ทั้งนี้ก็เพราะเหตุของมันคือคณะราษฎรทำรัฐประหารยึดอำนาจรัฐบาลพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าฯ รัชกาลที่ 7 เมื่อ 24 มิถุนายน 2475 และเป็นผู้ปกครองไทยในอดีตไปเรียนมาจากยุโรปแบบผิดๆ คือเห็นผิด คิดผิด พูดผิด ทำผิด ... พวกเขาได้เห็นแต่เพียงรูปแบบ (รัฐธรรมนูญ) แล้วไปยึดเอารูปแบบนั้นมาครอบงำประชาชนยาวนานกว่า 80 ปีแล้ว และวันนี้ ผู้ปกครองรุ่นล่าสุดผู้มีอำนาจตัวจริงคือทักษิณ ยิ่งลักษณ์ พรรคเพื่อไทยและสมาชิกรัฐสภาเสียงข้างมาก กำลังดำเนินการแก้รัฐธรรมนูญอีกครั้ง โดยอ้างประชาชนเห็นด้วย ทั้งๆ ที่การแก้นั้นประชาชนไม่ได้อะไรเลย ยังจมปลักอยู่ในระบอบเผด็จการเดิมๆ
ประชาชนที่มีปัญญาไม่เห็นด้วยอย่างแน่นอน เพราะนี่คือการเห็นผิด คิดผิด ทำผิด ทำความจัญไรให้กับประเทศอีกวาระหนึ่ง ซ้ำรอยเดิมแบบเดียวกับคณะราษฎรเมื่อ 2475 และสืบทอดความจัญไรทำผิดซ้ำซากมาแล้ว 18 ครั้ง
หากทักษิณ ยิ่งลักษณ์ พรรคเพื่อไทย มีอำนาจแล้ว ทำคุณไถ่บาปให้กับประเทศ จะต้องเลิกวิธีคิด “ร่างรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย” เพราะมันเป็นวิธีคิดที่เห็นผิด ทำผิดอย่างร้ายแรงต่อชาติจงยกเลิกแผนการ ยกเลิกนโยบายแก้ไขรัฐธรรมนูญ แล้วกลับหลังหัน ดุจดังองคุลิมาลกลับใจที่ได้เห็นถูก คิดถูก ทำถูก จงทำในสิ่งที่ถูกต้องยิ่งใหญ่ เริ่มนโยบายใหม่ที่ถูกต้องยิ่งใหญ่แก่ชาติ นั่นก็คือ นโยบายส่งเสริมประชาชนร่วมกันผลักดันสถาปนาหลักการปกครองธรรมาธิปไตย 9 ซึ่งเป็นนโยบายที่ต่อสู้เอาชนะเผด็จการทุกรูปแบบนั่นเอง
มีอำนาจทางการเมืองที่ถูกต้อง คือ ผลักดันนโยบายสถาปนาหลักการปกครองธรรมาธิปไตย 9 (จะได้ระบอบประชาธิปไตยจริงๆ ตัวเป็นๆ แบบเปิดเผย ไม่ปิดบังอำพรางซ่อนเร้น เฉกเช่นระบอบเผด็จการทั้งหลาย
ในทางกลับกัน มีอำนาจทางการเมืองแล้วเห็นผิด คิดคดทรยศต่อชาติต่อประชาชนคือ ผลักดันนโยบายแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก็จะเป็นการเพิ่ม ส่งเสริมความจัญไรให้ท่วมทับประเทศชาติและประชาชนให้หนักขึ้นยาวนานออกไปอีก อย่างนี้ใครๆ ก็คัดค้าน
ท่านปัญญาชน คนดีทั้งหลาย ได้พิจารณาอย่างแยบยลเถิด แนวทางการเมืองในขณะนี้ ไม่มีอะไรใหม่จาก 80 ปี ที่แล้วเลย เป็นความขัดแย้งของคณะผู้ปกครองด้วยกันเองที่ยึดมั่นถือมั่นในลัทธิรัฐธรรมนูญ คือความเชื่อที่ยึดมั่นในวิธีการปกครองเป็นจุดมุ่งหมาย มันจึงเป็นการเมืองการปกครองที่ที่รับใช้คณะผู้ปกครองเพียงหยิบมือเดียวเท่านั้น เพราะกฎหมายรัฐธรรมนูญเป็นเพียงวิธีการปกครองอย่างหนึ่ง มันไม่สามารถนำมาเป็นจุดหมายทางการเมืองของปวงชนได้ มันจึงกลายเป็นระบอบเผด็จการรัฐธรรมนูญ ใช้รูปการปกครองระบบรัฐสภา จึงเรียกว่า “เผด็จการรัฐธรรมนูญระบบรัฐสภา (ซึ่งเห็นด้วยปัญญา) อันเป็นเหตุแห่งเผด็จการรัฐสภา ที่เราเห็นได้ด้วยตา นั่นเอง
ดังนั้น การที่ทักษิณ ยิ่งลักษณ์ พรรคเพื่อไทย ได้ทำการบริหารประเทศ ด้วยการกู้เงินสองล้านล้านบาท งบประมาณแก้ปัญหาน้ำท่วมหลายแสนล้าน รถยนต์คันแรก ค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท แก้ไขรัฐธรรมนูญ ฯลฯ เหล่านี้ล้วนเป็นปัญหาให้กับประเทศชาติและประชาชนทั้งสิ้น แต่พวกนักธุรกิจการเมืองพรรคเพื่อไทยได้ประโยชน์เต็มๆ ยิ่งบริหารประเทศ พวกเขาก็ยิ่งร่ำรวยขึ้นๆ และสั่งสมทุนเอาไว้ซื้อเสียงในการเลือกตั้งคราวหน้าเพราะพวกเขาแพ้ไม่ได้ พวกเขาจะต้องโกงกินประเทศต่อไปเรื่อยๆ แต่สำหรับประชาชนแล้วก็จะได้รับความทุกข์ยากจากความยากจนมากขึ้น
พวกผู้ปกครองเผด็จการมักจะอธิบายหลอกลวง และสุดที่จะบิดเบือน หรือสุดที่จะเห็นผิดอย่างร้ายแรงต่อชาติ ในหลายๆ มิติ ดังนี้
1. กฎหมายรัฐธรรมนูญคือระบอบประชาธิปไตยอันที่จริงกฎหมายรัฐธรรมนูญเป็นผล เป็นเครื่องมือในการปกครองของระบอบอะไรก็ได้ เช่น คอมมิวนิสต์ เผด็จการ ประชาธิปไตย ฯลฯ ระบอบเป็นอย่างไร รัฐธรรมนูญก็สะท้อนระบอบอย่างนั้น
2. ระบบรัฐสภา คือระบอบประชาธิปไตย ทั้งๆ ที่ระบบรัฐสภา เป็นรูปการปกครองชนิดหนึ่งที่ได้แบ่งองค์กรอำนาจออกเป็นฝ่ายนิติบัญญัติ บริหาร ตุลาการ ซึ่งก็เปรียบเสมือนบ้านใหญ่สามหลัง ต่างก็มีหัวหน้าบ้าน ที่จะให้หัวหน้าบ้านทั้งสามมีอำนาจเท่าๆ กัน ถ่วงดุลกัน ดังนั้น ระบบรัฐสภา (Parliamentary System) จึงเป็นเพียงรูปการปกครอง (Form of Government) อย่างหนึ่งเท่านั้น ซึ่งระบอบอะไรๆ ก็เอาไปใช้ได้ ไม่ใช่ว่ามีระบบรัฐสภาแล้วจะต้องเป็นระบอบประชาธิปไตยเสมอไป อย่าหลอกลวง บิดเบือนหรือเข้าใจเสียให้ถูกต้องเสียเถิด
3. การเลือกตั้งคือระบอบประชาธิปไตย การเลือกตั้งเป็นวิธีการสรรหาอย่างหนึ่งเพื่อเลือกคนที่เหมาะสม หรือเลือกผู้แทนขึ้นมาทำหน้าที่แทนตนในสภาฯ การเลือกตั้งซึ่งเป็นวิธีการ เป็นของกลาง ซึ่งระบอบอะไรๆ ก็นำไปใช้ได้หมด มันไม่เกี่ยวกับความเป็นระบอบประชาธิปไตยเสมอไป
ดังนั้น การเลือกตั้ง ส.ส. ก็ ไม่ใช่ระบอบประชาธิปไตยเสมอไป
เลือกตั้ง ส.ว. ก็ไม่ได้บ่งบอกว่าเป็นระบอบประชาธิปไตยเสมอไป
ประเทศไทย ไม่มีเคยมีระบอบประชาธิปไตย มีแต่การยกร่างกฎหมายรัฐธรรมนูญมาแล้ว 18 ฉบับ กฎหมายรัฐธรรมนูญเป็นเครื่องมือในการปกครองประเทศ แล้วหัวใจของการปกครอง หรือระบอบของการปกครองมันอยู่ตรงไหน หรือจุดหมายร่วมของปวงชนมันอยู่ตรงไหน มันไม่มี
ดังนั้น การปกครองด้วยกฎหมายรัฐธรรมนูญเพียงด้านเดียว หัวใจของการปกครองหรือระบอบ หรือหลักการปกครอง มันก็คือคณะพรรคการเมืองที่เป็นรัฐบาล ซึ่งมีเพียงหยิบมือเดียวนั่นเอง
นี่แหละคือการเปิดเผยว่า การปกครองไทย 80 ปี คือการสืบทอดระบอบเผด็จการโดยกฎหมายรัฐธรรมนูญ เพราะพวกผู้ปกครองอาศัยกฎหมายกดหัวชาวบ้านให้ทำตามกฎหมาย แต่กฎหมายกลับรับใช้แต่พวกผู้ปกครอง หรือพวกมีอิทธิพล พวกทำลายบ้านเมือง พวกธุรกิจอบายมุข พวกนี้มันจะเติบโตขึ้นเต็มบ้านเต็มเมือง บ้านเมืองจึงเต็มไปด้วยความขัดแย้งทุกหย่อมหญ้า
มวลชนพรรคเพื่อไทยในนามเสื้อแดง พวกเขาเคลื่อนไหวอ้างว่าเรียกร้องประชาธิปไตย ฟังดูเข้าท่า น่านับถือ แต่แท้ที่จริงพวกเขาล้วนเป็นทายาทซาตาน เพราะพวกเขา “เรียกร้องประชาธิปไตยแต่ไปแก้ไขรัฐธรรมนูญ” นี่คือขบวนการทางการเมืองอนุบาล บางคนบอกว่า “ขบวนการควายแดง” ก็น่าจะสมจริง เพราะกี่คณะมาแล้ว คณะนักศึกษากี่คณะมาแล้ว ที่เรียกร้องรัฐธรรมนูญ โดยเข้าใจว่าจะได้ประชาธิปไตย ก็ล้มเหลวไปทุกครั้ง กี่คณะรัฐประหารต่างก็อ้างว่าเพื่อประชาธิปไตย เช่น คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ฯ ต่างก็เข้าใจผิดว่า ประชาธิปไตย คือกฎหมายรัฐธรรมนูญ เขียนรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย จะกี่รัฐบาลทักษิณ มาร์ค ยิ่งลักษณ์ ก็อยากได้ประชาธิปไตยแต่ดันไปคิดจะร่างรัฐธรรมนูญใหม่หรือแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก็ล้วนแล้วแต่เห็นผิด คิดผิด พูดผิดทั้งสิ้น พวกคุณจะร่าง จะแก้ไขกฎหมายรัฐธรรมนูญสักร้อยครั้ง พันฉบับ มันก็ไม่ได้ระบอบประชาธิปไตย หยุดโง่ หยุดบิดเบือนได้แล้ว หยุดทำลายชาติได้แล้ว
เพราะพวกเขาไม่รู้จักการสร้างระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง หรือไม่รู้จักการเสนอหลักการปกครองระบอบประชาธิปไตยและการผลักดันเพื่อการสร้างระบอบประชาธิปไตย ดังนั้น ประเทศชาติจึงตกอยู่ในสัมพันธภาพที่ผิดมายาวนานกว่า 80 ปี ภายใต้กฎหมายรัฐธรรมนูญ 18 … ฉบับ เพราะความเห็นผิดอย่างร้ายแรงต่อชาตินั่นเอง ท่านทั้งหลายพึงไตร่ตรองสัมพันธภาพนี้เถิด
และท่านทั้งหลายพึงพิจารณาสัมพันธภาพของระบอบประชาธิปไตยจริงๆ ดังนี้คือ ท่านจะเห็นความแตกต่างอย่างสิ้นเชิง
ท่านปัญญาชนทั้งหลาย ย่อมสรุปได้ว่ารัฐบาลยิ่งลักษณ์ ระบอบยิ่งลักษณ์ พรรคเพื่อไทย จึงเต็มไปด้วยความเห็นผิดอย่างร้ายแรงต่อชาติ รวมทั้งพรรคการเมืองอื่นๆ ที่หลงผิดหรือบิดเบือนเรื่องระบอบประชาธิปไตย เห็นระบอบเผด็จการรัฐธรรมนูญเป็นระบอบประชาธิปไตย เห็นอนุสาวรีย์รัฐธรรมนูญแท้ๆ ว่าเป็นอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ไม่น่าปัญญาอ่อนถึงขนาดนี้เลย
ท่านทั้งหลายพึงรู้อย่างถูกต้องว่า รัฐธรรมนูญ ระบบรัฐสภา การเลือกตั้ง ไม่ใช่ระบอบประชาธิปไตยเป็นคนละส่วนคนละเรื่องกับระบอบประชาธิปไตย ระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริงคือหลักการปกครองธรรมาธิปไตย 9 ครับท่าน
ประชาชนที่มีปัญญาไม่เห็นด้วยอย่างแน่นอน เพราะนี่คือการเห็นผิด คิดผิด ทำผิด ทำความจัญไรให้กับประเทศอีกวาระหนึ่ง ซ้ำรอยเดิมแบบเดียวกับคณะราษฎรเมื่อ 2475 และสืบทอดความจัญไรทำผิดซ้ำซากมาแล้ว 18 ครั้ง
หากทักษิณ ยิ่งลักษณ์ พรรคเพื่อไทย มีอำนาจแล้ว ทำคุณไถ่บาปให้กับประเทศ จะต้องเลิกวิธีคิด “ร่างรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย” เพราะมันเป็นวิธีคิดที่เห็นผิด ทำผิดอย่างร้ายแรงต่อชาติจงยกเลิกแผนการ ยกเลิกนโยบายแก้ไขรัฐธรรมนูญ แล้วกลับหลังหัน ดุจดังองคุลิมาลกลับใจที่ได้เห็นถูก คิดถูก ทำถูก จงทำในสิ่งที่ถูกต้องยิ่งใหญ่ เริ่มนโยบายใหม่ที่ถูกต้องยิ่งใหญ่แก่ชาติ นั่นก็คือ นโยบายส่งเสริมประชาชนร่วมกันผลักดันสถาปนาหลักการปกครองธรรมาธิปไตย 9 ซึ่งเป็นนโยบายที่ต่อสู้เอาชนะเผด็จการทุกรูปแบบนั่นเอง
มีอำนาจทางการเมืองที่ถูกต้อง คือ ผลักดันนโยบายสถาปนาหลักการปกครองธรรมาธิปไตย 9 (จะได้ระบอบประชาธิปไตยจริงๆ ตัวเป็นๆ แบบเปิดเผย ไม่ปิดบังอำพรางซ่อนเร้น เฉกเช่นระบอบเผด็จการทั้งหลาย
ในทางกลับกัน มีอำนาจทางการเมืองแล้วเห็นผิด คิดคดทรยศต่อชาติต่อประชาชนคือ ผลักดันนโยบายแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก็จะเป็นการเพิ่ม ส่งเสริมความจัญไรให้ท่วมทับประเทศชาติและประชาชนให้หนักขึ้นยาวนานออกไปอีก อย่างนี้ใครๆ ก็คัดค้าน
ท่านปัญญาชน คนดีทั้งหลาย ได้พิจารณาอย่างแยบยลเถิด แนวทางการเมืองในขณะนี้ ไม่มีอะไรใหม่จาก 80 ปี ที่แล้วเลย เป็นความขัดแย้งของคณะผู้ปกครองด้วยกันเองที่ยึดมั่นถือมั่นในลัทธิรัฐธรรมนูญ คือความเชื่อที่ยึดมั่นในวิธีการปกครองเป็นจุดมุ่งหมาย มันจึงเป็นการเมืองการปกครองที่ที่รับใช้คณะผู้ปกครองเพียงหยิบมือเดียวเท่านั้น เพราะกฎหมายรัฐธรรมนูญเป็นเพียงวิธีการปกครองอย่างหนึ่ง มันไม่สามารถนำมาเป็นจุดหมายทางการเมืองของปวงชนได้ มันจึงกลายเป็นระบอบเผด็จการรัฐธรรมนูญ ใช้รูปการปกครองระบบรัฐสภา จึงเรียกว่า “เผด็จการรัฐธรรมนูญระบบรัฐสภา (ซึ่งเห็นด้วยปัญญา) อันเป็นเหตุแห่งเผด็จการรัฐสภา ที่เราเห็นได้ด้วยตา นั่นเอง
ดังนั้น การที่ทักษิณ ยิ่งลักษณ์ พรรคเพื่อไทย ได้ทำการบริหารประเทศ ด้วยการกู้เงินสองล้านล้านบาท งบประมาณแก้ปัญหาน้ำท่วมหลายแสนล้าน รถยนต์คันแรก ค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท แก้ไขรัฐธรรมนูญ ฯลฯ เหล่านี้ล้วนเป็นปัญหาให้กับประเทศชาติและประชาชนทั้งสิ้น แต่พวกนักธุรกิจการเมืองพรรคเพื่อไทยได้ประโยชน์เต็มๆ ยิ่งบริหารประเทศ พวกเขาก็ยิ่งร่ำรวยขึ้นๆ และสั่งสมทุนเอาไว้ซื้อเสียงในการเลือกตั้งคราวหน้าเพราะพวกเขาแพ้ไม่ได้ พวกเขาจะต้องโกงกินประเทศต่อไปเรื่อยๆ แต่สำหรับประชาชนแล้วก็จะได้รับความทุกข์ยากจากความยากจนมากขึ้น
พวกผู้ปกครองเผด็จการมักจะอธิบายหลอกลวง และสุดที่จะบิดเบือน หรือสุดที่จะเห็นผิดอย่างร้ายแรงต่อชาติ ในหลายๆ มิติ ดังนี้
1. กฎหมายรัฐธรรมนูญคือระบอบประชาธิปไตยอันที่จริงกฎหมายรัฐธรรมนูญเป็นผล เป็นเครื่องมือในการปกครองของระบอบอะไรก็ได้ เช่น คอมมิวนิสต์ เผด็จการ ประชาธิปไตย ฯลฯ ระบอบเป็นอย่างไร รัฐธรรมนูญก็สะท้อนระบอบอย่างนั้น
2. ระบบรัฐสภา คือระบอบประชาธิปไตย ทั้งๆ ที่ระบบรัฐสภา เป็นรูปการปกครองชนิดหนึ่งที่ได้แบ่งองค์กรอำนาจออกเป็นฝ่ายนิติบัญญัติ บริหาร ตุลาการ ซึ่งก็เปรียบเสมือนบ้านใหญ่สามหลัง ต่างก็มีหัวหน้าบ้าน ที่จะให้หัวหน้าบ้านทั้งสามมีอำนาจเท่าๆ กัน ถ่วงดุลกัน ดังนั้น ระบบรัฐสภา (Parliamentary System) จึงเป็นเพียงรูปการปกครอง (Form of Government) อย่างหนึ่งเท่านั้น ซึ่งระบอบอะไรๆ ก็เอาไปใช้ได้ ไม่ใช่ว่ามีระบบรัฐสภาแล้วจะต้องเป็นระบอบประชาธิปไตยเสมอไป อย่าหลอกลวง บิดเบือนหรือเข้าใจเสียให้ถูกต้องเสียเถิด
3. การเลือกตั้งคือระบอบประชาธิปไตย การเลือกตั้งเป็นวิธีการสรรหาอย่างหนึ่งเพื่อเลือกคนที่เหมาะสม หรือเลือกผู้แทนขึ้นมาทำหน้าที่แทนตนในสภาฯ การเลือกตั้งซึ่งเป็นวิธีการ เป็นของกลาง ซึ่งระบอบอะไรๆ ก็นำไปใช้ได้หมด มันไม่เกี่ยวกับความเป็นระบอบประชาธิปไตยเสมอไป
ดังนั้น การเลือกตั้ง ส.ส. ก็ ไม่ใช่ระบอบประชาธิปไตยเสมอไป
เลือกตั้ง ส.ว. ก็ไม่ได้บ่งบอกว่าเป็นระบอบประชาธิปไตยเสมอไป
ประเทศไทย ไม่มีเคยมีระบอบประชาธิปไตย มีแต่การยกร่างกฎหมายรัฐธรรมนูญมาแล้ว 18 ฉบับ กฎหมายรัฐธรรมนูญเป็นเครื่องมือในการปกครองประเทศ แล้วหัวใจของการปกครอง หรือระบอบของการปกครองมันอยู่ตรงไหน หรือจุดหมายร่วมของปวงชนมันอยู่ตรงไหน มันไม่มี
ดังนั้น การปกครองด้วยกฎหมายรัฐธรรมนูญเพียงด้านเดียว หัวใจของการปกครองหรือระบอบ หรือหลักการปกครอง มันก็คือคณะพรรคการเมืองที่เป็นรัฐบาล ซึ่งมีเพียงหยิบมือเดียวนั่นเอง
นี่แหละคือการเปิดเผยว่า การปกครองไทย 80 ปี คือการสืบทอดระบอบเผด็จการโดยกฎหมายรัฐธรรมนูญ เพราะพวกผู้ปกครองอาศัยกฎหมายกดหัวชาวบ้านให้ทำตามกฎหมาย แต่กฎหมายกลับรับใช้แต่พวกผู้ปกครอง หรือพวกมีอิทธิพล พวกทำลายบ้านเมือง พวกธุรกิจอบายมุข พวกนี้มันจะเติบโตขึ้นเต็มบ้านเต็มเมือง บ้านเมืองจึงเต็มไปด้วยความขัดแย้งทุกหย่อมหญ้า
มวลชนพรรคเพื่อไทยในนามเสื้อแดง พวกเขาเคลื่อนไหวอ้างว่าเรียกร้องประชาธิปไตย ฟังดูเข้าท่า น่านับถือ แต่แท้ที่จริงพวกเขาล้วนเป็นทายาทซาตาน เพราะพวกเขา “เรียกร้องประชาธิปไตยแต่ไปแก้ไขรัฐธรรมนูญ” นี่คือขบวนการทางการเมืองอนุบาล บางคนบอกว่า “ขบวนการควายแดง” ก็น่าจะสมจริง เพราะกี่คณะมาแล้ว คณะนักศึกษากี่คณะมาแล้ว ที่เรียกร้องรัฐธรรมนูญ โดยเข้าใจว่าจะได้ประชาธิปไตย ก็ล้มเหลวไปทุกครั้ง กี่คณะรัฐประหารต่างก็อ้างว่าเพื่อประชาธิปไตย เช่น คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ฯ ต่างก็เข้าใจผิดว่า ประชาธิปไตย คือกฎหมายรัฐธรรมนูญ เขียนรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย จะกี่รัฐบาลทักษิณ มาร์ค ยิ่งลักษณ์ ก็อยากได้ประชาธิปไตยแต่ดันไปคิดจะร่างรัฐธรรมนูญใหม่หรือแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก็ล้วนแล้วแต่เห็นผิด คิดผิด พูดผิดทั้งสิ้น พวกคุณจะร่าง จะแก้ไขกฎหมายรัฐธรรมนูญสักร้อยครั้ง พันฉบับ มันก็ไม่ได้ระบอบประชาธิปไตย หยุดโง่ หยุดบิดเบือนได้แล้ว หยุดทำลายชาติได้แล้ว
เพราะพวกเขาไม่รู้จักการสร้างระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง หรือไม่รู้จักการเสนอหลักการปกครองระบอบประชาธิปไตยและการผลักดันเพื่อการสร้างระบอบประชาธิปไตย ดังนั้น ประเทศชาติจึงตกอยู่ในสัมพันธภาพที่ผิดมายาวนานกว่า 80 ปี ภายใต้กฎหมายรัฐธรรมนูญ 18 … ฉบับ เพราะความเห็นผิดอย่างร้ายแรงต่อชาตินั่นเอง ท่านทั้งหลายพึงไตร่ตรองสัมพันธภาพนี้เถิด
และท่านทั้งหลายพึงพิจารณาสัมพันธภาพของระบอบประชาธิปไตยจริงๆ ดังนี้คือ ท่านจะเห็นความแตกต่างอย่างสิ้นเชิง
ท่านปัญญาชนทั้งหลาย ย่อมสรุปได้ว่ารัฐบาลยิ่งลักษณ์ ระบอบยิ่งลักษณ์ พรรคเพื่อไทย จึงเต็มไปด้วยความเห็นผิดอย่างร้ายแรงต่อชาติ รวมทั้งพรรคการเมืองอื่นๆ ที่หลงผิดหรือบิดเบือนเรื่องระบอบประชาธิปไตย เห็นระบอบเผด็จการรัฐธรรมนูญเป็นระบอบประชาธิปไตย เห็นอนุสาวรีย์รัฐธรรมนูญแท้ๆ ว่าเป็นอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ไม่น่าปัญญาอ่อนถึงขนาดนี้เลย
ท่านทั้งหลายพึงรู้อย่างถูกต้องว่า รัฐธรรมนูญ ระบบรัฐสภา การเลือกตั้ง ไม่ใช่ระบอบประชาธิปไตยเป็นคนละส่วนคนละเรื่องกับระบอบประชาธิปไตย ระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริงคือหลักการปกครองธรรมาธิปไตย 9 ครับท่าน