่งการประมูลในแต่ละกลุ่มจะมีผู้เข้าประมูลเพียง 2 เจ้า เพราะเนื้องานมีมากกว่าบริษัทที่เข้าประมูล จึงทำให้ทั้ง 4 บริษัท ที่เข้าร่วมประมูลต่างได้รับการจัดสรรเนื้องานกันถ้วนหน้า
ยอดรวมวงเงินดำเนินโครงการ 3 แสนล้านบาท ลดลงเพียง 13 ล้านบาท ซึ่งกระบวนการกินรวบประเทศไทย เริ่มต้นแล้ว ผ่านโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท ทั้งนี้ เป็นสิ่งที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ไม่สบายใจ จนต้องมีหนังสือข้อเสนอแนะว่าหากทำการประมูลวิธีดังกล่าวเสร็จแน่ เพราะการประมูลนี้ไม่ใช้ระเบียบพัสดุของสำนักนายกรัฐมนตรี โดยโยนอำนาจให้สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และโยนให้สำนักงานนโยบายและบริหารจัดการน้ำและอุทกภัยแห่งชาติ (กบอ.) เป็นผู้จัดการประมูล ซึ่งเป็นการหลีกเลี่ยงระเบียบพัสดุเพื่อหลีกเลี่ยงการเสนอรายละเอียดโครงการ ไม่ระบุพื้นที่ก่อสร้าง และหลีกเลี่ยงการเสนอราคากลาง และเมื่อไม่มีการกำหนดราคาตั้งต้น ทุกบริษัทก็จะกำหนดราคากลางของตัวเองให้เท่ากับงบในแต่ละโมดูล ซึ่งป.ป.ช.เคยตั้งข้อสังเกตเรื่องนี้ไว้แล้ว
นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) กล่าวในการแถลงผลการจัดพิจารณาคัดเลือกกลุ่มบริษัทเอกชน ในการยื่นซองราคา และซองเทคนิค เพื่อประมูลงานตามนัดหมายในโครงการเพื่อออกแบบและก่อสร้างระบบบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืนและระบบแก้ไขปัญหาอุทกภัยของประเทศไทย ว่า ประเทศไทยเป็นประเทศที่อยู่ในวิสัยที่จะถูกน้ำท่วมได้ตลอดเวลา และปัญหาน้ำท่วม ก็เป็นปัญหาที่เปราะบาง และถือว่าเป็นปัญหาที่กระทบต่อความมั่นคงของชาติ ทั้งในเรื่องของเศรษฐกิจ ชีวิต และทรัพย์สินของประชาชน รัฐบาลมีความเชื่อมั่นที่จะทำให้ประชาชนใช้ชีวิตแบบปราศจากภัยพิบัติทุกรูปแบบ ที่สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา เพราะฉะนั้นการแก้ไขแบบครั้งเดียวจบ ถึงแม้จะเป็นโครงการที่มีขนาดใหญ่ แต่ก็เป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาในเรื่องน้ำเช่นเดียวกับหลายๆ ประเทศทั่วโลก
ด้านนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ รองประธาน กบอ. กล่าวว่า การประมูลในครั้งนี้ มีบริษัทที่สนใจมารับ ทีโออาร์ 398 ราย บริษัทที่รวมกลุ่มกันเพื่อยื่นข้อเสนอ 34 กลุ่ม 114 ราย ซึ่งบริษัทและกลุ่มบริษัท ที่ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติมีจำนวน 8 กลุ่ม 42 ราย และ สุดท้ายคือบริษัท และกลุ่มบริษัท ที่ได้รับการคัดเลือกมีจำนวน 6 กลุ่ม 30 ราย แต่กิจการร่วมค้าญี่ปุ่น-ไทย และกิจการร่วมค้าทีมไทยแลนด์ ได้ขอถอนตัวไป จึงเหลือเพียงแค่ 4 กลุ่ม
นายธงทอง จันทรางศุ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกโครงการเพื่อออกแบบและก่อสร้างระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืนและระบบแก้ไขปัญหาอุทกภัยของประเทศไทย เปิดเผยผลการคัดเลือกกลุ่มบริษัทเอกชนที่ได้คะแนนทางด้านเทคนิคตามเกณฑ์และผ่านเข้าไปในรอบของการเปิดซองราคาประกอบด้วย ITD-Power China ได้คะแนนสูงสุดโมดูล A1,A2,A4,B1,B3 ส่วน LOXLEY ได้คะแนนสูงสุด โมดูล A6/B4 งานคลังข้อมูล-เตือนภัย , K-Water ได้คะแนนสูงสุดโมดูล A3, A5 และ Summit SUT ได้คะแนนสูงสุดโมดูล B2
สำหรับการเปิดซองข้อเสนอด้านราคาในแต่ละโมดูล บริษัทที่เสนอราคา ดังนี้
A1 อ่างเก็บน้ำ ผลการเปิดซอง ITD เสนอราคา 49,999 ล้านบาท จากราคาเพดาน 50,000 ล้านบาท
A2 ผังเมืองและพื้นที่ปิดล้อม ผลการเปิดซอง ITD เสนอราคา 26,000 ล้านบาท เท่าราคาเพดาน 26,000 ล้านบาท
A3 แก้มลิง ผลการเปิดซอง K-Water เสนอราคา 9,999 ล้านบาท จากราคาเพดาน 10,000 ล้านบาท
A4 ปรับปรุงลำน้ำ ผลการเปิดซอง ITD เสนอราคา 17,000 ล้านบาท เท่าราคาเพดาน 17,000 ล้านบาท
A5 ทางน้ำหลาก ผลการเปิดซอง K-Water เสนอราคา 153,000 ล้านบาท เท่าราคาเพดาน 153,000 ล้านบาท
A6/B4 คลังข้อมูลและการพยากรณ์เตือนภัย ผลการเปิดซอง LOXLEY เสนอราคา 3,997 ล้านบาท จากราคาเพดาน 4,000 ล้านบาท
B1 อ่างเก็บน้ำ ผลการเปิดซอง ITD เสนอราคา 11,999 ล้านบาท จากราคาเพดาน 12,000 ล้านบาท
B2 ผังเมืองและพื้นที่ปิดล้อม ผลการเปิดซอง SUMMIT SUT เสนอราคา 13,933 ล้านบาท จากราคาเพดาน 14,000 ล้านบาท
และ B3 ปรับปรุงลำน้ำ ผลการเปิดซอง ITD เสนอราคา 5,000 ล้านบาท เท่าราคาเพดาน 5,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ คิดเป็นยอดวงเงินรวม 290,930 ล้านบาท ซึ่งยังไม่เกินวงเงิน 2.91 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นวงเงินสุทธิที่ได้มีการปรับปรุงกรอบวงเงินกู้จาก 350,000 ล้านบาท มาเหลืออยู่ที่ 301,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ ขั้นตอนการเจรจาที่จะเกิดขึ้นนั้น ตนจะหารือกับคณะทำงานแล้วค่อยทำการเจรจา ซึ่งน่าจะสามารถเจรจากับบริษัทผู้ประมูลได้ในช่วงวันที่ 11-13 มิ.ย. นี้ เพื่อในวันที่ 14 มิ.ย. ตนจะต้องรายงานต่อทาง กบอ. และทำเอกสารส่งถึงสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เพื่อนำเรื่องเข้าที่ประชุมครม. ในวันที่ 18 มิ.ย.นี้
** ปชป.ซัดผลเปิดซองประมูลน้ำ แบ่งเค้กก้อนโต
นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ผลการประมูลที่ออกมา เป็นไปตามที่คนไทยทั้งประเทศวิตกกังวล ว่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของการฮั้วประมูล และจะเป็นจุดเริ่มต้นของอนุสาวรีย์แห่งการทุจริต คอร์รัปชัน เพราะในการประมูลงานทั้ง 9 กลุ่มโมดูล มีบริษัทเข้าร่วมประมูล 4 บริษัท ซึ่งการประมูลในแต่ละกลุ่มจะมีผู้เข้าประมูลเพียง 2 เจ้า เพราะเนื้องานมีมากกว่าบริษัทที่เข้าประมูล จึงทำให้ทั้ง 4 บริษัท ที่เข้าร่วมประมูลต่างได้รับการจัดสรรเนื้องานกันถ้วนหน้า
ยอดรวมวงเงินดำเนินโครงการ 3 แสนล้านบาท ลดลงเพียง 13 ล้านบาท ซึ่งกระบวนการกินรวบประเทศไทย เริ่มต้นแล้ว ผ่านโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท ทั้งนี้ เป็นสิ่งที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ไม่สบายใจ จนต้องมีหนังสือข้อเสนอแนะว่าหากทำการประมูลวิธีดังกล่าวเสร็จแน่ เพราะการประมูลนี้ไม่ใช้ระเบียบพัสดุของสำนักนายกรัฐมนตรี โดยโยนอำนาจให้สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และโยนให้สำนักงานนโยบายและบริหารจัดการน้ำและอุทกภัยแห่งชาติ (กบอ.) เป็นผู้จัดการประมูล ซึ่งเป็นการหลีกเลี่ยงระเบียบพัสดุเพื่อหลีกเลี่ยงการเสนอรายละเอียดโครงการ ไม่ระบุพื้นที่ก่อสร้าง และหลีกเลี่ยงการเสนอราคากลาง และเมื่อไม่มีการกำหนดราคาตั้งต้น ทุกบริษัทก็จะกำหนดราคากลางของตัวเองให้เท่ากับงบในแต่ละโมดูล ซึ่งป.ป.ช.เคยตั้งข้อสังเกตเรื่องนี้ไว้แล้ว