“แทนคุณ” ปัดป่วนงานเอสเอ็มแอลดอนเมือง อ้างกลับเข้ามาใหม่เหตุลูกน้อง “การุณ” จ้อพาดพิงเอาเหล้าขาวแจกสงกรานต์ แจงถ่ายภาพอีกรอบเพราะเจออดีต ส.ส.กทม.นั่งข้างเมีย บอกพูดอย่าทำร้ายไม่ได้ดรามาแค่รู้สึกไม่ปลอดภัย ตกใจท่าที “จอมถีบ” โวยโดนล้อมมีหลักฐานชัด ยันไม่แค้นแผ่เมตตาให้ตลอด สวน ส.ก.เพื่อไทย ผัวโดนแบนแต่ยุ่งการจัดสรรงบรัฐเหมาะหรือไม่ ย้ำไม่ใช่ต้นเหตุทำโดนตัดสิทธิ แฉถูกโทร.สังหาร จวก ตร.ปล่อยมือฆ่าลูกน้องลอยนวล
วันนี้ (12 พ.ค.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายแทนคุณ จิตต์อิสระ ว่าที่ผู้สมัครเลือกตั้งซ่อม ส.ส.กทม.เขต 12 กล่าวถึงกรณีคลิปที่ปรากฏกรณีมีปากเสียงกับนายการุณ โหสกุล อดีต ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย และส.ก.พรรคเพื่อไทย ในงานประชุมประชาคมโครงการเอสเอ็มแอลชุมชนนิเวศชาวฟ้า เขตดอนเมือง ว่าตนไม่ได้ไปป่วนในงาน แต่มีคนเชิญให้ตนขึ้นไปพูดบนเวที ซึ่งก็ได้ใช้เวลาในการพูดคุยกับชาวบ้านราว 10 นาที เกี่ยวกับแนวคิดในการพัฒนาพื้นที่ ก่อนที่จะลงจากเวทีและออกจากห้องไป
หลังจากนั้นได้มีชาวบ้านโทรศัพท์มาแจ้งตนให้กลับเข้าไปที่ห้องประชุม เพราะลูกน้องของนายการุณ คือ นายประเวศ ซึ่งเป็นอดีตผู้สมัคร ส.ก.ของพรรคเพื่อไทย ได้กล่าวพาดพิงตนให้เกิดความเสียหาย โดยอ้างว่ามีการนำเหล้าไปแจกในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ทั้งๆ ที่ความจริงคือลูกน้องของตนนำอุปกรณ์เกี่ยวกับการรดน้ำ เช่น แป้ง น้ำอบ ใส่ไว้ในกล่องเหล้าขาวเท่านั้น ซึ่งก็เคยมีการชี้แจงไปแล้ว แต่กลับนำเรื่องนี้ไปพูดในระหว่างการทำประชาคมเพื่อให้เกิดความเข้าใจผิด ตนจึงเห็นว่ามีความจำเป็นที่จะต้องกลับไปสังเกตการณ์ เมื่อกลับเข้าไปในห้องประชุมก็เห็นนายการุณ โหสกุล นั่งอยู่ข้างนางพิมพ์ชนา โหสกุล ภรรยาของนายการุณ และส.ก.เขตดอนเมือง ตนจึงยกมือถือขึ้นมาถ่ายภาพ แต่เมื่อนายการุณเห็นก็ไปแย่งไมค์ลูกน้องตัวเองมาประกาศว่า ถ้างานนี้ยังมีตนอยู่การประชาคมจะไม่เกิดผล ทุกอย่างจะฟรีหมด จึงได้แย้งไปว่าไม่เกี่ยวกับตนเพราะสามารถทำได้เลยเนื่องจากเป็นภาษีของประชาชน
จากนั้นนายการุณได้ปรี่เข้ามาชี้หน้าต่อว่าตนด้วยท่าทีคุกคาม จึงได้บอกไปว่า “อย่าทำร้ายผม” ไม่ใช่เรื่องดรามา แต่ตอนนั้นรู้สึกว่าไม่ปลอดภัยจริงๆ รวมทั้งมีลูกน้องและผู้สนับสนุนนายการุณประมาณ 5-6 คนมาล้อมตนไว้ ปิดประตูไม่ให้ออกจากห้อง มีการผลักด้านหลังและในคลิปที่มีการนำขึ้นยูทิวบ์ก็ปรากฏชัดว่าศอกของนายการุณดันอยู่ที่หลังของตนด้วย
“ผมไม่เคยมีความแค้นเป็นส่วนตัวกับนายการุณ และที่ผ่านมาก็แผ่เมตตาให้ ไม่อยากจองเวรจองกรรมกับเก่ง เพราะถือว่ามีเพื่อนห้าร้อยน้อยแต่ถ้ามีศัตรูแบบเก่งคนเดียวก็มากเกินพอแล้ว ผมอาสามาเป็นผู้แทนที่ดี หวังว่าคนที่โจมตีว่าผมดรามา บิดเบือน จะรับฟังความจริงว่าผมไม่ได้ไปป่วน เพราะในงาน ส.ข.ของพรรคเพื่อไทยก็ถ่ายรูปผม ผมไม่โวยวายเพราะเป็นบุคคลสาธารณะพร้อมให้ตรวจสอบ และที่บอกว่าอย่าทำร้ายผมนั้นไม่ใช่เรื่องดรามา แต่ผมตกใจและกลัวจริงๆ เพราะไปคนเดียว ขณะที่นายการุณก็มีท่าทีคุกคามอย่างเห็นได้ชัด จึงไม่รู้ว่าจะพูดอะไร ไม่ใช่การดัดจริตหรือแสดงละคร เพราะนายการุณปรี่เข้ามาหาซึ่งทุกคนก็ทราบดีถึงภาพลักษณ์ของนายการุณว่ามีความถนัดเรื่องหมัดมวยมากกว่าผม” นายแทนคุณกล่าว
นายแทนคุณยังตั้งคำถามไปยังนางพิมพ์ชนา ภรรยาของนายการุณที่กล่าวหาว่าตนไม่มีมารยาททางการเมืองว่า การที่นายการุณไปอยู่ในที่ที่มีการประชุมเพื่อจัดสรรงบประมาณเหมาะสมหรือไม่ และที่นายการุณเรียกตนว่า “แทนควาย” ผ่านเฟซบุ๊กมาตลอดตั้งแต่การเลือกตั้งครั้งที่แล้ว จนถึงการแสดงอิทธิพลว่าหากไม่ใช่เพราะนายการุณไปขอร้องไว้ ตนก็ไม่มีทางเดินในพื้นที่ดอนเมืองได้โดยไม่ถูกกระทืบว่า คำพูดเหล่านี้เป็นคำพูดของคนที่มีมารยาททางการเมืองหรือไม่ และการที่ตนไปสังเกตการณ์การทำประชาคมที่มีลูกน้องนายการุณพาดพิงให้เสียหาย ไม่สามารถเรียกว่าไปป่วนหรือไม่มีมารยาททางการเมือง แต่ไปเพื่อสังเกตการณ์รักษาประโยชน์ให้ชาวบ้าน เพราะมีกระบวนการให้ชาวบ้านเข้าใจว่าจะได้งบก้อนนี้ก็ต่อเมื่อผ่านนายการุณเท่านั้น ซึ่งไม่ถูกต้อง เนื่องจากเงินทั้งหมดเป็นเงินภาษีของประชาชน และตนยังกลับเข้าไปเพื่อรักษาสิทธิของตนเองที่ถูกใส่ร้ายด้วย จึงมีการถ่ายภาพไว้เป็นหลักฐาน จะเรียกสิ่งเหล่านี้ว่าไม่มีมารยาททางการเมืองได้อย่างไร
นายแทนคุณกล่าวว่า อยากให้เข้าใจว่าตนไม่ใช่ต้นเหตุทำให้ถูกตัดสิทธิ แต่พฤติกรรมนายการุณ มีการทำผิดกฎหมายจนถูกตัดสิทธิทางการเมือง ซึ่งตนรอคอยความยุติธรรมมายาวนานเกือบ 2 ปี และในขณะนี้ก็ยังฟ้องร้องนายการุณอยู่อีก 2 คดี ทั้งแพ่งและอาญา จึงไม่อยากไปแจ้งความดำเนินคดีที่มีการปิดล้อมคุกคามตน เพราะไม่อยากซ้ำเติมนายการุณที่กำลังถูก ป.ป.ช.ตรวจสอบด้วย อีกทั้งนายการุณก็ไม่ใช่คู่แข่งทางการเมืองของตนด้วย
“ผมเชื่อว่าบรรยากาศการเลือกตั้งซ่อมเขตดอนเมืองกำลังจะเกิดขึ้นภายในอาทิตย์หน้าจะมีความเข้มข้นมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อวันที่ 10 พ.ค.ที่ผ่านมามีคนโทรศัพท์ที่สำนักงานพรรคเขตดอนเมืองว่า “ขอแสดงความยินดีกับ ส.ส.คนใหม่ แต่ก่อนที่จะได้เป็นต้องตาม “คม” ไปก่อน” ผมเป็นคนปิดตาให้ “คม” (ชุติเดช สุวรรณเกิด) ในวันที่เขาถูกยิงตาย ลูกเมียเขาทรุดลงตรงหน้าผม แต่คดีผ่านมากว่า 1 ปีไม่มีความคืบหน้า ทั้งๆ ที่ตำรวจมีหลักฐานจากกล้องวงจรปิด และผมก็ทราบว่าใครทำ ชื่อย่อ จ.กับ น.นั้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับนายการุณโดยตรง แต่ทำไมตำรวจจึงจับคนร้ายไม่ได้ ทั้งๆ ที่ยังใช้ชีวิตอยู่ที่ดอนเมืองตามปกติ สิ่งที่เกิดขึ้นจะให้ผมมั่นใจได้อย่างไรว่าการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้จะมีความปลอดภัยร้อยเปอร์เซ็นต์ หากนายการุณไม่เลิกพฤติกรรมแสดงอิทธิพล และพรรคเพื่อไทยไม่สามารถหยุดพฤติกรรมของนายการุณได้ ทำให้ลูกน้องของผมเกิดความหวาดกลัว รวมไปถึงประชาชนก็จะไม่กล้าสนับสนุนผม” นายแทนคุณกล่าว
ทั้งนี้ นายแทนคุณยังเชื่อว่าการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ดอนเมือในครั้งนี้ อาจเรียกว่ากำลังจะเกิดวิกฤตการแข่งขันทางการเมือง โดยเฉพาะพฤติกรรมของนายการุณที่แสดงออกมาว่ามีอิทธิพลในพื้นที่ และเข้าไปข้องเกี่ยวกับงบประมาณรัฐบาลที่จัดสรรไปยังชุมชนในช่วงที่กำลังจะมีการเลือกตั้งซ่อมพอดี โดยเมื่อวานนี้ (11 เม.ย. 56) วันเดียวมีการนำงบเอสเอ็มแอลเข้าไปถึง 8 ชุมชน ตนจึงขอถามว่าสิ่งที่เกิดขึ้นยุติธรรมหรือไม่ และการประชุมประชาคมต้องให้มีการตรวจสอบไม่ได้ กลัวอะไรจึงไม่ให้ตนถ่ายภาพ