ASTVผู้จัดการรายวัน-"สาธารณสุข"เผยพบผู้ติดเชื้อไข้หวัดนก 2 สายพันธุ์เพิ่มอีกใน 3 ประเทศ จำนวน 21 ราย เสียชีวิตแล้ว 6 ราย สั่งคุมเข้มช่วงสงกรานต์ เน้นเฝ้าระวังผู้ป่วยหลังกลับมาจากต่างประเทศ พร้อมสั่งสำรองยาต้านไวรัสโอเซลทามิเวียร์ในทุกโรงพยาบาล "สุวรรณภูมิ" ยันยังไม่พบนักท่องเที่ยวติดเชื้อเข้าไทย
จากกรณีรายงานพบผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตจากเชื้อไข้หวัดนก 2 สายพันธุ์ ใน 3 ประเทศเอเชีย โดยที่จีน พบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์ H7N9 รายใหม่ เพิ่มอีก 3 ราย ทำให้มีจำนวนผู้ติดเชื้อทั้งหมด 21 ราย เสียชีวิตแล้ว 6 ราย ใน 4 มณฑล โดยผู้ป่วยจำนวน 12 ราย มีอาการรุนแรง แต่ยังไม่พบการติดเชื้อในผู้สัมผัสกับผู้ป่วย และผู้ติดเชื้อสายพันธุ์ H5N1 ที่เวียดนาม 1 ราย เป็นเด็กอายุ 4 ขวบ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่วนที่กัมพูชา รายงานมีผู้เสียชีวิตจากโรคไข้หวัดนกสายพันธุ์ H5N1 จำนวน 8 ราย ในจำนวนนี้เป็นเด็ก 6 ราย
นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ได้มอบหมายให้กรมควบคุมโรคติดตามสถานการณ์โรคในต่างประเทศกับองค์การอนามัยโลก (WHO) อย่างใกล้ชิด โดยเชื้อไข้หวัดนกทั้ง 2 สายพันธุ์ล้วนอยู่ในตระกูลของไข้หวัดใหญ่ชนิดเอทั้งคู่ ซึ่งจากข้อมูลทั่วโลกขณะนี้ ยังไม่พบหลักฐานการแพร่จากคนสู่คน โดยกระทรวงฯ ได้ประชุมปรึกษาหารือผู้เชี่ยวชาญร่วมกับกรมปศุสัตว์ มหาวิทยาลัยและผู้เชี่ยวชาญจาก WHO ศูนย์ความร่วมมือไทย-สหรัฐอเมริกาด้านสาธารณสุข เพื่อประเมินสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง และให้คำแนะนำในการเตรียมความพร้อมรับมือกับการระบาดของโรคไข้หวัดนกทั้ง 2 สายพันธุ์แล้ว
ทั้งนี้ สถานการณ์การติดเชื้อในคนของต่างประเทศกลับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จึงได้เน้นมาตรการเฝ้าระวังให้มีประสิทธิภาพ ครอบคลุม สามารถตรวจจับการระบาดได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ ซึ่งมีวันหยุดยาวติดต่อกัน 5 วัน ประชาชนอาจมีการเดินทางไปเที่ยวที่ต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ จึงได้สั่งการให้อาสาสมัครสาธารณสุขทั่วประเทศเฝ้าระวังไข้หวัดนก หากพบสัตว์ปีกป่วยหรือตายผิดปกติ ขอให้แจ้งปศุสัตว์ เพื่อเก็บซากสัตว์ปีกไปตรวจหาเชื้อ และหากพบผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศและมีอาการปอดบวม ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุข พร้อมกันนี้ ได้สำรองยาต้านไวรัสโอเซลทามิเวียร์ไว้ในโรงพยาบาลทุกแห่งแล้ว
"ขณะนี้ WHO ได้ให้ทุกประเทศติดตามเฝ้าระวังโรคอย่างต่อเนื่อง ยังไม่มีข้อห้ามการเดินทางไปประเทศที่มีรายงานผู้ป่วยแต่อย่างใด ประชาชนยังสามารถเดินทางได้ตามปกติ"
น.ส.วิไลวรรณ นัดวิไล ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กล่าวว่า ยังไม่พบนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าประเทศไทยติดเชื้อไข้หวัดนก H7N9 จึงยังไม่ใช้มาตรการพิเศษมาดูแล หากพบว่ามีการติดเชื้อไข้หวัดนก ก็พร้อมที่จะติดตั้งอุปกรณ์และเครื่องมือตรวจร่างกายผู้โดยสาร ทั้งนี้ ได้มีการประสานความร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุขอย่างต่อเนื่อง และมีการซ้อมแผนรับมือเพื่อเฝ้าระวังโรคดังกล่าว โดยที่สนามบินจะมีศูนย์ควบคุมโรคระหว่างประเทศคอยตรวจตราอย่างใกล้ชิด
นายทฤษดี ชาวสวนเจริญ อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวยืนยันว่า โอกาสที่จะมีการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดนกสายพันธุ์ใหม่ H7N9 เข้ามาในไทยทางนักท่องเที่ยวเป็นไปได้น้อยมาก เนื่องจากยังไม่พบการแพร่ระบาดของโรคจากคนสู่คน ซึ่งจากความร่วมมือของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่เฝ้าระวังการแพร่ระบาด ได้เก็บตัวอย่างสัตว์ปีกทั่วประเทศ รวมถึงนกอพยพจำนวน 150,000 ตัวอย่าง ขณะนี้ยังไม่พบเชื้อไข้หวัดนกทั้งสายพันธุ์เดิมและสายพันธุ์ใหม่ H7N9 แต่อย่างใด
จากกรณีรายงานพบผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตจากเชื้อไข้หวัดนก 2 สายพันธุ์ ใน 3 ประเทศเอเชีย โดยที่จีน พบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์ H7N9 รายใหม่ เพิ่มอีก 3 ราย ทำให้มีจำนวนผู้ติดเชื้อทั้งหมด 21 ราย เสียชีวิตแล้ว 6 ราย ใน 4 มณฑล โดยผู้ป่วยจำนวน 12 ราย มีอาการรุนแรง แต่ยังไม่พบการติดเชื้อในผู้สัมผัสกับผู้ป่วย และผู้ติดเชื้อสายพันธุ์ H5N1 ที่เวียดนาม 1 ราย เป็นเด็กอายุ 4 ขวบ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่วนที่กัมพูชา รายงานมีผู้เสียชีวิตจากโรคไข้หวัดนกสายพันธุ์ H5N1 จำนวน 8 ราย ในจำนวนนี้เป็นเด็ก 6 ราย
นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า ได้มอบหมายให้กรมควบคุมโรคติดตามสถานการณ์โรคในต่างประเทศกับองค์การอนามัยโลก (WHO) อย่างใกล้ชิด โดยเชื้อไข้หวัดนกทั้ง 2 สายพันธุ์ล้วนอยู่ในตระกูลของไข้หวัดใหญ่ชนิดเอทั้งคู่ ซึ่งจากข้อมูลทั่วโลกขณะนี้ ยังไม่พบหลักฐานการแพร่จากคนสู่คน โดยกระทรวงฯ ได้ประชุมปรึกษาหารือผู้เชี่ยวชาญร่วมกับกรมปศุสัตว์ มหาวิทยาลัยและผู้เชี่ยวชาญจาก WHO ศูนย์ความร่วมมือไทย-สหรัฐอเมริกาด้านสาธารณสุข เพื่อประเมินสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง และให้คำแนะนำในการเตรียมความพร้อมรับมือกับการระบาดของโรคไข้หวัดนกทั้ง 2 สายพันธุ์แล้ว
ทั้งนี้ สถานการณ์การติดเชื้อในคนของต่างประเทศกลับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จึงได้เน้นมาตรการเฝ้าระวังให้มีประสิทธิภาพ ครอบคลุม สามารถตรวจจับการระบาดได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ ซึ่งมีวันหยุดยาวติดต่อกัน 5 วัน ประชาชนอาจมีการเดินทางไปเที่ยวที่ต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ จึงได้สั่งการให้อาสาสมัครสาธารณสุขทั่วประเทศเฝ้าระวังไข้หวัดนก หากพบสัตว์ปีกป่วยหรือตายผิดปกติ ขอให้แจ้งปศุสัตว์ เพื่อเก็บซากสัตว์ปีกไปตรวจหาเชื้อ และหากพบผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศและมีอาการปอดบวม ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุข พร้อมกันนี้ ได้สำรองยาต้านไวรัสโอเซลทามิเวียร์ไว้ในโรงพยาบาลทุกแห่งแล้ว
"ขณะนี้ WHO ได้ให้ทุกประเทศติดตามเฝ้าระวังโรคอย่างต่อเนื่อง ยังไม่มีข้อห้ามการเดินทางไปประเทศที่มีรายงานผู้ป่วยแต่อย่างใด ประชาชนยังสามารถเดินทางได้ตามปกติ"
น.ส.วิไลวรรณ นัดวิไล ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กล่าวว่า ยังไม่พบนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าประเทศไทยติดเชื้อไข้หวัดนก H7N9 จึงยังไม่ใช้มาตรการพิเศษมาดูแล หากพบว่ามีการติดเชื้อไข้หวัดนก ก็พร้อมที่จะติดตั้งอุปกรณ์และเครื่องมือตรวจร่างกายผู้โดยสาร ทั้งนี้ ได้มีการประสานความร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุขอย่างต่อเนื่อง และมีการซ้อมแผนรับมือเพื่อเฝ้าระวังโรคดังกล่าว โดยที่สนามบินจะมีศูนย์ควบคุมโรคระหว่างประเทศคอยตรวจตราอย่างใกล้ชิด
นายทฤษดี ชาวสวนเจริญ อธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวยืนยันว่า โอกาสที่จะมีการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดนกสายพันธุ์ใหม่ H7N9 เข้ามาในไทยทางนักท่องเที่ยวเป็นไปได้น้อยมาก เนื่องจากยังไม่พบการแพร่ระบาดของโรคจากคนสู่คน ซึ่งจากความร่วมมือของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่เฝ้าระวังการแพร่ระบาด ได้เก็บตัวอย่างสัตว์ปีกทั่วประเทศ รวมถึงนกอพยพจำนวน 150,000 ตัวอย่าง ขณะนี้ยังไม่พบเชื้อไข้หวัดนกทั้งสายพันธุ์เดิมและสายพันธุ์ใหม่ H7N9 แต่อย่างใด