เอกชนเตรียม 4 ข้อเสนอชงเวที กรอ. 9 มิถุนายนที่จังหวัดกำแพงเพชร ดันหนุนการค้าและการลงทุนจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง หนุนจังหวัดพิจิตรเป็นศูนย์กลางการค้าและนวัตกรรมแปรรูปข้าวไทย ดันรถไฟทางคู่เชื่อมนครสวรรค์ เร่งบริหารจัดการน้ำในลุ่มน้ำน่าน
นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยหลังการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ว่า วันที่ 9 มิถุนายนจะมีการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน (กรอ.) ภูมิภาคครั้งที่ 3 ที่จังหวัดกำแพงเพชร กกร.ได้สรุปข้อเสนอที่จะหารือใน กรอ. 4 ประเด็น ได้แก่ 1. การส่งเสริมการค้าและการลงทุนใน 4 จังหวัดภาคเหนือตอนล่าง ได้แก่ จ.พิจิตร กำแพงเพชร นครสวรรค์ และอุทัยธานี โดยต้องการของบสนับสนุนโครงการศึกษาจัดตั้ง “ศูนย์บูรณาการการค้าและนวัตกรรมแปรรูปข้าวไทยและพืชเศรษฐกิจ” เพื่อเป็นศูนย์กลางการค้าข้าว
“4 จังหวัดมีการปลูกข้าวมาก จึงเห็นว่าพิจิตรน่าจะเป็นศูนย์กลางการแปรรูปข้าวเพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขันตลาดโลก ส่วนกำแพงเพชรมีการปลูกมันสำปะหลังเยอะจึงต้องการเสนองบด้านวิจัยต่อยอดการผลิต” นายอิสระกล่าว
ข้อเสนอที่ 2 ต้องการผลักดันให้จังหวัดนครสวรรค์เป็นอีกพื้นที่ในการรองรับการพัฒนาระบบรถไฟทางคู่เพื่อเชื่อมต่อกับท่าเรือแหลมฉบัง และขยายถนนเพื่อเชื่อมต่อการท่องเที่ยวสู่มรดกโลกที่จังหวัดสุโขทัย และอุทัยธานี 3. ต้องการให้รัฐผลักดันการบริหารทรัพยากรน้ำโดยเฉพาะเขื่อนทดน้ำที่ลุ่มแม่น้ำน่าน จังหวัดพิจิตร และพิษณุโลก 4. ส่งเสริมการท่องเที่ยววิถีชีวิตตามลุ่มน้ำสะแกกรัง จังหวัดอุทัยธานี
นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า กกร.ได้รับทราบและพิจารณาข้อสรุปการจัดประชุมเรื่องงบน้ำเพื่อชีวิต ขอร่วมคิด ร่วมตัดสินใจ ภายใต้การบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาทเมื่อวันที่ 27 พ.ค.ว่า ที่ประชุมได้สรุป 4 ประเด็นที่รัฐบาลต้องคำนึง ได้แก่ 1. การมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน 2. จัดลำดับความสำคัญการใช้เงินเพื่อก่อประโยชน์สูงสุด 3. ให้มีการบริหารจัดการน้ำที่ดีเพื่อลดปัญหา และ 4. กรณีการสร้างไปออกแบบไปหรือดีไซน์แอนด์บิลต์จะไม่มีประสิทธิภาพพอ ควรมีแบบที่ชัดเจน
