xs
xsm
sm
md
lg

อัด1.5พันล.สัญจรกล้วยไข่ ชูรถไฟเร็วสูงปากน้ำโพ-แหลมฉบัง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วานนี้(9 มิ.ย.56) ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานการประชุมร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจในภูมิภาค (กรอ.ภูมิภาค) ครั้งที่ 3/2556 โดยมีคณะรัฐมนตรี สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสมาคมatธนาคารร่วมประชุม โดยมี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าร่วมรับฟังสรุปผลประชุมด้วย
จากนั้นเวลา 18.10 น. นายกิตติรัตน์ เปิดเผยผลการประชุมกรอ.ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบโครงการ 4 ด้าน วงเงินรวมประมาณ 1,491 ล้านบาท ได้แก่ 1. การส่งเสริมการค้าและการลงทุน วงเงินรวม 869.5 ล้านบาท 2.การพัฒนาโครงข่ายคมนาคมและระบบโลจิสติกส์วงเงิน 530 ล้านบาท 3.การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ และ 4.การส่งเสริมการท่องเที่ยวและบริการสุขภาพ 3 แผนงานวงเงิน 92.85 ล้านบาท ที่ประชุมได้มอบหมายให้กระทรวงที่เกี่ยวข้องรับไปดำเนินงานต่อ และจะนำผลการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)นอกสถานที่อย่างเป็นทางการในวันที่ 10 มิถุนายน เพื่อพิจารณารับทราบต่อไป
ด้าน นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธาน กกร.และประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับรายละเอียดโครงการต่างๆ ประกอบด้วย ด้านที่ 1.การส่งเสริมการค้าและการลงทุน วงเงินงบประมาณ 869.5 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินงาน 8 ปี ระหว่างปี 2556-2563 โดยจะจัดทำโครงการส่งเสริมศักยภาพศูนย์กลางการค้าข้าวและนวัตกรรมแปรรูปสินค้าเกษตร(ข้าว-มันสำปะหลัง) ด้วยการทำโครงการศึกษาเพื่อเตรียมการจัดตั้ง “ศูนย์บูรณาการการค้าและนวัตกรรมแปรรูปข้าวไทย” เป็นศูนย์กลางการค้าข้าวและเพิ่มศักยภาพการแข่งขันสู่ตลาดโลก มีทั้งหมด 5 โครงการย่อย คือ 1.โครงการจัดตั้งศูนย์กลางการยกระดับประสิทธิภาพในการผลิตข้าวเปลือกและข้าวสาร จ.พิจิตร วงเงิน 150 ล้านบาท 2.โครงการศูนย์กลางพัฒนามูลค่าเพิ่ม นวัตกรรมสินค้าข้าว และสินค้าเกษตรที่เกี่ยวข้อง จ.กำแพงเพชร วงเงิน 150 ล้านบาท
3.โครงการศูนย์กลางส่งเสริมการตลาดและการค้าข้าวทั้งภายในประเทศและนอกประเทศ จ.นครสวรรค์ วงเงิน 233.5 ล้านบาท4.โครงการศูนย์กลางการพัฒนาการค้า การส่งออกข้าวครบวงจร จ.นครสวรรค์ วงเงิน 280 ล้านบาท และโครงการศูนย์กลางการฝึกอบรมด้านสารสนเทศข้อมูลและความรู้ จ.นครสวรรค์ วงเงิน 56 ล้านบาท และ 5.โครงการจัดตั้ง”ศูนย์กลางธุรกิจการค้าและนวัตกรรมแปรรูปมันสำปะหลัง จ.กำแพงเพชร โดยของบประมาณสนับสนุนเพื่อการศึกษาและอนุมติงบดำเนินโครงการ เพื่อเป็นศูนย์กลางการผลิต การแปรรูป และ การค้ามันสำปะหลังของภาคเหนืออย่างครบวงจรตั้งเป้าเพิ่มประสิทธิภาพ คุณภาพการผลิต และสร้างมูลค่าเพิ่มมันสำปะหลัง
สำหรับด้านที่ 2. การพัฒนาโครงข่ายคมนาคมและระบบโลจิสติกส์วงเงินงบประมาณเพื่อศึกษาวิจัย “โครงการจัดตั้งศูนย์ Inland Container Depot(ICD) หรือ Container Yard(CY) ที่ จ.นครสวรรค์ เพื่อรองรับรถไฟทางคู่และเชื่อมโยงกับท่าเรือแหลมฉบัง ลดต้นทุน และพัฒนาการขนส่งของประเทศกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่างวงเงิน 530 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินการ 4 ปี 8 เดือน โดยให้เหตุผลว่าเนื่องจากมีความเหมาะสมด้านภูมิศาสตร์เป็นจังหวัดศูนย์กลางระหว่างภาคเหนือและภาคกลางที่มีโครงข่ายคมนาคมและระบบโลจิสติกส์ รองรับการขนส่งสินค้าเกษตรกรรมและอุตสาหกรรม ทั้งทางบก ทางน้ำ และระบบราง คาดว่า จะมีปริมาณสินค้าส่งออกแบะนำเข้าผ่านท่าเรือแหลมฉบังและท่าเรือกรุงเทพในปี 2556 จำนวน 87-89 ล้านตัน หากสามารถจัดตั้งศูนย์ดังกล่าวได้จะช่วยกระจายสินค้าเกษตรกรรมและอุตสาหกรรมจากภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือบางส่วนไปยังสถานีขนส่งปลายทาง และเป็นศูนย์กลางการกำหนดบทบาทตลาดในการซื้อขายและแลกเปลี่ยนสินค้าเกษตรที่สำคัญของประเทศ เช่น ข้าว อ้อย มันสำปะหลัง
นอกจากนี้ยังได้ขอเสนอทำโครงการขยายช่องทางจราจรจาก 2 ช่องทาง เป็น 4 ช่องทางการจราจร และปรับปรุงขยายไหล่ทาง เพื่อเชื่อมโยงการคมนาคมของกลุ่มจังหวัด และเส้นทางท่องเที่ยวมรดกโลก 4 แห่ง คือ อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร และอุทยานประวัติศาสตร์ห้วยขาแข้งจำนวน 4 เส้นทาง ดังนี้ 1.เส้นทางหมายเลข 115 จ.กำแพงเพชร-หมายเลข 117 แยกปลวกสูง-จ.พิจิตร 2.เส้นทางหมายเลข 101 จ.กำแพงเพชร-จ.สุโขทัย(คีรีมาศ)(เชื่อมโยงมรดกโลก) 3. เส้นทางหมายเลข 11 อ.สากเหล็ก จ.พิจิตร-หมายเลข 32 อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี
และ4.โครงการปรับปรุงและขยายไหล่ทาง เส้นทางหลวงชนบทหมายเลข 3480 อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี-หมายเลข 3473 อ.ลาดยาว จ.นครสวรรค์-หมายเลข 3013 อ.คลองสาน จ.กำแพงเพชร เพื่อเตรียมเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน จำเป็นต้องพัฒนาโครงข่ายคมนาคมเชื่อมโยงให้สามารถรองรับปริมาณการจราจรที่เพิ่มสูงขึ้นและรองรับนักท่องเที่ยวในอนาคต
ด้าน
3. การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ โดยขอให้เร่งรัดดำเนินโครงการก่อสร้างเขื่อนทดน้ำในแม่น้ำน่านและระบบชลประทานตามโครงการชลประทานพิษณุโลกตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ขออนุมัติไว้แล้ว เนื่องจากในพ.ศ. 2510 กรมชลประทาน วางแผนศึกษาโครงการพัฒนาลุ่มน้ำน่าน 3 โครงการ คือ โครงการเขื่อนสิริกิติ์ โครงการชลประทานอุตรดิตถ์ และโครงการชลประทานพิษณุโลก ทั้งนี้ พื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคเหนือ ตอนล่าง 2 โดยเฉพาะจังหวัดพิจิตร ได้รับผลกระทบจากภัยแล้งและอุทกภัยตลอดเวลา เพราะพื้นที่ตั้งอยู่บริเวณฝั่งซ้ายของแม่น้ำน่านและยังไม่มีระบบชลประทานที่สมบูรณ์ จึงจำเป็นต้องเร่งก่อสร้าง ระยะที่ 2 ให้แล้วเสร็จทันในปีงบประมาณ 2557 นี้ โดยมีการศึกษารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม(อีไอเอ)และผ่านการเห็นชอบจากคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติเสร็จเรียบร้อยแล้วเมื่อเดือนพฤษภาคม 2554 ที่ผ่านมา
4.การส่งเสริมการท่องเที่ยวและบริการสุขภาพ 3 แผนงาน วงเงินงบประมาณ 92.85 ล้านบาท ประกอบด้วย 1.แผนการเร่งรัดและสนับสนุนโครงการพัฒนาพื้นที่ส่งเสริมการท่องเที่ยว "วิถีชีวิตและอัตตะลักษณ์แม่น้ำสะแกกรัง" จ.อุทัยธานี 2. แผนการส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยวกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง 2 รวม 3 แผนงาน อาทิ การอนุรักษ์ให้มีการเปิดอุทยานประวัติศาสตร์กำแพวเพชรช่วงค่ำ โดยจะเสนอให้เปิดในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ วัดหยุดนักขัตฤกษ์และวันพระ เพื่อให้เอกชนสามารถจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวในบริเวณอุทยานฯ 3.แผนการส่งเสริมและประชาสัมพันธ์การเท่องเที่ยวของกลุ่มจังหวัดให้เป็นรูปธรรมที่ชัดเจน 3 กิจกรรม เพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าการท่องเที่ยวอาทิ จัดกิจกรมส่งเสริมเส้นทางการท่องเที่ยวเชื่อมโยงมรดกโลกและการท่องเที่ยวเชิงนิเวศอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร-อุทยานแห่งชาติห้วยขาแข้ง-แม่น้ำสะแกกรัง
นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้รับทราบข้อเสนอของบประมาณสนับสนุนพิจารณาเพิ่มเติมอื่นๆ 4 เรื่อง คือ
1.การพัฒนาอุตสาหกรรมการขนส่งระบบรางและอุตสาหกรรมเกี่ยวเนื่อง 2. ผลการหารือ Round Table “โครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม2556 3. ความคืบหน้าการดำเนินงาน เรื่อง “ผลกระทบของอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยแรงงานทางทะเล กรณีที่ประเทศไทยไม่มีกฎหมายบังคับใช้” 4.โครงการวางท่อส่งน้ำไปในแหล่งพื้นที่ทำการเกษตรในเขต จ.นครสวรรค์
ก่อนหน้านั้นน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีได้ เดินทางไปยังอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร โดยรับฟังบรรยายสรุปเรื่องการพัฒนาเมืองมรดกโลกเมืองประวัติศาสตร์สุโขทัย และเมืองบริวาร จากนายสนธยา คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม ใน 5 ยุทธศาสตร์ อาทิ การพัฒนาชุมชนท้องถิ่น การพัฒนาสภาพแวดล้อม การเชื่อมโยงพื้นที่ โดยมีเป้าหมายเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวอีกเท่าตัวภายในไม่เกิน 3 ปี หรือ 2.4 ล้านคน จากปัจจุบัน 1.2 ล้านบาท ซึ่ง นายกฯ ได้สั่งการให้กระทรวงวัฒนธรรม และกระทรวงท่องเที่ยวร่วมกันเป็นเจ้าภาพ นำยุทธศาสตร์ 3 ด้านไปบูรณาการรวมกับยุทธศาสตร์เดิมเดิม ทั้งการพัฒนาองค์ความรู้ของแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม เพื่อให้นักท่องเที่ยวที่มีรายได้สูงเข้าประเทศ และอยู่นานขึ้น โดยให้นำประเพณีและกิจกรรมของแต่ละจังหวัดมาจัดเชื่อมโยงกัน จากนั้น นายกฯ ได้นั่งรถเยี่ยมชมอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร และนมัสการเจดีย์ประธานวัดช้างรอบ , พระประธานวัดพระสี่อิริยาบถ.
น.ส.ยิ่งลักษณ์ พร้อมคณะ ได้เดินทางไปยังบริษัทอะยิโนะโมะโต๊ะ จำกัด (โรงงานกำแพงเพชร) อ.เมือง จ.กำแพงเพชร เพื่อตรวจเยี่ยมห้องบรรจุผลิตภัณฑ์ฯ และดูบ่อก๊าชชีวภาพจากเส้นมันเพื่อผลิตเป็นระบบไบโอแก๊ส และนำแกลบมาใช้เป็นเชื้อเพลิงเพื่อผลิตไอน้ำแทนการใช้น้ำมันเตา
กำลังโหลดความคิดเห็น