xs
xsm
sm
md
lg

โจรใต้ยิงชาวบ้านอีก4ศพ สมช.เดินหน้าเจรจาBRN

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ยังคงเกิดขึ้นต่อเนื่องแบบรายวัน โดยเมื่อวานนี้ (26 พ.ค.56) พ.ต.ต.สุเทพ จันทร์สีดำ สารวัตรหัวหน้า สภ.ราตาปันยัน อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี ได้รับแจ้งเหตุยิงกันบนถนนทางหลวงชนบทสายภูมี-ม่วงหวาน บริเวณหน้าโรงเรียนบ้านมูหลง ม.2 ต.ราตาปันยัง มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส เจ้าหน้าที่จึงนำส่งโรงพยาบาลอำเภอยะหริ่ง คือ นายอาหมัด นิโอ๊ะ อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 85/2 บ้านยาว ต.ราตาปันยัง อ.เมืองปัตตานี โดยก่อนเกิดเหตุนายอาหมัด ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อซูซูกิรุ่นแสม๊ธ หมายเลขทะเบียน กกร 244 ปัตตานี ออกจากบ้านพร้อมด้วยลิง เพื่อนำไปรับจ้างเก็บลูกมะพร้าวในสวน ในระหว่างทางเมื่อมาถึงที่เกิดเหตุได้มีคนร้ายใช้รถจักรยานยนต์รุ่นสก๊อปปี้สีแดง 1 คนไล่ตามประกบยิงด้วยอาวุธปืนพกสั้นไม่ทราบขนาด 3 นัด กระสุนเข้าถูกบริเวณหัวไหล่ทะลุหน้าอก 1 นัด อาการสาหัสทำให้รถเสียหลักล้มข้างทาง
ส่วนเมื่อช่วงคืนวันที่ 25 พ.ค.ผ่านมา ในพื้นที่ อ.ยะรัง ได้เกิดเหตุคนร้ายยิงชาวบ้าน 2 ราย เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 1 ราย คือ เวลา 20.00 น. คนร้ายยิงมะห์มูด จูแซ อายุ อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 13/19 ม.3 ต.ประจัน อ.ยะรัง จ.ปัตตานี บาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดที่บ้านบือแนกือบง ม.3 ต.ยะรัง อ.ยะรัง เวลา 20.15 น.คนร้ายยิงนายอาแด มามะ อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 68/4 ม.5 ต..ปะแต อ.ยะหา จ.ยะลา เสียชีวิตอีก 1 รายเหตุเกิดที่สะพานกาแลซือนอ ม.3 ต.คลองใหม่ อ.ยะรัง โดยก่อนเกิดเหตุขณะที่ผู้ตายกำลังขับรถยนต์กระบะมาสด้า สีเขียว ทะเบียน บต 9004 ปัตตานี มาจาก อ.ยะรัง โดยใช้เส้นทางเลียบแม่น้ำปัตตานีมุ่งหน้า อ.หนองจิก เมื่อถึงที่เกิดเหตุมีคนร้าย 2 คนใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะตามประกบยิงจนเป็นเหตุให้เสียชีวิต
ส่วนที่ จ.นราธิวาส เวลา 08.00 น.วานนี้ ร.ต.ท.มนตรี จันทร์เมือง ร้อยเวร สภ.รือเสาะ ได้รับแจ้งมีเหตุคนถูกยิงในสวนยางพาราบนเทือกเขาหลังหมู่บ้านกูยิ ม.4 ต.ลาโล๊ะ จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.อโณทัย จินดามณี ผกก.สภ.รือเสาะ และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารจำนวนหนึ่งรุดเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบศพนางตีเม๊าะ เปาะมะ อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 227 บ้านยะบะ ม.2 ต.รือเสาะ อ.รือเสาะ นอนเสียชีวิตในสวนยาง มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาดที่บริเวณหน้าอกขวา 1 นัด ในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ไม่สามารถตรวจสอบพบหลักฐานใดๆของคนร้าย โดยเจ้าหน้าที่ได้นำศพผู้เสียชีวิตส่งโรงพยาบาลรือเสาะ เพื่อให้แพทย์ทำการชันสูตรพลิกศพอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนที่จะมอบให้ญาติรับศพไปประกอบพิธีทางศาสนา
สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายได้ขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านพัก เพื่อเดินทางไปกรีดยางเป็นกิจวัตรประจำวัน ถึงที่เกิดเหตุได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนแฝงตัวอยู่ในป่าสวนยางพารา เมื่อเห็นผู้ตายขี่รถจักรยานยนต์ผ่านเข้ามา จึงได้ใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาดยิงใส่ผู้ตาย 1 นัด จนรถเสียหลักล้มคว่ำ แล้วคนร้ายได้หลบหนีไป ส่วนสาเหตุเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นการกระทำของกลุ่มผู้ไม่หวังดี เพื่อสร้างสถานการณ์ร้ายรายวัน เนื่องจากผู้ตายและครอบครัวไม่เคยมีเรื่องบากหมางกับผู้ใด

**เลขาฯ สมช.พบปะผู้นำไทยพุทธยะลา
เวลา 09.30 น.วานนี้ (26 พ.ค.) ที่ห้องประชุมเทศบาลนครยะลา พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ผสมช.) พร้อม พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก รองปลัดกระทรวงกลาโหม พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) พล.ต.กิตติ อินทรสร รองแม่ทัพภาค 4 ได้ร่วมประชุมรับฟังความคิดเห็นการพูดคุยสันติภาพดับไฟใต้กับชุมชนไทยพุทธกว่า 20 ชุมชน ในพื้นที่เขตเทศบาลนครยะลา และรอบเขตเทศบาลนครยะลา
พล.ท.ภราดร เปิดเผยภายหลังว่า การพูดคุยร่วมกันครั้งนี้ต้องขอขอบคุณพี่น้องประชาชนชาวไทยพุทธ และชุมชนในพื้นที่ที่มีข้อเสนอแนะที่หลากหลาย ซึ่งรัฐบาลจะได้รับทราบปัญหาที่แท้จริงและแน่นอนจะต้องนำข้อเสนอแนะเหล่านี้ไปแก้ไขให้พี่น้องประชาชนชาวไทยพุทธอย่างเร่งด่วน เพราะเราถือว่าความเสมอภาค ความยุติธรรม นิติรัฐ นิติธรรม ต้องดำเนินการโดยเร็ว และเป็นธรรม
"ส่วนกรณีที่คนไทยพุทธยังห่วงเรื่องขณะที่มีการเจรจา แต่ยังมีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องนั้น ขณะนี้ไม่ถึงการเจรจาเป็นเรื่องของการสืบสภาพ รับทราบข้อเท็จจริง ความไว้วางใจ อยู่ในกระบวนการตรงนี้อยู่ และแน่นอนกระบวนการก็ต้องทำให้เข้มข้นขึ้น ยกระดับชิงความได้เปรียบในการพูดคุยกันต่อไป ซึ่งรัฐบาลโดยฝ่ายความมั่นคงไม่ได้ประมาท ได้จัดเตรียมการปฎิบัติการในทางยุทธการ การ รปภ. ชีวิต ทรัพย์สิน ของพี่น้องประชาชนเป็นหลักใหญ่ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ก็ยังต้องเสียสละอยู่ทุกวัน เจ้าหน้าที่ต้องป้องกันชีวิต ทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน แน่นอนผลกระทบก็จะต้องเกิดกับเจ้าหน้าที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ยินยอมพร้อมใจดำเนินการมาตรการเหล่านี้ให้สงบสุขให้ได้"
ส่วนวันที่ 13 มิ.ย.นี้ การพัฒนาการพูดคุยยังดำรงอยู่ เพราะจะเปลี่ยนแปลงหรือไม่นั้นต้องเห็นด้วยทั้งกระบวนการ ทั้งเจ้าหน้าที่รัฐไทย และมาเลเซียจะต้องไปสืบสภาพซึ่งกันและกันว่าที่เขายืนยันว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเขาสามารถจะสื่อสารพูดคุยเพื่อลดการก่อเหตุได้ และจะต้องเกิดความชัดเจนว่ากลุ่มไหน พวกไหนที่ก่อให้เกิดปัญหาจะได้มาแก้ไขกันต่อไป ส่วนล่าสุดที่ทางบีอาร์เอ็นยังแถลงผ่านยูทิวบ์อีกรอบนั้น เป็นข้อเรียกร้องเนื้อหา 5 ข้อเดิมที่ฝ่ายเขาต้องการคำตอบ แต่คำตอบที่สำคัญที่สุดของเรา คือการมารับฟังประชาชนก่อนว่า สิ่งที่เค้าพูดคุยเป็นปัญหาของประชาชนอย่างแท้จริงหรือไม่
"ซึ่งรัฐบาลก็ดำเนินการอยู่แล้ว ซึ่งข้อเรียกร้องเป้าหมายของบีอาร์เอ็นยังอยู่ภายใต้กรอบที่ต้องพูดคุยกัน รับฟังความคิดเห็นต่าง ยืนยันว่า อยู่ภายใต้กรอบรัฐธรรมนูญไทยที่จะตกลงร่วมกัน และไม่มีการแบ่งแยกดินแดน ซึ่งจนถึงขณะนี้ ทางฝ่ายบีอาร์เอ็นยังไม่ได้แจ้งอะไรมาเพิ่มเติม วันที่ 13 มิ.ย. นี้ ก็จะต้องพูดคุยในเรื่องลดเหตุความรุนแรงในพื้นที่ต่อไป ก็คงจะมีข้อเท็จจริงมากขึ้น และจะต้องมีคำตอบในระดับหนึ่ง"

**"ชวนนท์"บี้รัฐทบทวนเจรจาบีอาร์เอ็น
ด้านนายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า หลังจากที่ พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการ สมช.เปิดการเจรจากับแกนนำกลุ่มบีอาร์เอ็น ยิ่งทำให้ปัญหาความรุนแรงในภาคใต้เพิ่มมากขึ้น ทั้งจำนวนและความรุนแรง ตนอยากให้รัฐบาลทบทวนมาตรการการแก้ปัญหาใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะการเดินหน้าในสิ่งที่ทำอยู่นี้ ไม่สามารถเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ว่าจะทำให้การแก้ปัญหาดีขึ้น แต่กลับเกิดเหตุร้ายรายวัน
ที่สำคัญคือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย ไม่เคยออกมาพูดถึงเรื่องนี้เลย แสดงว่าปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ไม่มีฝ่ายการเมืองให้ความสนใจ มองว่าเป็นเรื่องปกติ ปล่อยให้ประชาชนอยู่ตามยถากรรม เป็นความเจ็บปวดของทหารและตำรวจ ดังนั้นถ้ารัฐบาลแก้ปัญหาอย่างผิดทิศ ก็อยากให้กลับมาพิจารณาใหม่
นายชวนนท์ กล่าวด้วยว่า ทุกวันนี้ทหารไม่ใช่เหยื่อของผู้ก่อการร้ายอย่างเดียว แต่เป็นเหยื่อของรัฐบาลด้วย เพราะจากการติดตามรายการของคนเสื้อแดง จะเห็นว่า มีการทำคลิปวีดีโอ ระบุว่า ทหารมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเผาห้างเซ็นทรัลเวิลด์ เป็นการกล่าวหาอย่างไม่เป็นธรรมจากคนกลุ่มเดียวกับรัฐบาล ทั้งๆ ที่กรณีการเผาเซ็นทรัลเวิลด์ เป็นเพียงแห่งเดียวใน 39 แห่ง ที่ถูกเผาใน กทม. สังคมต้องไม่ถูกคนเหล่านี้ชักจูงไปให้เกิดความสับสนจนเข้าใจผิดในสาระสำคัญ และยังมีการเผาศาลากลางจังหวัดอีก 4 แห่ง
"ทำไม พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่พูดถึงคนที่ถูกศาลตัดสินเผาศาลากลางไปแล้ว แต่ใช้การตลาดตื้นๆ ในเรื่องการให้เงินรางวัลหาคนเผาเซ็นทรัลเวิล์ด เพียงจุดเดียว ผมอยากทราบว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เคยช่วยเหลือคนเสื้อแดงที่เผาศาลากลางจนถูกตัดสินจำคุกหรือไม่ และเรื่องนี้ฝ่าย พ.ต.ท.ทักษิณ ควรเลิกเถียงได้แล้วว่า ไม่ได้อยู่เบื้องหลังเผาเมืองเพราะข้อมูลมีชัดเจน สังคมไทยอย่ายอมให้คนเหล่านี้มาบิดเบือนเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ชาติไทย”นายชวนนท์ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น