ประชุมร่วมรัฐสภาพิจารณาแก้ไข รธน. ตำรวจนครบาลวางกำลัง 3 กองรอยดูแลความเรียบร้อย “พันธมิตรฯ” ขอดูท่าทีรัฐสถา มีท่าทีเข้าเงื่อนไข 3 ข้อที่จะชุมนุมคัดค้านหรือไม่ ที่ปรึกษาวิปรัฐบาลมั่นใจเสียงหนุนทำร่างแก้ไข รธน.ฉลุย
ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาว่า วันนี้ (1 เม.ย.) มีการประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม จำนวน 3 ฉบับ ที่ ส.ส.และ ส.ว.ร่วมลงชื่อเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตรา ประกอบด้วย 1. ร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่...) พ.ศ. .... ซึ่งเสนอโดย ส.ส.และ ส.ว.จำนวน 308 คน แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 111, 112, 115, 166 วรรคสอง, 117, 118, 120 และ 241 วรรคหนึ่ง และยกเลิกมาตรา 113 และ 114
2. ร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่...) พ.ศ .... มี ส.ส.และ ส.ว. จำนวน 314 คน เป็นผู้เสนอแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 190 เกี่ยวกับเรื่องการทำสัญญาระหว่างประเทศ ที่ถือว่าเป็นอุปสรรคต่อการทำงานของทุกรัฐบาล เพราะทำให้คู่เจรจารู้ทิศทางของรัฐบาล ซึ่งกระทบต่อผลประโยชน์ของประเทศ
3. ร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่...) พ.ศ. .... ส.ส. และ ส.ว. จำนวน 311 คน เป็นผู้เสนอ แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 68 และ 237 เรื่องการยุบพรรคการเมือง เนื่องจากไม่เห็นด้วย เพราะเป็นการลิดรอนสิทธิส่วนบุคคลทั้งที่ไม่ได้ทำผิด แต่ต้องรับโทษ และการพิจารณาเรื่องร้องเรียนตาม มาตรา 68 ให้อัยการมีอำนาจรับเรื่องไว้ โดยไม่ให้ศาลรัฐธรรมนูญรับเรื่องร้องเรียนโดยตรงอย่างที่ผ่านมา สำหรับกรอบเวลาในการพิจารณาเบื้องต้นกำหนดไว้ ระหว่างวันที่ 1-3 เมษายนนี้
โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบัญชาการตำรวจนครบาลจัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองร้อยควบคุมฝูงชนจำนวน 3 กองร้อย ดูแลรักษาความปลอดภัยโดยรอบ
พล.ต.ต.วิชาญญ์วัชร์ บริรักษ์กุล ผบก.น.1 กล่าวว่า เพื่อความไม่ประมาทได้เตรียมกำลังไว้ยังที่ตั้ง หากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน แต่การข่าวยืนยันว่า ไม่มีเหตุป่วนหรือเหตุรุนแรงแต่อย่างใด
ขณะที่นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) เปิดเผยถึงการประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญว่าต้องรอดูว่าจะมีการพิจารณาในสภาอย่างไร และถ้าเข้าเงื่อนไข 3 ข้อที่กลุ่มพันธมิตรฯ เคยประกาศไว้กลุ่มพันธมิตรฯ ก็จะออกมาเคลื่อนไหวทันที
ขณะที่นายอุดมเดช รัตนเสถียร ที่ปรึกษาคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล กล่าวว่า จากการประเมินเสียงเสียงสนับสนุนร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา จาก ส.ส.มีประมาณ 300 วุฒิสภา 50 กว่าคน น่าจะเพียงพอ เพราะต้องใช้เสียงครึ่งหนึ่ง คือ 324 เสียง คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหา ซึ่งตั้งเกณฑ์อภิปรายไว้วันละ 12 ชม. อาจจะมีโอกาสยืดเยื้อออกไปบ้าง
ทั้งนี้ ไม่อยากให้มีการพาดพิงให้เกิดความเสียหายหรือใส่ร้ายป้ายสีกัน ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับถ้อยคำการภิปราย ถ้าเจตนาให้วุ่นวายก็จะเกิดความวุ่นวายได้ อย่างไรก็ตาม สัดส่วนกรรมาธิการของพรรคเพื่อไทย 19 คน ได้มีการจัดสรรกันไว้พร้อมแล้ว