ASTVผู้จัดการรายวัน- เลขาฯสมช. อ้างปัดรัฐไทยเพลี่ยงพล้ำ หลังโจรใต้ยื่น 5 ข้อต่อรอง ยันเดินหน้าเจรจาอีกรอบ 13 มิ.ย. ไม่มีล้ม เผยยื่นเงื่อนบีอาร์เอ็นงดปฏิบัติการในพื้นที่ “บิ๊กอ๊อด”ยันไม่รับข้อเสนอโจร ซัดแยก 3 จว.ใต้ไม่ให้อยู่ใต้ปกครองไทยไม่ได้ ลั่นไม่ยกระดับการเจรจา แนะทีมเจรจาของฝ่ายความมั่นคงควรเป็นมืออาชีพ ไม่ใช่รับข้อปัญหามาแก้ฝ่ายเดียว ควรโยนปัญหาให้ฝ่ายนั้นแก้บ้าง ด้านทหารพรานวิสามัญRKK ดับ 1 ราย คนร้ายซุ่มยิงทหารรามัน ระเบิดซ้ำ บาดเจ็บ 6 นาย
พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวถึง การพูดคุยระหว่างรัฐบาลไทยกับกลุ่มบีอาร์เอ็น ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 29 เม.ย.ที่ผ่านมาว่า บรรยากาศการพูดคุยเป็นไปได้ด้วยดี ยังไม่ถือว่าล้มเหลว และจะพูดคุยอีกครั้งวันที่ 13 มิ.ย. ขณะที่การประชุม ไม่ได้มีการหยิบยกข้อเสนอ 5 ข้อมาพูด เพียงแต่ได้รับการชี้แจงว่า เป็นข้อเสนอของประชาชนในพื้นที่ ซึ่งการยื่นข้อเสนอ 5 ข้อ ดังกล่าวไม่ได้ถือว่าบีอาร์เอ็น เป็นต่อรัฐบาลไทย ถือเป็นเรื่องปกติในการเสนออะไร ก็ต้องยื่นข้อเสนที่สุดโต่งไว้ก่อน
ทั้งนี้ การยกระดับการพูดคุยจะทำให้บีอาร์เอ็น กล้าพอที่จะสะท้อนปัญหาออกมา ซึ่งข้อเสนอตรงนี้ก็ต้องนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายยุทธศาสตร์และแก้ปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศปก.กปต.)
เมื่อถามว่า แต่ข้อเสนอดังกล่าวผิดจากข้อตกลงเดิมที่ได้ลงนามไว้ เลขาฯสมช.กล่าวว่า อย่างที่บอก เมื่อมีการยื่นข้อเสนอมาก็ได้บอกว่าเจตนารมณ์ที่ลงนามด้วยกันคือต้องอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญไทย โดยมีมาเลเซียอำนวยความสะดวก ต้องยึดกรอบตรงนี้เป็นหลัก ซึ่งทางบีอาร์เอ็น ก็ยังยืนยันในกรอบเดิมที่ตกลงกันไว้
ส่วนที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า ไทยเพลี่ยงพล้ำ ต้องเดินตามบีอาร์เอ็นนั้น พล.ท.ภราดร กล่าวว่า ไม่ได้เพลี่ยงพล้ำและถือว่าไม่ได้เป็นรองฝ่ายปฏิบัติการ เพราะเมื่อเขาอ้างว่าข้อเสนอนี้เป็นแนวคิดของประชาชน เราก็เปิดใจกว้างรับฟัง และมั่นใจสถานการณ์ดีขึ้นหลังมีการสื่อสารไปยังฝ่ายปฏิบัติการ และรัฐบาลพร้อมพูดคุยกับทุกกลุ่ม ที่มีความเห็นต่าง ขณะที่บีอาร์เอ็น ก็ยืนยันว่าพูดคุยกับทุกกลุ่มได้
** รัฐต้องเสนอปัญหาให้บีอาร์เอ็นแก้ไข
พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังที่สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ได้เดินทางพูดคุยกับกลุ่มบีอาร์เอ็น เป็นรอบที่ 2 ว่า การจะพูดจากันจะต้องดูว่าถูกสถานที่ ถูกสถานการณ์หรือไม่ ส่วนข้อเสนอ 5 ข้อ ของแกนนำบีอาร์เอ็น ที่โพสต์ผ่านเว็บไซต์ยูทูปนั้น หากเรายอมรับข้อเสนอ 1 ใน 5 ข้อที่เสนอมา ก็เท่ากับว่า เขาสามารถยกระดับการเจรจาของกลุ่มบีอาร์เอ็นได้ ซึ่งต่อจากนี้หากจะมีการทำอะไร ข้อเสนออะไรก็ควรปรึกษากันก่อน ไม่ใช่ปล่อยข่าวผ่านเว็บไซต์ เพราะถือว่าเป็นการโยนปัญหาให้ฝ่ายไทยเป็นคนแก้ และเป็นการเริ่มต้นที่ได้เปรียบของกลุ่มบีอาร์เอ็น ทั้งนี้ ตนเห็นว่าการเจรจาจะต้องอยู่บนความเสมอภาคกัน ไม่มีการเอาเปรียบ ซึ่งเรื่องนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ก็บอกว่าไม่ใช่ ตกลงไม่ได้ และเรื่องนี้รัฐบาลจะต้องเป็นคนตอบ
“ส่วนข้อเสนอของกลุ่มบีอาร์เอ็นที่เสนอให้ 3 จังหวัดชายแดนอยู่นอกอำนาจในการปกครองของไทยนั้น เรื่องนี้เป็นไปไม่ได้เลย เพราะอะไรก็ตามที่พูดคุยกันต้องอยู่ภายใต้กรอบรัฐธรรมนูญของไทย ทั้งนี้ ข้อเสนอทั้ง 5 ข้อ ซึ่งเรื่องนี้กลุ่มบีอาร์เอ็นต้องการที่จะยกระดับปัญหา จากการพูดคุยเป็นการเจรจาต่อไป ซึ่งเราคิดว่าไม่จำเป็น และไม่อยากให้เกิดการเจรจา”พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าว
***ทหารปะทะRKKวิสามัญดับ1
เมื่อเวลา 07.20 น.วานนี้ (30 เม.ย.) พ.ต.วิจิตร คงนุ่น ผบ.ร้อย ทพ.4603 กรมทหารพรานที่ 46 ได้สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ทหารพราน ร้อย ทพ.4603 และ ร้อย ทพ.4602 จำนวน 30 นาย เปิดยุทธการพิสูจน์ทราบบนเทือกขาไอร์ลากอ หมู่ 5 ต.ช้างเผือก อ.จะแนะ หลังสืบทราบว่าแกนนำ RKK ใช้เป็นสถานที่กบดานเพื่อเตรียมก่อเหตุร้ายในพื้นที่ โดยเจ้าหน้าที่ต้องเดินเท้าขึ้นบนเขาระยะทางกว่า 3 กิโลเมตร จนกระทั่งพบบ้านพัก 3 หลัง และมีกลุ่มคนร้าย 6 คนอาศัยอยู่ ทั้งนี้ ภายหลังเหตุการณ์ปะทะนานกว่า 10 นาที เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพื้นที่ พบคนร้ายถูกวิสามัญ 1 ราย คือ นายมาหามะซือกือรี เมาะเฮ็ง หรือเปาะรง อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 18/2 หมู่ 4 ต.ดุซงญอ อ.จะแนะ จ.นราธิวาส ผู้ต้องสงสัยตามหมายจับ พ.ร.ก.ในคดีความมั่นจำนวนหลายคดีในพื้นที่ อ.จะแนะ นอนจมกองเลือดเสียชีวิตอยู่ภายในสวนผลไม้ โดยข้างศพพบอาวุธปืนพกสั้นขนาด .22 มม. เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน ส่วนคนร้ายที่เหลือสามารถหลบหนีไปได้
จากการตรวจสอบภายในบ้านพักหลังแรก พบว่าถูกใช้เป็นห้องวิทยุสื่อสาร โดยมีการติดตั้งเสาอากาศเพื่อดักฟังการสื่อสารของเจ้าหน้าที่ ส่วนหลังที่ 2 พบของกลางจำนวนมาก อาทิ อาวุธปืนสงคราม M16 หมายเลข SER047229 จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุน 122 นัด แม็กกาซีน 4 อัน อาวุธพกสั้นขนาด 9 มม.1 กระบอก พร้อมกระสุน 36 นัดโทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง แบตเตอรี่มือถือ 6 ก้อน ชุดลายพรางทหาร อุปกรณ์เดินป่า เวชภัณฑ์ และเปลสนาม เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวมรวมไว้เป็นหลักฐาน
**ซุ่มยิงทหาร-จยย.บอมบ์ระแงะ
เวลา 10.30 น.ร.ต.ท.ปรีชา ราชโยธา ร้อยเวร สภ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส รับแจ้งมีเหตุคนร้ายซุ่มยิงเข้าใส่เจ้าหน้าที่ทหาร เหตุเกิดในพื้นที่บ้านไอร์ตือกอ-คอลอกาเว ม.1 ต.ศรีสาคร
วันเดียวกัน พ.ต.อ.จิระเดช พระสว่าง ผกก.สภ.ระแงะ จ.นราธิวาส ได้รับแจ้งมีเหตุคนร้ายจุดชนวนระเบิด จยย.บอมบ์บนถนนสายดุซงญอ-ระแงะ ช่วงบริเวณบ้านบาโงตา ม.1 ต.บาโงสโตร์ จึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่พบรถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้าเวฟสีบรอนซ์ ทะเบียน ขจม-33 นราธิวาส จอดอยู่ริมถนนใกล้กับเสาไฟฟ้า อยู่ในสภาพพังยับเยิน และมีซากเศษชิ้นส่วนของระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายประกอบใส่ไว้ในถังน้ำมันเชื้อเพลิงหนัก 10 กิโลกรัมจุดชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือ ตกกระจายเกลื่อนพื้นถนน แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ
***ซุ่มยิงฐานปฏิบัติการทหารรามัน
เมื่อเวลา 18.50 น.วานนี้ (30 เม.ย.) ได้เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจำนวนใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดซุ่มยิงฐานปฏิบัติการทหาร ร้อย ร.15334 ฉก.ยะลา 12 บ้านพอเม็ง ต.กายูบอเกาะ ม.4 อ.รามัน จ.ยะลา เป็นเหตุให้มีเจ้าหน้าที่ทหารได้รับบาดเจ็บ 6 นาย ประกอบด้วย ส.อ.วันเผด็จ สิทธิแสง ส.อ.ธีระศักดิ์ แสงสุระ ส.ท.ศาตราวุธ ครุฑพันธ์ ส.ท.ณัฐพล พูลเพิ่ม พลทหารสิทธิศักดิ์ ขุนรักษ์ และพลทหารเอกชัย บุญรอดชู ทั้งหมดได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ถูกนำส่งโรงพยาบาลรามัน
จากการสอบสวนทราบว่าในขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารชุดดังกล่าวประจำการอยู่ภายในฐานปฏิบัติการ กลุ่มคนร้ายไม่ทราบจำนวนซุ่มอยู่ในป่าฝั่งตรงข้ามฐาน ใช้อาวุธปืนสงครามกราดยิงเข้าใส่ จนเกิดการยิงปะทะกันนานประมาณ 10 นาที เสียงปืนจึงสงบลง หลังเกิดเหตุตรวจสอบพบมีทหารได้รับบาดเจ็บดังกล่าว เบื้องต้นเชื่อเป็นกลุ่มคนร้ายที่ต้องการสร้างสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง.
พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวถึง การพูดคุยระหว่างรัฐบาลไทยกับกลุ่มบีอาร์เอ็น ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 29 เม.ย.ที่ผ่านมาว่า บรรยากาศการพูดคุยเป็นไปได้ด้วยดี ยังไม่ถือว่าล้มเหลว และจะพูดคุยอีกครั้งวันที่ 13 มิ.ย. ขณะที่การประชุม ไม่ได้มีการหยิบยกข้อเสนอ 5 ข้อมาพูด เพียงแต่ได้รับการชี้แจงว่า เป็นข้อเสนอของประชาชนในพื้นที่ ซึ่งการยื่นข้อเสนอ 5 ข้อ ดังกล่าวไม่ได้ถือว่าบีอาร์เอ็น เป็นต่อรัฐบาลไทย ถือเป็นเรื่องปกติในการเสนออะไร ก็ต้องยื่นข้อเสนที่สุดโต่งไว้ก่อน
ทั้งนี้ การยกระดับการพูดคุยจะทำให้บีอาร์เอ็น กล้าพอที่จะสะท้อนปัญหาออกมา ซึ่งข้อเสนอตรงนี้ก็ต้องนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายยุทธศาสตร์และแก้ปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศปก.กปต.)
เมื่อถามว่า แต่ข้อเสนอดังกล่าวผิดจากข้อตกลงเดิมที่ได้ลงนามไว้ เลขาฯสมช.กล่าวว่า อย่างที่บอก เมื่อมีการยื่นข้อเสนอมาก็ได้บอกว่าเจตนารมณ์ที่ลงนามด้วยกันคือต้องอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญไทย โดยมีมาเลเซียอำนวยความสะดวก ต้องยึดกรอบตรงนี้เป็นหลัก ซึ่งทางบีอาร์เอ็น ก็ยังยืนยันในกรอบเดิมที่ตกลงกันไว้
ส่วนที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่า ไทยเพลี่ยงพล้ำ ต้องเดินตามบีอาร์เอ็นนั้น พล.ท.ภราดร กล่าวว่า ไม่ได้เพลี่ยงพล้ำและถือว่าไม่ได้เป็นรองฝ่ายปฏิบัติการ เพราะเมื่อเขาอ้างว่าข้อเสนอนี้เป็นแนวคิดของประชาชน เราก็เปิดใจกว้างรับฟัง และมั่นใจสถานการณ์ดีขึ้นหลังมีการสื่อสารไปยังฝ่ายปฏิบัติการ และรัฐบาลพร้อมพูดคุยกับทุกกลุ่ม ที่มีความเห็นต่าง ขณะที่บีอาร์เอ็น ก็ยืนยันว่าพูดคุยกับทุกกลุ่มได้
** รัฐต้องเสนอปัญหาให้บีอาร์เอ็นแก้ไข
พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังที่สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ได้เดินทางพูดคุยกับกลุ่มบีอาร์เอ็น เป็นรอบที่ 2 ว่า การจะพูดจากันจะต้องดูว่าถูกสถานที่ ถูกสถานการณ์หรือไม่ ส่วนข้อเสนอ 5 ข้อ ของแกนนำบีอาร์เอ็น ที่โพสต์ผ่านเว็บไซต์ยูทูปนั้น หากเรายอมรับข้อเสนอ 1 ใน 5 ข้อที่เสนอมา ก็เท่ากับว่า เขาสามารถยกระดับการเจรจาของกลุ่มบีอาร์เอ็นได้ ซึ่งต่อจากนี้หากจะมีการทำอะไร ข้อเสนออะไรก็ควรปรึกษากันก่อน ไม่ใช่ปล่อยข่าวผ่านเว็บไซต์ เพราะถือว่าเป็นการโยนปัญหาให้ฝ่ายไทยเป็นคนแก้ และเป็นการเริ่มต้นที่ได้เปรียบของกลุ่มบีอาร์เอ็น ทั้งนี้ ตนเห็นว่าการเจรจาจะต้องอยู่บนความเสมอภาคกัน ไม่มีการเอาเปรียบ ซึ่งเรื่องนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ก็บอกว่าไม่ใช่ ตกลงไม่ได้ และเรื่องนี้รัฐบาลจะต้องเป็นคนตอบ
“ส่วนข้อเสนอของกลุ่มบีอาร์เอ็นที่เสนอให้ 3 จังหวัดชายแดนอยู่นอกอำนาจในการปกครองของไทยนั้น เรื่องนี้เป็นไปไม่ได้เลย เพราะอะไรก็ตามที่พูดคุยกันต้องอยู่ภายใต้กรอบรัฐธรรมนูญของไทย ทั้งนี้ ข้อเสนอทั้ง 5 ข้อ ซึ่งเรื่องนี้กลุ่มบีอาร์เอ็นต้องการที่จะยกระดับปัญหา จากการพูดคุยเป็นการเจรจาต่อไป ซึ่งเราคิดว่าไม่จำเป็น และไม่อยากให้เกิดการเจรจา”พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าว
***ทหารปะทะRKKวิสามัญดับ1
เมื่อเวลา 07.20 น.วานนี้ (30 เม.ย.) พ.ต.วิจิตร คงนุ่น ผบ.ร้อย ทพ.4603 กรมทหารพรานที่ 46 ได้สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ทหารพราน ร้อย ทพ.4603 และ ร้อย ทพ.4602 จำนวน 30 นาย เปิดยุทธการพิสูจน์ทราบบนเทือกขาไอร์ลากอ หมู่ 5 ต.ช้างเผือก อ.จะแนะ หลังสืบทราบว่าแกนนำ RKK ใช้เป็นสถานที่กบดานเพื่อเตรียมก่อเหตุร้ายในพื้นที่ โดยเจ้าหน้าที่ต้องเดินเท้าขึ้นบนเขาระยะทางกว่า 3 กิโลเมตร จนกระทั่งพบบ้านพัก 3 หลัง และมีกลุ่มคนร้าย 6 คนอาศัยอยู่ ทั้งนี้ ภายหลังเหตุการณ์ปะทะนานกว่า 10 นาที เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพื้นที่ พบคนร้ายถูกวิสามัญ 1 ราย คือ นายมาหามะซือกือรี เมาะเฮ็ง หรือเปาะรง อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 18/2 หมู่ 4 ต.ดุซงญอ อ.จะแนะ จ.นราธิวาส ผู้ต้องสงสัยตามหมายจับ พ.ร.ก.ในคดีความมั่นจำนวนหลายคดีในพื้นที่ อ.จะแนะ นอนจมกองเลือดเสียชีวิตอยู่ภายในสวนผลไม้ โดยข้างศพพบอาวุธปืนพกสั้นขนาด .22 มม. เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน ส่วนคนร้ายที่เหลือสามารถหลบหนีไปได้
จากการตรวจสอบภายในบ้านพักหลังแรก พบว่าถูกใช้เป็นห้องวิทยุสื่อสาร โดยมีการติดตั้งเสาอากาศเพื่อดักฟังการสื่อสารของเจ้าหน้าที่ ส่วนหลังที่ 2 พบของกลางจำนวนมาก อาทิ อาวุธปืนสงคราม M16 หมายเลข SER047229 จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุน 122 นัด แม็กกาซีน 4 อัน อาวุธพกสั้นขนาด 9 มม.1 กระบอก พร้อมกระสุน 36 นัดโทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง แบตเตอรี่มือถือ 6 ก้อน ชุดลายพรางทหาร อุปกรณ์เดินป่า เวชภัณฑ์ และเปลสนาม เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวมรวมไว้เป็นหลักฐาน
**ซุ่มยิงทหาร-จยย.บอมบ์ระแงะ
เวลา 10.30 น.ร.ต.ท.ปรีชา ราชโยธา ร้อยเวร สภ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส รับแจ้งมีเหตุคนร้ายซุ่มยิงเข้าใส่เจ้าหน้าที่ทหาร เหตุเกิดในพื้นที่บ้านไอร์ตือกอ-คอลอกาเว ม.1 ต.ศรีสาคร
วันเดียวกัน พ.ต.อ.จิระเดช พระสว่าง ผกก.สภ.ระแงะ จ.นราธิวาส ได้รับแจ้งมีเหตุคนร้ายจุดชนวนระเบิด จยย.บอมบ์บนถนนสายดุซงญอ-ระแงะ ช่วงบริเวณบ้านบาโงตา ม.1 ต.บาโงสโตร์ จึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่พบรถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้าเวฟสีบรอนซ์ ทะเบียน ขจม-33 นราธิวาส จอดอยู่ริมถนนใกล้กับเสาไฟฟ้า อยู่ในสภาพพังยับเยิน และมีซากเศษชิ้นส่วนของระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายประกอบใส่ไว้ในถังน้ำมันเชื้อเพลิงหนัก 10 กิโลกรัมจุดชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือ ตกกระจายเกลื่อนพื้นถนน แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ
***ซุ่มยิงฐานปฏิบัติการทหารรามัน
เมื่อเวลา 18.50 น.วานนี้ (30 เม.ย.) ได้เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจำนวนใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดซุ่มยิงฐานปฏิบัติการทหาร ร้อย ร.15334 ฉก.ยะลา 12 บ้านพอเม็ง ต.กายูบอเกาะ ม.4 อ.รามัน จ.ยะลา เป็นเหตุให้มีเจ้าหน้าที่ทหารได้รับบาดเจ็บ 6 นาย ประกอบด้วย ส.อ.วันเผด็จ สิทธิแสง ส.อ.ธีระศักดิ์ แสงสุระ ส.ท.ศาตราวุธ ครุฑพันธ์ ส.ท.ณัฐพล พูลเพิ่ม พลทหารสิทธิศักดิ์ ขุนรักษ์ และพลทหารเอกชัย บุญรอดชู ทั้งหมดได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ถูกนำส่งโรงพยาบาลรามัน
จากการสอบสวนทราบว่าในขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารชุดดังกล่าวประจำการอยู่ภายในฐานปฏิบัติการ กลุ่มคนร้ายไม่ทราบจำนวนซุ่มอยู่ในป่าฝั่งตรงข้ามฐาน ใช้อาวุธปืนสงครามกราดยิงเข้าใส่ จนเกิดการยิงปะทะกันนานประมาณ 10 นาที เสียงปืนจึงสงบลง หลังเกิดเหตุตรวจสอบพบมีทหารได้รับบาดเจ็บดังกล่าว เบื้องต้นเชื่อเป็นกลุ่มคนร้ายที่ต้องการสร้างสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง.