ข่าวการปฏิรูปของพรรคประชาธิปัตย์ดังมาเป็นระยะ และคราวนี้คงไม่ดีแต่พูดเท่านั้น เพราะมีเสียงสนับสนุนจากสมาชิกพรรคระดับแกนนำหลายคน
การปฏิรูปเปลี่ยนแปลงหรือผ่าตัด กลายเป็นความจำเป็นของพรรคการเมืองเก่าแก่ที่สุดของประเทศไทย เพราะทุกวันนี้ ประชาธิปัตย์กำลังตกอยู่ในสภาพพรรคการเมืองที่ตายซาก
ไม่มีจุดยืนทางการเมืองที่ชัดเจน ไม่ใช่พรรคที่ประชาชนให้ความคาดหวัง ไม่ใช่ทางออกของประเทศ และไม่มีโอกาสต่อสู้กับระบอบทักษิณได้
ความศรัทธาของพรรคประชาธิปัตย์ก้าวมาถึงจุดที่ตกต่ำสุดขีดแล้ว แม้แต่ฐานเสียงที่เหนียวแน่นในภาคใต้ คนใต้เองยังเอือมระอากับบทบาทของพรรค
ประชาธิปัตย์เคยชินกับการเป็น “ตาอยู่” เพราะตลอดหลายสิบปีของการต่อสู้เพื่อระบอบประชาธิปไตย ประชาธิปัตย์ไม่เคยออกมาสู้รบเคียงบ่าเคียงไหล่กับประชาชน
ทุกวิกฤตการณ์ทางการเมือง พรรคประชาธิปัตย์จะหดหัว ปล่อยให้ประชาชนออกมาสู้รบจนสามารถโค่นล้มเผด็จการ หรือแม้แต่รัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หลังเหตุการณ์รุนแรงสงบลง ประชาธิปัตย์ก็จะออกมาตีกิน ตั้งตัวเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล
ประชาธิปัตย์รอรับส้มหล่นมาตลอด เพราะรู้ว่าประชาชนไม่มีทางเลือก โดยเมื่อผิดหวังจากพรรคการเมืองอื่น จะหันกลับมาเลือกประชาธิปัตย์อีก จึงไม่ยอมพัฒนาตัวเอง
ตลอด 12 ปี หลังพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรกระโดดเข้าสู่การเมือง นำพรรคไทยรักไทยบดขยี้พรรคประชาธิปัตย์จนได้รับชัยชนะเลือกตั้งอย่างท่วมท้น
พรรคประชาธิปัตย์ก็ยังไม่ยอมทบทวนตัวเอง เพราะคิดว่าส้มจะหล่นอีก คิดว่า เมื่อประชาชนเบื่อหน่ายพรรคไทยรักไทย เมื่อประชาชนเห็นธาตุแท้ของพ.ต.ท.ทักษิณ ก็จะกลับมาหาพรรคประชาธิปัตย์ใหม่
แต่บุญเก่าของพรรคประชาธิปัตย์หมดแล้ว เพราะแม้จะเกลียดพ.ต.ท.ทักษิณ ไม่เอาพรรคเพื่อไทย แต่ก็เอียนเต็มทีกับพรรคประชาธิปัตย์
เพราะฝากผีฝากไข้ไม่ได้ ทำอะไรไม่เป็น แม้มีอำนาจเต็มไม้เต็มมือ แต่กลัวจนไม่กล้าใช้
คะแนนเสียงที่ประชาธิปัตย์ได้รับอยู่จากการเลือกตั้ง ไม่ว่าการเลือกตั้งระดับท้องถิ่นหรือระดับชาติ ไม่ใช่คะแนนจากความศรัทธาเหมือนอดีตแล้ว และเชื่อว่า คะแนนเสียงส่วนใหญ่ที่ได้รับ เกิดจากคนที่เกลียดพรรคเพื่อไทยมากกว่า
การที่พรรคประชาธิปัตย์เดินสายหาเสียงในพื้นที่ต่างๆ และถูกอันธพาลคนเสื้อแดงตามรังควาน เป็นสิ่งสะท้อนให้เห็นว่า มวลชนประชาธิปัตย์แทบไม่เหลือแล้ว
ถ้ามวลชนประชาธิปัตย์ยังแน่นเหนียว ยังมีศรัทธาแก่กล้า ก็คงจะลุกขึ้นมาปกป้อง ไม่ปล่อยให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคต้องวิ่งหนีคนเสื้อแดงหัวซุกหัวซุน
ความเคลื่อนไหวในการปฏิรูปตัวเอง ถือเป็นปรากฏการณ์เดียวที่ดีในรอบหลายสิบปีของพรรคประชาธิปัตย์ และเชื่อว่า ประชาชนกลุ่มต่างๆ พร้อมรอคอยการเปลี่ยนแปลง
แต่ประชาธิปัตย์จะเปลี่ยนได้หรือ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และส.ส.ทั้งพรรค พร้อมจะปรับปรุงตัวเองแล้วหรือ
และประชาธิปัตย์รู้แล้วหรือว่า จะต้องปฏิรูปตัวเองอย่างไร ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์รู้แล้วหรือยังว่า นักการเมืองที่ดี จะต้องประพฤติปฏิบัติตัวอย่างไร มีจุดยืนทางการเมืองอย่างไร
แนวความคิดเปลี่ยนแปลงตัวเอง เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี เพราะเมื่อคิดเปลี่ยนแปลง แสดงว่า รู้ตัวเองว่ามีจุดไม่ดีที่ต้องแก้ไข
แต่ความเป็นพรรคการเมืองที่รอแต่กินบุญเก่า ไม่เคยทบทวนตัวเอง การปฏิรูปครั้งใหญ่จึงไม่ใช่เรื่องง่าย และการจะเป็นพรรคการเมืองที่ดี การจะกลับมาเป็นนักการเมืองที่ดี ยิ่งยากเข้าไปใหญ่ โดยเฉพาะกับนักการเมืองที่หลงตัวเองมานาน
อย่างไรก็ตาม ไม่มีคำว่าสาย สำหรับคนที่คิดจะกลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดี ขอเพียงให้ตั้งใจที่จะกลับมาเป็นพรรคการเมืองที่ดีจริงเท่านั้น
ถ้าประชาธิปัตย์คิดจะกลับตัวกลับใจ อยากเป็นพรรคการเมืองที่ประชาชนให้ความศรัทธาจริงๆ สักครั้ง ไม่เหลือบ่ากว่าแรงที่จะทำได้ แต่จะต้องเปิดใจให้กว้าง พร้อมรับฟังเสียงสะท้อนทุกแง่ทุกมุมจากประชาชน
การปฏิรูปครั้งนี้ ประชาธิปัตย์คิดและทำกันเองไม่ได้ จะปิดพรรคคุยกันเองไม่ได้ เพราะไม่มีใครแน่ใจว่า สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ทั้งหมด รู้บ้างหรือเปล่าว่า การเป็นนักการเมืองที่ดีจะต้องทำอย่างไร
ประชาธิปัตย์ต้องเปิดประตูพรรค เพื่อระดมความคิดเห็นจากคนภายนอก เปิดหู เปิดตา เปิดสมองให้กว้าง รับทุกทัศนะและข้อเสนอแนะ เพื่อนำมากำหนดยุทธศาสตร์ในการปฏิรูป
ขณะที่พรรคเพื่อไทยกำลังสุดเหิมเกริม รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตรกำลังเหลิงในอำนาจ เหล่าข้าราชการที่ยอมเป็นขี้ข้าพ.ต.ท.ทักษิณและคนเสื้อแดงกำลังย่ามใจ จนบ้านเมืองเหมือนไร้ขื่อแป จะมีพรรคประชาธิปัตย์เป็นฝ่ายค้านอยู่หรือไม่มี ก็ไม่มีนัยสำคัญทางการเมืองอะไร
เพราะประชาธิปัตย์ไม่มีน้ำยาอะไรจะไปสู้รบกับพ.ต.ท.ทักษิณ นอกจากนั่งรอวันตายซากเท่านั้น
เมื่อคิดจะปฏิรูป ถือยังหลงเหลือความรู้สึกอยากจะสู้อยู่ แต่ประชาธิปัตย์จะปฏิรูปด้วยตัวเองคงไม่สำเร็จ เพราะคนของประชาธิปัตย์มีความคิดติดยึดในกรอบมานานนับสิบปี ติดยึดจนทำให้พรรคตกต่ำสุดขีด
ถ้าจะผ่าตัดจริง ประชาธิปัตย์ต้องเปิดทางให้คนนอกเข้ามาช่วยผ่าตัด เพราะแม้จะเป็นพรรคที่ยโสโอหัง แต่จิตใจลึกๆ ไม่น่าจะอำมหิตชั่วร้ายคิดทำลายบ้านทำลายเมืองเหมือนพ.ต.ท.ทักษิณและเหล่าลูกสมุน
ประชาชนที่พร้อมจะช่วย พร้อมให้อภัยประชาธิปัตย์มีไม่น้อย เพียงแต่ประชาธิปัตย์จะทำตัวน่าให้อภัยหรือไม่เท่านั้น
การปฏิรูปเปลี่ยนแปลงหรือผ่าตัด กลายเป็นความจำเป็นของพรรคการเมืองเก่าแก่ที่สุดของประเทศไทย เพราะทุกวันนี้ ประชาธิปัตย์กำลังตกอยู่ในสภาพพรรคการเมืองที่ตายซาก
ไม่มีจุดยืนทางการเมืองที่ชัดเจน ไม่ใช่พรรคที่ประชาชนให้ความคาดหวัง ไม่ใช่ทางออกของประเทศ และไม่มีโอกาสต่อสู้กับระบอบทักษิณได้
ความศรัทธาของพรรคประชาธิปัตย์ก้าวมาถึงจุดที่ตกต่ำสุดขีดแล้ว แม้แต่ฐานเสียงที่เหนียวแน่นในภาคใต้ คนใต้เองยังเอือมระอากับบทบาทของพรรค
ประชาธิปัตย์เคยชินกับการเป็น “ตาอยู่” เพราะตลอดหลายสิบปีของการต่อสู้เพื่อระบอบประชาธิปไตย ประชาธิปัตย์ไม่เคยออกมาสู้รบเคียงบ่าเคียงไหล่กับประชาชน
ทุกวิกฤตการณ์ทางการเมือง พรรคประชาธิปัตย์จะหดหัว ปล่อยให้ประชาชนออกมาสู้รบจนสามารถโค่นล้มเผด็จการ หรือแม้แต่รัฐบาลพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร หลังเหตุการณ์รุนแรงสงบลง ประชาธิปัตย์ก็จะออกมาตีกิน ตั้งตัวเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล
ประชาธิปัตย์รอรับส้มหล่นมาตลอด เพราะรู้ว่าประชาชนไม่มีทางเลือก โดยเมื่อผิดหวังจากพรรคการเมืองอื่น จะหันกลับมาเลือกประชาธิปัตย์อีก จึงไม่ยอมพัฒนาตัวเอง
ตลอด 12 ปี หลังพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรกระโดดเข้าสู่การเมือง นำพรรคไทยรักไทยบดขยี้พรรคประชาธิปัตย์จนได้รับชัยชนะเลือกตั้งอย่างท่วมท้น
พรรคประชาธิปัตย์ก็ยังไม่ยอมทบทวนตัวเอง เพราะคิดว่าส้มจะหล่นอีก คิดว่า เมื่อประชาชนเบื่อหน่ายพรรคไทยรักไทย เมื่อประชาชนเห็นธาตุแท้ของพ.ต.ท.ทักษิณ ก็จะกลับมาหาพรรคประชาธิปัตย์ใหม่
แต่บุญเก่าของพรรคประชาธิปัตย์หมดแล้ว เพราะแม้จะเกลียดพ.ต.ท.ทักษิณ ไม่เอาพรรคเพื่อไทย แต่ก็เอียนเต็มทีกับพรรคประชาธิปัตย์
เพราะฝากผีฝากไข้ไม่ได้ ทำอะไรไม่เป็น แม้มีอำนาจเต็มไม้เต็มมือ แต่กลัวจนไม่กล้าใช้
คะแนนเสียงที่ประชาธิปัตย์ได้รับอยู่จากการเลือกตั้ง ไม่ว่าการเลือกตั้งระดับท้องถิ่นหรือระดับชาติ ไม่ใช่คะแนนจากความศรัทธาเหมือนอดีตแล้ว และเชื่อว่า คะแนนเสียงส่วนใหญ่ที่ได้รับ เกิดจากคนที่เกลียดพรรคเพื่อไทยมากกว่า
การที่พรรคประชาธิปัตย์เดินสายหาเสียงในพื้นที่ต่างๆ และถูกอันธพาลคนเสื้อแดงตามรังควาน เป็นสิ่งสะท้อนให้เห็นว่า มวลชนประชาธิปัตย์แทบไม่เหลือแล้ว
ถ้ามวลชนประชาธิปัตย์ยังแน่นเหนียว ยังมีศรัทธาแก่กล้า ก็คงจะลุกขึ้นมาปกป้อง ไม่ปล่อยให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคต้องวิ่งหนีคนเสื้อแดงหัวซุกหัวซุน
ความเคลื่อนไหวในการปฏิรูปตัวเอง ถือเป็นปรากฏการณ์เดียวที่ดีในรอบหลายสิบปีของพรรคประชาธิปัตย์ และเชื่อว่า ประชาชนกลุ่มต่างๆ พร้อมรอคอยการเปลี่ยนแปลง
แต่ประชาธิปัตย์จะเปลี่ยนได้หรือ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และส.ส.ทั้งพรรค พร้อมจะปรับปรุงตัวเองแล้วหรือ
และประชาธิปัตย์รู้แล้วหรือว่า จะต้องปฏิรูปตัวเองอย่างไร ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์รู้แล้วหรือยังว่า นักการเมืองที่ดี จะต้องประพฤติปฏิบัติตัวอย่างไร มีจุดยืนทางการเมืองอย่างไร
แนวความคิดเปลี่ยนแปลงตัวเอง เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี เพราะเมื่อคิดเปลี่ยนแปลง แสดงว่า รู้ตัวเองว่ามีจุดไม่ดีที่ต้องแก้ไข
แต่ความเป็นพรรคการเมืองที่รอแต่กินบุญเก่า ไม่เคยทบทวนตัวเอง การปฏิรูปครั้งใหญ่จึงไม่ใช่เรื่องง่าย และการจะเป็นพรรคการเมืองที่ดี การจะกลับมาเป็นนักการเมืองที่ดี ยิ่งยากเข้าไปใหญ่ โดยเฉพาะกับนักการเมืองที่หลงตัวเองมานาน
อย่างไรก็ตาม ไม่มีคำว่าสาย สำหรับคนที่คิดจะกลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดี ขอเพียงให้ตั้งใจที่จะกลับมาเป็นพรรคการเมืองที่ดีจริงเท่านั้น
ถ้าประชาธิปัตย์คิดจะกลับตัวกลับใจ อยากเป็นพรรคการเมืองที่ประชาชนให้ความศรัทธาจริงๆ สักครั้ง ไม่เหลือบ่ากว่าแรงที่จะทำได้ แต่จะต้องเปิดใจให้กว้าง พร้อมรับฟังเสียงสะท้อนทุกแง่ทุกมุมจากประชาชน
การปฏิรูปครั้งนี้ ประชาธิปัตย์คิดและทำกันเองไม่ได้ จะปิดพรรคคุยกันเองไม่ได้ เพราะไม่มีใครแน่ใจว่า สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ทั้งหมด รู้บ้างหรือเปล่าว่า การเป็นนักการเมืองที่ดีจะต้องทำอย่างไร
ประชาธิปัตย์ต้องเปิดประตูพรรค เพื่อระดมความคิดเห็นจากคนภายนอก เปิดหู เปิดตา เปิดสมองให้กว้าง รับทุกทัศนะและข้อเสนอแนะ เพื่อนำมากำหนดยุทธศาสตร์ในการปฏิรูป
ขณะที่พรรคเพื่อไทยกำลังสุดเหิมเกริม รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตรกำลังเหลิงในอำนาจ เหล่าข้าราชการที่ยอมเป็นขี้ข้าพ.ต.ท.ทักษิณและคนเสื้อแดงกำลังย่ามใจ จนบ้านเมืองเหมือนไร้ขื่อแป จะมีพรรคประชาธิปัตย์เป็นฝ่ายค้านอยู่หรือไม่มี ก็ไม่มีนัยสำคัญทางการเมืองอะไร
เพราะประชาธิปัตย์ไม่มีน้ำยาอะไรจะไปสู้รบกับพ.ต.ท.ทักษิณ นอกจากนั่งรอวันตายซากเท่านั้น
เมื่อคิดจะปฏิรูป ถือยังหลงเหลือความรู้สึกอยากจะสู้อยู่ แต่ประชาธิปัตย์จะปฏิรูปด้วยตัวเองคงไม่สำเร็จ เพราะคนของประชาธิปัตย์มีความคิดติดยึดในกรอบมานานนับสิบปี ติดยึดจนทำให้พรรคตกต่ำสุดขีด
ถ้าจะผ่าตัดจริง ประชาธิปัตย์ต้องเปิดทางให้คนนอกเข้ามาช่วยผ่าตัด เพราะแม้จะเป็นพรรคที่ยโสโอหัง แต่จิตใจลึกๆ ไม่น่าจะอำมหิตชั่วร้ายคิดทำลายบ้านทำลายเมืองเหมือนพ.ต.ท.ทักษิณและเหล่าลูกสมุน
ประชาชนที่พร้อมจะช่วย พร้อมให้อภัยประชาธิปัตย์มีไม่น้อย เพียงแต่ประชาธิปัตย์จะทำตัวน่าให้อภัยหรือไม่เท่านั้น
