วานนี้ ( 10 เม.ย.) นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการ กกต. กล่าวว่า ขณะนี้ พระราชกฤษฎีกากำหนดเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา จ.ระนอง แทนนายพรพจน์ กังวาน ที่เสียชีวิต มีผลใช้บังคับแล้ว เมื่อวันที่ 9 เม.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งกกต.จว.ระนองได้เตรียมที่จะเปิดรับสมัครเลือกตั้ง และเปิดให้ลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า ในวันที่ 12 -14 เม.ย.นี้ รวมถึงกำหนดให้วันที่ 18 เม.ย. เป็นวันลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้า และวันที่ 21 เม.ย. เป็นวันเลือกตั้ง
สำหรับ จ.ระนอง มีผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งสิ้น 123,296 คน มีหน่วยเลือกตั้งทั้งหมด 209 หน่วยเลือกตั้ง จึงขอเชิญชวนให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ประสงค์จะใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า ได้ไปลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าได้ ในช่วงวันที่ 12-14 เม.ย.นี้
ส่วนการเลือกตั้งซ่อม ส.ส. เขต 3 จ.เชียงใหม่ ที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันที่ 21 เม.ย.นี้ และในวันที่ 12 เม.ย.นี้ จะเป็นวันเลือกตั้งล่วงหน้านั้น ทางผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดเชียงใหม่ รายงานว่ามีผู้ที่ลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าไว้ทั้งสิ้น 9,853 คน ซึ่ง กกต.จว.เชียงใหม่ ได้เตรียมความพร้อมไว้ทั้งหมดแล้ว
เมื่อถามว่า ช่วงวันที่ 12 เม.ย. ที่จะเลือกตั้งล่วงหน้า อยู่ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ จะทำให้ประชาชนเกิดความสับสนหรือไม่ นายภุชงค์ กล่าวว่า ส่วนตัวคิดว่าผู้มีสิทธิเลือกตั้งใน 3 อำเภอของเขตเลือกตั้งที่ 3 คุ้นเคยกับการเลือกตั้งดี เพราะเพิ่งจะผ่านการเลือกตั้งส.ส. เมื่อเดือนมิ.ย.55 จึงน่าจะมีความตื่นตัวทางการเมือง ประกอบกับเป็นช่วงที่คนที่มีภูมิลำเนาในพื้นที่ แต่มาทำงานอยู่ต่างจังหวัดได้กลับบ้าน การเลือกตั้งล่วงหน้าในช่วงดังกล่าว จึงน่าจะเป็นผลดี
ส่วนเรื่องการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง เช่น การซื้อเสียง ยังไม่มีรายงาน เพราะก่อนหน้านี้กกต.ได้ส่งชุดป้อมปราม หาข่าวลงพื้นที่ก็ไม่พบความผิดปกติ ที่มีการร้องเรียนในขณะนี้ก็ทราบจากข่าวเพียงว่า นางกิ่งกาญจน์ ณ เชียงใหม่ ผู้สมัครหมายเลข 3 พรรคประชาธิปัตย์ ได้มอบหมายให้ตัวแทนไปร้องต่อ ผอ.กกต.จว.เชียงใหม่ ว่าการลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า อาจไม่ถูกต้อง โดยตั้งข้อสงสัยว่า เอกสารที่มีการนำมาใช้ประกอบการลงทะเบียนของบางคนก็มี บางคนก็ไม่มี ซึ่งต้องรอดูข้อเท็จจริงก่อน เพราะเรื่องนี้เป็นอำนาจของนายทะเบียนท้องถิ่น ที่จะใช้ดุลยพินิจพิจารณาว่า จะอนุญาตให้ใครใช้เอกสารลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้า
อย่างไรก็ตาม กกต.จว.เชียงใหม่ ได้รับเป็นเรื่องร้องเรียนไว้แล้ว และจะตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป
นายภุชงค์ ยังกล่าวถึงการดูแลป้องกันการซื้อเสียงในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ที่นายกรัฐมนตรี จะลงพื้นที่ช่วยผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยหาเสียง ว่า ผอ.กกต.จว. เชียงใหม่ ได้มีหนังสือถึงหัวหน้าพรรคทุกพรรคการเมือง แจ้งให้ทราบว่าหากจะลงช่วยผู้สมัครหาเสียงเลือกตั้ง ก็ขอให้แจ้งต่อ กกต.จว.ทราบก่อน เพื่อจะได้ช่วยดูแลในเรื่องความปลอดภัย การประสานงาน และป้องกันการถูกร้องเรียน โดยจะมีการจัดส่งเจ้าหน้าที่ไปคอยดูแล
อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวของนายกรัฐมนตรี สามารถหาเสียงในนามพรรคได้ แต่ต้องไม่ใช้สิ่งของ หรือยานพาหนะที่เป็นของราชการ ซึ่งส่วนใหญ่ข้าราชการในพื้นที่ ข้าราชการการเมือง จะได้รับหนังสือจากกกต. แจ้งเตือนว่า ขอให้วางตัวเป็นกลางทางการเมืองอยู่แล้ว
**ปชป.โวยพท.ใช้อำนาจรัฐบีบ
ด้านน.ส.มัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้ออกมาเรียกร้องให้ กกต.กลาง ไปกำชับ และตรวจสอบอย่างละเอียดในการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 3 เชียงใหม่ เพราะมีความไม่ปกติ ทั้งราชการ แกนนำ หัวคะแนน มีชายชุดดำไปเพ่นพ่าน ประกบ ลุแก่อำนาจ อ้างว่าเป็นตำรวจ หรือเจ้าหน้าที่รัฐ แต่ไม่มีบัตรแสดงตน สร้างความหวาดกลัวให้กับชาวบ้าน และคณะทำงานของพรรคประชาธิปัตย์ เพราะมีการไปตรวจค้นบ้านผู้สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ จึงอยากให้ กกต.กลาง ส่งชุดสืบสวนเข้าไปตรวจสอบ โดยเฉพาะกรณีที่จะมีการประกาศรับรองการเลือกตั้งล่วงหน้า มีเจ้าหน้าที่ให้คุณให้โทษ ผู้สมัครรายหนึ่งรายใด ซึ่ง กกต.กลางควรดำเนินการโดยเร็ว ไม่เช่นนั้นจะมีปัญหาในเรื่องการเสาะหาพยานหลักฐาน
นอกจากนี้ ยังพบความผิดปกติ ในการเลือกตั้งล่วงหน้าครั้งนี้ คือมีจำนวนมากผิดสังเกต เพราะในปีที่แล้วมีผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าเพียงแค่กว่า 490 คนเท่านั้น แต่ในการเลือกตั้งครั้งนี้ กลับมีการดำเนินการอย่างเป็นกระบวนการของเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งมีการให้ข้อมูลจากกำนัน ผู้ใหญ่บ้านว่า นายอำเภอ ได้ส่งเอกสารให้ชาวบ้านกรอก เพื่อแสดงความประสงค์ใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า โดยมีมากถึงกว่า 9,000 รายชื่อ ทั้งที่การใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า มีไว้สำหรับผู้มีเหตุจำเป็นที่ไม่สามารถไปใช้สิทธิในวันเลือกตั้งได้ แต่รายชื่อชาวบ้านที่ถูกรวบรวมว่าจะไปใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้านั้น ไม่เข้าข่ายดังกล่าว
น.ส.มัลลิกา กล่าวด้วยว่า ขอเรียกร้องไปถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้มีการตรวจสอบชายชุดดำ ที่อ้างตัวเป็นตำรวจเข้าตรวจค้นบ้านผู้สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ว่า เป็นตำรวจจริงหรือไม่ และพฤติกรรมดังกล่าวเป็นการลุแก่อำนาจหรือไม่ เพื่อที่จะได้ดำเนินการกับผู้ที่ทำไม่ถูกต้อง ทั้งนี้จะได้นำความผิดปกติทั้งหมดไปยื่นต่อ กกต.เชียงใหม่ ด้วย
** ผวจ.เชียงใหม่ยันวางตัวเป็นกลาง
ด้านนายธานินทร์ สุภาแสน ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วย นายศรัณยู มีทองคำ นายอำเภอแม่ออน และกำนัน-ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ ร่วมกันแถลงข่าว เพื่อชี้แจงกรณีที่ พรรคประชาธิปัตย์ ร้องเรียนมายังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประจำจังหวัดชียงใหม่ ว่า มีการวางตัวไม่เป็นกลาง หรือระดมรายชื่อประชาชนของ อ.แม่ออน ไปเลือกตั้งล่วงหน้าอย่างมีพิรุธ โดยนายธานินทร์ กล่าวว่า การดำเนินการเป็นไปตามกฎหมาย ซึ่งจังหวัดได้กำชับข้าราชการให้ทำตามกฎหมายต้องวางตัวเป็นกลาง หากพบการกระทำผิด ก็ต้องมีโทษตามกฎหมาย พร้อมยืนยันว่า ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด เพราะเจ้าหน้าที่มีข้อมูลชี้แจงทั้งหมด หากกกต. แจ้งมา ก็พร้อมให้ข้อมูล
สำหรับ จ.ระนอง มีผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งสิ้น 123,296 คน มีหน่วยเลือกตั้งทั้งหมด 209 หน่วยเลือกตั้ง จึงขอเชิญชวนให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ประสงค์จะใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า ได้ไปลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าได้ ในช่วงวันที่ 12-14 เม.ย.นี้
ส่วนการเลือกตั้งซ่อม ส.ส. เขต 3 จ.เชียงใหม่ ที่กำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันที่ 21 เม.ย.นี้ และในวันที่ 12 เม.ย.นี้ จะเป็นวันเลือกตั้งล่วงหน้านั้น ทางผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดเชียงใหม่ รายงานว่ามีผู้ที่ลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าไว้ทั้งสิ้น 9,853 คน ซึ่ง กกต.จว.เชียงใหม่ ได้เตรียมความพร้อมไว้ทั้งหมดแล้ว
เมื่อถามว่า ช่วงวันที่ 12 เม.ย. ที่จะเลือกตั้งล่วงหน้า อยู่ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ จะทำให้ประชาชนเกิดความสับสนหรือไม่ นายภุชงค์ กล่าวว่า ส่วนตัวคิดว่าผู้มีสิทธิเลือกตั้งใน 3 อำเภอของเขตเลือกตั้งที่ 3 คุ้นเคยกับการเลือกตั้งดี เพราะเพิ่งจะผ่านการเลือกตั้งส.ส. เมื่อเดือนมิ.ย.55 จึงน่าจะมีความตื่นตัวทางการเมือง ประกอบกับเป็นช่วงที่คนที่มีภูมิลำเนาในพื้นที่ แต่มาทำงานอยู่ต่างจังหวัดได้กลับบ้าน การเลือกตั้งล่วงหน้าในช่วงดังกล่าว จึงน่าจะเป็นผลดี
ส่วนเรื่องการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง เช่น การซื้อเสียง ยังไม่มีรายงาน เพราะก่อนหน้านี้กกต.ได้ส่งชุดป้อมปราม หาข่าวลงพื้นที่ก็ไม่พบความผิดปกติ ที่มีการร้องเรียนในขณะนี้ก็ทราบจากข่าวเพียงว่า นางกิ่งกาญจน์ ณ เชียงใหม่ ผู้สมัครหมายเลข 3 พรรคประชาธิปัตย์ ได้มอบหมายให้ตัวแทนไปร้องต่อ ผอ.กกต.จว.เชียงใหม่ ว่าการลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า อาจไม่ถูกต้อง โดยตั้งข้อสงสัยว่า เอกสารที่มีการนำมาใช้ประกอบการลงทะเบียนของบางคนก็มี บางคนก็ไม่มี ซึ่งต้องรอดูข้อเท็จจริงก่อน เพราะเรื่องนี้เป็นอำนาจของนายทะเบียนท้องถิ่น ที่จะใช้ดุลยพินิจพิจารณาว่า จะอนุญาตให้ใครใช้เอกสารลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้า
อย่างไรก็ตาม กกต.จว.เชียงใหม่ ได้รับเป็นเรื่องร้องเรียนไว้แล้ว และจะตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป
นายภุชงค์ ยังกล่าวถึงการดูแลป้องกันการซื้อเสียงในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ที่นายกรัฐมนตรี จะลงพื้นที่ช่วยผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยหาเสียง ว่า ผอ.กกต.จว. เชียงใหม่ ได้มีหนังสือถึงหัวหน้าพรรคทุกพรรคการเมือง แจ้งให้ทราบว่าหากจะลงช่วยผู้สมัครหาเสียงเลือกตั้ง ก็ขอให้แจ้งต่อ กกต.จว.ทราบก่อน เพื่อจะได้ช่วยดูแลในเรื่องความปลอดภัย การประสานงาน และป้องกันการถูกร้องเรียน โดยจะมีการจัดส่งเจ้าหน้าที่ไปคอยดูแล
อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวของนายกรัฐมนตรี สามารถหาเสียงในนามพรรคได้ แต่ต้องไม่ใช้สิ่งของ หรือยานพาหนะที่เป็นของราชการ ซึ่งส่วนใหญ่ข้าราชการในพื้นที่ ข้าราชการการเมือง จะได้รับหนังสือจากกกต. แจ้งเตือนว่า ขอให้วางตัวเป็นกลางทางการเมืองอยู่แล้ว
**ปชป.โวยพท.ใช้อำนาจรัฐบีบ
ด้านน.ส.มัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้ออกมาเรียกร้องให้ กกต.กลาง ไปกำชับ และตรวจสอบอย่างละเอียดในการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 3 เชียงใหม่ เพราะมีความไม่ปกติ ทั้งราชการ แกนนำ หัวคะแนน มีชายชุดดำไปเพ่นพ่าน ประกบ ลุแก่อำนาจ อ้างว่าเป็นตำรวจ หรือเจ้าหน้าที่รัฐ แต่ไม่มีบัตรแสดงตน สร้างความหวาดกลัวให้กับชาวบ้าน และคณะทำงานของพรรคประชาธิปัตย์ เพราะมีการไปตรวจค้นบ้านผู้สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ จึงอยากให้ กกต.กลาง ส่งชุดสืบสวนเข้าไปตรวจสอบ โดยเฉพาะกรณีที่จะมีการประกาศรับรองการเลือกตั้งล่วงหน้า มีเจ้าหน้าที่ให้คุณให้โทษ ผู้สมัครรายหนึ่งรายใด ซึ่ง กกต.กลางควรดำเนินการโดยเร็ว ไม่เช่นนั้นจะมีปัญหาในเรื่องการเสาะหาพยานหลักฐาน
นอกจากนี้ ยังพบความผิดปกติ ในการเลือกตั้งล่วงหน้าครั้งนี้ คือมีจำนวนมากผิดสังเกต เพราะในปีที่แล้วมีผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าเพียงแค่กว่า 490 คนเท่านั้น แต่ในการเลือกตั้งครั้งนี้ กลับมีการดำเนินการอย่างเป็นกระบวนการของเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งมีการให้ข้อมูลจากกำนัน ผู้ใหญ่บ้านว่า นายอำเภอ ได้ส่งเอกสารให้ชาวบ้านกรอก เพื่อแสดงความประสงค์ใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า โดยมีมากถึงกว่า 9,000 รายชื่อ ทั้งที่การใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า มีไว้สำหรับผู้มีเหตุจำเป็นที่ไม่สามารถไปใช้สิทธิในวันเลือกตั้งได้ แต่รายชื่อชาวบ้านที่ถูกรวบรวมว่าจะไปใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้านั้น ไม่เข้าข่ายดังกล่าว
น.ส.มัลลิกา กล่าวด้วยว่า ขอเรียกร้องไปถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้มีการตรวจสอบชายชุดดำ ที่อ้างตัวเป็นตำรวจเข้าตรวจค้นบ้านผู้สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ว่า เป็นตำรวจจริงหรือไม่ และพฤติกรรมดังกล่าวเป็นการลุแก่อำนาจหรือไม่ เพื่อที่จะได้ดำเนินการกับผู้ที่ทำไม่ถูกต้อง ทั้งนี้จะได้นำความผิดปกติทั้งหมดไปยื่นต่อ กกต.เชียงใหม่ ด้วย
** ผวจ.เชียงใหม่ยันวางตัวเป็นกลาง
ด้านนายธานินทร์ สุภาแสน ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วย นายศรัณยู มีทองคำ นายอำเภอแม่ออน และกำนัน-ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ ร่วมกันแถลงข่าว เพื่อชี้แจงกรณีที่ พรรคประชาธิปัตย์ ร้องเรียนมายังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประจำจังหวัดชียงใหม่ ว่า มีการวางตัวไม่เป็นกลาง หรือระดมรายชื่อประชาชนของ อ.แม่ออน ไปเลือกตั้งล่วงหน้าอย่างมีพิรุธ โดยนายธานินทร์ กล่าวว่า การดำเนินการเป็นไปตามกฎหมาย ซึ่งจังหวัดได้กำชับข้าราชการให้ทำตามกฎหมายต้องวางตัวเป็นกลาง หากพบการกระทำผิด ก็ต้องมีโทษตามกฎหมาย พร้อมยืนยันว่า ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด เพราะเจ้าหน้าที่มีข้อมูลชี้แจงทั้งหมด หากกกต. แจ้งมา ก็พร้อมให้ข้อมูล