xs
xsm
sm
md
lg

ทางที่ “ทักษิณ” กำลังเดิน

เผยแพร่:   โดย: สุรวิชช์ วีรวรรณ

การแสดงออกของทักษิณในแต่ละครั้งนั้นทำให้เรารู้สิ่งที่เขาฝังใจเจ็บและอยากเอาคืนมากที่สุดคือ ฝ่ายตุลาการ

ตอนนี้ฝ่ายทักษิณถืออำนาจอธิปไตยสองฝ่าย คือ ฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติ และกำลังรุกคืบด้วยการแก้กฎหมายเพื่อให้ฝ่ายตุลาการมาสยบราบคาบแก้วต่อฝ่ายของตัวเอง โดยการแก้กฎหมายลดทอนอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญ ยุบรวมศาลปกครองเข้าเป็นแผนกหนึ่งของศาลยุติธรรม และให้ประธานศาลฎีกาต้องผ่านการรับรองของสภาผู้แทนราษฎร

เมื่อทำเช่นนั้นสำเร็จฝ่ายทักษิณก็จะยึดครองสามอำนาจอธิปไตย 3 ฝ่ายเอาไว้ในมืออย่างเบ็ดเสร็จ

แนวทางต่อไปที่เริ่มมีผู้ออกมาแสดงความเห็นโดยเฉพาะคณะนิติราษฎร์ที่เป็นแนวร่วมของระบอบทักษิณ ก็คือ การลดทอนอำนาจของพระมหากษัตริย์ โดยการไม่อนุญาตให้กษัตริย์สามารถทำอะไรด้วยพระองค์เองได้ เนื่องจากผู้ที่รับผิดชอบคือผู้สนองพระบรมราชโองการ รวมถึงการไม่อนุญาตให้กษัตริย์แสดงพระราชดำรัสสดต่อสาธารณะ และต้องสาบานตนต่อรัฐสภาในฐานะประมุขว่าจะพิทักษ์รักษารัฐธรรมนูญ

รวมถึงทิศทางการบั่นทอนบทบาทและสถานะของสถาบันพระมหากษัตริย์กำลังตามข้อเสนอของนายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล อาจารย์คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งเป็นแนวร่วมของระบอบทักษิณก็คือ

1. ยกเลิกรัฐธรรมนูญมาตรา 8 เพิ่มมาตราในลักษณะเดียวกับรัฐธรรมนูญ 27 มิถุนายน 2475 (สภาพิจารณาความผิดของกษัตริย์) 2. ยกเลิกประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 3. ยกเลิกองคมนตรี 4. ยกเลิก พ.ร.บ.จัดระเบียบทรัพย์สินฝ่ายพระมหากษัตริย์ พ.ศ. 2491 5. ยกเลิกการประชาสัมพันธ์ด้านเดียวทั้งหมด การให้การศึกษาแบบด้านเดียวเกี่ยวกับสถาบันทั้งหมด 6. ยกเลิกพระราชอำนาจ ในการแสดงความเห็นทางการเมืองทั้งหมด (4 ธันวา, 25 เมษา “ตุลาการภิวัฒน์” ฯลฯ) 7. ยกเลิกพระราชอำนาจในเรื่องโครงการหลวงทั้งหมด 8. ยกเลิกการบริจาค/รับบริจาคโดยเสด็จพระราชกุศลทั้งหมด

ทักษิณจะเห็นด้วยกับสมศักดิ์หรือไม่ ไม่อาจรู้ได้ แต่ทักษิณเองก็เคยพูดถึงสมศักดิ์ ครั้งหนึ่งในการโฟนอินสดข้ามประเทศ มายังเวทีรายการ พูดคุยกับกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ที่ธันเดอร์โดม เมืองทองธานี ระหว่างการจัดงาน “ครึ่งทศวรรษ ความจริงวันนี้” เมื่อเวลา 16.50 น. วันที่ 2 มิถุนายน 2555

ทักษิณบอกว่า “..ผมได้อ่านบทความของอาจารย์สมศักดิ์ (เจียมธีรสกุล ) ต้องขอบคุณ อ่านแล้ว ยอมรับหลายสิ่งที่พูดเป็นเรื่องที่จริง บางเรื่องก็พูดไม่ได้..”

ข้อเสนอของฝ่ายต่อต้านสถาบันพระมหากษัตริย์ยังรวมถึงการเปิดโอกาสให้วิจารณ์บทบาทและสถานะของพระมหากษัตริย์ได้

แผนการทั้งหมดนี้สอดคล้องกับสิ่งที่เรียกว่า “ปฏิญญาฟินแลนด์” ที่มีการนำมาเปิดโปงเมื่อหลายปีก่อนนั่นคือ

1. ยุทธการมวลชน ต้องเข้าถึงระบบรากหญ้าให้ทั่วถึง โดยให้ข้อมูลและกระทำในสิ่งที่หัวหน้าชุมชนรับนโยบายจากรัฐบาลไปถ่ายทอดสู่ระบบรากหญ้าซึ่งเป็นมวลชนอันยิ่งใหญ่ของประเทศ

2. ระบบพรรคเดียว ในทางปฏิบัติ ให้มีพรรคการเมืองพรรคเดียวในการเป็นรัฐบาลปกครองประเทศ

3. ระบบทุนนิยม ต้องให้ประชาชนบริโภคมากๆ มีทั้งของอุปโภคและบริโภค ให้ใช้จ่ายในสิ่งที่ไม่จำเป็นในชีวิตประจำวัน ของฟุ่มเฟือยต่างๆ เสมือนยกระดับคุณภาพชีวิตให้ประชาชน และการลงทุนในโครงการใหญ่ๆ

4. สถาบันสูงสุด สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นสัญลักษณ์ของประเทศ โดยใช้วิธีปฏิบัติในข้อ 5

5. ปฏิรูประบบราชการ เป็นการปรับรื้อระบบราชการเดิมให้หมด มีแนวทางมอบนโยบายระบบทางราชการใหม่ทุกส่วน รวมถึงเข้าไปกำกับ (ในทางปฏิบัติ) การทำงานขององค์กรอิสระต่างๆ ให้ขึ้นตรงกับหัวหน้ารัฐบาลเพียงคนเดียว

ปัจจุบันรัฐบาลยิ่งลักษณ์ โดยมีทักษิณขับเคลื่อนและชักใยอยู่เบื้องหลังพร้อมสมุนและวงศ์วานที่เคยเข้าร่วมต่อสู้กับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ได้เริ่มขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่เป้าหมายนั้นอีกครั้ง และดูเหมือนว่า ครั้งนี้ยากที่จะมีใครขัดขวางฝ่ายทักษิณได้เลย

จะเห็นได้ว่า เป้าหมายของระบอบทักษิณในการก้าวเดินสู่ทิศทางของปฏิญญาฟินแลนด์นั้นบรรลุผลไปแล้วหลายประการ เหลือเพียงปราการด่านสุดท้ายคือ สถาบันพระมหากษัตริย์เท่านั้นเอง ที่นักวิชาการส่วนหนึ่งที่เป็นแนวร่วมของทักษิณมองว่า เป็นส่วนเกินและเป็นอุปสรรคของระบอบประชาธิปไตย

ปัจจุบันรัฐบาลยิ่งลักษณ์ปล่อยให้มีการวิพากษ์วิจารณ์บทบาทของสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างกว้างขวางในโซเชียลมีเดีย ถึงกับมีการเปิดเพจเพื่อทวงคืนสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์อย่างเปิดเผย ในวงวิชาการ และการออกอากาศผ่านทีวีสาธารณะอย่างรายการ “ตอบโจทย์” นับได้ว่าการวิพากษ์วิจารณ์บทบาทและสถานะของสถาบันพระมหากษัตริย์ไม่เคยเปิดเผยกว้างขวางเช่นนี้มาก่อน

นายสมชัย สุวรรณบรรณ ผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสอ้างว่า สาเหตุที่รายการตอบโจทย์นำประเด็นสถาบันพระมหากษัตริย์มานำเสนอเพราะคิดว่าในปัจจุบัน มีการพูดเรื่องสถาบันแบบใต้ดิน พูดในโซเชียลมีเดีย มีการใส่ร้ายป้ายสีซึ่งเป็นเรื่องไม่เหมาะสม อยากให้หยิบยกเรื่องนี้มาพูดในเวทีสาธารณะ แบบนดิน จะได้ไม่มีการใส่ร้ายป้ายสีสถาบัน พูดในเชิงวิชาการด้วยเหตุและผล

การสร้างมวลชนของทักษิณในนามของคนเสื้อแดงกำลังได้รับการขยายวงอย่างกว้างขวางและได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐที่ฝ่ายทักษิณถืออำนาจอยู่ การกล่าวหาว่าคนเสื้อแดงเป็นฝ่ายไม่เอาเจ้า อาจจะเป็นคำกล่าวที่ไม่ถูกทั้งหมด แต่ต้องยอมรับว่า คนเสื้อแดงส่วนหนึ่งไม่เอาเจ้าจริง เราจะเห็นพวกเขาแสดงตัวอยู่ในแวดวงโซเชียลมีเดีย การอภิปรายกระทบกระเทียบบนเวทีเสวนาหรือการปราศรัยปลุกระดม

การสร้างพรรคการเมืองให้เป็นแบบพรรคเดียวกำลังประสบความสำเร็จ โดยแม้จะมีฝ่ายค้าน แต่พรรคของทักษิณจะเป็นฝ่ายรัฐบาลถาวร จริงอยู่แม้ว่านี่เป็นการตัดสินจากเสียงของประชาชน แต่เราเห็นได้ว่า พรรคของทักษิณนั้นสร้างพรรคด้วยการซื้อตัวบุคคลซื้อพรรค และซื้อสภาสูงเพื่อให้ยกมือสนับสนุนรัฐบาลจนกลายเป็นฝ่ายที่กุมอำนาจเบ็ดเสร็จทางการเมือง

การแก้ไขรัฐธรรมนูญที่กำลังดำเนินอยู่และยากที่ใครจะต้านทานได้นั้น จะเป็นเครื่องมือเปิดประตูไปสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ถึงจะยังไม่แตะต้องสถาบันพระมหากษัตริย์แต่สถาบันตุลาการนั้นถูกลดทอนอำนาจแน่ๆ

และแม้ว่าข้อเสนอของนักวิชาการอย่างนิติราษฎร์และสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล เพื่อลดทอนบทบาทและสถานะของสถาบันพระมหากษัตริย์อาจจะยังไม่ได้รับการตอบสนองจากฝ่ายทักษิณในเวลานี้ แต่เราก็ไม่เห็นท่าทีของฝ่ายทักษิณที่จะออกมายับยั้งหรือต่อต้านข้อเสนอของฝ่ายนิติราษฎร์หรือสมศักดิ์เลย ซ้ำร้ายมวลชนที่สนับสนุนทักษิณและมวลชนที่สนับสนุนนิติราษฎร์และสมศักดิ์กลายเป็นพวกเดียวกัน และเริ่มส่งเสียงดังขึ้นเรื่อยๆ

“ปฏิญญาฟินแลนด์” ทั้ง 5 ข้อหรือจะเรียกขานว่าอย่างไรก็ตาม แต่เราเห็นเป้าหมายว่า รัฐบาลของฝ่ายทักษิณกำลังมุ่งเดินไปในทิศทางนี้
กำลังโหลดความคิดเห็น