ศูนย์ข่าวภูเก็ต - เกิดเหตุเพลิงไหม้รถ จยย.4 คัน ทางลงหาดแหลมสิงห์ จ.ภูเก็ต เบื้องต้น เจ้าหน้าตำรวจที่ยังไม่ระบุสาเหตุจากการวางเพลิง หรือุบัติเหตุ ต้องรอผลพิสูจน์หลักฐานแน่ชัด
เมื่อวานนี้ (12 มี.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กมลา อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต ได้รับแจ้งว่ามีรถจักรยานยนต์ถูกไฟไหม้เสียหายหลายคัน ทางลงหาดแหลมสิงห์ชายหาดชื่อดังของภูเก็ต บริเวณถนนสายหาดสุรินทร์-กมลา หมู่ที่ 3 ตำบลกมลา อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต หลังได้รับแจ้ง พ.ต.ท.ศุภวิชญ์ สุวรรณภิรมย์ รอง ผกก.สส. พร้อมด้วย พ.ต.ต.สมนึก ดำแก้ว สารวัตรเวร พ.ต.ต.ณรงค์ บัวทอง สว.สส.สภ.กมลา และ พ.ต.ท.กิตติศักดิ์ หนูผึ้ง สารวัตรพิสูจน์หลักฐานจังหวัดภูเก็ต เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุอยู่ริมถนนเชิงเขาทางลงชายหาด พบซากรถ จยย. 4 คัน ถูกไฟไหม้จนได้รับความเสียหาย ประกอบด้วย 1.รถจักรยานยนต์ยามาฮ่า ฟีโน่ สีชมพูขาว ป้ายทะเบียน ขพธ 329 ราชบุรี ของ น.ส.กองกาญจน์ นันทะ อาชีพพนักงานร้านอาหารบนชายหาดแหลมสิงห์ สภาพด้านหน้ารถถูกไฟไหม้เสียหายเกือบทั้งหมด 2.รถจักรยานยนต์ซูซูกิ ฮายาเต้ สีขาว ป้ายทะเบียน ขตท 575 ภูเก็ต ของ น.ส.อุมาพร นาคถั่ว สภาพเสียหายเกือบทั้งคัน 3.รถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ 100 ป้ายทะเบียน กษง 639 ภูเก็ต ของ นายอนุชา ว้าหาบ สภาพเสียหายทั้งคัน และ 4.รถจักรยานยนต์ยามาฮ่า ฟีโน่ สีน้ำตาล ป้ายทะเบียน 86 ไม่ทราบหมวดอักษร ของนางทองใบ นาชัยเวียง สภาพเสียหายทั้งคัน
นอกจากนั้น บริเวณพื้นหญ้าโดยรอบพบว่ามีร่องรอยไฟไหม้ดำเป็นตอตะโก เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจึงเก็บหาหลักฐานชิ้นส่วนวัตถุพยาน เพื่อนำไปตรวจสอบว่าเป็นการวางเพลิง หรืออุบัติเหตุ เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถระบุสาเหตุที่แท้จริงได้ เนื่องจากต้องรอผลจากการพิสูจน์หลักฐานก่อน
นางทองใบ นาชัยเวียง อาชีพหมอนวดชายหาดเจ้าของรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า ฟีโน่ สีน้ำตาล ป้ายทะเบียน 86 ไม่ทราบหมวดอักษร ซึ่งถูกไฟไหม้ทั้งคัน กล่าวว่า ตน และคนอื่นๆ ได้นำรถมาจอดรถในช่วงเที่ยงเพื่อลงไปทำงานนวดที่ชายหาดแหลมสิงห์ตามปกติ โดยที่ผ่านมา ก็ไม่เคยมีปัญหากับใคร สำหรับคนที่นำรถมาจอดรถส่วนใหญ่จะเป็นคนที่ทำงานอยู่บริเวณชายหาด และหลังเกิดเหตุมีคนรู้จักโทร.มาบอกว่ารถจักรยานยนต์ถูกไฟไหม้จึงวิ่งรีบขึ้นมาดูพบว่ารถถูกไฟไหม้วอดทั้งคัน ซึ่งคาดว่าอาจจะถูกวางเพลิงแต่ก็ไม่ทราบสาเหตุ
ด้าน พ.ต.ท.ศุภวิชญ์ สุวรรณภิรมย์ รอง ผกก.สส.สภ.กมลา กล่าวว่า สำหรับสาเหตุของการเกิดไฟไหม้ในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะต้องรอผลพิสูจน์ของกองพิสูจน์หลักฐานก่อนเพื่อความชัดเจนว่าเป็นการวางเพลิง หรือเกิดขึ้นโดยอุบัติเหตุ ขณะเดียวกัน ก็จะต้องมีการสอบสวนเพิ่มเติมทั้งในส่วนของเจ้าของรถ และผู้ที่อาจเห็นเหตุการณ์เพื่อสรุปหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป
