xs
xsm
sm
md
lg

"ธาริต"จัดหนัก ส่งปปช.เชือด มาร์ค-เทือก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-"ธาริต"จัดหนัก "มาร์ค-เทือก" ส่งป.ป.ช. เชือดคดีให้สร้างแฟลตตำรวจมูลค่า 3.7 พันล้าน ยันมีหลักฐานเอาผิดชัดเจน

วานนี้ (24เม.ย.) เมื่อเวลา14.00น. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้แถลงสรุปผลการสืบสวนสอบสวนโครงการก่อสร้างอาคารที่พักอาศัย (แฟลต) ขนาด 30 ครอบครัว สูง 5 ชั้น จำนวน 163 แห่ง วงเงิน 3,709,800,000 บาท ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.)

นายธาริตกล่าวว่า ดีเอสไอได้มีมติสรุปสำนวนส่งให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้พิจารณาตั้งอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี ตามมาตรา 157 ประมวลกฎหมายอาญา และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตามมาตรา 157 ประมวลกฎหมายอาญา และมาตรา 13 ประกอบ มาตรา 11 และมาตรา 12 พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ

ทั้งนี้ จากผลการสืบสวน พบว่า ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ กำหนดให้หัวหน้าส่วนราชการเป็นผู้ให้ความเห็นชอบการดำเนินการจัดซื้อ จัดจ้าง โดยเสนอให้รัฐมนตรีที่กำกับดูแลพิจารณา และการที่นายสุเทพได้เคยอนุมัติหลักการในการจัดจ้างโครงการดังกล่าวแบบรายภาค และต่อมาได้ยกเลิกการจัดจ้างการเสนอราคาราคาเป็นรายภาค และอนุมัติเปลี่ยนมาเป็น สตช. เป็นหน่วยงานจัดจ้างก่อสร้างทุกอาคารรวมกันในครั้งเดียว ถือว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เนื่องจากการอนุมัติและเห็นชอบเป็นอำนาจของ ผบ.ตร.

"การที่นายสุเทพ ได้อนุมัติเปลี่ยนให้เป็น สตช. เป็นหน่วยงานจัดจ้างก่อสร้างทุกอาคารรวมกันในครั้งเดียวและเป็นสัญญาเดียว เป็นการกำหนดเงื่อนไขโดยมุ่งหมายมิให้มีการแข่งขันในการเสนอราคาอย่างเป็นธรรม หรือเพื่อช่วยเหลือให้ผู้เสนอราคารายใดมิให้มีโอกาสเข้าแข่งขันในการเสนอราคาอย่างเป็นธรรม ลักษณะการกระทำความผิดดังกล่าว เข้าข่ายความผิด ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ มาตรา 13 ประกอบ มาตรา 11 และมาตรา 12"

นอกจากนี้ การที่ผู้รับเหมาจำนวน 8 ราย ได้ยื่นหนังสือแจ้งต่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เพื่อคัดค้านนโยบายการจัดจ้างแบบรวมรายการก่อสร้าง ไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่านายอภิสิทธิ์ ในฐานะหัวหน้ารัฐบาลและนายสุเทพ ในฐานะที่กำกับดูแล สตช. ไม่ได้มีการสั่งการแก้ไขแต่ประการใด ซึ่งเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ อันเป็นความผิด ตามมาตรา 157 แห่งประมวลกฎหมายอาญา

อย่างไรก็ตาม ดีเอสไอเชื่อว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. จะพิจารณาเรื่องนี้ทำนองเดียวกับกรณีทุจริตสร้างโรงพัก โดยหมายความว่าข้อเสนอทางดีเอสไอน่าจะได้รับการพิจารณาในทำนองเดียวกัน คือ ตั้งอนุไต่สวนเหมือนกับเรื่องโรงพัก ซึ่งเรื่องโรงพักนั้น ป.ป.ช. ถือได้ว่ารับช่วงต่อจากทางดีเอสไอ ทั้งนี้ การตั้งอนุไต่สวนก็เหมือนกับการชี้มูลเบื้องต้น เพราะจะต้องมีการแจ้งข้อหากับนายอภิสิทธิ์ และนายสุเทพ เพื่อให้ชี้แจงและแก้ข้อกล่าวหา พร้อมกับคัดค้านอนุกรรมการที่ไต่สวนหรือไม่
กำลังโหลดความคิดเห็น