ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์ -แม้ว่า “คุณแม่แดง” เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ จะออกมาปฏิเสธว่าไม่จริ๊ง ไม่จริง ยังหวงลูกสาวอยู่ ตอนที่มีข่าวลือสะพัดในแวดวงสังคมว่าลูกสาวคนสวย “เชอร์รี่” ชยาภา วงศ์สวัสดิ์ ผูกสมัครรักใคร่กับลูกชายนักการเมืองผู้ใกล้ชิด ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา แต่ในที่สุดข่าวคราวงานวิวาห์ข้ามชาติของหนุ่มเขมรกับสาวไทยก็ได้รับการยืนยันว่าจะมีขึ้นอย่างจริงแท้แน่นอน
พิธีมงคลสมรสของ “เชอร์รี่” น.ส.ชยาภา วงศ์สวัสดิ์ บุตรสาวคนเล็กของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรีและนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ กับว่าที่เจ้าบ่าว นัม ลีนัล เจ้าหน้าที่ประจำสำนักงานคณะรัฐมนตรี กัมพูชา เป็นลูกชายของมาดามอ้วน วันลี และ เซียง นัม นักการเมืองระดับแถวหน้าของพรรคประชาชนกัมพูชา (ซีพีพี) ซึ่งเป็นสมาชิกรัฐสภาจากจังหวัดเสียมราฐ และยังเป็นคนสนิทของสมเด็จฯ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา มีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 18 พฤษภาคมนี้ ที่โรงแรมพลาซ่า แอทธินี รอยัล เมอรีเดียน กรุงเทพฯ ในเวลา 18.00 น. โดยงานนี้มี “น้าปู” น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีอีกด้วย
อีกทั้งยังมีรายงานว่าในวันรุ่งขึ้นคือ 19 พฤษภาคมนี้ จะมีงานเลี้ยงฉลองพิธีมงคลสมรสอีกครั้งที่ประเทศกัมพูชา โดยมีสมเด็จฯ ฮุนเซน เป็นประธาน ร่วมกับพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้เป็นลุง ซึ่งคาดว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะเดินทางไปกัมพูชาเพื่อร่วมงานเลี้ยงฉลองพิธีมงคลสมรสด้วย
ส่วนการเตรียมงานขณะนี้ทางครอบครัวทั้งสองฝ่ายได้เริ่มแจกการ์ดแต่งงานแก่บรรดาแขกคนสนิทแล้ว
ความสนใจในงานแต่งครั้งนี้ แน่นอนย่อมอยู่ที่ว่าที่เจ้าบ่าวเป็นชาวกัมพูชาระดับลูกชายนักการเมืองที่ใกล้ชิดสมเด็จฯ ฮุน เซน และเจ้าสาวที่เป็นลูกสาวคนเล็กของเยาวภา (ชินวัตร) วงศ์สวัสดิ์ และเป็นงานมงคลที่เกิดขึ้นท่ามกลางบรรยากาศการสู้ศึกในคดีปราสาทพระวิหารระหว่างไทย-กัมพูชา กำลังเคี่ยวข้นอยู่พอดี จึงยากที่เลี่ยงพ้นข้อครหาข้อกังขา เรื่องผลประโยชน์ประเทศชาติ กับผลประโยชน์ส่วนตน ส่วนครอบครัว ส่วนตระกูลที่จะมีขึ้นติดตามมา
ยิ่งผู้เป็นลุงของเชอร์รี่ คือ ทักษิณ ชินวัตร พะตรายี่ห้อหนีคดี โกงชาติ โกงแผ่นดิน มีผลประโยชน์ทับซ้อน แสวงหาความมั่งคั่งจากผลประโยชน์ของชาติเป็นทุนเดิม การสร้างความสัมพันธ์ที่สนิทแน่นแฟ้นเป็นเครือญาติเดียวกันกับกลุ่มผู้นำกัมพูชา รับรองว่างานแต่งคราวนี้ย่อมเป็นประเด็นให้สังคมคลางแคลงหนักข้อขึ้นไปอีก และยังตอกย้ำความเชื่อของคนหลายคนในสังคมด้วยว่า ทักษิณ - ฮุนเซน นั้น เป็นคนในกลุ่มก๊วนเดียวกันและมีผลประโยชน์ร่วมกันอย่างไม่ต้องสงสัย
งานแต่งของสองตระกูลจะเพิ่มพูนความมั่งคั่งมากน้อยแค่ไหน ยังไม่มีใครตอบได้ แต่หากถามว่า ณ บัดนี้ ชยาภา มีทุนรอนอู้ฟู่ขนาดไหน ข้อมูลจากสำนักข่าวอิศรา ชี้ให้เห็นว่า มีอยู่ไม่น้อย เบาะๆ ก็ 300 ล้านบาทนอนอยู่ในกระเป๋า โดยถือหุ้นอยู่ใน 6 บริษัท ได้แก่
1.บริษัท สำนักงานกฎหมายชยาภา แอนด์ พาร์ทเนอร์ส จำกัด เดิมชื่อ บริษัท เอส.ดับบลิว. เทเลคอม จำกัด บริษัท ชินณิชาวิลล์ จำกัด 18 ธันวาคม 2535 ทุนปัจจุบัน 10 ล้านบาท บริการจัดทำบัญชีและที่ปรึกษากฎหมาย ที่ตั้งเลขที่ 99/385 หมู่ที่ 2 ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ ณ วันที่ 30 เม.ย.2555 น.ส.ชยาภา ถือ 1,188,500 หุ้น หรือ 59.42% นายยศชนัน ถือเท่ากับ นาย นันทพล กาญจนวัฒน์ คนละ 400,000 หุ้น หรือ คนละ 20% มูลค่าหุ้นละ 5 บาท
2.บริษัท ยานัท จำกัด เดิมชื่อ บริษัท ทรีพลัซวันเซอร์วิส จำกัด จดทะเบียนวันที่ 22 เมษายน 2547 ทุนปัจจุบัน 5 ล้านบาท ประกอบธุรกิจขายอาหาร ที่ตั้งเลขที่ 99/385 หมู่ที่ 2 ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ ณ วันที่ 30 เม.ย.2555 น.ส.ชยาภา ถือหุ้น 100,000 หุ้นหรือ 22% เท่ากับนายณัฐพล จุฬางกูร นายชาคริต เฉลิมวัฒน์ ถือ 224,997 หุ้น หรือ 44.9% มูลค่าหุ้นละ 10 บาท
3.บริษัท วาย.ชินวัตร จำกัด จดทะเบียนวันที่ 26 กรกฎาคม 2533 ทุนปัจจุบัน 1 ล้านบาท ประกอบธุรกิจสปา สถานเสริมความงามและสุขภาพ ที่ตั้งเดียวกัน ณ วันที่ 30 เม.ย.2555 น.ส.ชยาภา ถือหุ้น 7,500 หุ้น หรือ 3.75% นางสาวชิณณิชา 164,000 หุ้น หรือ 82% นายยศชนัน 24,000 หุ้น หรือ 12% มูลค่าหุ้นละ 5 บาท
4.บริษัท อินนิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด จดทะเบียนวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2537 เดิมชื่อ บริษัท เอสวายเทเลคอม จำกัด บริษัท ทีโอเวอร์ซี จำกัด บริษัท มิวสิคฟันนี่2000 จำกัด บริษัท สตรองพอยท์เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด ทุนปัจจุบัน 5 ล้านบาท ประกอบกิจการจำหน่ายผลิตภัณฑ์น้ำมัน (เชื้อเพลิง) ที่ตั้งเลขที่ 99/385 หมู่ที่ 2 ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ ณ วันที่ 30 เม.ย.2555 น.ส.ชยาภา ถือหุ้น 7,500 หุ้น นายชาคริต เฉลิมวัฒน์ ถือ 20,000 หุ้น หรือ 40% นางสาวชิณณิชา วงศ์สวัสดิ์ พี่สาว 14,995 หุ้น หรือ 29.99% มูลค่าหุ้นละ 100 บาท
5.บริษัท อินนิค เซอร์วิส จำกัด จดทะเบียนวันที่ 7 มิถุนายน 2549 ทุน 1 ล้านบาท ที่ตั้งเดียวกัน ประกอบธุรกิจสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง ก๊าซ ณ วันที่ 30 เม.ย.2555 น.ส.ชยาภา ถือ 1,000 หุ้น 10% เท่ากับ น.ส.ชินณิชา นาย ยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ พี่ชาย 5,600 หุ้น หรือ 56% นายชาคริต เฉลิมวัฒน์ ถือ 2,000 หุ้น หรือ 20% หุ้นละ 100 บาท
6.บริษัท เอ็ม ลิ้งค์ เอเชีย คอมมูนิเคชั่น จำกัด จดทะเบียนวันที่ 3 เมษายน 2552 ทุน 1 ล้านบาท ประกอบกิจการค้าและให้เช่าเครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์เครือข่าย (NETWORK) และอุปกรณ์อิเลคโทรนิคส์อื่น ๆ ที่ตั้งเดียวกัน น.ส.ชยาภา ถือ 29,999 หุ้น หรือ 29.99% นายยศชนัน 70,000 หุ้น หรือ 70% หุ้นละ 10 บาท
ก่อนหน้านี้ถือหุ้น บริษัท แซนด์ฮอค พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด 16,500 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท แต่เลิกกิจการไปแล้ว และถือหุ้น บมจ.วินโคสท์ มูลค่าหุ้น ประมาณ 279,792,985 บาท (ตอนหลังครอบครัววงศ์สวัสดิ์ขายกิจการไปแล้ว)
ส่วน นัม ลีนัล เจ้าบ่าวในอนาคตอันใกล้นี้ ก็ใช่ย่อย นัม ลีนัล (Nam Lynal) หนุ่มวัย 32 ปี ลูกชายของมาดามอ้วน วันลี และ เซียง นัม นักการเมืองระดับแถวหน้าของพรรคประชาชนกัมพูชา (ซีพีพี) ซึ่งเป็นสมาชิกรัฐสภาจากจังหวัดเสียมราฐ และยังเป็นคนสนิทของสมเด็จฯ ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชาด้วยนั้น เขามีดีกรีเป็นหนุ่มนักเรียนนอก ได้รับการศึกษาจากออสเตรเลีย อเมริกา บางกระแสก็ว่าเขาเรียนที่ญี่ปุ่นและเมืองไทยด้วย สังคมกัมพูชาจึงถือได้ว่า นัม ลีนัล เป็นชายในฝันของสาวๆ เพราะพกดีกรีนักเรียนนอก รูปหล่อ พ่อรวยและมีอิทธิพลทางการเมืองสูง
ครอบครัวของนัม มีธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ดำเนินการภายใต้ชื่อ “อาณาจักรบาราย เซียง นัม” ตั้งอยู่บนเนื้อที่ประมาณ 325 ไร่ อยู่ห่างจากตัวเมืองเสียมราฐไปทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 5 กิโลเมตร อาณาจักรบารายฯ แห่งนี้ เซียง นัม ว่าจ้างนักลงทุนต่างชาติเข้ามาพัฒนาและบริหาร เปิดตัวเมื่อประมาณ 3- 4 ปี มาแล้ว ประกอบด้วย โรงแรม ชอปปิ้งมอลล์ ร้านอาหาร เกสต์เฮาส์ ฯลฯ โรงแรมของ เซียง นัม จะเป็นที่พักของแขกวี.ไอ.พี เสมอ คราวใดที่สมเด็จฯ ฮุน เซน, ทักษิณ ชินวัตร หรือ สมชาย วงศ์สวัสดิ์ เดินทางไปเยือนเสียมราฐ ก็จะพักที่นี่เป็นประจำ
สำหรับทักษิณ นั้น การเกี่ยวดองเป็นเครือญาติกับระดับคณะผู้นำกัมพูชา นอกจากจะมีกรุงพนมเปญเป็นบ้านหลังที่สองที่ใกล้กับเมืองไทยมากที่สุด เวลานี้กัมพูชา กำลังเร่งรัดพัฒนาอย่างเต็มที่ในทุกด้าน ซึ่งเป็นที่ดึงดูดนักธุรกิจการเมืองอย่างทักษิณอยู่แล้ว
และหากมองย้อนกลับไป จะเห็นว่า การดีลระหว่างทักษิณ - ฮุน เซน ต่างมีเรื่องผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้องอยู่ตลอด นับตั้งแต่ยุคบุกเบิกเปิดประเทศกัมพูชาที่ทักษิณได้รับสัมปทานสถานีวิทยุโทรทัศน์ หรือในช่วงที่เขาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ที่มีการเจรจากรณีขึ้นทะเบียนมรดกโลกปราสาทพระวิหาร ที่มีโครงการพัฒนาพื้นที่เอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ต้อนรับนักท่องเที่ยวเป็นการแลกเปลี่ยน
และที่สำคัญที่สุด ก็คือ การเจรจาแบ่งปันผลประโยชน์ในเขตทับซ้อนทางทะเล ที่ต่างมีผลประโยชน์ส่วนตนทับซ้อนอยู่ในผลประโยชน์ของประเทศชาติ ก่อนที่ฝันจะสลายเพราะตกเก้าอี้นายกรัฐมนตรีของไทยเสียก่อน
มาถึง พ.ศ.นี้ที่ “ชินวัตร-วงศ์สวัสดิ์” เกี่ยวดองเป็นครอบครัวเดียวกับบิ๊กนักการเมืองกัมพูชา จึงน่าจับตาอย่างยิ่งว่า คดีปราสาทพระวิหาร ที่ไม่ว่าศาลโลกจะตัดสินออกมาเช่นใด รัฐบาลไทยที่นำโดยน้องสาวของทักษิณ และรัฐบาลกัมพูชาภายใต้การนำของสมเด็จฯ ฮุน เซน ต้องมีการเจรจากันอีก การเจรจานั้นจะนำไปสู่ผลเช่นใด และจะโยงไปถึงการเจรจาแลกเปลี่ยนผลประโยชน์เรื่องขุมทรัพย์เขตทับซ้อนทางทะเลหรือไม่ ล้วนแต่เป็นเรื่องที่น่าติดตาม