วานนี้ (14 พ.ค.56) ที่ สำนักคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม (ก.ต.)ที่ศูนย์ราชการ ถนนแจ้งวัฒนะ นายมาลัยรักษ์ ทองชัย หรือ ศรรักษ์ มาลัยทอง แกนนำกลุ่มสื่อวิทยุประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (กวป.) พร้อมด้วย นายหนึ่งดิน วิมุตตินันท์ ทนายความ จากชมรมทนายผู้รักความเป็นธรรม เดินทางมาที่ สำนักงานคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม เพื่อยื่นหนังสือขอให้ตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง และสอบวินัยของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ทั้ง 3 คน ประกอบด้วย นายจรัญ ภักดีธนากุล นายจรูญ อินทจาร และ นายสุพจน์ ไข่มุกด์
นายสราวุธ เบญจกุล รองเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม กล่าวว่า เมื่อได้พิจารณาสาระในหนังสือที่ยื่นมาแล้ว ก็ได้มอบหมายเจ้าหน้าที่แจ้งตัวแทนกวป.ผู้ร้อง ทราบว่า ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญดังกล่าวในอดีตเคยเป็นข้าราชการตุลาการศาลยุติธรรม แต่ปัจจุบันได้ปฏิบัติหน้าที่เป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่พ้นจากอำนาจของศาลยุติธรรมในการพิจารณาเรื่องสอบสวน กรณีจึงไม่อยู่ในอำนาจที่จะพิจารณาดำเนินการใด โดยการที่กวป.มายื่นเรื่องดังกล่าวคิดว่าน่าจะเป็นความเข้าใจผิด แต่เมื่อได้ชี้แจงข้อเท็จจริง และอำนาจแล้ว ตัวแทน กวป. จึงได้รับหนังสือร้องเรียนดังกล่าวกลับไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
นายชูชาติ ศรีแสง อดีตผู้พิพากษาศาลฎีกา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ค แสดงความคิดเห็น"Chuchart Srisaeng" แสดงความเห็นกรณี กวป.ฟ้องกลับ 3 ตุลาการศาลแจ้งความเท็จ ซึ่งถือว่ากวป.แจ้งเท็จรอบสอง มีใจความว่า
....มีข่าวว่า แกนนำเสื้อแดง 3 คน ที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญแจ้งความว่า แจ้งความเท็จที่ไปแจ้งความกล่าวหาว่าตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเป็นกบฏ ได้ไปแจ้งความที่สถานีตำรวจนครบาลหลักสี่ว่า ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญแจ้งความเท็จที่กล่าวหาว่าพวกตนแจ้งความเท็จ
....ฟังดูแล้วก็รู้สึกเหนื่อยใจ เคยกล่าวมาแล้วว่า การที่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ 3 ท่านมีความเห็นให้รับคำร้องที่มีผู้ยื่นว่า การขอแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 68 ที่ตัดสิทธิของประชาชนที่จะยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญไม่อาจแก้ไขได้ เพราะขัดรัฐธรรมนูญ ไว้พิจารณานั้น การกระทำเช่นนั้น ไม่ครบองค์ประกอบความผิดฐานกบฏ ผู้ที่ไปแจ้งความกล่าวหาว่า ท่านทั้งสามเป็นกบฎย่อมมีความผิดฐานแจ้งความเท็จ
....เมื่อการแจ้งความกล่าวหาตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เป็นความเท็จ การที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญไปแจ้งความว่า ผู้ที่ไปแจ้งความกล่าวหาตุลาการศาลรัฐธรรมนูญแจ้งความเท็จ จึงเป็นการแจ้งความตามความจริง
....การที่วันนี้คนที่ถูกแจ้งความกล่าวหาว่าแจ้งความเท็จ ไปแจ้งความว่า ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญแจ้งความกล่าวหาพวกเขาเป็นการแจ้งความเท็จ คนพวกนี้ก็คงโดนข้อหาแจ้งความเท็จอีกรอบ เพราะที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญไปแจ้งความว่า คนกลุ่มนี้แจ้งความเท็จนั้นเป็นความจริง เมื่อคนกลุ่มนี้ไปแจ้งความกล่าวหาว่าเป็นการแจ้งความเท็จ คนที่แจ้งความก็เป็นแจ้งความเท็จ
....นอกจากที่กล่าวแล้ว ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทั้ง 3 ท่านไม่ได้ไปแจ้งความ ผู้ที่แจ้งความคือสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายและเป็นคนละคนกับตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่เป็นบุคคลธรรมดา การไปแจ้งความว่าตุลาการศาลรัฐธรรมนูญไปแจ้งความย่อมเห็นได้ชัดเจนว่า เป็นการแจ้งความเท็จอีก
.... อาจมีข้อสงสัยว่า แกนนำเสื้อแดง 3 คนไปแจ้งความว่า ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ 3 ท่าน กระทำความผิดฐานเป็นกบฏ แม้จะเป็นการแจ้งเท็จ แต่ผู้ที่ได้รับความเสียหายคือตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ 3 ท่าน สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญจะไปแจ้งความได้อย่างไร
....ขอเรียนว่า ความผิดฐานแจ้งความเท็จ ฐานแจ้งข้อความอันเป็นเท็จ ฐานรู้อยู่ว่ามิได้มีการกระทำความผิดเกิดขึ้น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 137 ,172 และ มาตรา 173 ตามลำดับ ตามกฎหมายเรียกว่า เป็นความผิดที่เป็นอาญาแผ่นดิน เช่นเดียวกับความผิดฐานฆ่าผู้อื่น ฐานปล้นทรัพย์ ฯลฯ ความผิดเหล่านี้เมื่อมีการกระทำความผิดเกิดขึ้น ผู้ใดจะไปแจ้งความกล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนก็ได้ไม่จำเป็นต้องเป็นผู้ที่ได้รับความเสยหายโดยตรง ต่างกับความผิดอันยอมความได้ เช่น ยักยอก ฉ้อโกง หมิ่นประมาท ฯลฯ ความผิดเหล่านี้ต้องเป็นผู้ที่ได้รับความเสียหายจากการกระทำความผิดโดยตรงหรือผู้เสียหายเท่านั้น ที่มีสิทธิไปร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน บุคคลอื่นไม่มีอำนาจที่จะไปร้องทุกข์ได้
....ดังนั้นการที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญไปแจ้งความ จึงสามารถกระทำได้ แต่ก็น่าสงสัยว่าแกนนำเสื้อแดง 3 คนดังกล่าวน่าจะไม่ทราบว่า สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญเป็นผู้แจ้งความและเป็นคนละคนกับตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เพราะคนที่มีความรู้ไม่ลึกซึ้งพอย่อมยากที่จะเข้าใจ ครับ
นายอำนวย คลังผา ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล หรือวิปรัฐบาล กล่าวว่า สมาชิกรัฐสภา 312 คน ยังคงยืนยันมติเดิมในการไม่ส่งคำชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญ กรณีที่มีการยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 68 เข้าข่ายล้มล้างการปกครอง ซึ่งจะสิ้นสุดกำหนดการส่งคำร้องในวันที่ 15 พ.ค. และจนถึงขณะนี้ก็ไม่มีสมาชิกคนใดที่ฝืนมติส่งคำร้องต่อศาลรัฐธรมมนูญ เพราะเชื่อมั่นว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นอำนาจของสมาชิกรัฐสภาที่สามารถดำเนินการได้ ตามมาตรา 3 วรรค 2 ส่วนตัวยังคิดว่าศาลรัฐธรรมนูญจะให้ความเป็นธรรม และไม่ทำอะไรที่สร้างปัญหาให้กับบ้านเมือง อย่างไรก็ตามหากศาลวินิจฉัยว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 68 ของสมาชิกรัฐสภาขัดมาตรา 68 สมาชิกก็จะหารือกันอีกครั้งเพื่อกำหนดแนวทางต่อไปซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าจะเดินหน้าแก้ไขต่อไป
นายสิงห์ชัย ทุ่งทอง ส.ว.อุทัยธานี กล่าวว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีส.ว.คนใดที่ฝ่าฝืนมติส.ส.และส.ว.ในการส่งคำชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญ โดยเชื่อว่าจะเดินหน้าแก้ไขต่ออย่างแน่นอน
ที่ศาลรัฐธรรมนูญ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตส.ว.สรรหา เดินทางเข้ายื่นคำร้องเพิ่มเติม ขอให้ตรวจสอบนายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี, นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และสมาชิกรัฐสภา รวม 36 คน กรณีที่สมาชิกรัฐสภา ได้มีการตั้งคณะกรรมาธิการและร่วมในการอภิปราย เพื่อการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติม ตามมาตรา 68 ที่เป็นการตัดสิทธิบุคคลในการพิทักษ์รัฐธรรมนูญนั้น และศาลรัฐธรรมนูญได้พิจารณารับคำร้องของนายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา ในการขอให้วินิจฉัยว่า การพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญดังกล่าวนั้น ขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ ดังนั้นจึงขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาสั่งการให้ผู้ถูกร้องที่เป็นกรรมกรรมาธิการแปรญัญติหยุดการทำหน้าที่ และ ขอให้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวเป็นกรณีฉุกเฉินในการพิจารณาครั้งนี้ด้วยจนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำสั่งหรือคำวินิจฉัยออกมาอย่างใดอย่างหนึ่ง อีกทั้งยังขอให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งการวินิจฉัยให้นายชวน และนายอภิสิทธิ์ เลิกกระทำการเข้าร่วมเป็นองค์ประชุมในวันที่ 18 เม.ย.2556 และลบหรือยกเลิกคำอภิปรายสนับสนุนญัตติดังกล่าวออกไปจากบันทึกการประชุมรัฐสภา ทั้งยังได้ร้องขอให้นายชัช ชลวร หยุดปฏิบัติหน้าที่
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการชุมนุมของคนเสื้อแดงหลายแห่งขณะนี้ว่า เป็นการข่มขู่ ผิดกฎหมาย ในที่สุดก็มีการแจ้งความ แต่ว่ากรณีเช่นนั้นทำไมนายกรัฐมนตรีถึงบอกว่าเป็นสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญได้
"คนที่แก้ได้คือฝ่ายการเมือง แต่จนถึงทุกวันนี้ นายกรัฐมนตรียังทำตัวเป็นคนซึ่งจะเรียกว่า ปากว่าตาขยิบก็ยังไม่ได้เลย เพราะว่าปากยังไม่ว่าเลย แต่ไปพูดที่ไหนนั้นก็เหมือนกับว่า ต้องการสนับสนุนประชาธิปไตย แต่พฤติกรรมอย่างนี้ถ้าท่านไม่เข้าใจว่ามันเป็นพฤติกรรมซึ่งขัดต่อหลักการประชาธิปไตยอย่างไร ก็คงจะป่วยการแล้วที่จะไปพูดหรือให้ท่านพูดเรื่องประชาธิปไตยต่อไป”นายอภิสิทธิ์กล่าว
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ว่า ผมกลับมาถึงดูไบเช้านี้ก็มาดูข่าว บังเอิญมีข่าว 2 ข่าวไล่เลี่ยกัน ข่าวแรกก็คือการแห่รถฉลองตำแหน่งแชมป์พรีเมียร์ลีกปี 2013 ของ Man United มีแฟนๆของ Man United ออกมาแสดงความยินดีตลอดเส้นทางอย่างมีความสุข ซึ่งผมก็ขอแสดงความยินดีถึงแฟน Man United ที่เมืองไทยทุกคนด้วยครับ
เสร็จแล้วก็มีอีกข่าวหนึ่งคือการปลด Roberto Mancini ออกจากผู้จัดการของ Man City เขาก็ตัดภาพการฉลองที่เมือง Manchester เช่นกันของทีม Man City ที่ได้แชมป์พรีเมียร์ลีกปี 2012 หรือปีที่แล้ว แฟน Man City ก็ออกมาชื่นชมจำนวนมากด้วยความสุข ที่น่าสังเกตคือไม่มีแฟนฝั่งตรงข้ามของทั้งสองทีมออกมาแสดงความโห่ฮาหรือไม่พอใจอะไร ทั้งๆที่อยู่เมืองเดียวกันและแข่งกันทุกปี แฟนใครแฟนมัน ทำให้ผมคิดถึงระดับภาวะจิตใจของคน ประเพณี มารยาทสังคม ความมีน้ำใจนักกีฬา การรู้จักเคารพกติกาของผู้คน น่านับถือมากครับ ทำให้ผมมาหวนคิดว่าทำไม ก็ตอบได้บางส่วนว่าการรู้จักเคารพกติกา แพ้เป็นแพ้ชนะเป็นชนะ กรรมการและผู้จัดการแข่งขันมีกติกาที่เปิดเผยชัดเจนแทบจะไม่มีประเด็นให้ตีความด้วยความรู้สึก ทุกคนก็รักษาความเป็นธรรม สังคมจึงไม่มีใครกล้าพิเรนทร์ออกมาเพราะจะเป็นตัวประหลาด
ย้อนกลับมาดูสิ่งที่เกิดขึ้นในประเทศไทย สิ่งที่เกิดขึ้นคือการโกหก ความไม่ชัดเจนของกติกา กติกาต้องตีความตลอดเวลา มีคนตั้งคำถามกับทุกข้อของกติกาตีความตามใจชอบ กรรมการไม่ยอมรักษาความเป็นกลาง เป็นธรรม ไม่ตัดสินบนพื้นฐานแห่งข้อเท็จจริงและกฎหมายที่มีอยู่ ตัดสินตามอารมณ์แห่งใครพวกใคร บางทีก็ตามธง นักการเมืองที่ไม่สามารถชนะได้ตามกติกา ก็อาศัยจุดด้อยเหล่านี้ของสังคมไทยปัจจุบัน ความแตกแยกนอกจากจบไม่ลงแล้วทำท่าจะแย่ลง
เราส่วนใหญ่ชอบดูบอลอังกฤษโดยเฉพาะพรีเมียร์ลีก น่าจะเอาปรัชญาของกีฬามาใช้บ้างก็จะเป็นประโยชน์ วันนี้แพ้ก็ไปฟิตใหม่ วางแผนใหม่ ปีหน้าก็อาจชนะได้ Man United ชนะแล้วชนะอีก เขาไม่เห็นต้องยุบสโมสร Man United เลยครับ บางช่วง Chelsea ฟิตขึ้นมาก็ชนะหลายครั้ง ก็ไม่ถูกยุบสโมสรเหมือนกันทั้งๆที่เจ้าของ Chelsea เป็นรัสเซีย เจ้าของ Man United เป็นสหรัฐ
คำเดียวครับ เคารพกติกา มีน้ำใจนักกีฬาครับ ไทยเจริญแน่
นายสราวุธ เบญจกุล รองเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม กล่าวว่า เมื่อได้พิจารณาสาระในหนังสือที่ยื่นมาแล้ว ก็ได้มอบหมายเจ้าหน้าที่แจ้งตัวแทนกวป.ผู้ร้อง ทราบว่า ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญดังกล่าวในอดีตเคยเป็นข้าราชการตุลาการศาลยุติธรรม แต่ปัจจุบันได้ปฏิบัติหน้าที่เป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่พ้นจากอำนาจของศาลยุติธรรมในการพิจารณาเรื่องสอบสวน กรณีจึงไม่อยู่ในอำนาจที่จะพิจารณาดำเนินการใด โดยการที่กวป.มายื่นเรื่องดังกล่าวคิดว่าน่าจะเป็นความเข้าใจผิด แต่เมื่อได้ชี้แจงข้อเท็จจริง และอำนาจแล้ว ตัวแทน กวป. จึงได้รับหนังสือร้องเรียนดังกล่าวกลับไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
นายชูชาติ ศรีแสง อดีตผู้พิพากษาศาลฎีกา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ค แสดงความคิดเห็น"Chuchart Srisaeng" แสดงความเห็นกรณี กวป.ฟ้องกลับ 3 ตุลาการศาลแจ้งความเท็จ ซึ่งถือว่ากวป.แจ้งเท็จรอบสอง มีใจความว่า
....มีข่าวว่า แกนนำเสื้อแดง 3 คน ที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญแจ้งความว่า แจ้งความเท็จที่ไปแจ้งความกล่าวหาว่าตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเป็นกบฏ ได้ไปแจ้งความที่สถานีตำรวจนครบาลหลักสี่ว่า ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญแจ้งความเท็จที่กล่าวหาว่าพวกตนแจ้งความเท็จ
....ฟังดูแล้วก็รู้สึกเหนื่อยใจ เคยกล่าวมาแล้วว่า การที่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ 3 ท่านมีความเห็นให้รับคำร้องที่มีผู้ยื่นว่า การขอแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 68 ที่ตัดสิทธิของประชาชนที่จะยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญไม่อาจแก้ไขได้ เพราะขัดรัฐธรรมนูญ ไว้พิจารณานั้น การกระทำเช่นนั้น ไม่ครบองค์ประกอบความผิดฐานกบฏ ผู้ที่ไปแจ้งความกล่าวหาว่า ท่านทั้งสามเป็นกบฎย่อมมีความผิดฐานแจ้งความเท็จ
....เมื่อการแจ้งความกล่าวหาตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เป็นความเท็จ การที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญไปแจ้งความว่า ผู้ที่ไปแจ้งความกล่าวหาตุลาการศาลรัฐธรรมนูญแจ้งความเท็จ จึงเป็นการแจ้งความตามความจริง
....การที่วันนี้คนที่ถูกแจ้งความกล่าวหาว่าแจ้งความเท็จ ไปแจ้งความว่า ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญแจ้งความกล่าวหาพวกเขาเป็นการแจ้งความเท็จ คนพวกนี้ก็คงโดนข้อหาแจ้งความเท็จอีกรอบ เพราะที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญไปแจ้งความว่า คนกลุ่มนี้แจ้งความเท็จนั้นเป็นความจริง เมื่อคนกลุ่มนี้ไปแจ้งความกล่าวหาว่าเป็นการแจ้งความเท็จ คนที่แจ้งความก็เป็นแจ้งความเท็จ
....นอกจากที่กล่าวแล้ว ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทั้ง 3 ท่านไม่ได้ไปแจ้งความ ผู้ที่แจ้งความคือสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายและเป็นคนละคนกับตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่เป็นบุคคลธรรมดา การไปแจ้งความว่าตุลาการศาลรัฐธรรมนูญไปแจ้งความย่อมเห็นได้ชัดเจนว่า เป็นการแจ้งความเท็จอีก
.... อาจมีข้อสงสัยว่า แกนนำเสื้อแดง 3 คนไปแจ้งความว่า ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ 3 ท่าน กระทำความผิดฐานเป็นกบฏ แม้จะเป็นการแจ้งเท็จ แต่ผู้ที่ได้รับความเสียหายคือตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ 3 ท่าน สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญจะไปแจ้งความได้อย่างไร
....ขอเรียนว่า ความผิดฐานแจ้งความเท็จ ฐานแจ้งข้อความอันเป็นเท็จ ฐานรู้อยู่ว่ามิได้มีการกระทำความผิดเกิดขึ้น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 137 ,172 และ มาตรา 173 ตามลำดับ ตามกฎหมายเรียกว่า เป็นความผิดที่เป็นอาญาแผ่นดิน เช่นเดียวกับความผิดฐานฆ่าผู้อื่น ฐานปล้นทรัพย์ ฯลฯ ความผิดเหล่านี้เมื่อมีการกระทำความผิดเกิดขึ้น ผู้ใดจะไปแจ้งความกล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนก็ได้ไม่จำเป็นต้องเป็นผู้ที่ได้รับความเสยหายโดยตรง ต่างกับความผิดอันยอมความได้ เช่น ยักยอก ฉ้อโกง หมิ่นประมาท ฯลฯ ความผิดเหล่านี้ต้องเป็นผู้ที่ได้รับความเสียหายจากการกระทำความผิดโดยตรงหรือผู้เสียหายเท่านั้น ที่มีสิทธิไปร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน บุคคลอื่นไม่มีอำนาจที่จะไปร้องทุกข์ได้
....ดังนั้นการที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญไปแจ้งความ จึงสามารถกระทำได้ แต่ก็น่าสงสัยว่าแกนนำเสื้อแดง 3 คนดังกล่าวน่าจะไม่ทราบว่า สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญเป็นผู้แจ้งความและเป็นคนละคนกับตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เพราะคนที่มีความรู้ไม่ลึกซึ้งพอย่อมยากที่จะเข้าใจ ครับ
นายอำนวย คลังผา ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล หรือวิปรัฐบาล กล่าวว่า สมาชิกรัฐสภา 312 คน ยังคงยืนยันมติเดิมในการไม่ส่งคำชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญ กรณีที่มีการยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 68 เข้าข่ายล้มล้างการปกครอง ซึ่งจะสิ้นสุดกำหนดการส่งคำร้องในวันที่ 15 พ.ค. และจนถึงขณะนี้ก็ไม่มีสมาชิกคนใดที่ฝืนมติส่งคำร้องต่อศาลรัฐธรมมนูญ เพราะเชื่อมั่นว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นอำนาจของสมาชิกรัฐสภาที่สามารถดำเนินการได้ ตามมาตรา 3 วรรค 2 ส่วนตัวยังคิดว่าศาลรัฐธรรมนูญจะให้ความเป็นธรรม และไม่ทำอะไรที่สร้างปัญหาให้กับบ้านเมือง อย่างไรก็ตามหากศาลวินิจฉัยว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 68 ของสมาชิกรัฐสภาขัดมาตรา 68 สมาชิกก็จะหารือกันอีกครั้งเพื่อกำหนดแนวทางต่อไปซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าจะเดินหน้าแก้ไขต่อไป
นายสิงห์ชัย ทุ่งทอง ส.ว.อุทัยธานี กล่าวว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีส.ว.คนใดที่ฝ่าฝืนมติส.ส.และส.ว.ในการส่งคำชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญ โดยเชื่อว่าจะเดินหน้าแก้ไขต่ออย่างแน่นอน
ที่ศาลรัฐธรรมนูญ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตส.ว.สรรหา เดินทางเข้ายื่นคำร้องเพิ่มเติม ขอให้ตรวจสอบนายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี, นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และสมาชิกรัฐสภา รวม 36 คน กรณีที่สมาชิกรัฐสภา ได้มีการตั้งคณะกรรมาธิการและร่วมในการอภิปราย เพื่อการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติม ตามมาตรา 68 ที่เป็นการตัดสิทธิบุคคลในการพิทักษ์รัฐธรรมนูญนั้น และศาลรัฐธรรมนูญได้พิจารณารับคำร้องของนายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา ในการขอให้วินิจฉัยว่า การพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญดังกล่าวนั้น ขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ ดังนั้นจึงขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาสั่งการให้ผู้ถูกร้องที่เป็นกรรมกรรมาธิการแปรญัญติหยุดการทำหน้าที่ และ ขอให้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวเป็นกรณีฉุกเฉินในการพิจารณาครั้งนี้ด้วยจนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำสั่งหรือคำวินิจฉัยออกมาอย่างใดอย่างหนึ่ง อีกทั้งยังขอให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งการวินิจฉัยให้นายชวน และนายอภิสิทธิ์ เลิกกระทำการเข้าร่วมเป็นองค์ประชุมในวันที่ 18 เม.ย.2556 และลบหรือยกเลิกคำอภิปรายสนับสนุนญัตติดังกล่าวออกไปจากบันทึกการประชุมรัฐสภา ทั้งยังได้ร้องขอให้นายชัช ชลวร หยุดปฏิบัติหน้าที่
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการชุมนุมของคนเสื้อแดงหลายแห่งขณะนี้ว่า เป็นการข่มขู่ ผิดกฎหมาย ในที่สุดก็มีการแจ้งความ แต่ว่ากรณีเช่นนั้นทำไมนายกรัฐมนตรีถึงบอกว่าเป็นสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญได้
"คนที่แก้ได้คือฝ่ายการเมือง แต่จนถึงทุกวันนี้ นายกรัฐมนตรียังทำตัวเป็นคนซึ่งจะเรียกว่า ปากว่าตาขยิบก็ยังไม่ได้เลย เพราะว่าปากยังไม่ว่าเลย แต่ไปพูดที่ไหนนั้นก็เหมือนกับว่า ต้องการสนับสนุนประชาธิปไตย แต่พฤติกรรมอย่างนี้ถ้าท่านไม่เข้าใจว่ามันเป็นพฤติกรรมซึ่งขัดต่อหลักการประชาธิปไตยอย่างไร ก็คงจะป่วยการแล้วที่จะไปพูดหรือให้ท่านพูดเรื่องประชาธิปไตยต่อไป”นายอภิสิทธิ์กล่าว
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ว่า ผมกลับมาถึงดูไบเช้านี้ก็มาดูข่าว บังเอิญมีข่าว 2 ข่าวไล่เลี่ยกัน ข่าวแรกก็คือการแห่รถฉลองตำแหน่งแชมป์พรีเมียร์ลีกปี 2013 ของ Man United มีแฟนๆของ Man United ออกมาแสดงความยินดีตลอดเส้นทางอย่างมีความสุข ซึ่งผมก็ขอแสดงความยินดีถึงแฟน Man United ที่เมืองไทยทุกคนด้วยครับ
เสร็จแล้วก็มีอีกข่าวหนึ่งคือการปลด Roberto Mancini ออกจากผู้จัดการของ Man City เขาก็ตัดภาพการฉลองที่เมือง Manchester เช่นกันของทีม Man City ที่ได้แชมป์พรีเมียร์ลีกปี 2012 หรือปีที่แล้ว แฟน Man City ก็ออกมาชื่นชมจำนวนมากด้วยความสุข ที่น่าสังเกตคือไม่มีแฟนฝั่งตรงข้ามของทั้งสองทีมออกมาแสดงความโห่ฮาหรือไม่พอใจอะไร ทั้งๆที่อยู่เมืองเดียวกันและแข่งกันทุกปี แฟนใครแฟนมัน ทำให้ผมคิดถึงระดับภาวะจิตใจของคน ประเพณี มารยาทสังคม ความมีน้ำใจนักกีฬา การรู้จักเคารพกติกาของผู้คน น่านับถือมากครับ ทำให้ผมมาหวนคิดว่าทำไม ก็ตอบได้บางส่วนว่าการรู้จักเคารพกติกา แพ้เป็นแพ้ชนะเป็นชนะ กรรมการและผู้จัดการแข่งขันมีกติกาที่เปิดเผยชัดเจนแทบจะไม่มีประเด็นให้ตีความด้วยความรู้สึก ทุกคนก็รักษาความเป็นธรรม สังคมจึงไม่มีใครกล้าพิเรนทร์ออกมาเพราะจะเป็นตัวประหลาด
ย้อนกลับมาดูสิ่งที่เกิดขึ้นในประเทศไทย สิ่งที่เกิดขึ้นคือการโกหก ความไม่ชัดเจนของกติกา กติกาต้องตีความตลอดเวลา มีคนตั้งคำถามกับทุกข้อของกติกาตีความตามใจชอบ กรรมการไม่ยอมรักษาความเป็นกลาง เป็นธรรม ไม่ตัดสินบนพื้นฐานแห่งข้อเท็จจริงและกฎหมายที่มีอยู่ ตัดสินตามอารมณ์แห่งใครพวกใคร บางทีก็ตามธง นักการเมืองที่ไม่สามารถชนะได้ตามกติกา ก็อาศัยจุดด้อยเหล่านี้ของสังคมไทยปัจจุบัน ความแตกแยกนอกจากจบไม่ลงแล้วทำท่าจะแย่ลง
เราส่วนใหญ่ชอบดูบอลอังกฤษโดยเฉพาะพรีเมียร์ลีก น่าจะเอาปรัชญาของกีฬามาใช้บ้างก็จะเป็นประโยชน์ วันนี้แพ้ก็ไปฟิตใหม่ วางแผนใหม่ ปีหน้าก็อาจชนะได้ Man United ชนะแล้วชนะอีก เขาไม่เห็นต้องยุบสโมสร Man United เลยครับ บางช่วง Chelsea ฟิตขึ้นมาก็ชนะหลายครั้ง ก็ไม่ถูกยุบสโมสรเหมือนกันทั้งๆที่เจ้าของ Chelsea เป็นรัสเซีย เจ้าของ Man United เป็นสหรัฐ
คำเดียวครับ เคารพกติกา มีน้ำใจนักกีฬาครับ ไทยเจริญแน่