ASTVผู้จัดการรายวัน - ปูนซิเมนต์ไทยเดินหน้าโรงปูนในพม่าขนาด 1.7 ล้านตัน หลังรัฐบาลพม่าอนุมัติการลงทุนแล้ว โดยจะใช้เงินลงทุน 400 ล้านเหรียญสหรัฐ เดินเครื่องจักรผลิตได้ปี 58
นายกานต์ ตระกูลฮุน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) (SCC) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆนี้ รัฐบาลพม่าได้อนุมัติการลงทุนโครงการโรงงานผลิตปูนซีเมนต์ขนาดกำลังผลิต 1.7 ล้านตันต่อปี ใช้เงินลงทุน 400 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยบริษัทจะเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯเพื่ออนุมัติงบลงทุนในเดือนนี้ คาดว่าโรงงานจะดำเนินการผลิตเชิงพาณิชย์ได้ในปี 2558
โครงการดังกล่าวบริษัทฯได้ยื่นขออนุมัติการลงทุนมานาน 3ปี โดยจะตั้งโรงงานปูนซีเมนต์อยู่ที่เมาะละแหม่ง ห่างจากย่างกุ้งไป 280 กิโลเมตร ซึ่งการสร้างโรงปูนซีเมนต์ดังกล่าวจะมีการลงทุนโรงไฟฟ้าและลอจิสติกส์ไปพร้อมกัน ซึ่งหลังจากพม่าอนุมัติการลงทุนแล้ว ก็จะดำเนินการก่อสร้างได้ทันที
การตัดสินใจลงทุนตั้งโรงปูนซีเมนต์ในพม่าเนื่องจากความต้องการใช้ปูนซีเมนต์ในพม่าขยายตัวเพิ่มขึ้น ที่ผ่านมา บริษัทฯส่งออกปูนไปจำหน่ายยังพม่าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด บริษัทฯได้มีการส่งออกปูนไปจำหน่ายพม่าปีละ 1.8 ล้านตัน ดังนั้น ขนาดกำลังการผลิตโรงปูนดังกล่าวจึงไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้ ทำให้บริษัทฯมองแผนการขยายโรงปูนไลน์ที่ 2 ในอนาคตด้วย
ส่วนการเข้าไปลงทุนตั้งโรงงานผลิตวัสดุก่อสร้างในพม่านั้น บริษัทจะทำตลาดวัสดุก่อสร้างในพม่าจนมั่นใจก่อนพิจารณาตัดสินใจลงทุนตั้งโรงงาน เหมือนกับการลงทุนตั้งโรงปูนซีเมนต์ที่จะทำตลาดในประเทศก่อนจนได้ปริมาณที่มากเพียงพอจึงตัดสินใจลงทุนตั้งโรงงาน
ใน 5ปีนี้ บริษัทฯจะใช้เงินลงทุนในธุรกิจซีเมนต์ประมาณ 1,500 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 4.5 หมื่นล้านบาท โดยจะตั้งโรงงานผลิตปูนซีเมนต์ในอินโดนีเซีย และพม่า ใช้เงินลงทุนประเทศละ 400 ล้านเหรียญสหรัฐ และโรงปูนไลน์ที่ 2 ในกัมพูชาอีก 180 ล้านเหรียญสหรัฐ คาดว่าโรงงานเหล่านี้จะแล้วเสร็จใน 3 ปีข้างหน้า
นอกจากนี้ จะใช้เงินลงทุนในการขยายโรงปูนไลน์ที่ 2 ในอินโดนีเซียและพม่าอีก 600 ล้านเหรียญสหรัฐ ทำให้บริษัทฯมีกำลังการผลิตปูนเพิ่มขึ้นอีก 4.5 ล้านตันในปี 2558 จากปัจจุบันที่มีกำลังการผลิตปูนทั้งไทยและกัมพูชาอยู่ 24 ล้านตัน จนปัจจุบันบริษัทเป็นผู้ผลิตปูนซีเมนต์รายใหญ่อันดับ 2 ในภูมิภาคอาเซียน
ในปีนี้ บริษัทฯตั้งเป้าหมายเดินเครื่องจักรผลิตปูนซีเมนต์เต็มกำลังการผลิต 23 ล้านตัน โดยปริมาณส่งออกไปต่างประเทศลดลงเหลือ 5 ล้านตันจากปีก่อนที่ส่งออก 5.6 ล้านตัน เนื่องจากความต้องการใช้ปูนในประเทศไทยขยายตัวเพิ่มขึ้น จากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน รถไฟฟ้า และการก่อสร้างอสังหาริมทรัพย์ตามเส้นทางรถไฟฟ้า
นายกานต์ ตระกูลฮุน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) (SCC) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆนี้ รัฐบาลพม่าได้อนุมัติการลงทุนโครงการโรงงานผลิตปูนซีเมนต์ขนาดกำลังผลิต 1.7 ล้านตันต่อปี ใช้เงินลงทุน 400 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยบริษัทจะเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯเพื่ออนุมัติงบลงทุนในเดือนนี้ คาดว่าโรงงานจะดำเนินการผลิตเชิงพาณิชย์ได้ในปี 2558
โครงการดังกล่าวบริษัทฯได้ยื่นขออนุมัติการลงทุนมานาน 3ปี โดยจะตั้งโรงงานปูนซีเมนต์อยู่ที่เมาะละแหม่ง ห่างจากย่างกุ้งไป 280 กิโลเมตร ซึ่งการสร้างโรงปูนซีเมนต์ดังกล่าวจะมีการลงทุนโรงไฟฟ้าและลอจิสติกส์ไปพร้อมกัน ซึ่งหลังจากพม่าอนุมัติการลงทุนแล้ว ก็จะดำเนินการก่อสร้างได้ทันที
การตัดสินใจลงทุนตั้งโรงปูนซีเมนต์ในพม่าเนื่องจากความต้องการใช้ปูนซีเมนต์ในพม่าขยายตัวเพิ่มขึ้น ที่ผ่านมา บริษัทฯส่งออกปูนไปจำหน่ายยังพม่าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด บริษัทฯได้มีการส่งออกปูนไปจำหน่ายพม่าปีละ 1.8 ล้านตัน ดังนั้น ขนาดกำลังการผลิตโรงปูนดังกล่าวจึงไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้ ทำให้บริษัทฯมองแผนการขยายโรงปูนไลน์ที่ 2 ในอนาคตด้วย
ส่วนการเข้าไปลงทุนตั้งโรงงานผลิตวัสดุก่อสร้างในพม่านั้น บริษัทจะทำตลาดวัสดุก่อสร้างในพม่าจนมั่นใจก่อนพิจารณาตัดสินใจลงทุนตั้งโรงงาน เหมือนกับการลงทุนตั้งโรงปูนซีเมนต์ที่จะทำตลาดในประเทศก่อนจนได้ปริมาณที่มากเพียงพอจึงตัดสินใจลงทุนตั้งโรงงาน
ใน 5ปีนี้ บริษัทฯจะใช้เงินลงทุนในธุรกิจซีเมนต์ประมาณ 1,500 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 4.5 หมื่นล้านบาท โดยจะตั้งโรงงานผลิตปูนซีเมนต์ในอินโดนีเซีย และพม่า ใช้เงินลงทุนประเทศละ 400 ล้านเหรียญสหรัฐ และโรงปูนไลน์ที่ 2 ในกัมพูชาอีก 180 ล้านเหรียญสหรัฐ คาดว่าโรงงานเหล่านี้จะแล้วเสร็จใน 3 ปีข้างหน้า
นอกจากนี้ จะใช้เงินลงทุนในการขยายโรงปูนไลน์ที่ 2 ในอินโดนีเซียและพม่าอีก 600 ล้านเหรียญสหรัฐ ทำให้บริษัทฯมีกำลังการผลิตปูนเพิ่มขึ้นอีก 4.5 ล้านตันในปี 2558 จากปัจจุบันที่มีกำลังการผลิตปูนทั้งไทยและกัมพูชาอยู่ 24 ล้านตัน จนปัจจุบันบริษัทเป็นผู้ผลิตปูนซีเมนต์รายใหญ่อันดับ 2 ในภูมิภาคอาเซียน
ในปีนี้ บริษัทฯตั้งเป้าหมายเดินเครื่องจักรผลิตปูนซีเมนต์เต็มกำลังการผลิต 23 ล้านตัน โดยปริมาณส่งออกไปต่างประเทศลดลงเหลือ 5 ล้านตันจากปีก่อนที่ส่งออก 5.6 ล้านตัน เนื่องจากความต้องการใช้ปูนในประเทศไทยขยายตัวเพิ่มขึ้น จากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน รถไฟฟ้า และการก่อสร้างอสังหาริมทรัพย์ตามเส้นทางรถไฟฟ้า
