xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

“แซม” VS “อี้” ใครใหญ่ใครอยู่?

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์-เป็นที่ชัดแจ้ง 100 เปอร์เซ็นต์แล้วสำหรับพรรคเพื่อไทย(พท.)และพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) ในการส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานคร เขต 12 ดอนเมืองแทนอดีต ส.ส.จอมถีบ “เก่ง-การุณ โหสกุล” ที่ถูกศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งตัดสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี พร้อมให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) จัดให้มีการเลือกตั้งใหม่

พรรคประชาธิปัตย์มีมติชัดเจนเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2556 ว่าจะส่ง “อี้-แทนคุณ จิตต์อิสระ” ลงสมัคร

ขณะที่พรรคเพื่อไทยก็มีมติส่งอดีตพระเอกรูปหล่อที่ปัจจุบันเป็นส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ “แซม-ยุรนันท์ ภมรมนตรี” ลงรักษาฐานเสียงของตนเองที่เขตดอนเมืองเป็นที่เรียบร้อยแล้วเช่นกัน

และฉับพลันทันทีที่ปรากฏความชัดเจน ทั้งสองฝ่ายก็งัดวิชาก้นหีบเข้าห้ำ หั่นใส่กันอย่างไม่ยั้ง ชนิดที่เล่นเอาเสือป่าแมวเซาอ้าปากค้างร้องอู้หูกันเป็นทิวแถวทีเดียว

วิชาก้นหีบแรกที่ปรากฏต่อสายตาสาธารณชนก็คือ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2556 ในงานประชุมประชาคมโครงการเอสเอ็มแอล ชุมชุนนิเวศน์ชาวฟ้า เขตดอนเมือง ซึ่งจัดขึ้นที่โรงเรียนบริบูรณ์ศิลป์ศึกษา เขตดอนเมือง โดยทั้งสองฝ่ายต่างก็กล่าวหาและตอบโต้กันอย่างเมามันจนทำไปทำมากลายเป็นเรื่องดราม่าที่โจษจันกันไปทั้งเมือง

ทั้งนี้ นายแทนคุณยืนยันว่า ไม่ได้ไปป่วนในงานประชุมประชาคมโครงการเอสเอ็มแอล ชุมชนนิเวศน์ชาวฟ้า เขตดอนเมือง แต่มีคนเชิญให้ขึ้นไปพูดบนเวที ซึ่งก็ได้ใช้เวลาในการพูดคุยกับชาวบ้านราว 10 นาที เกี่ยวกับแนวคิดในการพัฒนาพื้นที่ก่อนที่จะลงจากเวทีและออกจากห้องไป จากนั้นมีชาวบ้านโทรศัพท์มาแจ้งให้กลับเข้าไปที่ห้องประชุม

“เมื่อกลับเข้าไปในห้องประชุม ก็เห็นนายการุณนั่งอยู่ข้างนางพิมพ์ชนา โหสกุล ภรรยา และ ส.ก.เขตดอนเมือง ผมจึงยกมือถือขึ้นมาถ่ายภาพ แต่เมื่อนายการุณเห็นก็ไปแย่งไมค์ลูกน้องตัวเองมาประกาศว่า ถ้างานนี้ยังมีผมอยู่การประชาคมจะไม่เกิดผล ทุกอย่างจะฟรีหมด จึงได้แย้งไปว่าไม่เกี่ยวกับผม เพราะสามารถทำได้เลย เนื่องจากเป็นภาษีของประชาชน นายการุณได้ปรี่เข้ามาชี้หน้าต่อว่าด้วยท่าทีคุกคาม จึงได้บอกไปว่า อย่าทำร้ายผม ไม่ใช่เรื่องดราม่า แต่ตอนนั้นรู้สึกว่าไม่ปลอดภัยจริงๆ” นายแทนคุณกล่าวยืนยัน

ด้านนายการุณตอบโต้เช่นกันว่า ไม่ได้คุกคามนายแทนคุณ สิ่งที่นายแทนคุณบอกทำไมตนเข้ามายุ่งเกี่ยวในโครงการทำประชาคมทั้งที่ถูกศาลเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งนั้น ตนแค่เข้าไปพูดขอบคุณประชาชนทุกคนที่ให้กำลังใจในการทำงานมาตลอด พอพูดเสร็จก็ไปนั่งเฉยๆ ให้ทีมงานทำประชาคมแทน ระหว่างนั้นนายแทนคุณแฝงตัวเข้ามาอยู่หลังห้องประชุม พอตนเห็นจึงเข้าไปหยิบไมค์จากทีมงานพูดกับนายแทนคุณว่าควรให้เกียรติกันหน่อย เพราะทำกับตนมามากพอแล้ว พร้อมเชิญให้นายแทนคุณออกจากห้องประชุม แต่นายแทนคุณบอกว่ามีสิทธิ์เข้ามาฟังได้ แล้วหยิบโทรศัพท์มาถ่ายคลิปไว้ จากนั้นทีมงานตนจึงเดินเข้าไปเจรจาให้นายแทนคุณออกจากห้องประชุม ส่วนตนก็เดินเข้าไปหา ขอให้นายแทนคุณลบคลิปออกจากโทรศัพท์ เพราะถือว่าก้าวล่วงสิทธิติดตามถ่ายรูป แต่นายแทนคุณรีบโวยวายว่าอย่ามาทำร้ายผมๆ ทั้งที่ไม่มีใครทำอะไรเลย

“ขอย้อนถาม ถ้านายแทนคุณโดนคนติดตามถ่ายรูปเช่นนี้จะรู้สึกอย่างไร เรื่องนี้ไม่มีการข่มขู่ คุกคาม อย่ามาสร้างกระแส ให้ไปถามชาวบ้าน 200 คนในห้องประชุมได้เลยข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร” นายการุณตอบโต้อย่างดุเดือด

กระนั้นก็ดี ถ้าหากย้อนดูจากพฤติกรรมในอดีต สังคมก็คงพอเห็นเค้าลางของเรื่อง “ดราม่า” ที่เกิดขึ้นได้เป็นอย่างดี เพราะทุกคนรู้ดีว่า พื้นที่เขตดอนเมืองนั้น นายการุณมีความกว้างขวางและ “ใหญ่” เพียงใด รวมถึงนิสัยส่วนตัวของนายการุณที่กร่างเสมอต้นเสมอปลายดังเช่นที่นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายของนักโทษชายทักษิณ ชินวัตรถึงกับเขียนความเห็นเอาไว้ในเฟซบุ๊กส่วนตัว Oak Panthongtae Shinawatra เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2556 ว่า “ฝ่ายแดง เก่ง การุณ เป็นมวยบุกถึงลูกถึงคน มีข่าวเสมอในเชิงศิลปะแม่ไม้มวยไทย ซึ่งในโพสต์ที่แล้วผมพึ่งเตือนกันไปแหมบๆ ว่าเก่งต้องแก้ไขในความใจร้อน ซึ่งเป็นจุดอ่อนที่ทำให้เก่งเสียเปรียบคู่ต่อสู้ ในสายตาสาธารณะชนเสมอๆ”

ชัดเจนว่า พฤติกรรมของนายการุณเป็นเช่นไร

แต่สิ่งที่ต้องตั้งคำถามกลับไปก็คือ ในเมื่อนายแทนคุณรู้อยู่เต็มอกว่านายการุณมีพฤติกรรมเยี่ยงนั้น เหตุอันใดจึงหาญกล้าเข้าไปท้าทายจอมกร่างแห่งทุ่งดอนเมือง ด้วยเหตุดังกล่าวจงอย่าแปลกใจถ้าหากมีการตั้งข้อสงสัยบ้างว่า นายแทนคุณตั้งใจให้เกิดเรื่องหรือไม่

หรือพูดง่ายๆ ก็คือ นายแทนคุณกำลังดราม่าเพื่อเรียกคะแนนสงสารจากคนดอนเมืองหรือไม่?

จากนั้นในระยะเวลาใกล้เคียงกันก็ปรากฏ “สงครามภาพถ่าย” โดยคราวนี้เปลี่ยนคู่ชกจากนายแทนคุณและนายการุณมาเป็นนายยุรนันท์และนายแทนคุณ โดยสงครามภาพถ่ายที่เกิดขึ้นตกเป็นเป้าของการวิพากษ์วิจารณ์อย่างสนุกปาก เนื่องเพราะภาพที่ปรากฏนั้น เป็นภาพเมื่อครั้งที่ทั้งคู่เพิ่งเข้าสู่วงการบันเทิงและวงการนายแบบด้วยชุด “นุ่งน้อยห่มน้อย”

กล่าวคือพลพรรคแมลงสาบได้หยิบรูปสมัยที่นายยุรนันท์เคยถ่ายภาพลงหน้าปก "เพลย์ เกิร์ล Sexy man" โดยเป็นภาพขณะที่ "แซม-ยุรนันทน์" เปลือยด้านบน พร้อมบรรยายสรรพคุณเอาไว้เสร็จสรรพว่า “แม้จะไม่เชิงเป็นการถ่ายภาพนู้ด แต่ก็สามารถปลุกใจเสือใบและชาวเกย์ได้เช่นกัน”

แถมเหน็บแนมด้วยการนำคำพูดของ นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) ที่กล่าวถึงคุณสมบัติของผู้สมัครเบื้องต้นของพรรคว่า นอกจากต้องเป็นที่รู้จักของพี่น้องประชาชนแล้ว ต้องมีประสบการณ์ทางการเมือง และสามารถประสานงานร่วมกับ ส.ก.และ ส.ข.ในพื้นที่ได้เป็นอย่างดี พรรคยืนยันว่า จะไม่ส่งผู้สมัคร 5 จำพวกลงเลือกตั้งเด็ดขาดคือ

1.ไม่ส่งพวกผ่านการถ่ายนู้ด นิตยสารปลุกใจเสือใบและชาวเกย์
2.ไม่ส่งพวกดราม่า ตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จ
3.ไม่ส่งพวกจอมตุกติก วอแว หาเรื่องน่ารำคาญ
4.ไม่ส่งพวกบุกไปถ่ายภาพในลักษณะคุกคามผู้อื่นเป็นอาจิณ
5.ไม่ส่งพวกมุ่งสร้างเรื่อง สร้างข่าว บางครั้งมีอาการป่วยทางจิต

นอกจากนั้น วอลเปเปอร์อย่าง “นายศิริโชค โสภา” รวมถึงแฟนแมลงสาบตัวแม่อย่าง “ปู-จิตกร บุษา” ยังนำภาพของนายยุรนันท์ไปนำเสนอเอาไว้ในเฟซบุ๊กส่วนตัวอีกต่างหาก

งานนี้ พลพรรคแมลงสาบพร้อมใจกันแชร์และส่งต่อกันอย่างสนุกมือ

ขณะที่ทางฟากเสื้อแดงก็ไม่น้อยหน้าเช่นกัน แถมทำท่าว่าจะหนักหนาสาหัสกว่าเสียอีกด้วยการไปขุดรูปอี้-แทนคุณ สมัยที่ใช้ชื่อว่า “เอกชัย บูรณานิต” ถ่ายภาพในชุดว่ายน้ำคือกางเกงในตัวเดียวโพสต์ท่าอะร้าอร่ามในนิตยสาร Beach Boy มานำเสนอหลายต่อหลาย ภาพ พร้อมทั้งเหน็บแนบอย่างเสียๆ หายๆ ตามสไตล์คนเสื้อแดงที่จะว่าไปแล้วก็แตกต่างจากสาวกแมลงสาบเท่าใดนัก

ทั้งนี้ สำหรับกรณีของอี้นั้น นี่มิได้เป็นครั้งแรกที่ปรากฏภาพและข่าวในทำนองนี้ หากแต่เคยถูกนำมาโจมตีและขยายผลมาแล้วต่อหลายครั้ง โดยเฉพาะจากปากของคู่ปรับตลอดกาลอย่างนายการุณ โหสกุล

ทั้งนี้ หากยังจำกันได้ในช่วงปี 254 แทนคุณ จิตต์อิสระเคยร้อง กกต.ให้ถอนสิทธิเลือกตั้งของการุณ โหสกุลกล่าวหาใส่ร้าย 4 เรื่องคือ 1.บิดาของเขาตรอมใจจนเสียชีวิต เนื่องจากเปลี่ยนนามสกุล 2.ถ่ายแบบโป๊เปลือยลงนิตยสารเกย์ และว่าเป็นเกย์ 3.พรรคประชาธิปัตย์จ้างคนไปฟังปราศรัยหัวละ 300 บาท และ 4.กล่าวหาว่าดูหมิ่นคนดอนเมือง ซึ่งอี้-แทนคุณประกาศยืนยันทั้ง 4 ข้อกล่าวหาว่าไม่เป็นความจริง พร้อมนำหลักฐานเทปบันทึกเสียงการปราศรัยของนายการุณ เมื่อวันที่ 3 มิ.ย. และ 12 มิ.ย. 2554 มามอบให้ กกต.ด้วย

อย่างไรก็ตาม จากบทโหมโรงที่ “ดราม่า ฝุดฝุด” ของทั้งสองเหตุการณ์ซึ่งทั้งสองฝ่ายเปิดฉากเข้าใส่กัน ทำให้ต้องบอกว่า ศึกเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 12 ดอนเมืองเที่ยวนี้นั้นไม่ธรรมดา เพราะเป็นศึกแห่งศักดิ์ศรีที่ไม่มีใครยอมใคร โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่เดิมที่ไม่อาจสะกดคำว่า “แพ้” ได้ ไม่เช่นนั้นแล้วจอมถีบแห่งทุ่งดอนเมืองคงไม่รู้จะเอาหน้าไปซุกไว้ที่ไหน

หากยังจำกันได้ ก่อนหน้านี้ พรรคเพื่อไทยเคยเพลี่ยงพล้ำต่อพรรค ประชาธิปัตย์มาแล้วครั้งหนึ่งในพื้นที่นี้ชนิดอับอายขายขี้หน้าไปทั่วทั้งเมือง ในการเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) เขตดอนเมือง เขตเลือกตั้งที่ 1 ซึ่ง “นางกนกนุช นากสุวรรณภา” ผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์ สามารถหักปากกาเซียน เฉือนชนะ “นายประเวศร์ วัลลภบรรหาร” ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทยเด็กปั้นของ “เก่ง-การุณ โหสกุล” ไปด้วยคะแนน 12,858 คะแนน ทิ้งห่างคู่แข่งไปถึง 2,600 คะแนน โดยชัยชนะครั้งนี้ถือเป็นการปักธงในพื้นที่ดอนเมืองของประชาธิปัตย์เป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปี และเท่ากับเป็นการตบหน้านักการเมืองจอมกร่างอย่างแรง เพราะนอกจากจะเป็นพื้นที่ฐานเสียงของนายการุณแล้ว ยังเป็นการเลือกตั้งซ่อมแทน “นายสุริยา โหสกุล” ส.ก.ดอนเมืองที่เสียชีวิตลง ซึ่งเป็นพี่ชายแท้ๆ ของนายการุณอีกด้วย

เป็นความพ่ายแพ้อันเป็นผลมาจากวิกฤตน้ำท่วมใหญ่ปลายปี 2554 ที่คนดอนเมืองต่างรู้เช่นเห็นชาตินักการเมืองฝ่ายเสื้อแดงว่า เป็นเช่นไร

ดังนั้น ในศึกเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เที่ยวนี้ พรรคเพื่อไทยจึงไม่อาจพลาดได้

สำหรับพรรคเพื่อไทยนั้น ก่อนที่จะมีมติส่งนายยุรนันท์ลงชิงชัย ได้ปรากฏชื่อผู้ท้าชิงหลายต่อหลายคน แต่ในที่สุดพวกเขาเหล่านั้นก็ปฏิเสธที่จะลงชิงชัย ทั้งคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย และนางพิมพ์ชนา โหสกุล ส.ก.ดอนเมือง ภรรยานายการุณ รวมถึง น.ต.ศิธา ทิวารี ประธานคณะกรรมการ บริษัท การท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย จำกัด (มหาชน) ก็มีท่าทีไม่อยากลงสมัครรับเลือกตั้งด้วยเหตุผลที่แตกต่างกันไป สุดท้ายจึงปรากฏชื่อนายยุรนันท์ ภมรมนตรี ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย เข้ามาเป็นผู้ท้าชิงอีกคนหนึ่ง

“พรรคเห็นว่าระยะเวลาการหาเสียงเลือกตั้งครั้งนี้มีเวลาน้อยมาก จึงต้องใช้ผู้มีคุณสมบัติดี เด่น ดัง เป็นที่รู้จักของชาวบ้านมาเป็นจุดขาย และนายการุณต้องไม่ขัดข้อง ซึ่งนายยุรนันท์มีคุณสมบัติดังกล่าว ขณะเดียวกันนายยุรนันท์เคยลงสมัครผู้ว่าราชการกทม. ปี 2552 ได้คะแนน 6 แสนคะแนน ถือว่ามีฐานเสียงเป็นที่ยอมรับของคน กทม.ในระดับหนึ่ง”แหล่งข่าวจากพรรคเพื่อไทยระบุ

ทั้งนี้ ท่ามกลางความสับสนวุ่นวาย ผู้ที่มาแบไต๋เฉลยผู้ที่มีความเป็นไปได้มากที่สุดก็คือ “เสี่ยโอ๊ค-พานทองแท้ ชินวัตร” ที่เปิดเผยใน เฟซบุ๊ก Oak Panthongtae Shinawatra ว่า “ ปล. คนที่จะมาลง ส.ส.แทนพี่เก่ง คงต้องครบเครื่องหน่อยละครับงานนี้ ประมาณระดับพระเอกตลอดกาล มากประสบการณ์ทั้งงานราษฎร์ และงานหลวง รับรองไม่ทำให้ชาวดอนเมืองผิดหวังครับ”

และในที่สุด เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2556 ที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทยก็มีมติส่งแซม-ยุรนันท์ลงแข่งขัน เป็นไปตามที่เสี่ยโอ๊คให้เบาะแสเอาไว้ทุกประการพร้อมทั้งมอบหมายให้ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสาร เป็นผู้อำนวยการการเลือกตั้งซ่อม

ถามว่า นายยุรนันท์ต้องการจะลงสมัครเองหรือไม่

คำตอบก็คือ ไม่ เพราะนายยุรนันท์ก็เป็น ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่ออยู่แล้ว ทำไมจะต้องมาเหน็ดเหนื่อยกับการลงพื้นที่หาเสียง และก็ใช่ว่าจะไม่มีโอกาสแพ้เสียเมื่อไหร่ แต่เมื่อถูกกาชื่อมา นายยุรนันท์จึงไม่อาจปฏิเสธได้

ทั้งนี้ นายยุรนันท์กล่าวว่า ส่วนตัวได้มีการพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีแล้ว ถึงการทำงาน และนโยบายที่จะใช้ในการหาเสียง รวมถึงสานต่องานที่ยังคงค้างอยู่ในพื้นที่ อย่างไรก็ตาม ไม่หนักใจกับการเลือกตั้งครั้งนี้ และไม่ได้ถูกบีบให้ลาออกจาก ส.ส.บัญชีรายชื่อมาลงเลือกตั้งซ่อม พร้อมยืนยันว่าเป็นไปด้วยความสมัครใจ ประกอบกับนายการุณ และภรรยา รวมถึงทีมงานเดิมที่อยู่ในพื้นที่ยอมรับให้ลงสมัครรับเลือกตั้งซ่อมในครั้งนี้ได้

ด้านเจ้าของพื้นที่อย่างเก่ง-การุณก็ประกาศสนับสนุนแซมอย่างออกนอกหน้าด้วยความมั่นใจว่า นายยุรนันท์เป็นบุคคลที่มีคุณสมบัติเหมาะสมลงสมัครเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ดอนเมือง และ และมั่นใจว่านายยุรนันท์จะได้รับชัยชนะ เพราะว่ามีผลงานจากนโยบายของรัฐบาล เชื่อว่าคนที่รักและเลือกตนต้องให้การสนับสนุนผู้สมัครของ พท.ด้วย

ขณะที่ทางด้านพรรคประชาธิปัตย์ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะประสบความสำเร็จตามที่คาดหมายไว้ โดยเฉพาะเมื่อย้อนดูประวัติศาสตร์การเลือกตั้งในช่วงที่ผ่านมา กล่าวคือในศึกเลือกตั้ง ส.ส.เขต 12 ดอนเมืองเมื่อเดือนกรกฎาคม 2553 ในครั้งนั้นนายการุณ โหสกุลจากพรรคเพื่อไทยสามารถกวาดคะแนนไปได้ทั้งหมด 38,351 คะแนน ขณะที่นายแทนคุณ จิตต์อิสระได้คะแนนไป 30,687 คะแนน แม้จห่างกันไม่มาก แต่ก็ต้องถือว่าไม่น้อยเช่นกัน

ขณะที่สดๆ ร้อนๆ กับการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) ที่ผ่านมา ในพื้นที่เขตนี้ พล.ต.อ.พงศพัศ พงศ์เจริญ ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทยก็ทำคะแนนไปได้สูงถึง 40,073 คะแนน ทิ้งห่างจาก ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์ที่ได้คะแนนเพียงแค่ 28,092 คะแนน

นั่นหมายความว่า คะแนนเสียงของพรรคเพื่อไทยและคนเสื้อในเขต 12 ดอนเมืองยังคงเหนียวแน่นและคงเส้นคงวาอย่างไม่เปลี่ยนแปลง ซึ่งนั่นถือเป็นโจทย์ใหญ่ที่พรรคประชาธิปัตย์ต้องเร่งทำการบ้านอย่างหนักเพื่อทะลุทะลวงกล่องดวงใจของพรรคเพื่อไทยให้จงได้ ดังเช่นที่ “นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต” โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ยอมรับว่าเป็นรอง เพราะพื้นที่ดอนเมืองเป็นพื้นที่ที่พรรคเพื่อไทยมีฐานเสียงที่หนาแน่น และได้รับเลือกตั้งมายาวนาน

กระนั้นก็ดี กล่าวสำหรับ อี้-แทนคุณครั้งนี้เขาก็มั่นใจเหมือนทุกๆ ครั้งที่ผ่านมา โดยประกาศว่า ตนเองมีความมั่นใจในการครั้งนี้จาก 3 ปัจจัยด้วยกันคือ

หนึ่ง-รัฐบาลที่เคยรับปากประชาชนในเรื่องค่าครองชีพ แต่ไม่สามารถทำได้ อีกทั้งไม่มีแนวทางแก้ปัญหาอย่างจริงจังจนไม่มีการแถลงผลงานในรอบ 1 ปีแม้ว่าจะจะบริหารงานมาเกือบ 2 ปีแล้ว

สอง-มั่นใจว่า ตนเองไม่เคยขาดงานชุมชนและทำงานต่อเนื่องมาตลอด

สาม-ตนเองได้ทำให้คนดอนเมืองรู้จักและจะทำให้คนดอนเมืองเห็นว่าทุ่มเทมีความจริงใจในการทำงาน

...ถึงตรงนี้ คงต้องบอกว่า สงครามแห่งศักดิ์ศรี ณ ทุ่งดอนเมือง จะดำเนินไปอย่างดุเดือด ซึ่งก็คงต้องติดตามกันต่อไปว่า การที่ทั้งสองพรรคคือพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาธิปัตย์ส่งสองดาราชื่อดังอย่างอี้-แทนคุณ และแซม-ยุรนันท์ลงแข่งขัน ใครจะสามารถพิชิตใจคนดอนเมืองได้ในท้ายที่สุด


แซม-ยุรนันท์ ภมรมนตรี
อี้-แทนคุณ จิตต์อิสระ
กำลังโหลดความคิดเห็น