ASTV ผู้จัดการรายวัน - ค่ายรถจักรยานยนต์ “ยามาฮ่า” เปิดแผนธุรกิจระยะกลางรอบใหม่ 3 ปี พร้อมสื่อแนวทางผ่านแบรนด์สโลแกนใหม่ “Revs your Heart” หรือ “เร่งชีวิต ให้เร้าใจ” และประกาศใช้ไทยเป็นฐานผลิตโกลบอลโมเดล เริ่มดำเนินการผลิตปีหน้า มั่นใจสามารถขยับส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มเป็นเกือบ 30%
นายฮิโรยูกิ ยานางิ ประธานและซีอีโอ บริษัท ยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยในโอกาสเดินทางมาเปิดตัวแบรนด์สโลแกนใหม่ในประเทศไทยว่า สภาวะทางเศรษฐกิจของโลกทวีความท้าทายขึ้นเรื่อยๆ แต่กลุ่มในภูมิภาคอาเซียนยังสามารถฟื้นตัวทางเศรษฐกิจได้เร็วกว่าประเทศอื่นๆ มาโดยตลอด และอาเซียนยังเป็นตลาดที่สำคัญของธุรกิจรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าอีกด้วย โดยเฉพาะประเทศไทยที่เป็นตลาดพิเศษ ซึ่งยามาฮ่าให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ
“เพื่อให้มั่นใจว่าธุรกิจจะเติบโตยิ่งขึ้น ยามาฮ่า มอเตอร์ จึงได้เริ่มแผนบริหารธุรกิจระยะกลางรอบใหม่ 3 ปี ซึ่งจะเริ่มดำเนินการภายใต้แผนปีนี้ ด้วยการเปิดตัวแบรนด์สโลแกนใหม่ ‘Revs your Heart’ หรือ ‘เร่งชีวิต ให้เร้าใจ’ เพื่อใช้ทั่วโลก รวมถึงยามาฮ่าในประเทศไทย และจะมีการใช้ไทยเป็นฐานผลิตรถรุ่นใหม่ระดับโลก หรือโกลบอล โมเดล (Global Model) สำหรับผลิตรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ ทำตลาดในไทยและส่งออกทั่วโลก โดยจะเริ่มตั้งแต่ปี 2557 เป็นต้นไป”
ทั้งนี้ภายใต้แผนระยะกลางรอบใหม่ จะมุ่งสร้างความเป็นยามาฮ่าที่แท้จริง ผ่านงานด้านวิศวกรรม การผลิต และการตลาด ซึ่งเรียกเป็นภาษาญี่ปุ่นว่า “โมโนซูกุริ” รวมถึงกิจกรรมส่งเสริมการขายที่เน้นการเข้าถึงตลาดอย่างแท้จริง เพื่อเป็นการเริ่มแผนบริหารดังกล่าว จึงได้เปิดตัวแบรนด์สโลแกนใหม่ “Revs your Heart” หรือ “เร่งชีวิต ให้เร้าใจ” ในการสื่อถึงความเป็นยามาฮ่าทั่วโลกร่วมกัน
โดยคำว่า “Rev” มาจาก “Revving” หรือการเร่งเครื่องยนต์ให้สุดรอบ ซึ่งจะทำให้เกิดความตื่นเต้นเร้าใจ โดยคำนี้สื่อได้ถึงความมุ่งมั่นของยามาฮ่าที่จะทำให้ลูกค้าตื่นเต้นเร้าใจ สัมผัสได้ถึงความตื่นเต้นเร้าใจและพึงพอใจอย่างลึกซึ้ง ตามแบบฉบับของยามาฮ่า ซึ่งเรียกว่า “คันโด” ผ่านแนวคิด 3 ประการ คือ การผสานระหว่างความเป็นต้นแบบดั้งเดิมกับแนวคิดนวัตกรรมใหม่ เทคโนโลยีที่สร้างคุณลักษณะและสมรรถนะที่โดดเด่น ตลอดจนดีไซน์ที่บ่งบอกถึงพลังขับเคลื่อนชั้นเลิศ ที่ผสมผสานกับความงดงาม และนี่คือความหมายที่แท้จริงของ “โมโนซูกุริ”
“ทั้งหมดสิ่งที่จะบ่งบอกได้ชัดเจนที่สุด ย่อมเห็นได้จากผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ๆ ของยามาฮ่า ไม่วาจะเป็นการเปิดตัวยามาฮ่า ฟีโน่ หัวฉีดใหม่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา รวมถึงรถโกลบอลโมเดลที่จะเริ่มในไทยปีหน้า ซึ่งเป็นการยกระดับและแสดงให้เห็นความสำคัญของยามาฮ่าในประเทศไทยด้วย” นายยานางิกล่าว
นายประพันธ์ พลธนะวสิทธิ์ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด เปิดเผยว่า โครงการไทยเป็นฐานผลิตรถโกลบอลโมเดล ได้มีเตรียมการมาระยะหนึ่งแล้ว และจะสามารถเริ่มดำเนินการได้ในปีหน้า ซึ่งยังไม่สามารถบอกรายละเอียดการลงทุนได้ แต่ไม่มีการขยายหรือตั้งโรงงานใหม่ เพียงลงทุนในส่วนของการปรับเพิ่มไลน์ผลิตใหม่ เพราะโรงงานปัจจุบันสามารถรองรับได้อยู่แล้ว ทำให้ใช้เงินลงทุนในระดับหลักร้อยล้านบาทก็เพียงพอ
นางสาวจินตนา อุดมทรัพย์ ผู้จัดการใหญ่ด้านการค้า บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด เปิดเผยว่า ตามแผนธุรกิจระยะกลางรอบใหม่ ยามาฮ่าคาดว่าจะเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดได้เกือบ 30% จากปัจจุบันที่มีแชร์อยู่ประมาณ 24% และคาดว่าปีนี้ยามาฮ่าจะมียอดขายประมาณ 5.5 แสนคัน จากปีที่ผ่านมาทำได้ 4.9 แสนคัน จากภาพรวมตลาดรถจักรยานยนต์ไทยทั้งหมด ซึ่งน่าจะใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา 2.2 ล้านคัน
สำหรับการเติบโตของยามาฮ่าดังกล่าว มาจากการแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ สู่ตลาด ผ่านความตื่นเต้นเร้าใจให้กับลูกค้า รวมถึงการทำกิจกรรมส่งเสริมการขายแบบเน้นการเข้าถึงตลาด และสร้างความเชื่อมั่นของลูกค้าเหนียวแน่นยิ่งขึ้น ภายใต้แผนธุรกิจระยะกลางรอบใหม่ และแบรนด์สโลแกนใหม่ในระดับโลกนี้ จะใช้ควบคู่กับสโลแกนของยามาฮ่าในไทย “Do>> Innovative” ซึ่งมีความสอดคล้องไปในทิศทางเดียวกันชัดเจน
นายฮิโรยูกิ ยานางิ ประธานและซีอีโอ บริษัท ยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยในโอกาสเดินทางมาเปิดตัวแบรนด์สโลแกนใหม่ในประเทศไทยว่า สภาวะทางเศรษฐกิจของโลกทวีความท้าทายขึ้นเรื่อยๆ แต่กลุ่มในภูมิภาคอาเซียนยังสามารถฟื้นตัวทางเศรษฐกิจได้เร็วกว่าประเทศอื่นๆ มาโดยตลอด และอาเซียนยังเป็นตลาดที่สำคัญของธุรกิจรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าอีกด้วย โดยเฉพาะประเทศไทยที่เป็นตลาดพิเศษ ซึ่งยามาฮ่าให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ
“เพื่อให้มั่นใจว่าธุรกิจจะเติบโตยิ่งขึ้น ยามาฮ่า มอเตอร์ จึงได้เริ่มแผนบริหารธุรกิจระยะกลางรอบใหม่ 3 ปี ซึ่งจะเริ่มดำเนินการภายใต้แผนปีนี้ ด้วยการเปิดตัวแบรนด์สโลแกนใหม่ ‘Revs your Heart’ หรือ ‘เร่งชีวิต ให้เร้าใจ’ เพื่อใช้ทั่วโลก รวมถึงยามาฮ่าในประเทศไทย และจะมีการใช้ไทยเป็นฐานผลิตรถรุ่นใหม่ระดับโลก หรือโกลบอล โมเดล (Global Model) สำหรับผลิตรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ ทำตลาดในไทยและส่งออกทั่วโลก โดยจะเริ่มตั้งแต่ปี 2557 เป็นต้นไป”
ทั้งนี้ภายใต้แผนระยะกลางรอบใหม่ จะมุ่งสร้างความเป็นยามาฮ่าที่แท้จริง ผ่านงานด้านวิศวกรรม การผลิต และการตลาด ซึ่งเรียกเป็นภาษาญี่ปุ่นว่า “โมโนซูกุริ” รวมถึงกิจกรรมส่งเสริมการขายที่เน้นการเข้าถึงตลาดอย่างแท้จริง เพื่อเป็นการเริ่มแผนบริหารดังกล่าว จึงได้เปิดตัวแบรนด์สโลแกนใหม่ “Revs your Heart” หรือ “เร่งชีวิต ให้เร้าใจ” ในการสื่อถึงความเป็นยามาฮ่าทั่วโลกร่วมกัน
โดยคำว่า “Rev” มาจาก “Revving” หรือการเร่งเครื่องยนต์ให้สุดรอบ ซึ่งจะทำให้เกิดความตื่นเต้นเร้าใจ โดยคำนี้สื่อได้ถึงความมุ่งมั่นของยามาฮ่าที่จะทำให้ลูกค้าตื่นเต้นเร้าใจ สัมผัสได้ถึงความตื่นเต้นเร้าใจและพึงพอใจอย่างลึกซึ้ง ตามแบบฉบับของยามาฮ่า ซึ่งเรียกว่า “คันโด” ผ่านแนวคิด 3 ประการ คือ การผสานระหว่างความเป็นต้นแบบดั้งเดิมกับแนวคิดนวัตกรรมใหม่ เทคโนโลยีที่สร้างคุณลักษณะและสมรรถนะที่โดดเด่น ตลอดจนดีไซน์ที่บ่งบอกถึงพลังขับเคลื่อนชั้นเลิศ ที่ผสมผสานกับความงดงาม และนี่คือความหมายที่แท้จริงของ “โมโนซูกุริ”
“ทั้งหมดสิ่งที่จะบ่งบอกได้ชัดเจนที่สุด ย่อมเห็นได้จากผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ๆ ของยามาฮ่า ไม่วาจะเป็นการเปิดตัวยามาฮ่า ฟีโน่ หัวฉีดใหม่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา รวมถึงรถโกลบอลโมเดลที่จะเริ่มในไทยปีหน้า ซึ่งเป็นการยกระดับและแสดงให้เห็นความสำคัญของยามาฮ่าในประเทศไทยด้วย” นายยานางิกล่าว
นายประพันธ์ พลธนะวสิทธิ์ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด เปิดเผยว่า โครงการไทยเป็นฐานผลิตรถโกลบอลโมเดล ได้มีเตรียมการมาระยะหนึ่งแล้ว และจะสามารถเริ่มดำเนินการได้ในปีหน้า ซึ่งยังไม่สามารถบอกรายละเอียดการลงทุนได้ แต่ไม่มีการขยายหรือตั้งโรงงานใหม่ เพียงลงทุนในส่วนของการปรับเพิ่มไลน์ผลิตใหม่ เพราะโรงงานปัจจุบันสามารถรองรับได้อยู่แล้ว ทำให้ใช้เงินลงทุนในระดับหลักร้อยล้านบาทก็เพียงพอ
นางสาวจินตนา อุดมทรัพย์ ผู้จัดการใหญ่ด้านการค้า บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด เปิดเผยว่า ตามแผนธุรกิจระยะกลางรอบใหม่ ยามาฮ่าคาดว่าจะเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดได้เกือบ 30% จากปัจจุบันที่มีแชร์อยู่ประมาณ 24% และคาดว่าปีนี้ยามาฮ่าจะมียอดขายประมาณ 5.5 แสนคัน จากปีที่ผ่านมาทำได้ 4.9 แสนคัน จากภาพรวมตลาดรถจักรยานยนต์ไทยทั้งหมด ซึ่งน่าจะใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา 2.2 ล้านคัน
สำหรับการเติบโตของยามาฮ่าดังกล่าว มาจากการแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ สู่ตลาด ผ่านความตื่นเต้นเร้าใจให้กับลูกค้า รวมถึงการทำกิจกรรมส่งเสริมการขายแบบเน้นการเข้าถึงตลาด และสร้างความเชื่อมั่นของลูกค้าเหนียวแน่นยิ่งขึ้น ภายใต้แผนธุรกิจระยะกลางรอบใหม่ และแบรนด์สโลแกนใหม่ในระดับโลกนี้ จะใช้ควบคู่กับสโลแกนของยามาฮ่าในไทย “Do>> Innovative” ซึ่งมีความสอดคล้องไปในทิศทางเดียวกันชัดเจน