ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 01.00 น. วานนี้ (12 พ.ค.) นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคดีอาญาแผ่นดิน โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว Oak Panthongtae Shinawatra หัวข้อ ขอเชิญแฟนเพจ“พานทองแท้”ร่วมไว้อาลัยกับการจากไปของ “ส.ส.เก่ง”การุณ โหสกุล ดังนี้
“การจากไปที่ผมว่านี้ คงเป็นการจากไปแค่ตำแหน่งแห่งหน จากการโดนตัดสิทธิทางการเมือง เป็นเวลา 5 ปีนะครับ เพราะ(อดีต) ส.ส.เก่ง ได้พูดและติดประกาศเป็นแคมเปญอยู่เสมอว่า "ชีวิตที่เหลือเพื่อชาวดอนเมือง" ดังนั้น การจากไปในครั้งนี้ จะเป็นแค่การไม่มีตำแหน่งทางการเมืองเท่านั้น แต่ทั้งตัวและหัวใจของเขา ยังอยู่กับชาวดอนเมืองเสมอ
คนทั่วไปที่ไม่รู้จักตัวตนของเก่ง อ่านแต่ข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์ ร้อยทั้งร้อยคนมักจะเข้าใจว่า เก่งนั้นชอบทำตัวเสมือนเป็นนักเลงหัวไม้ และมักจะมีเรื่องมีราวกับคนอื่นอยู่เสมอ และคนส่วนใหญ่ในเขตอื่น มักจะไม่เข้าใจว่า ทำไมคนที่มีลักษณะนิสัยเกเรเช่นนี้ ถึงเอาชนะใจคนดอนเมือง และได้เป็น ส.ส.ตลอดมา
ลองไปถามชาวบ้านแถวดอนเมืองเขาจะรู้ครับ เกือบทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ส.ส.เก่ง เป็นคนชอบทำกิจกรรมร่วมกับชาวบ้าน เกาะติดพื้นที่มาไม่ต่ำกว่า 20 ปี ตั้งแต่ยังไม่มีตำแหน่งทางการเมือง จนกระทั่งมาเป็น ส.ข.อยู่ 1 สมัย ส.ก. 2 สมัยและ ส.ส. 2 สมัย เก่งไม่เคยคิดว่าตนเป็นท่านส.ส. แล้วจะลืมกำพืดตัวเอง ยังคงอุทิศตน เสียสละเพื่อส่วนรวม ช่วยเหลือชาวบ้านที่เดือดร้อนเสมอมา
ลองถามความเห็นชาวบ้านที่เลือกว่า เก่งเป็นคนชอบมีเรื่องมีราว ทำไมยังเลือกกันอยู่ นอกจากชาวบ้านจะบอกว่า เก่งสังกัดพรรคฯในดวงใจแล้ว หลายคนออกตัวแทนว่า ที่เก่งทำไปนั้น ถูกต้องแล้ว เพราะมันมีเหตุอันควรที่จะให้เก่งต้องโดดเตะบ้าง เป็นการเสียสละต้องถีบแทนชาวบ้านบ้าง ก็ถือเป็นการพูดติดตลกกันไป และก็ต้องถือว่าเป็นจุดอ่อน ที่เก่งต้องแก้ไขในความใจร้อน แต่ชาวบ้านก็เลือกเก่งกันตลอดมา
ผมเชื่อว่า จะตัดสิทธิกันสักกี่ปี เก่งก็จะยังคงเกาะติดพื้นที่ช่วยเหลือชาวบ้าน จะยังคงเป็น ลูกเก่ง ทิดเก่ง ไอ้เก่ง ของพ่อแม่พี่น้องชาวดอนเมืองเสมอ แต่อาจจะเหงากว่าเมื่อก่อนบ้าง เพราะงานในสภาหดหายไป ผมจึงได้เชิญชวนพี่น้องแฟนเพจ ได้ช่วยกันเข้าไปเมนต์ เข้าไป "กดLike"ให้กำลังใจ ว่างๆ เก่งจะได้เขียนเฟซบุ๊ก วิเคราะห์การเมือง ในสไตล์ "ปากว่ามือถึง" ให้พวกเราได้อ่านกัน
เผื่อเขียนเข้าท่า อีกหน่อยผมอาจมี ทีมงานออนไลน์ ที่มีฝีตีน...เอ๊ยยย...ฝีปากเก่งกล้า นาม "เก่ง การุณ" มาร่วมปกป้อง "นายกฯปู" เวลาโดนคนถ่อยลามปาม ครับ”
** พท.คัดผู้สมัครเลือกซ่อม14พ.ค.
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการคัดเลือกผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขต 12 แทนนายการุณ โหสกุล ที่ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี ว่า ขณะนี้พรรคกำลังประสานกับ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(ไอซีที) ในฐานะประธานโซนกทม. ฝั่งตะวันออก ให้เสนอชื่อตัวบุคคล เพื่อเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมพรรคเพื่อไทย ในวันอังคารที่ 14 พ.ค.นี้ ซึ่งจากการหารือของสมาชิกพรรคนั้น ก็มีรายชื่อของแคนดิเดตทั้งหมด 4 คน คือ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ นางพิมชนา โหสกุล น.ต.ศิธา ธิวารี และอีกหนึ่งจะเป็นผู้ที่พรรคคัดเลือก โดยต้องมีคุณสมบัติ คือ 1. เป็นที่รู้จักของประชาชน 2. มีประสบการณ์ 3. ประสานส.ก.-ส.ข.ได้ เพราะเป็นการหาเสียงช่วงสั้นๆ ต้องได้คนที่เป็นที่รู้จัก ขณะนี้เรามีบุคลากรมากมาย รวมทั้งบ้านเลขที่ 111 ที่พ้นโทษมา ก็มีจำนวนมาก
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึง เหตุการณ์กระทบกระทั่งระหว่าง นายแทนคุณ จิตต์อิสระ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ กับ นายการุณ โหสกุล อดีต ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย ในงานเสวนาการทำประชาคมงบเอสเอ็มแอล เขตดอนเมือง ว่า หลังจากที่ได้ดูคลิปทุกคลิปที่เกี่ยวข้องในเหตุการณ์ พร้อมสื่อมวลชนอยู่หลายรอบ ทุกคนก็ลงความเห็นเป็นเอกฉันท์ว่า นายแทนคุณ น่าจะป่วย หรือเป็นโรคจิตหรือไม่ ความจริงแล้ว ส.ก.ในพื้นที่ เขาจัดเวทีประชาคมโครงการ เอสเอ็มแอล ให้กับชุมชนนิเวศน์ชาวฟ้า นายแทนคุณ ได้เข้าไปในงาน ที่ไม่ใช่ธุระของตน ไม่มีมารยาททางการเมือง ตั้งใจมาปั่นป่วน และบันทึกภาพผู้อื่นในลักษณะคุกคาม ไม่เหมาะสม คนเข้าใจแต่ว่านายแทนคุณ เป็นนักร้องเรียน วันนี้คนสงสัยว่าจะมีอาการป่วยทางจิตด้วยหรือไม่ โดยเฉพาะตอนที่จู่ๆ นายแทนคุณ ก็ตะโกนขึ้นมาเองว่า อย่าทำร้ายผม ผมมาคนเดียว ทั้งที่ข้อเท็จจริงไม่มีใครทำร้ายอะไรนายแทนคุณเลย ดูจากสีหน้า แววตา แล้ว ไม่เนียน ชาวบ้านในที่นั้นทุกคนเป็นพยาน และยืนยันได้ และจากคลิปบันทึกก็ชัดเจน สิ่งที่เกิดขึ้น นายแทนคุณ พยายามสร้างเรื่อง เพื่อสร้างข่าว เป้าหมายเขาก็มาเพื่อปั่นป่วน และคงจะพยายามทำลักษณะนี้ต่อไป เพราะก่อนหน้านี้ก็ทำมาหลายครั้งแล้ว ถามว่าคนแบบนี้จะให้เป็นผู้แทนของประชาชนได้หรือ พี่น้องประชาชนชาวดอนเมือง ควรจะตัดสินใจดีๆว่า จะเลือกคนแบบนี้ลงหรือ ขอเรียกร้องไปยังผู้ใหญ่ในพรรคประชาธิปัตย์ ให้เรียกนายแทนคุณ ที่ได้ฆ่าตัวตายทางการเมืองไปแล้วมาอบรมโดยด่วน ไม่เช่นนั้นคนจะคิดว่า เป็นทางของพรรคประชาธิปัตย์ ที่มักจะใช้วิธีการยั่วยุ เยาะเย้ย เสียดสี ให้เกิดอารมณ์ ซึ่งโดยหลักแล้วในการต่อสู้ คนที่เป็นสุภาพบุรุษเขาจะไม่ทำกัน อีกทั้งนายการุณ ก็บอบช้ำมาพอสมควร คนที่เป็นสุภาพบุรุษ จะไม่ซ้ำเติมคู่แข่ง
** "อี้"ยันกลัวถูกทำร้าย ไม่ได้ ดราม่า
นายแทนคุณ จิตต์อิสระ ว่าที่ผู้สมัครเลือกตั้งซ่อม ส.ส.กทม.เขต 12 ที่ว่างลง หลังจากนายการุณ โหสกุล อดีตส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทยถูกตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปี จากการปราศรัยใส่ร้ายนายแทนคุณ ตั้งแต่การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ได้นำหลักฐานมายืนยันถึงความบริสุทธิ์ของตัวเองว่า ไม่ได้เข้าไปป่วนในงานประชุมประชาคมโครงการเอสเอ็มแอลของชุมชนนิเวศชาวฟ้า โดยยืนยันว่า ไม่ได้ไปป่วนในงาน แต่มีคนเชิญให้ตนขึ้นไปพูดบนเวที ซึ่งก็ได้ใช้เวลาในการพูดคุยกับชาวบ้านราวสิบนาที เกี่ยวกับแนวคิดในการพัฒนาพื้นที่ ก่อนที่จะลงจากเวที และออกจากห้องไป
หลังจากนั้นได้มีชาวบ้านโทรศัพท์มาแจ้งตนให้กลับเข้าไปที่ห้องประชุม เพราะลูกน้องของนายการุณ คือ นายประเวศ ซึ่งเป็นอดีตผู้สมัคร ส.ก.ของพรรคเพื่อไทย ได้กล่าวพาดพิงตนให้เกิดความเสียหาย โดยอ้างว่ามีการนำเหล้าไปแจกในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ทั้งๆ ที่ความจริงคือลูกน้องของตนนำอุปกรณ์เกี่ยวกับการรดน้ำ เช่น แป้ง น้ำอบ ใส่ไว้ในกล่องเหล้าขาวเท่านั้น ซึ่งก็เคยมีการชี้แจงไปแล้วด้วย แต่กลับนำเรื่องนี้ไปพูดในระหว่างการทำประชาคม เพื่อให้เกิดความเข้าใจผิด ตนจึงเห็นว่ามีความจำเป็นที่จะต้องกลับไปสังเกตการณ์
เมื่อกลับเข้าไปในห้องประชุม ก็เห็น นายการุณ โหสกุล นั่งอยู่ข้างนางพิมพ์ชนา โหสกุล ภรรยาของนายการุณ และส.ก.เขตดอนเมือง ตนจึงยกมือถือขึ้นมาถ่ายภาพ แต่เมื่อนายการุณ เห็นก็ไปแย่งไมค์ลูกน้องตัวเอง มาประกาศว่า ถ้างานนี้ยังมีตนอยู่ การประชาคมจะไม่เกิดผล ทุกอย่างจะฟรีหมด จึงได้แย้งไปว่า ไม่เกี่ยวกับตนเพราะสามารถทำได้เลย เนื่องจากเป็นภาษีของประชาชน
จากนั้นนายการุณ ได้ปรี่เข้ามาชี้หน้าต่อว่าตนด้วยท่าทีคุกคาม จึงได้บอกไปว่า “อย่าทำร้ายผม”ไม่ใช่เรื่องดราม่า แต่ตอนนั้นรู้สึกว่าไม่ปลอดภัยจริงๆ รวมทั้งมีลูกน้อง และผู้สนับสนุนนายการุณ ประมาณ 5-6 คนมาล้อมตนไว้ ปิดประตูไม่ให้ออกจากห้อง มีการผลักด้านหลัง และในคลิปที่มีการนำขึ้นยูทูป ก็ปรากฏชัดว่า ศอกของนายการุณดันอยู่ที่หลังของตนด้วย
“ผมไม่เคยมีความแค้นเป็นส่วนตัวกับนายการุณ และที่ผ่านมา ก็แผ่เมตตาให้ไม่อยากจองเวรจองกรรมกับเก่ง เพราะถือว่ามีเพื่อนห้าร้อย น้อยแต่ถ้ามีศัตรูแบบเก่งคนเดียวก็มากเกินพอแล้ว ผมอาสามาเป็นผู้แทนที่ดี หวังว่าคนที่โจมตีว่าตนดราม่า บิดเบือน จะรับฟังความจริงว่าผมไม่ได้ไปป่วน เพราะในงาน สข.ของพรรคเพื่อไทย ก็ถ่ายรูปผม ผมไม่โวยวายเพราะเป็นบุคคลสาธารณะพร้อมให้ตรวจสอบ และที่บอกว่า อย่าทำร้ายผมนั้น ไม่ใช่เรื่องดราม่า แต่ผมตกใจและกลัวจริง ๆ เพราะไปคนเดียวขณะที่นายการุณ ก็มีท่าทีคุกคามอย่างเห็นได้ชัด จึงไม่รู้ว่าจะพูดอะไร ไม่ใช่การดัดจริต หรือแสดงละคร เพราะนายการุณ ปรี่เข้ามาหาซึ่งทุกคนก็ทราบดีถึงภาพลักษณ์ของนายการุณ ว่ามีความถนัดเรื่องหมัดมวย มากกว่าผม” นายแทนคุณ กล่าว
นายแทนคุณ ยังตั้งคำถามไปยังนางพิมพ์ชนา ภรรยาของนายการุณ ที่กล่าวหาว่าตนไม่มีมารยาททางการเมืองว่า การที่นายการุณไปอยู่ในที่ที่มีการประชุมเพื่อจัดสรรงบประมาณ เหมาะสมหรือไม่ และที่นายการุณเรียกตนว่า “แทนควาย”ผ่านเฟซบุ๊กมาตลอด ตั้งแต่การเลือกตั้งครั้งที่แล้ว จนถึงการแสดงอิทธิพลว่า หากไม่ใช่เพราะนายการุณไปขอร้องไว้ ตนก็ไม่มีทางเดินในพื้นที่ดอนเมืองได้ โดยไม่ถูกกระทืบ ว่า คำพูดเหล่านี้เป็นคำพูดของคนที่มีมาทยาททางการเมืองหรือไม่ และการที่ตนไปสังเกตการณ์ การทำประชาคมที่มีลูกน้องนายการุณพาดพิงให้เสียหาย ไม่สามารถเรียกว่าไปป่วนหรือไม่มีมารยาททางการเมือง แต่ไปเพื่อสังเกตการณ์รักษาประโยชน์ให้ชาวบ้านเพราะมีกระบวนการให้ชาวบ้านเข้าใจว่าจะได้งบก้อนนี้ก็ต่อเมื่อผ่านนายการุณเท่านั้น ซึ่งไม่ถูกต้องเนื่องจากเงินทั้งหมดเป็นเงินภาษีของประชาชน และตนยังกลับเข้าไปเพื่อรักษาสิทธิของตนเองที่ถูกใส่ร้ายด้วย จึงมีการถ่ายภาพไว้เป็นหลักฐาน จะเรียกสิ่งเหล่านี้ว่าไม่มีมารยาททางการเมืองได้อย่างไร
นายแทนคุณ กล่าวว่า อยากให้เข้าใจว่า ตนไม่ใช่ต้นเหตุทำให้ถูกตัดสิทธิแต่พฤติกรรมนายการุณ มีการทำผิดกฎหมายจนถูกตัดสิทธทางการเมือง ซึ่งตนรอคอยความยุติธรรมมายาวนานเกือบสองปี และในขณะนี้ก็ยังฟ้องร้องนายเก่งอยู่อีกสองคดี ทั้งแพ่งและอาญา จึงไม่อยากไปแจ้งความดำเนินคดีที่มีการปิดล้อมคุกคามตน เพราะไม่อยากซ้ำเติมนายการุณ ที่กำลังถูก ป.ป.ช.ตรวจสอบด้วย อีกทั้งนายการุณ ก็ไม่ใช่คู่แข่งทางการเมืองของตนด้วย
“ผมเชื่อว่าบรรยากาศการเลือกตั้งซ่อมเขตดอนเมือง กำลังจะเกิดขึ้น ภายในอาทิตย์หน้าจะมีความเข้มข้นมากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อวันที่ 10 พ.ค. ที่ผ่านมามีคนโทรศัพท์ที่สำนักงานพรรคเขตดอนเมืองว่า “ขอแสดงความยินดีกับส.ส.คนใหม่ แต่ก่อนที่จะได้เป็นต้องตาม“คม”ไปก่อน” ผมเป็นคนปิดตาให้“คม”(ชุติเดช สุวรรณเกิด) ในวันที่เขาถูกยิงตาย ลูกเมียเขาทรุดลงตรงหน้าผม แต่คดีผ่านมากว่า 1 ปี ไม่มีความคืบหน้า ทั้ง ๆ ที่ตำรวจมีหลักฐานจากกล้องวงจรปิด และผมก็ทราบว่าใครทำ ชื่อย่อ จ.กับน.ไม่ได้เกี่ยวข้องกับนายการุณโดยตรง แต่ทำไมตำรวจจึงจับคนร้ายไม่ได้ ทั้ง ๆ ที่ยังใช้ชีวิตอยู่ที่ดอนเมืองตามปกติ สิ่งที่เกิดขึ้นจะให้ผมมั่นใจได้อย่างไรว่าการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ จะมีความปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์ หากนายการุณ ไม่เลิกพฤติกรรมแสดงอิทธิพล และพรรคเพื่อไทยไม่สามารถหยุดพฤติกรรมของนายการุณได้ ทำให้ลูกน้องของผมเกิดความหวาดกลัว รวมไปถึงประชาชนก็จะไม่กล้าสนับสนุนผม” นายแทนคุณ กล่าว
ทั้งนี้นายแทนคุณ ยังเชื่อว่า การเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ดอนเมือง ในครั้งนี้ อาจเรียกว่ากำลังจะเกิดวิกฤตการแข่งขันทางการเมืองโดยเฉพาะพฤติกรรมของนายการุณ ที่แสดงออกมาว่ามีอิทธิพลในพื้นที่ และเข้าไปข้องเกี่ยวกับงบประมาณรัฐบาลที่จัดสรรไปยังชุมชนในช่วงที่กำลังจะมีการเลือกตั้งซ่อมพอดี โดยเมื่อวันที่ 11 เม.ย.56) วันเดียว มีการนำงบเอสเอ็มแอลเข้าไปถึง 8 ชุมชน ตนจึงขอถามว่าสิ่งที่เกิดขึ้น ยุติธรรมหรือไม่ และการประชุมประชาคมต้องให้มีการตรวจสอบไม่ได้ กลัวอะไร จึงไม่ให้ตนถ่ายภาพ
**"มาร์ค"หวั่นความขัดแย้งกระทบเลือกตั้ง
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แสดงความเป็นห่วงกรณีที่เกิดการกระทบกระทั่งกันระหว่าง นายการุณ โหสกุล กับนายแทนคุณ จิตต์อิสระ ในงานประชุมประชาคมเอสเอ็มแอลที่ดอนเมือง โดยขอให้ทุกฝ่ายระมัดระวัง เพราะไม่อยากให้กระบวนการเลือกตั้งทำให้เกิดความขัดแย้ง หรือความรุนแรง ดังนั้นทุกฝ่ายจึงต้องระมัดระวังในการปฏิบัติ และหาทางหลีกเลี่ยงอย่าให้เกิดการกระทบกระทั่งกัน ซึ่งเป็นหน้าที่ของนักการเมืองและพรรคการเมืองทุกฝ่ายต้องช่วยกันอย่าทำให้เกิดบรรยากาศความขัดแย้งหรือความตึงเครียด เพราะกระบวนการเลือกตั้งเป็นกระบวนการสำคัญในระบอบประชาธิปไตย ควรดำเนินไปในบรรยากาศที่ไม่มีความขัดแย้ง แต่ไม่หนักใจที่ ก.ก.ต. กำหนดวันเลือกตั้งเร็ว ทำให้มีเวลาหาเสียงสั้น ส่วนอิทธิพลในพื้นที่ของนายการุณ จะมีผลต่อการเลือกตั้งซ่อมหรือไม่นั้น ตนเห็นว่าพรรคและผู้สมัครต้องไม่หวั่นไหวเพราะมีหน้าที่ในการทำงาน เสนอตัว เสนอความคิดกับประชาชน จะหวั่นไหวไม่ได้ แต่การจะทำอะไรต้องระมัดระวัง อย่าให้เกิดการกระทบกระทั่งจะดีที่สุด
นายอภิสิทธิ์ กล่าวด้วยว่า วันนี้ (13 พ.ค.56)คณะกรรมการบริหารพรรคจะพิจารณาตัวผู้สมัครเลือกตั้งซ่อมเขตดอนเมือง ซึ่งนายแทนคุณ ก็เสนอตัวมาแล้ว และทำงานในพื้นที่มาต่อเนื่อง แต่ต้องรอดูมติกรรมการบริหารพรรคก่อน โดยพรรคมีหลักเกณฑ์ในการพิจารณาว่า จะดูจากคนที่มีความตั้งใจในการรับใช้พี่น้องชาวดอนเมืองในฐานะส.ส. มีคุณสมบัติเป็นนักการเมืองที่ดี โดยจุดขายของพรรคยังมีเรื่องของความเป็นพรรคการเมืองด้วย เพราะการเลือกตั้งครั้งนี้น่าจะเป็นการแข่งกันระหว่างสองพรรคใหญ่
ทั้งนี้ พรรคยืนยันว่าแม้ไม่มีโอกาสได้รับเลือกตั้งเป็นส.ส.ในพื้นที่นี้มานานมาก แต่ก็พยายามที่จะเข้าไปทำงานรับใช้ประชาชน และการเลือกตั้งซ่อมส.ก.ที่ผ่านมาก็ได้ส.ก.ในเขตดอนเมือง ดังนั้นพรรคจะทำเต็มที่ เพราะคิดว่าเป็นโอกาสแม้จะทราบว่าเป็นพื้นที่ที่ยากที่สุดพื้นที่หนึ่งในกรุงเทพฯ แต่ก็จะทำเต็มที่ แม้ว่าในการเลือกตั้งผู้ว่ากทม.ครั้งที่ผ่านมา คะแนนในเขตนี้พรรคจะได้น้อยกว่าพรรคเพื่อไทย แต่ก็ไม่คิดว่าจะทำให้โอกาสในการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ลดลง เพราะการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นคนละสนาม และเชื่อว่า ผลการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้จะมีนัยยะไปถึงการทำงานของรัฐบาล เนื่องจากรัฐบาลก็คาดหวังในการเลือกตั้งซ่อมไม่ต่างจากฝ่ายค้าน.
“การจากไปที่ผมว่านี้ คงเป็นการจากไปแค่ตำแหน่งแห่งหน จากการโดนตัดสิทธิทางการเมือง เป็นเวลา 5 ปีนะครับ เพราะ(อดีต) ส.ส.เก่ง ได้พูดและติดประกาศเป็นแคมเปญอยู่เสมอว่า "ชีวิตที่เหลือเพื่อชาวดอนเมือง" ดังนั้น การจากไปในครั้งนี้ จะเป็นแค่การไม่มีตำแหน่งทางการเมืองเท่านั้น แต่ทั้งตัวและหัวใจของเขา ยังอยู่กับชาวดอนเมืองเสมอ
คนทั่วไปที่ไม่รู้จักตัวตนของเก่ง อ่านแต่ข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์ ร้อยทั้งร้อยคนมักจะเข้าใจว่า เก่งนั้นชอบทำตัวเสมือนเป็นนักเลงหัวไม้ และมักจะมีเรื่องมีราวกับคนอื่นอยู่เสมอ และคนส่วนใหญ่ในเขตอื่น มักจะไม่เข้าใจว่า ทำไมคนที่มีลักษณะนิสัยเกเรเช่นนี้ ถึงเอาชนะใจคนดอนเมือง และได้เป็น ส.ส.ตลอดมา
ลองไปถามชาวบ้านแถวดอนเมืองเขาจะรู้ครับ เกือบทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ส.ส.เก่ง เป็นคนชอบทำกิจกรรมร่วมกับชาวบ้าน เกาะติดพื้นที่มาไม่ต่ำกว่า 20 ปี ตั้งแต่ยังไม่มีตำแหน่งทางการเมือง จนกระทั่งมาเป็น ส.ข.อยู่ 1 สมัย ส.ก. 2 สมัยและ ส.ส. 2 สมัย เก่งไม่เคยคิดว่าตนเป็นท่านส.ส. แล้วจะลืมกำพืดตัวเอง ยังคงอุทิศตน เสียสละเพื่อส่วนรวม ช่วยเหลือชาวบ้านที่เดือดร้อนเสมอมา
ลองถามความเห็นชาวบ้านที่เลือกว่า เก่งเป็นคนชอบมีเรื่องมีราว ทำไมยังเลือกกันอยู่ นอกจากชาวบ้านจะบอกว่า เก่งสังกัดพรรคฯในดวงใจแล้ว หลายคนออกตัวแทนว่า ที่เก่งทำไปนั้น ถูกต้องแล้ว เพราะมันมีเหตุอันควรที่จะให้เก่งต้องโดดเตะบ้าง เป็นการเสียสละต้องถีบแทนชาวบ้านบ้าง ก็ถือเป็นการพูดติดตลกกันไป และก็ต้องถือว่าเป็นจุดอ่อน ที่เก่งต้องแก้ไขในความใจร้อน แต่ชาวบ้านก็เลือกเก่งกันตลอดมา
ผมเชื่อว่า จะตัดสิทธิกันสักกี่ปี เก่งก็จะยังคงเกาะติดพื้นที่ช่วยเหลือชาวบ้าน จะยังคงเป็น ลูกเก่ง ทิดเก่ง ไอ้เก่ง ของพ่อแม่พี่น้องชาวดอนเมืองเสมอ แต่อาจจะเหงากว่าเมื่อก่อนบ้าง เพราะงานในสภาหดหายไป ผมจึงได้เชิญชวนพี่น้องแฟนเพจ ได้ช่วยกันเข้าไปเมนต์ เข้าไป "กดLike"ให้กำลังใจ ว่างๆ เก่งจะได้เขียนเฟซบุ๊ก วิเคราะห์การเมือง ในสไตล์ "ปากว่ามือถึง" ให้พวกเราได้อ่านกัน
เผื่อเขียนเข้าท่า อีกหน่อยผมอาจมี ทีมงานออนไลน์ ที่มีฝีตีน...เอ๊ยยย...ฝีปากเก่งกล้า นาม "เก่ง การุณ" มาร่วมปกป้อง "นายกฯปู" เวลาโดนคนถ่อยลามปาม ครับ”
** พท.คัดผู้สมัครเลือกซ่อม14พ.ค.
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการคัดเลือกผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขต 12 แทนนายการุณ โหสกุล ที่ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี ว่า ขณะนี้พรรคกำลังประสานกับ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(ไอซีที) ในฐานะประธานโซนกทม. ฝั่งตะวันออก ให้เสนอชื่อตัวบุคคล เพื่อเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมพรรคเพื่อไทย ในวันอังคารที่ 14 พ.ค.นี้ ซึ่งจากการหารือของสมาชิกพรรคนั้น ก็มีรายชื่อของแคนดิเดตทั้งหมด 4 คน คือ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ นางพิมชนา โหสกุล น.ต.ศิธา ธิวารี และอีกหนึ่งจะเป็นผู้ที่พรรคคัดเลือก โดยต้องมีคุณสมบัติ คือ 1. เป็นที่รู้จักของประชาชน 2. มีประสบการณ์ 3. ประสานส.ก.-ส.ข.ได้ เพราะเป็นการหาเสียงช่วงสั้นๆ ต้องได้คนที่เป็นที่รู้จัก ขณะนี้เรามีบุคลากรมากมาย รวมทั้งบ้านเลขที่ 111 ที่พ้นโทษมา ก็มีจำนวนมาก
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึง เหตุการณ์กระทบกระทั่งระหว่าง นายแทนคุณ จิตต์อิสระ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ กับ นายการุณ โหสกุล อดีต ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย ในงานเสวนาการทำประชาคมงบเอสเอ็มแอล เขตดอนเมือง ว่า หลังจากที่ได้ดูคลิปทุกคลิปที่เกี่ยวข้องในเหตุการณ์ พร้อมสื่อมวลชนอยู่หลายรอบ ทุกคนก็ลงความเห็นเป็นเอกฉันท์ว่า นายแทนคุณ น่าจะป่วย หรือเป็นโรคจิตหรือไม่ ความจริงแล้ว ส.ก.ในพื้นที่ เขาจัดเวทีประชาคมโครงการ เอสเอ็มแอล ให้กับชุมชนนิเวศน์ชาวฟ้า นายแทนคุณ ได้เข้าไปในงาน ที่ไม่ใช่ธุระของตน ไม่มีมารยาททางการเมือง ตั้งใจมาปั่นป่วน และบันทึกภาพผู้อื่นในลักษณะคุกคาม ไม่เหมาะสม คนเข้าใจแต่ว่านายแทนคุณ เป็นนักร้องเรียน วันนี้คนสงสัยว่าจะมีอาการป่วยทางจิตด้วยหรือไม่ โดยเฉพาะตอนที่จู่ๆ นายแทนคุณ ก็ตะโกนขึ้นมาเองว่า อย่าทำร้ายผม ผมมาคนเดียว ทั้งที่ข้อเท็จจริงไม่มีใครทำร้ายอะไรนายแทนคุณเลย ดูจากสีหน้า แววตา แล้ว ไม่เนียน ชาวบ้านในที่นั้นทุกคนเป็นพยาน และยืนยันได้ และจากคลิปบันทึกก็ชัดเจน สิ่งที่เกิดขึ้น นายแทนคุณ พยายามสร้างเรื่อง เพื่อสร้างข่าว เป้าหมายเขาก็มาเพื่อปั่นป่วน และคงจะพยายามทำลักษณะนี้ต่อไป เพราะก่อนหน้านี้ก็ทำมาหลายครั้งแล้ว ถามว่าคนแบบนี้จะให้เป็นผู้แทนของประชาชนได้หรือ พี่น้องประชาชนชาวดอนเมือง ควรจะตัดสินใจดีๆว่า จะเลือกคนแบบนี้ลงหรือ ขอเรียกร้องไปยังผู้ใหญ่ในพรรคประชาธิปัตย์ ให้เรียกนายแทนคุณ ที่ได้ฆ่าตัวตายทางการเมืองไปแล้วมาอบรมโดยด่วน ไม่เช่นนั้นคนจะคิดว่า เป็นทางของพรรคประชาธิปัตย์ ที่มักจะใช้วิธีการยั่วยุ เยาะเย้ย เสียดสี ให้เกิดอารมณ์ ซึ่งโดยหลักแล้วในการต่อสู้ คนที่เป็นสุภาพบุรุษเขาจะไม่ทำกัน อีกทั้งนายการุณ ก็บอบช้ำมาพอสมควร คนที่เป็นสุภาพบุรุษ จะไม่ซ้ำเติมคู่แข่ง
** "อี้"ยันกลัวถูกทำร้าย ไม่ได้ ดราม่า
นายแทนคุณ จิตต์อิสระ ว่าที่ผู้สมัครเลือกตั้งซ่อม ส.ส.กทม.เขต 12 ที่ว่างลง หลังจากนายการุณ โหสกุล อดีตส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทยถูกตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปี จากการปราศรัยใส่ร้ายนายแทนคุณ ตั้งแต่การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ได้นำหลักฐานมายืนยันถึงความบริสุทธิ์ของตัวเองว่า ไม่ได้เข้าไปป่วนในงานประชุมประชาคมโครงการเอสเอ็มแอลของชุมชนนิเวศชาวฟ้า โดยยืนยันว่า ไม่ได้ไปป่วนในงาน แต่มีคนเชิญให้ตนขึ้นไปพูดบนเวที ซึ่งก็ได้ใช้เวลาในการพูดคุยกับชาวบ้านราวสิบนาที เกี่ยวกับแนวคิดในการพัฒนาพื้นที่ ก่อนที่จะลงจากเวที และออกจากห้องไป
หลังจากนั้นได้มีชาวบ้านโทรศัพท์มาแจ้งตนให้กลับเข้าไปที่ห้องประชุม เพราะลูกน้องของนายการุณ คือ นายประเวศ ซึ่งเป็นอดีตผู้สมัคร ส.ก.ของพรรคเพื่อไทย ได้กล่าวพาดพิงตนให้เกิดความเสียหาย โดยอ้างว่ามีการนำเหล้าไปแจกในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ทั้งๆ ที่ความจริงคือลูกน้องของตนนำอุปกรณ์เกี่ยวกับการรดน้ำ เช่น แป้ง น้ำอบ ใส่ไว้ในกล่องเหล้าขาวเท่านั้น ซึ่งก็เคยมีการชี้แจงไปแล้วด้วย แต่กลับนำเรื่องนี้ไปพูดในระหว่างการทำประชาคม เพื่อให้เกิดความเข้าใจผิด ตนจึงเห็นว่ามีความจำเป็นที่จะต้องกลับไปสังเกตการณ์
เมื่อกลับเข้าไปในห้องประชุม ก็เห็น นายการุณ โหสกุล นั่งอยู่ข้างนางพิมพ์ชนา โหสกุล ภรรยาของนายการุณ และส.ก.เขตดอนเมือง ตนจึงยกมือถือขึ้นมาถ่ายภาพ แต่เมื่อนายการุณ เห็นก็ไปแย่งไมค์ลูกน้องตัวเอง มาประกาศว่า ถ้างานนี้ยังมีตนอยู่ การประชาคมจะไม่เกิดผล ทุกอย่างจะฟรีหมด จึงได้แย้งไปว่า ไม่เกี่ยวกับตนเพราะสามารถทำได้เลย เนื่องจากเป็นภาษีของประชาชน
จากนั้นนายการุณ ได้ปรี่เข้ามาชี้หน้าต่อว่าตนด้วยท่าทีคุกคาม จึงได้บอกไปว่า “อย่าทำร้ายผม”ไม่ใช่เรื่องดราม่า แต่ตอนนั้นรู้สึกว่าไม่ปลอดภัยจริงๆ รวมทั้งมีลูกน้อง และผู้สนับสนุนนายการุณ ประมาณ 5-6 คนมาล้อมตนไว้ ปิดประตูไม่ให้ออกจากห้อง มีการผลักด้านหลัง และในคลิปที่มีการนำขึ้นยูทูป ก็ปรากฏชัดว่า ศอกของนายการุณดันอยู่ที่หลังของตนด้วย
“ผมไม่เคยมีความแค้นเป็นส่วนตัวกับนายการุณ และที่ผ่านมา ก็แผ่เมตตาให้ไม่อยากจองเวรจองกรรมกับเก่ง เพราะถือว่ามีเพื่อนห้าร้อย น้อยแต่ถ้ามีศัตรูแบบเก่งคนเดียวก็มากเกินพอแล้ว ผมอาสามาเป็นผู้แทนที่ดี หวังว่าคนที่โจมตีว่าตนดราม่า บิดเบือน จะรับฟังความจริงว่าผมไม่ได้ไปป่วน เพราะในงาน สข.ของพรรคเพื่อไทย ก็ถ่ายรูปผม ผมไม่โวยวายเพราะเป็นบุคคลสาธารณะพร้อมให้ตรวจสอบ และที่บอกว่า อย่าทำร้ายผมนั้น ไม่ใช่เรื่องดราม่า แต่ผมตกใจและกลัวจริง ๆ เพราะไปคนเดียวขณะที่นายการุณ ก็มีท่าทีคุกคามอย่างเห็นได้ชัด จึงไม่รู้ว่าจะพูดอะไร ไม่ใช่การดัดจริต หรือแสดงละคร เพราะนายการุณ ปรี่เข้ามาหาซึ่งทุกคนก็ทราบดีถึงภาพลักษณ์ของนายการุณ ว่ามีความถนัดเรื่องหมัดมวย มากกว่าผม” นายแทนคุณ กล่าว
นายแทนคุณ ยังตั้งคำถามไปยังนางพิมพ์ชนา ภรรยาของนายการุณ ที่กล่าวหาว่าตนไม่มีมารยาททางการเมืองว่า การที่นายการุณไปอยู่ในที่ที่มีการประชุมเพื่อจัดสรรงบประมาณ เหมาะสมหรือไม่ และที่นายการุณเรียกตนว่า “แทนควาย”ผ่านเฟซบุ๊กมาตลอด ตั้งแต่การเลือกตั้งครั้งที่แล้ว จนถึงการแสดงอิทธิพลว่า หากไม่ใช่เพราะนายการุณไปขอร้องไว้ ตนก็ไม่มีทางเดินในพื้นที่ดอนเมืองได้ โดยไม่ถูกกระทืบ ว่า คำพูดเหล่านี้เป็นคำพูดของคนที่มีมาทยาททางการเมืองหรือไม่ และการที่ตนไปสังเกตการณ์ การทำประชาคมที่มีลูกน้องนายการุณพาดพิงให้เสียหาย ไม่สามารถเรียกว่าไปป่วนหรือไม่มีมารยาททางการเมือง แต่ไปเพื่อสังเกตการณ์รักษาประโยชน์ให้ชาวบ้านเพราะมีกระบวนการให้ชาวบ้านเข้าใจว่าจะได้งบก้อนนี้ก็ต่อเมื่อผ่านนายการุณเท่านั้น ซึ่งไม่ถูกต้องเนื่องจากเงินทั้งหมดเป็นเงินภาษีของประชาชน และตนยังกลับเข้าไปเพื่อรักษาสิทธิของตนเองที่ถูกใส่ร้ายด้วย จึงมีการถ่ายภาพไว้เป็นหลักฐาน จะเรียกสิ่งเหล่านี้ว่าไม่มีมารยาททางการเมืองได้อย่างไร
นายแทนคุณ กล่าวว่า อยากให้เข้าใจว่า ตนไม่ใช่ต้นเหตุทำให้ถูกตัดสิทธิแต่พฤติกรรมนายการุณ มีการทำผิดกฎหมายจนถูกตัดสิทธทางการเมือง ซึ่งตนรอคอยความยุติธรรมมายาวนานเกือบสองปี และในขณะนี้ก็ยังฟ้องร้องนายเก่งอยู่อีกสองคดี ทั้งแพ่งและอาญา จึงไม่อยากไปแจ้งความดำเนินคดีที่มีการปิดล้อมคุกคามตน เพราะไม่อยากซ้ำเติมนายการุณ ที่กำลังถูก ป.ป.ช.ตรวจสอบด้วย อีกทั้งนายการุณ ก็ไม่ใช่คู่แข่งทางการเมืองของตนด้วย
“ผมเชื่อว่าบรรยากาศการเลือกตั้งซ่อมเขตดอนเมือง กำลังจะเกิดขึ้น ภายในอาทิตย์หน้าจะมีความเข้มข้นมากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อวันที่ 10 พ.ค. ที่ผ่านมามีคนโทรศัพท์ที่สำนักงานพรรคเขตดอนเมืองว่า “ขอแสดงความยินดีกับส.ส.คนใหม่ แต่ก่อนที่จะได้เป็นต้องตาม“คม”ไปก่อน” ผมเป็นคนปิดตาให้“คม”(ชุติเดช สุวรรณเกิด) ในวันที่เขาถูกยิงตาย ลูกเมียเขาทรุดลงตรงหน้าผม แต่คดีผ่านมากว่า 1 ปี ไม่มีความคืบหน้า ทั้ง ๆ ที่ตำรวจมีหลักฐานจากกล้องวงจรปิด และผมก็ทราบว่าใครทำ ชื่อย่อ จ.กับน.ไม่ได้เกี่ยวข้องกับนายการุณโดยตรง แต่ทำไมตำรวจจึงจับคนร้ายไม่ได้ ทั้ง ๆ ที่ยังใช้ชีวิตอยู่ที่ดอนเมืองตามปกติ สิ่งที่เกิดขึ้นจะให้ผมมั่นใจได้อย่างไรว่าการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ จะมีความปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์ หากนายการุณ ไม่เลิกพฤติกรรมแสดงอิทธิพล และพรรคเพื่อไทยไม่สามารถหยุดพฤติกรรมของนายการุณได้ ทำให้ลูกน้องของผมเกิดความหวาดกลัว รวมไปถึงประชาชนก็จะไม่กล้าสนับสนุนผม” นายแทนคุณ กล่าว
ทั้งนี้นายแทนคุณ ยังเชื่อว่า การเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ดอนเมือง ในครั้งนี้ อาจเรียกว่ากำลังจะเกิดวิกฤตการแข่งขันทางการเมืองโดยเฉพาะพฤติกรรมของนายการุณ ที่แสดงออกมาว่ามีอิทธิพลในพื้นที่ และเข้าไปข้องเกี่ยวกับงบประมาณรัฐบาลที่จัดสรรไปยังชุมชนในช่วงที่กำลังจะมีการเลือกตั้งซ่อมพอดี โดยเมื่อวันที่ 11 เม.ย.56) วันเดียว มีการนำงบเอสเอ็มแอลเข้าไปถึง 8 ชุมชน ตนจึงขอถามว่าสิ่งที่เกิดขึ้น ยุติธรรมหรือไม่ และการประชุมประชาคมต้องให้มีการตรวจสอบไม่ได้ กลัวอะไร จึงไม่ให้ตนถ่ายภาพ
**"มาร์ค"หวั่นความขัดแย้งกระทบเลือกตั้ง
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แสดงความเป็นห่วงกรณีที่เกิดการกระทบกระทั่งกันระหว่าง นายการุณ โหสกุล กับนายแทนคุณ จิตต์อิสระ ในงานประชุมประชาคมเอสเอ็มแอลที่ดอนเมือง โดยขอให้ทุกฝ่ายระมัดระวัง เพราะไม่อยากให้กระบวนการเลือกตั้งทำให้เกิดความขัดแย้ง หรือความรุนแรง ดังนั้นทุกฝ่ายจึงต้องระมัดระวังในการปฏิบัติ และหาทางหลีกเลี่ยงอย่าให้เกิดการกระทบกระทั่งกัน ซึ่งเป็นหน้าที่ของนักการเมืองและพรรคการเมืองทุกฝ่ายต้องช่วยกันอย่าทำให้เกิดบรรยากาศความขัดแย้งหรือความตึงเครียด เพราะกระบวนการเลือกตั้งเป็นกระบวนการสำคัญในระบอบประชาธิปไตย ควรดำเนินไปในบรรยากาศที่ไม่มีความขัดแย้ง แต่ไม่หนักใจที่ ก.ก.ต. กำหนดวันเลือกตั้งเร็ว ทำให้มีเวลาหาเสียงสั้น ส่วนอิทธิพลในพื้นที่ของนายการุณ จะมีผลต่อการเลือกตั้งซ่อมหรือไม่นั้น ตนเห็นว่าพรรคและผู้สมัครต้องไม่หวั่นไหวเพราะมีหน้าที่ในการทำงาน เสนอตัว เสนอความคิดกับประชาชน จะหวั่นไหวไม่ได้ แต่การจะทำอะไรต้องระมัดระวัง อย่าให้เกิดการกระทบกระทั่งจะดีที่สุด
นายอภิสิทธิ์ กล่าวด้วยว่า วันนี้ (13 พ.ค.56)คณะกรรมการบริหารพรรคจะพิจารณาตัวผู้สมัครเลือกตั้งซ่อมเขตดอนเมือง ซึ่งนายแทนคุณ ก็เสนอตัวมาแล้ว และทำงานในพื้นที่มาต่อเนื่อง แต่ต้องรอดูมติกรรมการบริหารพรรคก่อน โดยพรรคมีหลักเกณฑ์ในการพิจารณาว่า จะดูจากคนที่มีความตั้งใจในการรับใช้พี่น้องชาวดอนเมืองในฐานะส.ส. มีคุณสมบัติเป็นนักการเมืองที่ดี โดยจุดขายของพรรคยังมีเรื่องของความเป็นพรรคการเมืองด้วย เพราะการเลือกตั้งครั้งนี้น่าจะเป็นการแข่งกันระหว่างสองพรรคใหญ่
ทั้งนี้ พรรคยืนยันว่าแม้ไม่มีโอกาสได้รับเลือกตั้งเป็นส.ส.ในพื้นที่นี้มานานมาก แต่ก็พยายามที่จะเข้าไปทำงานรับใช้ประชาชน และการเลือกตั้งซ่อมส.ก.ที่ผ่านมาก็ได้ส.ก.ในเขตดอนเมือง ดังนั้นพรรคจะทำเต็มที่ เพราะคิดว่าเป็นโอกาสแม้จะทราบว่าเป็นพื้นที่ที่ยากที่สุดพื้นที่หนึ่งในกรุงเทพฯ แต่ก็จะทำเต็มที่ แม้ว่าในการเลือกตั้งผู้ว่ากทม.ครั้งที่ผ่านมา คะแนนในเขตนี้พรรคจะได้น้อยกว่าพรรคเพื่อไทย แต่ก็ไม่คิดว่าจะทำให้โอกาสในการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ลดลง เพราะการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นคนละสนาม และเชื่อว่า ผลการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้จะมีนัยยะไปถึงการทำงานของรัฐบาล เนื่องจากรัฐบาลก็คาดหวังในการเลือกตั้งซ่อมไม่ต่างจากฝ่ายค้าน.