00 เริ่มสาละวนหัวหมุนจนแทบหน้ามืดกันแล้วสำหรับ "เหลี่ยมจัด" ทักษิณ ชินวัตร ว่าจะหาทาง "ต้มแดง" และคนทั้งประเทศอย่างไรให้เนียนที่สุด หรือให้ออกมาประเภทที่"ผลสำเร็จ"เรียบร้อยแล้วถึงจะรู้ หรือไม่รู้อะไรประมาณนั้นแหละ สำหรับการหาทาง "ตบตา" เรื่องการดันกม.ล้างผิดให้ตัวเอง แต่ปัญหาก็คือ ในเมื่อกม.มันเอ่ยชื่อตรงๆไม่ได้ว่าให้ "ลบล้างความผิดทักษิณ" ก็เลยต้องเขียนให้คลุมๆให้คนอื่น "หลุด"ไปด้วย แต่ทีนี้ปัญหาก็คือ "พวกเสื้อแดง" มันจะทำอย่างไร หรือแม้วมันคิดว่าพวกนี้เป็นแค่ "ขี้ข้า" ใช้เงินหลวง ให้ตำแหน่งฟาดหัวกับพวกญาติที่พอมีปากเสียงให้หุบปากได้ ทุกอย่างก็จบ
00 อย่าได้แปลกใจที่เวลานี้คนที่มีอาการดี๊ด๊าอีกครั้งก็เห็นจะเป็น เฉลิม อยู่บำรุง ที่รับอาสาดัน"กม.สุดซอย" เข้าสภา เพราะแอบเตี๊ยมกันภายในรู้กันไม่กี่คน นอกจากแม้วแล้ว ก็ต้องมี "ค้อนปลอม" สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ เจริญ จรรย์โกมล รองประธานสภาฯ เจ้าของปาหี่ปรองดองก่อนหน้านี้ให้รับรู้ แต่ไม่ต้องพล่ามมาก ใครมีหน้าที่แบบไหนก็ทำไป มีหน้าที่ดันก็ดันไป มีหน้าที่บรรจุเข้าระเบียบวาระก็รวบรัด ลัดคิวขึ้นมาจ่อเอาไว้ก่อน ทำให้เวลานี้ทั้งสองร่าง คือ ร่างสุดซอย และร่างนิรโทษฯ ของพวกเสื้อแดงที่จัดฉากโดย วรชัย เหมะ ที่แม้ว่า "ไปไม่สุดซอย" แต่ก็ถือว่านำเข้าไปล่อเป้า ตบตาอำพรางไปก่อนก็แล้วกัน
00 ส่วนเรื่องเร่งด่วนเฉพาะหน้าการแก้ไขรธน. ที่ความหวังอยู่ที่ศาลรธน.ว่าจะสามารถยับยั้งให้การ "ชำเรา" ต้องหยุดชั่วคราวก่อนหรือไม่ ด้วยการออกมาตรการคุ้มครองฉุกเฉิน ให้การแก้ไขมาตรา 68 ของพวก "ไข่แม้ว"ในสภา ต้องชะงัก รอการวินิจฉัยชี้ขาดจากศาลฯลงมาก่อน และงานนี้ถ้าไม่มองแบบเข้าข้างตัวเองก็ต้องบอกว่ามัน "มีลุ้นสูง" เพราะหากพิจารณาจากหลักฐาน และข้อมูลเพิ่มเติมที่ตัวแทนพันธมิตรฯ นำไปยื่นให้ศาลฯพิจารณาก็ต้องบอกว่าใช่เลย มีเจตนาล้มล้างการปกครองฯ และตัดสิทธิ์ประชาชนตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญชัดเจนมาก !!
00 แน่นอนว่าแรงระเบิดที่ปากซอยรามคำแหง 43/1 ย่อมส่งผลสะเทือนไปถึงตึกไทยคู่ฟ้า ที่นั่งทำงานของนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่นับวันจะต้องตอบคำถามให้มากขึ้นกว่าเดิม ประเภทที่ว่าได้สั่งให้ตำรวจดูแล คนนั้นคนนี้ดูแล หัดหาคำอื่นมาพูดซะบ้าง มามุขเดิมๆ มันน่าเบื่อ น่ารำคาญรู้มั๊ย ขณะเดียวกันแม้ว่าจะพยายามชี้นำให้เห็นว่าเหตุระเบิดดังกล่าวเป็นเรื่องเด็กๆแม้ค้าทะเลาะกัน ไม่เกี่ยวกับชายแดนใต้ แต่งานนี้เมื่อดูจากเป้าหมายย่านชุมชน นี่มันเป็น"ระเบิดการเมือง"เขย่ารัฐบาลซ้ำเติมมาทุกยุคนั่นแหละ และเมื่อเกิดเหตุแบบนี้ทุกครั้งก็เป็นสัญญาณให้เห็นว่า "ใกล้พัง"แล้ว
00 มาอีกแล้วครับทั่น ล่าสุดรัฐบาลโดย รมว.คลัง กิตติรัตน์ ณ ระนอง เจ้าเก่า ก็ใช้วิธีลดภาษีสรรพสามิตไม่เกิน 1แสนบาทให้กับชาวบ้านที่รถยนต์ถูกน้ำท่วมเมื่อปลายปี 54 หากต้องการซื้อรถใหม่ โดยให้ส่วนลดเท่ากับนโยบายรถคันแรก ซึ่งแน่นอนว่าหากมองในแง่ดีก็เป็นการช่วยเหลือชาวบ้านที่ต้องการเปลี่ยนรถคันใหม่หลังจากได้รับความเสียหาย แต่ถ้ามองอีกมุมหนึ่งก็มองได้ว่านี่คือการ กระตุ้นยอดขายรถยนต์ กระตุ้นการใช้จ่ายอีกรอบหลังจากโครงการรถคันแรกเอาเข้าจริง"เริ่มหัวทิ่ม" เพราะเริ่มมีการทิ้งใบจอง ยืดการรับรถออกไป หรือพวกที่ซื้อไปแล้วก็ทำท่าผ่อนไม่ไหว ขณะเดียวกันที่หวังว่ากระตุ้นการใช้จ่ายก็ทำท่าไปไม่ไหว เพราะเมื่อนำเงินไปผ่อนค่างวดรายเดือนแล้วยังต้องมีค่าน้้ำมัน ค่าทางด่วน ค่าจอดจิปาถะ ไม่มีเงินเหลือใช้จ่ายอื่นๆ ต้องอยู่นิ่งๆกับบ้าน ไม่มีเงินเดินห้างหรือซื้อของ กินแต่บะหมี่สำเร็จรูป ทุกอย่างทำท่าผิดคาด ขนาดสภาพัฒน์ฯยังต้องลดเป้าตัวเลขจีดีพีลงมาเลย ก็ได้แต่เอาใจช่วยนายกฯปู ให้ทำสำเร็จก็แล้วกัน แต่ดูจากแนวโน้มแล้วน่าจะใกล้โคม่าเต็มทีแล้ว !!
00 อย่าได้แปลกใจที่เวลานี้คนที่มีอาการดี๊ด๊าอีกครั้งก็เห็นจะเป็น เฉลิม อยู่บำรุง ที่รับอาสาดัน"กม.สุดซอย" เข้าสภา เพราะแอบเตี๊ยมกันภายในรู้กันไม่กี่คน นอกจากแม้วแล้ว ก็ต้องมี "ค้อนปลอม" สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ เจริญ จรรย์โกมล รองประธานสภาฯ เจ้าของปาหี่ปรองดองก่อนหน้านี้ให้รับรู้ แต่ไม่ต้องพล่ามมาก ใครมีหน้าที่แบบไหนก็ทำไป มีหน้าที่ดันก็ดันไป มีหน้าที่บรรจุเข้าระเบียบวาระก็รวบรัด ลัดคิวขึ้นมาจ่อเอาไว้ก่อน ทำให้เวลานี้ทั้งสองร่าง คือ ร่างสุดซอย และร่างนิรโทษฯ ของพวกเสื้อแดงที่จัดฉากโดย วรชัย เหมะ ที่แม้ว่า "ไปไม่สุดซอย" แต่ก็ถือว่านำเข้าไปล่อเป้า ตบตาอำพรางไปก่อนก็แล้วกัน
00 ส่วนเรื่องเร่งด่วนเฉพาะหน้าการแก้ไขรธน. ที่ความหวังอยู่ที่ศาลรธน.ว่าจะสามารถยับยั้งให้การ "ชำเรา" ต้องหยุดชั่วคราวก่อนหรือไม่ ด้วยการออกมาตรการคุ้มครองฉุกเฉิน ให้การแก้ไขมาตรา 68 ของพวก "ไข่แม้ว"ในสภา ต้องชะงัก รอการวินิจฉัยชี้ขาดจากศาลฯลงมาก่อน และงานนี้ถ้าไม่มองแบบเข้าข้างตัวเองก็ต้องบอกว่ามัน "มีลุ้นสูง" เพราะหากพิจารณาจากหลักฐาน และข้อมูลเพิ่มเติมที่ตัวแทนพันธมิตรฯ นำไปยื่นให้ศาลฯพิจารณาก็ต้องบอกว่าใช่เลย มีเจตนาล้มล้างการปกครองฯ และตัดสิทธิ์ประชาชนตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญชัดเจนมาก !!
00 แน่นอนว่าแรงระเบิดที่ปากซอยรามคำแหง 43/1 ย่อมส่งผลสะเทือนไปถึงตึกไทยคู่ฟ้า ที่นั่งทำงานของนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่นับวันจะต้องตอบคำถามให้มากขึ้นกว่าเดิม ประเภทที่ว่าได้สั่งให้ตำรวจดูแล คนนั้นคนนี้ดูแล หัดหาคำอื่นมาพูดซะบ้าง มามุขเดิมๆ มันน่าเบื่อ น่ารำคาญรู้มั๊ย ขณะเดียวกันแม้ว่าจะพยายามชี้นำให้เห็นว่าเหตุระเบิดดังกล่าวเป็นเรื่องเด็กๆแม้ค้าทะเลาะกัน ไม่เกี่ยวกับชายแดนใต้ แต่งานนี้เมื่อดูจากเป้าหมายย่านชุมชน นี่มันเป็น"ระเบิดการเมือง"เขย่ารัฐบาลซ้ำเติมมาทุกยุคนั่นแหละ และเมื่อเกิดเหตุแบบนี้ทุกครั้งก็เป็นสัญญาณให้เห็นว่า "ใกล้พัง"แล้ว
00 มาอีกแล้วครับทั่น ล่าสุดรัฐบาลโดย รมว.คลัง กิตติรัตน์ ณ ระนอง เจ้าเก่า ก็ใช้วิธีลดภาษีสรรพสามิตไม่เกิน 1แสนบาทให้กับชาวบ้านที่รถยนต์ถูกน้ำท่วมเมื่อปลายปี 54 หากต้องการซื้อรถใหม่ โดยให้ส่วนลดเท่ากับนโยบายรถคันแรก ซึ่งแน่นอนว่าหากมองในแง่ดีก็เป็นการช่วยเหลือชาวบ้านที่ต้องการเปลี่ยนรถคันใหม่หลังจากได้รับความเสียหาย แต่ถ้ามองอีกมุมหนึ่งก็มองได้ว่านี่คือการ กระตุ้นยอดขายรถยนต์ กระตุ้นการใช้จ่ายอีกรอบหลังจากโครงการรถคันแรกเอาเข้าจริง"เริ่มหัวทิ่ม" เพราะเริ่มมีการทิ้งใบจอง ยืดการรับรถออกไป หรือพวกที่ซื้อไปแล้วก็ทำท่าผ่อนไม่ไหว ขณะเดียวกันที่หวังว่ากระตุ้นการใช้จ่ายก็ทำท่าไปไม่ไหว เพราะเมื่อนำเงินไปผ่อนค่างวดรายเดือนแล้วยังต้องมีค่าน้้ำมัน ค่าทางด่วน ค่าจอดจิปาถะ ไม่มีเงินเหลือใช้จ่ายอื่นๆ ต้องอยู่นิ่งๆกับบ้าน ไม่มีเงินเดินห้างหรือซื้อของ กินแต่บะหมี่สำเร็จรูป ทุกอย่างทำท่าผิดคาด ขนาดสภาพัฒน์ฯยังต้องลดเป้าตัวเลขจีดีพีลงมาเลย ก็ได้แต่เอาใจช่วยนายกฯปู ให้ทำสำเร็จก็แล้วกัน แต่ดูจากแนวโน้มแล้วน่าจะใกล้โคม่าเต็มทีแล้ว !!