ASTVผู้จัดการรายวัน-ปชป.ร้าว! หลังเตรียมแถลงปฏิรูปพรรคล่ม "ชวนนท์"อ้าง "เสี่ยจ้อน"ติดภารกิจมาร่วมไม่ได้ "มาร์ค"ย้ำใครก็อยากชนะเลือกตั้ง แต่วิธีการต้องยึดอุดมการณ์ ไม่ใช่อะไรก็ได้ ด้าน "ชวน" ปิดปากเงียบ แม้ถูกอ้างชื่อ ขณะที่เจ้าตัวเดือด ทวิตซัดแหล่งข่าวอาวุโสไม่แมน บิดเบือน ให้ร้าย บิดขาวเป็นดำ
จากกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ได้ยกเลิกการแถลงข่าว "การปฏิรูปพรรค" อย่างกระทันหัน เมื่อวันที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา ทั้งที่มีการนัดหมายสื่อมวลชนไว้พร้อมแล้วนั้น
ล่าสุดนายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุตร โฆษกพรรคฯ ได้ให้เหตุผลว่า สาเหตุที่ต้องเลื่อนการแถลงข่าว ไม่ได้เป็นเพราะเกิดความแตกแยกในพรรค หรือเป็นเพราะนายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรค ผู้เสนอเรื่องดังกล่าว ไม่พอใจผลการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค แต่เป็นเพราะกรรมการบริหารพรรคต้องการมีส่วนร่วม และนายอลงกรณ์อยากร่วมแถลงข่าวด้วย แต่ติดภารกิจด่วนที่ จ.เพชรบุรี จึงไม่สามารถมาร่วมแถลงข่าวได้
“ขอยืนยันว่า ไม่มีสิ่งใดผิดปกติ แต่นายอลงกรณ์ ติดภารกิจด่วน ซึ่งพรรคไม่ได้มีความขัดแย้งใดๆ ทั้งสิ้น พรรคประชาธิปัตย์ทุกคนเห็นถึงความจำเป็นในการพัฒนาพรรค เพื่อตอบสนองการเลือกตั้งที่อาจจะเกิดเร็วขึ้นกว่ากำหนด”
ขณะที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ในรายการฟ้าวันใหม่ ทางโทรทัศน์บลูสกายแชแนล ว่า เป็นเพราะนายอลงกรณ์ ติดภารกิจด่วนที่ จ.เพชรบุรี ซึ่งตนอยากให้ทุกคนมาแถลงข่าวร่วมกัน ส่วนจะเป็นวันไหนกำลังให้นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค ประสานกับนายอลงกรณ์อยู่ ส่วนบรรยากาศในการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค เพื่อพิจารณาเรื่องการปฏิรูปพรรค เมื่อวันที่ 13 พ.ค.ที่ผ่านมา เป็นไปด้วยดี และทุกคนก็อยากมีส่วนร่วม ตนคิดว่าการปฏิรูปถ้าจะทำให้เป็นงานสำคัญ ก็ต้องให้ทุกคนมาพูดด้วยกัน เคลื่อนให้มันเป็นเอกภาพ จึงจะเกิดพลัง
สำหรับการเลื่อนแถลงข่าว ไม่ได้มีผลต่อการปฏิรูปพรรค เพราะจะต้องเดินหน้าปรับปรุงทั้งโครงสร้างการบริหารพรรค การบริหารจัดการสำนักงาน และบทบาทหน้าที่ของแต่ละฝ่าย เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งกรอบการทำงานนี้ ตนได้มอบให้ผู้เกี่ยวข้องไปทำให้เสร็จใน 1 เดือน ส่วนรายละเอียดที่ต้องไปแก้ข้อบังคับพรรคจะต้องเรียกประชุมใหญ่
“เป้าหมายการปฏิรูปครั้งนี้ คือ ชัยชนะของอุดมการณ์ของพรรค แน่นอนว่าการชนะการเลือกตั้งนั้น เป็นความต้องการเป็นความปรารถนาทั้งของสมาชิกและผู้สนับสนุนพรรค แต่ว่าไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงที่บอกว่า จะเอาชนะการเลือกตั้ง โดยอะไรก็ได้ มันต้องเป็นการเดินหน้าที่รักษาอุดมการณ์ แล้วก็มุ่งไปสู่ชัยชนะในการเลือกตั้ง แล้วก็การทำงานให้กับประเทศ”นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ขณะที่นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ปฏิเสธที่จะตอบคำถาม โดยระบุว่า ตนไม่ได้เป็นกรรมการบริหารพรรค ขอให้ไปถามนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ ได้มีรายงานข่าวจากแหล่งข่าวอาวุโสคนหนึ่งในพรรคปชป. ที่ให้ข้อมูลว่า นายชวน ได้ไลน์เข้ามา และมองการเสนอแนวคิดของนายอลงกรณ์เป็นการเลียนแบบพรรคเพื่อไทยที่เน้นประชานิยม ซึ่งนายชวนไม่พอใจมาก เพราะได้ต่อต้านเรื่องนี้มาตลอดชีวิตทางการเมือง โดยถึงขั้นระบุว่า "เดี๋ยวนี้เราคุยกันเรื่องอุดมการณ์ของพรรคน้อยไป ใครเข้ามาเป็น ส.ส.คงต้องหารือถึงเรื่องนี้กันบ้าง" และยังได้ให้ข้อมูลอีกว่า นายชวนยังเชื่อว่า นายอลงกรณ์ยังคิดบวกกับพรรคที่มาเสนอแนวทางนี้ แต่ก็ยังไม่พอใจนักที่มาเสนอนโยบายการปฏิรูปที่ขัดต่ออุดมการณ์ที่มีมาตั้งแต่เริ่มตั้งพรรค
ทางด้านนายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ทวิตเตอร์ส่วนตัว (@alongkornpb) ถึงพิมพ์เขียวปฏิรูปพรรคประชาธิปัตย์ ใจความว่า "หนังสือพิมพ์ลงข่าวว่า แหล่งข่าวอาวุโสในพรรคอ้างว่า ท่านชวน หลีกภัย โกรธมากที่ข้อเสนอการปฏิรูปพรรคของผมขัดอุดมการณ์พรรค เน้นประชานิยม แหล่งข่าวอาวุโสในพรรคให้ข่าวหนังสือพิมพ์แบบบิดเบือนหลังจากที่ผมเสนอพิมพ์เขียวปฏิรูปพรรคประชาธิปัตย์ ในที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคเมื่อวันที่ 13 พ.ค.ที่ผ่านมา การกล่าวหาว่า "ข้อเสนอปฏิรูปพรรค" ขัดอุดมการณ์พรรค-เน้นประชานิยม-เลียนแบบพรรคเพื่อไทย"นั้น นับว่าบิดเบือนและเป็นการดิสเครดิต
ผมรักษาวินัยโดยไม่ให้สัมภาษณ์สื่อใดๆ หลังเสร็จสิ้นการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค แต่กลับมีบางคนให้ข่าวใส่ร้ายบิดเบือนการปฏิรูป การอ้างคำพูดท่านชวน ที่ผมให้ความเคารพแบบจงใจพูดโกหก "ขาวเป็นดำ" เช่นนี้ไม่ใช่ลูกผู้ชาย จะทำร้ายผมได้ แต่อย่าทำร้าย "การปฏิรูป"
22 ปี ไม่เคยไปไหน พรรคให้เป็นประธานตรวจสอบทุจริตยุคทักษิณเรืองอำนาจสูงสุด 5 ปี เต็ม เสี่ยงคุกเสี่ยงตาย คนแบบนี้ไม่มีอุดมการณ์หรือ ท่านชวนเป็นต้นแบบต่อต้านการซื้อเสียงและคอร์รัปชั่น ผมก็ต่อสู้พวกซื้อเสียงพวกทุจริต และไม่สนับสนุนนโยบายประชานิยมแบบมอมเมา ผมเชื่อมั่นแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง พึ่งตนเอง ท่านชวน-ดร.อาทิตย์ ให้ทำเรื่องเอทานอล ผมก็ทุ่มเททำงานจนวันนี้มีแก๊สโซฮอลขายทั่วประเทศ ท่าน "บัญญัติ-อภิสิทธ์" ให้ผมเป็นประธานตรวจสอบทุจริตสมัยทักษิณมีอำนาจสูงสุด 5 ปีเต็ม (ปี 45-49) จนโดนฟ้องโดนแจ้งความเกือบ 20 คดี ท่านอภิสิทธ์ ให้ผลักดันนโยบาย "เศรษฐกิจสร้างสรรค์และโลจิสติกส์" ตอนเป็น "รมช.พาณิชย์" ก็บริหารจนเป็นที่ยอมรับทั้งในประเทศและอาเซียน ท่านอภิสิทธิ์ ให้ผมปฏิรูปราชการ เพราะขีดความสามารถประเทศลดลงโดยเฉพาะ "การเริ่มต้นธุรกิจในไทย" ก็สามารถลดเวลาจาก 4 วันเหลือ 60 นาที ผมเชื่อเรื่องปฏิรูปเพราะการปฏิรูปราชการที่ว่ายาก ยังสามารถปรับปรุงระบบและพัฒนาคนจนสำเร็จทำให้กรมพัฒนาธุรกิจได้รางวัลที่ 1 ของประเทศ
ผมนำร่องปฏิรูปภาคกลางเช่นจัดอบรมแกนนำสมาชิกตั้งแต่ต้นปีกว่า 1,200 คน เน้นปลูกฝังอุดมการณ์สร้างวิสัยทัศน์ "คิดเก่ง-ทำเก่ง" ตัวอย่างที่ยกมาเพื่อให้พิจารณาเปรียบเทียบกับ "การกล่าวหาใส่ร้าย" ว่า "ผมเป็นคนไร้อุดมการณ์ ไร้หลักการ" จริงหรือไม่ หรือการกล่าวหาใส่ร้ายเกิดขึ้นเพราะผมและเพื่อนๆ เสนอ "พิมพ์เขียวปฏิรูปพรรค" และ "ความพ่ายแพ้ซ้ำซาก 21 ปี" แบบตรงไปตรงมา เพื่อไม่ให้มีการบิดเบือนใส่ร้ายข้อเสนอการปฏิรูปพรรคอีกต่อไป จึงต้องเผยแพร่ "พิมพ์เขียวปฏิรูปพรรคปชป."
จากกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ได้ยกเลิกการแถลงข่าว "การปฏิรูปพรรค" อย่างกระทันหัน เมื่อวันที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา ทั้งที่มีการนัดหมายสื่อมวลชนไว้พร้อมแล้วนั้น
ล่าสุดนายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุตร โฆษกพรรคฯ ได้ให้เหตุผลว่า สาเหตุที่ต้องเลื่อนการแถลงข่าว ไม่ได้เป็นเพราะเกิดความแตกแยกในพรรค หรือเป็นเพราะนายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรค ผู้เสนอเรื่องดังกล่าว ไม่พอใจผลการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค แต่เป็นเพราะกรรมการบริหารพรรคต้องการมีส่วนร่วม และนายอลงกรณ์อยากร่วมแถลงข่าวด้วย แต่ติดภารกิจด่วนที่ จ.เพชรบุรี จึงไม่สามารถมาร่วมแถลงข่าวได้
“ขอยืนยันว่า ไม่มีสิ่งใดผิดปกติ แต่นายอลงกรณ์ ติดภารกิจด่วน ซึ่งพรรคไม่ได้มีความขัดแย้งใดๆ ทั้งสิ้น พรรคประชาธิปัตย์ทุกคนเห็นถึงความจำเป็นในการพัฒนาพรรค เพื่อตอบสนองการเลือกตั้งที่อาจจะเกิดเร็วขึ้นกว่ากำหนด”
ขณะที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ในรายการฟ้าวันใหม่ ทางโทรทัศน์บลูสกายแชแนล ว่า เป็นเพราะนายอลงกรณ์ ติดภารกิจด่วนที่ จ.เพชรบุรี ซึ่งตนอยากให้ทุกคนมาแถลงข่าวร่วมกัน ส่วนจะเป็นวันไหนกำลังให้นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค ประสานกับนายอลงกรณ์อยู่ ส่วนบรรยากาศในการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค เพื่อพิจารณาเรื่องการปฏิรูปพรรค เมื่อวันที่ 13 พ.ค.ที่ผ่านมา เป็นไปด้วยดี และทุกคนก็อยากมีส่วนร่วม ตนคิดว่าการปฏิรูปถ้าจะทำให้เป็นงานสำคัญ ก็ต้องให้ทุกคนมาพูดด้วยกัน เคลื่อนให้มันเป็นเอกภาพ จึงจะเกิดพลัง
สำหรับการเลื่อนแถลงข่าว ไม่ได้มีผลต่อการปฏิรูปพรรค เพราะจะต้องเดินหน้าปรับปรุงทั้งโครงสร้างการบริหารพรรค การบริหารจัดการสำนักงาน และบทบาทหน้าที่ของแต่ละฝ่าย เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งกรอบการทำงานนี้ ตนได้มอบให้ผู้เกี่ยวข้องไปทำให้เสร็จใน 1 เดือน ส่วนรายละเอียดที่ต้องไปแก้ข้อบังคับพรรคจะต้องเรียกประชุมใหญ่
“เป้าหมายการปฏิรูปครั้งนี้ คือ ชัยชนะของอุดมการณ์ของพรรค แน่นอนว่าการชนะการเลือกตั้งนั้น เป็นความต้องการเป็นความปรารถนาทั้งของสมาชิกและผู้สนับสนุนพรรค แต่ว่าไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงที่บอกว่า จะเอาชนะการเลือกตั้ง โดยอะไรก็ได้ มันต้องเป็นการเดินหน้าที่รักษาอุดมการณ์ แล้วก็มุ่งไปสู่ชัยชนะในการเลือกตั้ง แล้วก็การทำงานให้กับประเทศ”นายอภิสิทธิ์ กล่าว
ขณะที่นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ปฏิเสธที่จะตอบคำถาม โดยระบุว่า ตนไม่ได้เป็นกรรมการบริหารพรรค ขอให้ไปถามนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ ได้มีรายงานข่าวจากแหล่งข่าวอาวุโสคนหนึ่งในพรรคปชป. ที่ให้ข้อมูลว่า นายชวน ได้ไลน์เข้ามา และมองการเสนอแนวคิดของนายอลงกรณ์เป็นการเลียนแบบพรรคเพื่อไทยที่เน้นประชานิยม ซึ่งนายชวนไม่พอใจมาก เพราะได้ต่อต้านเรื่องนี้มาตลอดชีวิตทางการเมือง โดยถึงขั้นระบุว่า "เดี๋ยวนี้เราคุยกันเรื่องอุดมการณ์ของพรรคน้อยไป ใครเข้ามาเป็น ส.ส.คงต้องหารือถึงเรื่องนี้กันบ้าง" และยังได้ให้ข้อมูลอีกว่า นายชวนยังเชื่อว่า นายอลงกรณ์ยังคิดบวกกับพรรคที่มาเสนอแนวทางนี้ แต่ก็ยังไม่พอใจนักที่มาเสนอนโยบายการปฏิรูปที่ขัดต่ออุดมการณ์ที่มีมาตั้งแต่เริ่มตั้งพรรค
ทางด้านนายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ทวิตเตอร์ส่วนตัว (@alongkornpb) ถึงพิมพ์เขียวปฏิรูปพรรคประชาธิปัตย์ ใจความว่า "หนังสือพิมพ์ลงข่าวว่า แหล่งข่าวอาวุโสในพรรคอ้างว่า ท่านชวน หลีกภัย โกรธมากที่ข้อเสนอการปฏิรูปพรรคของผมขัดอุดมการณ์พรรค เน้นประชานิยม แหล่งข่าวอาวุโสในพรรคให้ข่าวหนังสือพิมพ์แบบบิดเบือนหลังจากที่ผมเสนอพิมพ์เขียวปฏิรูปพรรคประชาธิปัตย์ ในที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคเมื่อวันที่ 13 พ.ค.ที่ผ่านมา การกล่าวหาว่า "ข้อเสนอปฏิรูปพรรค" ขัดอุดมการณ์พรรค-เน้นประชานิยม-เลียนแบบพรรคเพื่อไทย"นั้น นับว่าบิดเบือนและเป็นการดิสเครดิต
ผมรักษาวินัยโดยไม่ให้สัมภาษณ์สื่อใดๆ หลังเสร็จสิ้นการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค แต่กลับมีบางคนให้ข่าวใส่ร้ายบิดเบือนการปฏิรูป การอ้างคำพูดท่านชวน ที่ผมให้ความเคารพแบบจงใจพูดโกหก "ขาวเป็นดำ" เช่นนี้ไม่ใช่ลูกผู้ชาย จะทำร้ายผมได้ แต่อย่าทำร้าย "การปฏิรูป"
22 ปี ไม่เคยไปไหน พรรคให้เป็นประธานตรวจสอบทุจริตยุคทักษิณเรืองอำนาจสูงสุด 5 ปี เต็ม เสี่ยงคุกเสี่ยงตาย คนแบบนี้ไม่มีอุดมการณ์หรือ ท่านชวนเป็นต้นแบบต่อต้านการซื้อเสียงและคอร์รัปชั่น ผมก็ต่อสู้พวกซื้อเสียงพวกทุจริต และไม่สนับสนุนนโยบายประชานิยมแบบมอมเมา ผมเชื่อมั่นแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง พึ่งตนเอง ท่านชวน-ดร.อาทิตย์ ให้ทำเรื่องเอทานอล ผมก็ทุ่มเททำงานจนวันนี้มีแก๊สโซฮอลขายทั่วประเทศ ท่าน "บัญญัติ-อภิสิทธ์" ให้ผมเป็นประธานตรวจสอบทุจริตสมัยทักษิณมีอำนาจสูงสุด 5 ปีเต็ม (ปี 45-49) จนโดนฟ้องโดนแจ้งความเกือบ 20 คดี ท่านอภิสิทธ์ ให้ผลักดันนโยบาย "เศรษฐกิจสร้างสรรค์และโลจิสติกส์" ตอนเป็น "รมช.พาณิชย์" ก็บริหารจนเป็นที่ยอมรับทั้งในประเทศและอาเซียน ท่านอภิสิทธิ์ ให้ผมปฏิรูปราชการ เพราะขีดความสามารถประเทศลดลงโดยเฉพาะ "การเริ่มต้นธุรกิจในไทย" ก็สามารถลดเวลาจาก 4 วันเหลือ 60 นาที ผมเชื่อเรื่องปฏิรูปเพราะการปฏิรูปราชการที่ว่ายาก ยังสามารถปรับปรุงระบบและพัฒนาคนจนสำเร็จทำให้กรมพัฒนาธุรกิจได้รางวัลที่ 1 ของประเทศ
ผมนำร่องปฏิรูปภาคกลางเช่นจัดอบรมแกนนำสมาชิกตั้งแต่ต้นปีกว่า 1,200 คน เน้นปลูกฝังอุดมการณ์สร้างวิสัยทัศน์ "คิดเก่ง-ทำเก่ง" ตัวอย่างที่ยกมาเพื่อให้พิจารณาเปรียบเทียบกับ "การกล่าวหาใส่ร้าย" ว่า "ผมเป็นคนไร้อุดมการณ์ ไร้หลักการ" จริงหรือไม่ หรือการกล่าวหาใส่ร้ายเกิดขึ้นเพราะผมและเพื่อนๆ เสนอ "พิมพ์เขียวปฏิรูปพรรค" และ "ความพ่ายแพ้ซ้ำซาก 21 ปี" แบบตรงไปตรงมา เพื่อไม่ให้มีการบิดเบือนใส่ร้ายข้อเสนอการปฏิรูปพรรคอีกต่อไป จึงต้องเผยแพร่ "พิมพ์เขียวปฏิรูปพรรคปชป."
