วานนี้ (12 ก.พ.56) ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุม ครม. ถึงรายงานข่าวที่ว่ารัฐบาลจะทบทวนการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดงานเวิลด์ เอ็กซ์โป ว่า ยังไม่มีอะไร และยังเป็นการดำเนินการตามปกติของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ส่วนกระแสข่าวว่าไทยอาจจะถอนตัวเพื่อเปิดทางให้กับนครดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่เสนอตัวเช่นกัน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า “ยืนยันว่าไม่มี”
นายสุรนันท์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกฯ กล่าวว่า ตอนนี้รัฐบาลยังไม่ได้ถอดใจจากการจัดงานเวิลด์เอ็กซ์โปแต่รอผลการศึกษาอย่างละเอียดอีกครั้ง
น.ส.มัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า ได้ส่งหนังสือจากสำนักโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ถึง นายกรัฐมนตรี เพื่ออธิบายเหตุผลสำคัญให้นายกฯ เข้าใจถึงโอกาสของประเทศที่อาจหลุดลอยไป หาก นายนิวัฒนธำรงค์ บุญทรงไพศาล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ทบทวนการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดงานเวิล์ดเอ็กซ์โป เท่ากับปล่อยโอกาสของชาติไปเป็นของชาติอื่น
ทั้งนี้ นายกฯ อาจไม่มีประสบการณ์และความรู้ความเข้าใจมากพอที่วิเคราะห์ได้ว่า ถ้าประเทศได้เป็นเจ้าภาพงานตามที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ สมัยดำรงตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี ยื่นเสนอไว้ สิ่งที่ประชาชนและประเทศชาติจะได้รับ คือ 1.จุดคุ้มทุนตามที่หน่วยงานราชการทำแผนเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว ทั้งจำนวนคนที่มา รายได้โดยประมาณ แม้จะมีการลงทุนแต่หากมีการพัฒนาต่อเนื่องทุกอย่างจะไม่สูญเปล่า 2.จะมีโครงสร้างพื้นฐานเกิดขึ้นที่จะทำให้ประเทศพัฒนาต่อไป 3.รายได้เข้าประเทศ เศรษฐกิจหมุนเวียน เพราะจะมีคนหลายสิบล้านคนมาเที่ยวงานเป็นรายได้ของประเทศ 4.สร้างชื่อเสียงและเกียรติภูมิให้กับประเทศเพราะเป็นงานระดับโลก 5.นำไปสู่การพัฒนาพื้นที่และท้องถิ่นต่อเนื่อง เช่น จ.อยุธยาจะมีระบบขนส่งมวลชนไปถึงและแผนเดิมตามแผนของอดีตนายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ จะมีการสร้างให้เป็นอุทยานแห่งการเรียนรู้โครงการตามแนวพระราชดำริ 6.เปิดโอกาสดีอย่างที่สุดให้ประชาชนทำให้ทั้งชาวไทยและชาวโลกมีสถานที่อันเป็นอัตลักษณ์ไทย
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวเรียกร้องให้รัฐบาลตรวจสอบคำให้สัมภาษณ์ของนายนิวัฒน์ธำรงค์ เนื่องจากที่ผ่านมารัฐบาลมีเวลาพิจารณาเรื่องนี้ปีครึ่งแล้วและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ทำงานจนเป็นที่ยอมรับของต่างชาติแล้ว แต่ในขณะนี้ถึงเวลาที่ต้องหาเสียงเพื่อขอเสียงสนับสนุนให้กับประเทศไทยรัฐบาลกลับบอกว่าจะไม่ทำแล้ว จึงต้องอธิบายให้ได้ว่าเพราะอะไร เนื่องจากรัฐบาลได้มีการอนุมัติงบประมาณให้ดำเนินการในเรื่องนี้มาโดยตลอดแต่ในปัจจุบันกลับหยุดไปเสียดื้อ ๆ ซึ่งพรรคกำลังตรวจสอบอยู่ว่ามีเหตุผลอะไร เพราะมีการวิจารณ์กันมากว่ามีเจตนาที่จะหลีกเลี่ยงให้คู่แข่งบางรายหรือไม่ หรือ เป็นความใจแคบเพราะไม่ได้เป็นผู้เริ่มต้นเอาไว้ แต่ตนเสียดายโอกาส
ส่วนข้อครหาว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เอาผลประโยชน์ของชาติไปแลกกับการตอบแทนบุญคุณให้ดูไบซึ่งเป็นคู่แข่งขันในการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพงานนี้ด้วยคิดอย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบ เพราะยังไม่มีหลักฐานแต่ดูไบก็เป็นหนึ่งในคู่แข่งของไทย ดังนั้น นายกรัฐมนตรี จะต้องมีจุดยืนในเรื่องนี้ให้ชัดเจน
“อยากให้ชาวอยุธยาได้ออกมาเรียกร้องเพราะชาวบ้านได้ประโยชน์หลายอย่าง เพราะจะมีการพัฒนาต่อเนื่องทั้งโครงการตามแนวพระราชดำริ การป้องกันน้ำท่วม การจะมีระบบขนส่งมวลชน และยังเป็นหน้าเป็นตาแต่อยู่ดี ๆ รัฐบาลจะถอย อีกทั้งเห็นว่า ส.ส.อยุธยาของพรรคเพื่อไทยควรออกมาเรียกร้องว่ารัฐบาลต้องเดินต่อเพื่อรักษาประโยชน์ให้กับประชาชน”นายอภิสิทธิ์กล่าว
ส่วนที่อ้างว่าจะต้องใช้เงินลงทุนกว่า 3 หมื่นล้านบาททำให้ไม่คุ้มค่ากับการลงทุนนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ในเรื่องของตัวเลขความคุ้มทุนนั้นฝ่ายที่รับผิดชอบได้พิจารณาหมดแล้ว จนมีการเสนอโครงการกับต่างประเทศไปแล้วจึงไม่เข้าใจว่าทำไมรัฐบาลจึงมาตั้งคำถามในเรื่องนี้ เพราะการลงทุนดังกล่าวไม่สูญเปล่า แต่เป็นการเริ่มต้นการพัฒนาต่อเนื่อง
และถ้าจะนำเงินก้อนนี้ไปเปรียบเทียบกับการกู้เงิน 3.5 แสนล้านและที่เตรียมจะกู้อีก 2.2 ล้านล้านบาท รวมถึงความสูญเสียจากโครงการรับจำนำข้าวแสนล้านบาทต่อปี ทำไมจึงไม่ตั้งคำถามเรื่องความคุ้มทุนบ้าง แต่กลับพยายามเดินหน้าใช้เงินต่อไป แต่การลงทุนในการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดงานเวิล์ดเอ็กซ์โปจะเป็นการสร้างโอกาสให้กับประเทศรัฐบาลกลับยกเลิก
นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผอ.ฝ่ายส่งเสริมการตลาดในประเทศ สสปน. กล่าวว่า สสปน.เดินหน้าอยู่เพราะดำเนินการโครงการนี้มา 2 ปีเศษ โดยตัวเเทน 9 คนจาก 6 ชาติมาเยี่ยมไทยเพื่อตรวจ 14 ข้อที่ไทยผ่านหมดเเละจ.อยุธยาร่วมมือทุกด้าน การตัดสินจะเดือนพ.ย. ซึ่งไทยถูกเลือกเป็นประเทศเเรกจาก 3 ประเทศคือไทย ตุรกีเเละยูเออี
กรณีรายได้ที่คำนวณไว้จะได้ 6 หมื่นล้านบาทรวมทั้งระบบสิทธิประโยชน์ด้วย เพราะมองจากผลการศึกษาว่าประชาชนจะมาชมงาน 6 เดือนราว 37 ล้านคนเพราะไทยเป็นประเทศที่นักท่องเที่ยวมาเยอะเเละงานนี้ส่วนใหญ่จะใช้เวลาเยี่ยมชมงาน 3 วันเพราะเป็นอีเวนท์ระดับโลก
ส่วนเมื่อไทยจัดงานนี้จะล้มละลายเหมือนกรีซที่กู้เงินมาจัดโอลิมปิกเกมส์หรือไม่ สถิตินั้นพบว่าคนไปชมโอลิมปิกไม่เกินสองล้านคนในสองสัปดาห์เพราะมักชมทางทีวี เเต่เวิลด์เอ็กซ์โปนั้นน่าจะมีคนเยี่ยมชมมากกว่า เเละจะคุ้มการลงทุนหรือไม่อยู่ที่การวางเเผนเเละจัดการระดับชาติโดยระดมทุกฝ่ายที่มีความชำนาญมาช่วยกัน
ส่วนกระเเสข่าวว่ารัฐบาลจะถอยเรื่องนี้นั้น ขอระบุว่าสสปน.ต้องสรุปรายงานกับสำนักนายกฯเเละนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกฯ
นายสุรนันท์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกฯ กล่าวว่า ตอนนี้รัฐบาลยังไม่ได้ถอดใจจากการจัดงานเวิลด์เอ็กซ์โปแต่รอผลการศึกษาอย่างละเอียดอีกครั้ง
น.ส.มัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า ได้ส่งหนังสือจากสำนักโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ถึง นายกรัฐมนตรี เพื่ออธิบายเหตุผลสำคัญให้นายกฯ เข้าใจถึงโอกาสของประเทศที่อาจหลุดลอยไป หาก นายนิวัฒนธำรงค์ บุญทรงไพศาล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ทบทวนการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดงานเวิล์ดเอ็กซ์โป เท่ากับปล่อยโอกาสของชาติไปเป็นของชาติอื่น
ทั้งนี้ นายกฯ อาจไม่มีประสบการณ์และความรู้ความเข้าใจมากพอที่วิเคราะห์ได้ว่า ถ้าประเทศได้เป็นเจ้าภาพงานตามที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ สมัยดำรงตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี ยื่นเสนอไว้ สิ่งที่ประชาชนและประเทศชาติจะได้รับ คือ 1.จุดคุ้มทุนตามที่หน่วยงานราชการทำแผนเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว ทั้งจำนวนคนที่มา รายได้โดยประมาณ แม้จะมีการลงทุนแต่หากมีการพัฒนาต่อเนื่องทุกอย่างจะไม่สูญเปล่า 2.จะมีโครงสร้างพื้นฐานเกิดขึ้นที่จะทำให้ประเทศพัฒนาต่อไป 3.รายได้เข้าประเทศ เศรษฐกิจหมุนเวียน เพราะจะมีคนหลายสิบล้านคนมาเที่ยวงานเป็นรายได้ของประเทศ 4.สร้างชื่อเสียงและเกียรติภูมิให้กับประเทศเพราะเป็นงานระดับโลก 5.นำไปสู่การพัฒนาพื้นที่และท้องถิ่นต่อเนื่อง เช่น จ.อยุธยาจะมีระบบขนส่งมวลชนไปถึงและแผนเดิมตามแผนของอดีตนายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ จะมีการสร้างให้เป็นอุทยานแห่งการเรียนรู้โครงการตามแนวพระราชดำริ 6.เปิดโอกาสดีอย่างที่สุดให้ประชาชนทำให้ทั้งชาวไทยและชาวโลกมีสถานที่อันเป็นอัตลักษณ์ไทย
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวเรียกร้องให้รัฐบาลตรวจสอบคำให้สัมภาษณ์ของนายนิวัฒน์ธำรงค์ เนื่องจากที่ผ่านมารัฐบาลมีเวลาพิจารณาเรื่องนี้ปีครึ่งแล้วและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ทำงานจนเป็นที่ยอมรับของต่างชาติแล้ว แต่ในขณะนี้ถึงเวลาที่ต้องหาเสียงเพื่อขอเสียงสนับสนุนให้กับประเทศไทยรัฐบาลกลับบอกว่าจะไม่ทำแล้ว จึงต้องอธิบายให้ได้ว่าเพราะอะไร เนื่องจากรัฐบาลได้มีการอนุมัติงบประมาณให้ดำเนินการในเรื่องนี้มาโดยตลอดแต่ในปัจจุบันกลับหยุดไปเสียดื้อ ๆ ซึ่งพรรคกำลังตรวจสอบอยู่ว่ามีเหตุผลอะไร เพราะมีการวิจารณ์กันมากว่ามีเจตนาที่จะหลีกเลี่ยงให้คู่แข่งบางรายหรือไม่ หรือ เป็นความใจแคบเพราะไม่ได้เป็นผู้เริ่มต้นเอาไว้ แต่ตนเสียดายโอกาส
ส่วนข้อครหาว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เอาผลประโยชน์ของชาติไปแลกกับการตอบแทนบุญคุณให้ดูไบซึ่งเป็นคู่แข่งขันในการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพงานนี้ด้วยคิดอย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบ เพราะยังไม่มีหลักฐานแต่ดูไบก็เป็นหนึ่งในคู่แข่งของไทย ดังนั้น นายกรัฐมนตรี จะต้องมีจุดยืนในเรื่องนี้ให้ชัดเจน
“อยากให้ชาวอยุธยาได้ออกมาเรียกร้องเพราะชาวบ้านได้ประโยชน์หลายอย่าง เพราะจะมีการพัฒนาต่อเนื่องทั้งโครงการตามแนวพระราชดำริ การป้องกันน้ำท่วม การจะมีระบบขนส่งมวลชน และยังเป็นหน้าเป็นตาแต่อยู่ดี ๆ รัฐบาลจะถอย อีกทั้งเห็นว่า ส.ส.อยุธยาของพรรคเพื่อไทยควรออกมาเรียกร้องว่ารัฐบาลต้องเดินต่อเพื่อรักษาประโยชน์ให้กับประชาชน”นายอภิสิทธิ์กล่าว
ส่วนที่อ้างว่าจะต้องใช้เงินลงทุนกว่า 3 หมื่นล้านบาททำให้ไม่คุ้มค่ากับการลงทุนนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ในเรื่องของตัวเลขความคุ้มทุนนั้นฝ่ายที่รับผิดชอบได้พิจารณาหมดแล้ว จนมีการเสนอโครงการกับต่างประเทศไปแล้วจึงไม่เข้าใจว่าทำไมรัฐบาลจึงมาตั้งคำถามในเรื่องนี้ เพราะการลงทุนดังกล่าวไม่สูญเปล่า แต่เป็นการเริ่มต้นการพัฒนาต่อเนื่อง
และถ้าจะนำเงินก้อนนี้ไปเปรียบเทียบกับการกู้เงิน 3.5 แสนล้านและที่เตรียมจะกู้อีก 2.2 ล้านล้านบาท รวมถึงความสูญเสียจากโครงการรับจำนำข้าวแสนล้านบาทต่อปี ทำไมจึงไม่ตั้งคำถามเรื่องความคุ้มทุนบ้าง แต่กลับพยายามเดินหน้าใช้เงินต่อไป แต่การลงทุนในการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดงานเวิล์ดเอ็กซ์โปจะเป็นการสร้างโอกาสให้กับประเทศรัฐบาลกลับยกเลิก
นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผอ.ฝ่ายส่งเสริมการตลาดในประเทศ สสปน. กล่าวว่า สสปน.เดินหน้าอยู่เพราะดำเนินการโครงการนี้มา 2 ปีเศษ โดยตัวเเทน 9 คนจาก 6 ชาติมาเยี่ยมไทยเพื่อตรวจ 14 ข้อที่ไทยผ่านหมดเเละจ.อยุธยาร่วมมือทุกด้าน การตัดสินจะเดือนพ.ย. ซึ่งไทยถูกเลือกเป็นประเทศเเรกจาก 3 ประเทศคือไทย ตุรกีเเละยูเออี
กรณีรายได้ที่คำนวณไว้จะได้ 6 หมื่นล้านบาทรวมทั้งระบบสิทธิประโยชน์ด้วย เพราะมองจากผลการศึกษาว่าประชาชนจะมาชมงาน 6 เดือนราว 37 ล้านคนเพราะไทยเป็นประเทศที่นักท่องเที่ยวมาเยอะเเละงานนี้ส่วนใหญ่จะใช้เวลาเยี่ยมชมงาน 3 วันเพราะเป็นอีเวนท์ระดับโลก
ส่วนเมื่อไทยจัดงานนี้จะล้มละลายเหมือนกรีซที่กู้เงินมาจัดโอลิมปิกเกมส์หรือไม่ สถิตินั้นพบว่าคนไปชมโอลิมปิกไม่เกินสองล้านคนในสองสัปดาห์เพราะมักชมทางทีวี เเต่เวิลด์เอ็กซ์โปนั้นน่าจะมีคนเยี่ยมชมมากกว่า เเละจะคุ้มการลงทุนหรือไม่อยู่ที่การวางเเผนเเละจัดการระดับชาติโดยระดมทุกฝ่ายที่มีความชำนาญมาช่วยกัน
ส่วนกระเเสข่าวว่ารัฐบาลจะถอยเรื่องนี้นั้น ขอระบุว่าสสปน.ต้องสรุปรายงานกับสำนักนายกฯเเละนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกฯ