ASTVผู้จัดการรายวัน-พันธมิตรฯ แถลงคัดค้านแก้ไขรัฐธรรมนูญ 4 มาตรา เอื้อประโยชน์นักการเมือง หนุน ส.ว.ยื่นศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย พร้อมคัดค้านกฎหมายกู้เงิน 2 ล้านล้านสร้างภาระหนี้สินให้ชาติ หนุนอดีต สสร.50 ยื่น ป.ป.ช.ฟัน "ปู" พร้อม ครม.ทั้งคณะ เตรียมให้ทนายหาช่องทางเอาผิดเพิ่มเติม ขู่ชุมนุมใหญ่
วานนี้ (4 เม.ย.56) ที่บ้านพระอาทิตย์ นายสนธิ ลิ้มทองกุล พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายภิภพ ธงไชย นางมาลีรัตน์ แก้วก่า แกนนำแนวร่วมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.)และนายปานเทพ พัวพงษ์พันธุ์ โฆษกพธม.แถลงว่า แกนนำพธม.ทั้งรุ่น 1และรุ่น 2 ร่วมประชุมประเมินสถานการณ์บ้านเมืองปัจจุบันเพื่อกำหนดท่าทีการเคลื่อนไหว โดยมีมติคัดค้านแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้ง 4 มาตรา 3 ฉบับว่า มุ่งแก้เพื่อผลประโยนช์นักการเมืองเท่านั้น และคัดค้านพ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านที่สร้างหนี้ให้ประเทศชาติ
ดังนั้นยังจำเป็นต้องใช้การชุมนุมเคลื่อนไหวเพื่อต่อต้านรัฐบาลในเงื่อนไข 3 ข้อคือ 1. มีการดำเนินการใดๆที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือออกฏหมายอื่นที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างสถาบันพระมหากษัตริย์หรือลดพระราชอำนาจ 2.มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือออกกฏหมายเพื่อการนิรโทษกรรมล้างผิดให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตรัฐมนตรีกับพวกและ 3. เมื่อเหตุการณ์บ้านเมืองเข้าสู่สถานการณ์ความเหมาะสมและประชาชนต้องการให้เปลี่ยนแปลงประเทศครั้งใหญ่
นายปานเทพ กล่าวว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมาเงื่อนไขการชุมนุมของพธม.ประสบความสำเร็จทุกครั้ง จึงเป็นผลทำให้นักการเมืองและรัฐบาลไม่กล้าทำอะไรในช่วงปีเศษ ทั้งนี้ได้จัดเดินสายเวทีเสวนาปฎิรูปประชาธิปไตยทั้วประเทศและ พบว่าขณะนี้ปัญหาบ้านเมืองกำลังเข้าสู่ภาวะวิกฤติอย่างหนัก การทุจริตคอร์รัปชั่น และการสร้างหนี้ให้ประเทศ รัฐบาลเดินหน้ารับอำนาจขึ้นศาลโลกที่เสี่ยงต่อการเสียดินแดน การเดินหน้าขึ้นราคาพลังงานกับประชาชนอย่างไม่เป็นธรรมและเตรียมเปิดสัมปทานปิโตรเลียมรอบที่ 21 ด้วยการคงอัตราค่าภาคหลวงในระดับต่ำเพื่อเอื้อประโยนช์กลุ่มทุน รวมไปถึงความพยายามแก้ไขรัฐธรรมนูญรวบอำนาจให้รัฐบาลตัดขาดริดรอนสิทธิประชาชนที่จะเข้าถึงศาลรัฐธรรมนูญ เรื่องดังกล่าวนำไปสู่วิกฤติอย่างใหญ่หลวงของประเทศได้ทั้งสิ้น
ทั้งการแก้ไขมาตรา 68 มาตรา 190 ตัดสิทธิประชาชนจะยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ หากแก้ไข มาตรา 191 เพื่อล้มล้างรัฐธรรมนูญทั้งฉบับภาคประชาขนไม่สามารถขัดขวางได้เลย กรณีการแก้ไข มาตรา190 เป็นสิ่งอันตรายต่อประเทศเพราะให้อำนาจรัฐบาลทำหนังสือสัญญาส่วนใหญ่กับต่างประเทศเช่นสนธิสัญญาในตัวบทเปลี่ยนแปลงเขตพื้นที่นอกอาณาเขต หนังสือสัญญาการเงินการค้าการลงทุนต่างๆ เป็นการล้มเลิกกระบวนการตรวจสอบการมีส่วนรวมขั้นตอนครม.ชี้แจงต่อประชาขน และรัฐสภา
เพื่อให้สมาชิกวุฒิสภาเพิ่มจำนวนเป็น 200 คน ให้มาจากการเลือกตั้งทั้งหมด
การปฏิบัติของครม.ที่เยียวยาผู้ได้ผลกระทบจากดำเนินการสนธิสัญญาระหว่างประเทศ กรณี แก้ไข มาตรา 111 ให้ ส.ว.เพิ่มจำนวนเป็น 200 คน มาจากเลือกตั้งทั้งหมด และเปิดทาง ให้ส.ว.ชุดเดิมลงเลือกตั้งได้ทันที เพียงเพื่อต้องการให้มีที่มาเดียวกับ ส.ส. อาศัยอิทธิพลระบบอุปภัมถ์เดียวกับนักการเมือง ซึ่งไม่สามารถตรวจสอบถ่วงดุลได้จริงปฎิบัติตัวเป็นทาสของรัฐบาล ส.ว.มีอำนาจแต่งตั้งองค์กรอิสระทำให้องค์กรอิสระไม่สามารถทำหน้าที่ได้จริง
กรณีการแก้ไข มาตรา 237 เพื่อนำไปสู่การยกเลิกยุบพรรคการเมืองและเพิกถอน กรรมการบริหารพรรค ผู้เสนอต้องการให้เกิดประโยชน์ต่อพรรคการเมืองที่ทำผิดทุจริตการเลือกตั้ง ขอสนับสนุนเห็นด้วย ส.ว.ยื่นศาลรัฐธรรมนูญ โดยพธม.มอบหมายทนาย ไปดูข้อกฎหมายเพื่อเอาผิดกับนักการเมืองทั้งหมด และเอาผิดผู้เกี่ยวข้อง พ.ร.บ.กู้เงินฯ ด้วย
ด้านพล.ต.จำลอง กล่าวว่า แกนนำพธม.จะติดตามสถานการณ์บ้านเมืองอย่างใกล้ชิด หากเกิดสถานการณ์เข้าขั้นวิกฤติจริงจะเรียกประชุมด่วน และเคลื่อนไหวออกชุมนุมทันที เราทำตามสถานการณ์ ช่วงนี้ขอให้ประเมินอย่างรอบครอบและไม่ผิด ต้องประชุมก่อน ให้แนวร่วมพธม.ทุกคนติดตามสถานการณ์กระชั้นชิด ครั้งนี้เป็นการประกาศจุดยืนทั้งหมดที่เกิดขึ้นในบ้านเมือง ซึ่งการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 4 มาตราการเสนอร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน เราไม่เห็นด้วยแน่นอนพร้อมคัดค้านและดำเนินการทางกฎหมายถึงที่สุด.
วานนี้ (4 เม.ย.56) ที่บ้านพระอาทิตย์ นายสนธิ ลิ้มทองกุล พล.ต.จำลอง ศรีเมือง นายภิภพ ธงไชย นางมาลีรัตน์ แก้วก่า แกนนำแนวร่วมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.)และนายปานเทพ พัวพงษ์พันธุ์ โฆษกพธม.แถลงว่า แกนนำพธม.ทั้งรุ่น 1และรุ่น 2 ร่วมประชุมประเมินสถานการณ์บ้านเมืองปัจจุบันเพื่อกำหนดท่าทีการเคลื่อนไหว โดยมีมติคัดค้านแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้ง 4 มาตรา 3 ฉบับว่า มุ่งแก้เพื่อผลประโยนช์นักการเมืองเท่านั้น และคัดค้านพ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านที่สร้างหนี้ให้ประเทศชาติ
ดังนั้นยังจำเป็นต้องใช้การชุมนุมเคลื่อนไหวเพื่อต่อต้านรัฐบาลในเงื่อนไข 3 ข้อคือ 1. มีการดำเนินการใดๆที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือออกฏหมายอื่นที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างสถาบันพระมหากษัตริย์หรือลดพระราชอำนาจ 2.มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือออกกฏหมายเพื่อการนิรโทษกรรมล้างผิดให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตรัฐมนตรีกับพวกและ 3. เมื่อเหตุการณ์บ้านเมืองเข้าสู่สถานการณ์ความเหมาะสมและประชาชนต้องการให้เปลี่ยนแปลงประเทศครั้งใหญ่
นายปานเทพ กล่าวว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมาเงื่อนไขการชุมนุมของพธม.ประสบความสำเร็จทุกครั้ง จึงเป็นผลทำให้นักการเมืองและรัฐบาลไม่กล้าทำอะไรในช่วงปีเศษ ทั้งนี้ได้จัดเดินสายเวทีเสวนาปฎิรูปประชาธิปไตยทั้วประเทศและ พบว่าขณะนี้ปัญหาบ้านเมืองกำลังเข้าสู่ภาวะวิกฤติอย่างหนัก การทุจริตคอร์รัปชั่น และการสร้างหนี้ให้ประเทศ รัฐบาลเดินหน้ารับอำนาจขึ้นศาลโลกที่เสี่ยงต่อการเสียดินแดน การเดินหน้าขึ้นราคาพลังงานกับประชาชนอย่างไม่เป็นธรรมและเตรียมเปิดสัมปทานปิโตรเลียมรอบที่ 21 ด้วยการคงอัตราค่าภาคหลวงในระดับต่ำเพื่อเอื้อประโยนช์กลุ่มทุน รวมไปถึงความพยายามแก้ไขรัฐธรรมนูญรวบอำนาจให้รัฐบาลตัดขาดริดรอนสิทธิประชาชนที่จะเข้าถึงศาลรัฐธรรมนูญ เรื่องดังกล่าวนำไปสู่วิกฤติอย่างใหญ่หลวงของประเทศได้ทั้งสิ้น
ทั้งการแก้ไขมาตรา 68 มาตรา 190 ตัดสิทธิประชาชนจะยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ หากแก้ไข มาตรา 191 เพื่อล้มล้างรัฐธรรมนูญทั้งฉบับภาคประชาขนไม่สามารถขัดขวางได้เลย กรณีการแก้ไข มาตรา190 เป็นสิ่งอันตรายต่อประเทศเพราะให้อำนาจรัฐบาลทำหนังสือสัญญาส่วนใหญ่กับต่างประเทศเช่นสนธิสัญญาในตัวบทเปลี่ยนแปลงเขตพื้นที่นอกอาณาเขต หนังสือสัญญาการเงินการค้าการลงทุนต่างๆ เป็นการล้มเลิกกระบวนการตรวจสอบการมีส่วนรวมขั้นตอนครม.ชี้แจงต่อประชาขน และรัฐสภา
เพื่อให้สมาชิกวุฒิสภาเพิ่มจำนวนเป็น 200 คน ให้มาจากการเลือกตั้งทั้งหมด
การปฏิบัติของครม.ที่เยียวยาผู้ได้ผลกระทบจากดำเนินการสนธิสัญญาระหว่างประเทศ กรณี แก้ไข มาตรา 111 ให้ ส.ว.เพิ่มจำนวนเป็น 200 คน มาจากเลือกตั้งทั้งหมด และเปิดทาง ให้ส.ว.ชุดเดิมลงเลือกตั้งได้ทันที เพียงเพื่อต้องการให้มีที่มาเดียวกับ ส.ส. อาศัยอิทธิพลระบบอุปภัมถ์เดียวกับนักการเมือง ซึ่งไม่สามารถตรวจสอบถ่วงดุลได้จริงปฎิบัติตัวเป็นทาสของรัฐบาล ส.ว.มีอำนาจแต่งตั้งองค์กรอิสระทำให้องค์กรอิสระไม่สามารถทำหน้าที่ได้จริง
กรณีการแก้ไข มาตรา 237 เพื่อนำไปสู่การยกเลิกยุบพรรคการเมืองและเพิกถอน กรรมการบริหารพรรค ผู้เสนอต้องการให้เกิดประโยชน์ต่อพรรคการเมืองที่ทำผิดทุจริตการเลือกตั้ง ขอสนับสนุนเห็นด้วย ส.ว.ยื่นศาลรัฐธรรมนูญ โดยพธม.มอบหมายทนาย ไปดูข้อกฎหมายเพื่อเอาผิดกับนักการเมืองทั้งหมด และเอาผิดผู้เกี่ยวข้อง พ.ร.บ.กู้เงินฯ ด้วย
ด้านพล.ต.จำลอง กล่าวว่า แกนนำพธม.จะติดตามสถานการณ์บ้านเมืองอย่างใกล้ชิด หากเกิดสถานการณ์เข้าขั้นวิกฤติจริงจะเรียกประชุมด่วน และเคลื่อนไหวออกชุมนุมทันที เราทำตามสถานการณ์ ช่วงนี้ขอให้ประเมินอย่างรอบครอบและไม่ผิด ต้องประชุมก่อน ให้แนวร่วมพธม.ทุกคนติดตามสถานการณ์กระชั้นชิด ครั้งนี้เป็นการประกาศจุดยืนทั้งหมดที่เกิดขึ้นในบ้านเมือง ซึ่งการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 4 มาตราการเสนอร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน เราไม่เห็นด้วยแน่นอนพร้อมคัดค้านและดำเนินการทางกฎหมายถึงที่สุด.
