ลำปาง - ผู้บริหารปูนซิเมนต์ไทยนำนักวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อมเปิดเวทีรับฟังความเห็น แจงแผนขยายโรงงานลำปางให้ชาวแจ้ห่มรอบที่ตั้งโรงปูนทราบ ยันไร้ผลกระทบสิ่งแวดล้อม
วันนี้ (28 พ.ค.) นายธวัชชัย เทอดเผ่าไทย ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เป็นประธานเปิดการประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชนใน อ.แจ้ห่มเกี่ยวกับผลกระทบสิ่งแวดล้อม และร่างมาตรการป้องกัน การแก้ไข และมาตรการติดตามตรวจสอบผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมในโครงการโรงงานปูนซิเมนต์ลำปาง (ส่วนขยาย) ครั้งที่ 1 ซึ่งบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย (ลำปาง) จำกัด จัดขึ้น ณ ที่ทำการผู้ใหญ่บ้านสามัคคี หมู่ 5 ต.บ้านสา มีนายมงคล สุกใส ปลัดจังหวัด และนายสันติ นฤมิตร นายอำเภอแจ้ห่ม ร่วมการประชุมด้วย
ทั้งนี้ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย (ลำปาง) จำกัด ได้มอบหมายให้ผู้ชำนาญการสิ่งแวดล้อม และนักวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม จากบริษัท คอนซัลแทนท์ ออฟ เทคโนโลยี จำกัด ซึ่งเป็นผู้ทำการศึกษา รวบรวมผลกระทบทุกด้าน ชี้แจงต่อประชาชนรอบโครงการที่เข้าร่วมเวทีกว่า 500 คนได้ทราบ โดยหมู่บ้านที่อยู่ใกล้โครงการมากที่สุด ได้แก่ บ้านสำเภาทอง รัศมีประมาณ 3 กิโลเมตร และบ้านสามัคคี ต.บ้านสา รัศมี 5 กิโลเมตร
นายเฉลิมพันธุ์ ทรัพย์นิมิตร นักวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม กล่าวถึงรายละเอียดการศึกษาว่า โครงการที่จะมีการสร้างส่วนขยายโรงงานผลิตปูนซีเมนต์เพิ่ม 3 ส่วน ได้แก่ 1. ส่วนติดตั้งหน่วยบดปูนเม็ด 2. ปรับปรุงระบบบรรจุปูนซีเมนต์ และ 3. เพิ่มหน่วยผลิตปูนซีเมนต์ผสมสำเร็จรูป (มอร์ตาร์) ซึ่งจะทำให้มีกำลังการผลิตปูนเม็ดจากเดิม 5,500 ตันต่อวัน เป็น 6,500 ตันต่อวัน แต่จะไม่กระทบต่อหมู่บ้านที่อยู่โดยรอบ ไม่ว่าจะเป็นฝุ่น เสียง หรือก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซค์ และก๊าซไนโตรเจนไดออกไซค์ ทุกขั้นตอนจะอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานทุกด้าน
ส่วนการใช้ไฟฟ้าจะรับไฟจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) โดยตรง ไม่ได้ใช้สายไฟเส้นเดียวกับที่ส่งให้ชาวบ้าน ซึ่งจะไม่ส่งผลกระทบต่อการใช้ไฟของประชาชนในพื้นที่
ขณะที่ข้อห่วงใยในโครงการโรงงานปูนซิเมนต์ลำปาง (ส่วนขยาย) ที่เกี่ยวกับกากของเสีย จะมีการจัดการอย่างเป็นระบบ และมีประสิทธิภาพ โดยจะนำไปเผาไม่เหลือสิ่งตกค้าง และไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ส่วนกากของเสียใดที่สามารถนำมาทำปุ๋ยหมักชีวภาพได้ก็จะนำมาดำเนินการ
นายสุธี สุธนรักษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย (ลำปาง) จำกัด กล่าวว่า โรงงานปูนซิเมนต์ลำปางแห่งนี้มีเนื้อที่ 597 ไร่ ตั้งอยู่ใน ต.บ้านสา ห่างจากตัวเมืองลำปาง 30 กิโลเมตร เป็นโรงงานในประเทศแห่งที่ 5 ของเครือซิเมนต์ไทย โดยเริ่มก่อตั้งเมื่อปี 2537 แต่เริ่มการผลิตในปี 2539 ด้วยหม้อเผา 1 หม้อ เพื่อตอบสนองนโยบายของภาครัฐ ในการขยายการผลิตภาคอุตสาหกรรมไปยังส่วนภูมิภาค โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือ
ปัจจุบันโรงงานปูนซิเมนต์ลำปางมีกำลังการผลิตปูนเม็ด 5,500 ตันต่อวัน ปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ 735,000 ตันต่อปี และปูนซีเมนต์ผสม 1,365,000 ตันต่อปี ถือว่าเป็นกำลังการผลิตสูงสุด และเมื่อมีการขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 6,500 ตันต่อวันจะทำให้สามารถผลิตปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ 1,831,000 ตันต่อปี ส่วนปูนซีเมนต์ผสมจะผลิตลดลงเหลือ 1,075,000 ตันต่อปี โดยปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ที่ผลิตได้ 1,681,000 ตันต่อปีจะนำไปจำหน่ายทันที ส่วนที่เหลืออีก 150,000 ตันจะนำไปผลิตเป็นปูนซีเมนต์สำเร็จรูปมอร์ตาร์ หรือปูนซีเมนต์ผสมสำเร็จรูป 1,000,000 ตันต่อปี
ขณะที่ชาวบ้านที่เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ได้แสดงความคิดเห็นหลากหลาย โดยเฉพาะผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ขอให้มีการควบคุม และป้องกันให้ดีเพื่อไม่ให้กระทบต่อหมู่บ้าน และบ้านเรือนที่ตั้งอยู่โดยรอบ พร้อมกับขอให้บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย (ลำปาง) จำกัด ดูแลในเรื่องรถบรรทุกพ่วงที่ใช้เส้นทางสัญจรบนถนนลำปาง-แจ้ห่ม ซึ่งมักเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง ซึ่งหากโครงการขยายเกิดขึ้นอาจจะทำให้รถบรรทุกพ่วงที่ขนวัตถุดิบ และลำเลียงปูนซีเมนต์เข้า-ออกมีเพิ่มมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ยังมีชาวบ้านบางส่วนกังวลว่า การขยายการผลิตของปูนซิเมนต์ไทยอาจจะกระทบต่อทรายที่จะนำเข้าสู่กระบวนการผลิตปูนซีเมนต์ ซึ่งจากข้อมูลปัจจุบันโรงงานผลิตปูนซีเมนต์ใช้ทราย 86,568 ตันต่อปี แต่ต่อไปจะต้องใช้มากถึง 189,091 ตันต่อปี
อย่างไรก็ตาม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย (ลำปาง) จำกัด ได้ให้ความมั่นใจแก่ชาวบ้านว่า ระบบควบคุมในโครงการส่วนขยายนี้จะไม่กระทบต่อหมู่บ้านและบ้านเรือนราษฎรอย่างแน่นอน จะไม่ก่อปัญหาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะในเรื่องทรายนั้น ทางโรงงานผลิตปูนซีเมนต์สำเร็จรูปมอร์ตาร์ หรือปูนซีเมนต์ผสมสำเร็จรูป จะทำให้การก่อสร้างลดการใช้ทรายลงได้มาก ซึ่งเป็นการเฉลี่ยปริมาณการใช้ทรายในพื้นที่ไปได้ด้วย