00 ไม่อยากจะพูดว่าการประชุมสภาเพื่อพิจารณาร่างงบประมาณปี 57 จำนวนกว่า 2.5 ล้านล้าน บาทดูแล้วยังไงมันก็เสียเวลาเปล่า เปลืองน้ำเปลืองไฟ แถมยังปล่อยให้พวก รมต.และสส.ได้โชว์ความถ่อย แสดงความด้อยสติปัญญาให้ชาวบ้านได้หมดศรัทธาลงไปอีก ที่สำคัญต่อให้อภิปรายซักฟอกอย่างไร มีหลักฐานข้อมูลหักล้างดีแค่ไหนก็ไม่มีผล เพราะฝ่ายรัฐบาลที่กดปุ่มมาล่วงหน้าให้หลับหูหลับตายกมือผ่านสะดวก ถึงได้บอกว่า ระบอบประชาธิปไตยที่อ้างกันในวันนี้มันพึ่งพาไม่ได้แล้ว สภาไม่ใช่เป็นหนึ่งในอำนาจอธิปไตยที่คอยถ่วงดุลฝ่ายบริหาร ตามระบอบการแบ่งแยกอำนาจ แต่สภาเป็น “ลูกน้อง” ของฝ่ายบริหาร ประธานสภาคนปัจจุบันที่ชื่อ สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ก็เป็นลูกน้อง นายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แต่ถึงอย่างไรทั้งคู่ก็เป็น “หุ่นเชิด” ให้คนที่ทุจริตคอรัปชั่นอย่าง ทักษิณ ชินวัตร ชักใยอย่างเต็มใจ นี่มันอะไรกันบ้านเมืองนี้ นี่คือประชาธิปไตยอย่างนั้นหรือ
00 ยิ่งได้ฟัง กิตติรัตน์ ณ ระนอง รมว.คลัง ที่เป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ส่งสัญญาณกันแบบหน้าด้านๆให้ชาวบ้านเตรียมทำใจกับ “ค่าครองชีพสูง-ของแพง” อ้างว่านี่เป็นกลไกตามระบบปกติ และข้าวของทุกอย่างที่แพงอย่างที่ว่านั้นถือว่าเป็นแนวทางการปฏิบัติของรัฐบาลที่เน้นเรื่อง “นโยบายเศรษฐกิจแบบมหภาค” เน้นการ “ขับเคลื่อนในภาพใหญ่” ความหมายก็คือใช้แบบ “ทุนใหญ่” และการ “กระตุ้นการจับจ่าย”อย่างเต็มที่ ดังที่เกิดขึ้นจากนโยบายประชานิยมสารพัด อย่างไรก็ดีสิ่งที่ “เสี่ยโต้ง” ไม่ได้อธิบายให้ชัดก็คือ สิ่งที่โตควบคู่กันมาก็คือ “หนี้ภาคครัวเรือน” ที่โตพุ่งกระฉูด อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน และที่น่าจับตาก็คือ เรากำลังก้าวสู่ยุค “ทุนสามานย์” เต็มตัวแล้ว ความพอเพียง พอดีตัว ใช้จ่ายตามกำลังเริ่มลดน้อยถอยลงไปแทบจะไม่มีเหลือแล้ว ต่อไปจะกลายเป็นระบบทุนใหญ่ครอบงำทุนเล็ก และในที่สุดชาวบ้านที่ไม่มีกำลังจะตกเป็นเหยื่อ แต่เมื่อเกิดปัญหาเกินเยียวยา คนพวกนี้ได้ “สะบัดก้น”ไปไกลลิบแล้ว ทุด !!
00 หากใครไม่เชื่อก็ลองถามตัวเองดูสิว่านอกจากเรื่อง “ไข่แพง” ที่กำลังเฉ่งกันในเวลานี้แล้ว สินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นในชีวิตประจำวันแพงขึ้นกว่าเดิมหรือเปล่า อาหารที่กินเข้าไปทุกมื้อหากต้องซื้อกินหากราคาเท่าเดิมนั่นก็หมายความว่า “ปริมาณลดลง” ต่อไปเมื่อ ราคาก๊าซหุงต้มที่ “พณหัวเจ้าทั่น”บอกว่าต้องสะท้อนต้นทุนจริงก็จะขึ้นราคาใหม่อีกไม่นาน ขณะเดียวกันกำลังจะเพิ่มการเก็บภาษีน้ำมันดีเซลเพิ่มอีกลิตรละ 1.50 บาท ซึงแม้จะพยายามอ้างว่ายังตรึงราคาไม่ให้เกินลิตรละ 30 บาทก็ตาม แต่รู้หรือเปล่าเมื่อวานนี้(30 พค.) เชลล์ได้ปรับขึ้นราคาน้ำมันทุกชนิดไปแล้ว และดีเซลพุ่งไปแตะลิตรละ 30.49 บาท เมื่อเป็นแบบนี้ “เสี่ยเพ้ง” พงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล จะว่าไง ละ
00 กำลังย้ำให้เห็นว่า คนอย่าง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง นั้นถ้าดูตามประวัติแล้ว ก็ต้องบอกว่า “เข้าแก๊งไหนหัวหน้าตายหมด” ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น ที่ผ่านมาก็เป็นแบบนั้นจริงๆ ไล่มาตั้งแต่ยุค “น้าชาติ” พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ และมาถึงตอนนี้ก็กำลังจะพา “แม้ว” กับ “ปู” ลงเหว เรื่องแรกจากความล้มเหลว เป็นตัวถ่วงในปัญหาชายแดนใต้ ถัดมาก็เป็นเรื่องกม. “สุดซอย” ล้างผิด-คืนเงิน ส่วนจะด้วยเหตุผล “ซ่อนเร้น” ส่วนตัวแบบหวังดีประสงค์ร้ายไม่ต้องการให้ แม้วกลับบ้านอย่างที่คิดกันหรือไม่ ไม่รู้ รู้แต่ว่า การเสนอเริ่องดังกล่าวเข้ามานอกจากทำให้ชาวบ้านทั่วไป “เพิ่มความเกลียด” มากขึ้นแล้ว ยังทำให้ในหมู่คนเสื้อแดงด้วยกันเอง ถึงกับพูดไม่ออก ไปไม่เป็น เพราะนี่คือการ “ต้มแดง” กันครั้งใหญ่
00 ล่าสุดหันมาใช้อำนาจบาตรใหญ่ “ขู่ปลดผู้ว่าฯ” หากสกัดสารพัดม็อบจากต่างจังหวัดเข้ากรุงไม่อยู่ แทนที่จะชะโงกดูเงาตัวเอง ไม่ดูถึงสาเหตุว่าทำไมชาวบ้านเขาถึงได้เดือดร้อน ถึงได้ก่อม็อบยกขบวนมาเรียกร้องรัฐบาล คิดว่าพวกเขาสนุกนักหรือกับการตากแดดตากฝน ไม่เหมือนบางคนที่วันๆกระดกแต่ไวน์แก้ปัญหาชาวบ้านด้วยปาก ลองยกตัวอย่างมาสักเรื่องสิว่าผลงานของตัวเองที่ทำเพื่อชาวบ้าน เพื่อประโยชน์ของคนส่วนใหญ่มีอะไรบ้าง นอกจากทำเพื่อแม้ว และทำเพื่อความก้าวหน้าของ “ดวง อยู่บำรุง” ลูกชายของตัวเอง เห็นว่ากำลังดันหน้าเขียวหน้าแดงจ่อขึ้นเป็น “สารวัตร” แล้วไม่ใช่หรือ !!
00 ยิ่งได้ฟัง กิตติรัตน์ ณ ระนอง รมว.คลัง ที่เป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ส่งสัญญาณกันแบบหน้าด้านๆให้ชาวบ้านเตรียมทำใจกับ “ค่าครองชีพสูง-ของแพง” อ้างว่านี่เป็นกลไกตามระบบปกติ และข้าวของทุกอย่างที่แพงอย่างที่ว่านั้นถือว่าเป็นแนวทางการปฏิบัติของรัฐบาลที่เน้นเรื่อง “นโยบายเศรษฐกิจแบบมหภาค” เน้นการ “ขับเคลื่อนในภาพใหญ่” ความหมายก็คือใช้แบบ “ทุนใหญ่” และการ “กระตุ้นการจับจ่าย”อย่างเต็มที่ ดังที่เกิดขึ้นจากนโยบายประชานิยมสารพัด อย่างไรก็ดีสิ่งที่ “เสี่ยโต้ง” ไม่ได้อธิบายให้ชัดก็คือ สิ่งที่โตควบคู่กันมาก็คือ “หนี้ภาคครัวเรือน” ที่โตพุ่งกระฉูด อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน และที่น่าจับตาก็คือ เรากำลังก้าวสู่ยุค “ทุนสามานย์” เต็มตัวแล้ว ความพอเพียง พอดีตัว ใช้จ่ายตามกำลังเริ่มลดน้อยถอยลงไปแทบจะไม่มีเหลือแล้ว ต่อไปจะกลายเป็นระบบทุนใหญ่ครอบงำทุนเล็ก และในที่สุดชาวบ้านที่ไม่มีกำลังจะตกเป็นเหยื่อ แต่เมื่อเกิดปัญหาเกินเยียวยา คนพวกนี้ได้ “สะบัดก้น”ไปไกลลิบแล้ว ทุด !!
00 หากใครไม่เชื่อก็ลองถามตัวเองดูสิว่านอกจากเรื่อง “ไข่แพง” ที่กำลังเฉ่งกันในเวลานี้แล้ว สินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นในชีวิตประจำวันแพงขึ้นกว่าเดิมหรือเปล่า อาหารที่กินเข้าไปทุกมื้อหากต้องซื้อกินหากราคาเท่าเดิมนั่นก็หมายความว่า “ปริมาณลดลง” ต่อไปเมื่อ ราคาก๊าซหุงต้มที่ “พณหัวเจ้าทั่น”บอกว่าต้องสะท้อนต้นทุนจริงก็จะขึ้นราคาใหม่อีกไม่นาน ขณะเดียวกันกำลังจะเพิ่มการเก็บภาษีน้ำมันดีเซลเพิ่มอีกลิตรละ 1.50 บาท ซึงแม้จะพยายามอ้างว่ายังตรึงราคาไม่ให้เกินลิตรละ 30 บาทก็ตาม แต่รู้หรือเปล่าเมื่อวานนี้(30 พค.) เชลล์ได้ปรับขึ้นราคาน้ำมันทุกชนิดไปแล้ว และดีเซลพุ่งไปแตะลิตรละ 30.49 บาท เมื่อเป็นแบบนี้ “เสี่ยเพ้ง” พงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล จะว่าไง ละ
00 กำลังย้ำให้เห็นว่า คนอย่าง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง นั้นถ้าดูตามประวัติแล้ว ก็ต้องบอกว่า “เข้าแก๊งไหนหัวหน้าตายหมด” ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น ที่ผ่านมาก็เป็นแบบนั้นจริงๆ ไล่มาตั้งแต่ยุค “น้าชาติ” พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ และมาถึงตอนนี้ก็กำลังจะพา “แม้ว” กับ “ปู” ลงเหว เรื่องแรกจากความล้มเหลว เป็นตัวถ่วงในปัญหาชายแดนใต้ ถัดมาก็เป็นเรื่องกม. “สุดซอย” ล้างผิด-คืนเงิน ส่วนจะด้วยเหตุผล “ซ่อนเร้น” ส่วนตัวแบบหวังดีประสงค์ร้ายไม่ต้องการให้ แม้วกลับบ้านอย่างที่คิดกันหรือไม่ ไม่รู้ รู้แต่ว่า การเสนอเริ่องดังกล่าวเข้ามานอกจากทำให้ชาวบ้านทั่วไป “เพิ่มความเกลียด” มากขึ้นแล้ว ยังทำให้ในหมู่คนเสื้อแดงด้วยกันเอง ถึงกับพูดไม่ออก ไปไม่เป็น เพราะนี่คือการ “ต้มแดง” กันครั้งใหญ่
00 ล่าสุดหันมาใช้อำนาจบาตรใหญ่ “ขู่ปลดผู้ว่าฯ” หากสกัดสารพัดม็อบจากต่างจังหวัดเข้ากรุงไม่อยู่ แทนที่จะชะโงกดูเงาตัวเอง ไม่ดูถึงสาเหตุว่าทำไมชาวบ้านเขาถึงได้เดือดร้อน ถึงได้ก่อม็อบยกขบวนมาเรียกร้องรัฐบาล คิดว่าพวกเขาสนุกนักหรือกับการตากแดดตากฝน ไม่เหมือนบางคนที่วันๆกระดกแต่ไวน์แก้ปัญหาชาวบ้านด้วยปาก ลองยกตัวอย่างมาสักเรื่องสิว่าผลงานของตัวเองที่ทำเพื่อชาวบ้าน เพื่อประโยชน์ของคนส่วนใหญ่มีอะไรบ้าง นอกจากทำเพื่อแม้ว และทำเพื่อความก้าวหน้าของ “ดวง อยู่บำรุง” ลูกชายของตัวเอง เห็นว่ากำลังดันหน้าเขียวหน้าแดงจ่อขึ้นเป็น “สารวัตร” แล้วไม่ใช่หรือ !!