xs
xsm
sm
md
lg

"โต้ง"ยืมเงินคงคลังอุดรถคันแรก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

รมช.คลังยอมรับ"โต้ง"สั่งโยกเงินคงคลังมาจ่ายคืนภาษีโครงการรถคันแรก ลั่นมีพอจ่ายครบทุกราย เหตุเงินคงคลังสำรองถึง 2 แสนล้านบาท กรมบัญชีกลางยันรัฐมนตรีคลังมีอำนาจทำได้

นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย รมช.คลัง เปิดเผยถึงการจ่ายเงินภาษีคืนในโครงการรถคันแรกว่า แม้ในปีงบประมาณ 2556 จะมีเงินเหลือเพียง 392 ล้านบาท แต่ไม่มีปัญหาในการจ่ายเงินคืนให้กับประชาชนอย่างแน่นนอน เพราะยังสามารถใช้เงินคงคลังตามนโยบายของนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและ รมช.คลัง ไปก่อนได้ หลังจากนั้นจะาตั้งงบประมาณชดเชยในงบประมาณถัดไป ส่วนการตั้งงบประมาณในปี 2557-58 ซึ่งจะมีรถยนต์ที่เข้าโครงการและถือครองครบ 1 ปีมากขึ้น ก็จะตั้งงบประมาณให้ตรงกับตัวเลขที่ต้องคืนจริงให้มากที่สุด

“เคยมีแนวคิดจะใช้เงินจากงบกลางในปีงบประมาณ 2556 ซึ่งปกติ ตั้งไว้ประมาณปีละ 5 หมื่นล้านบาท ที่เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี แต่นายกิตติรัตน์ในฐานะที่กำกับดูแลกรมบัญชีกลาง ก็ได้พิจารณาถึงแนวทางต่างที่เหมาะสม ก็เห็นว่า ยังมีเงินคงคลังเหลืออยู่มาก ที่สามารถดึงมาใช่ก่อน”นายทนุศักดิ์กล่าวและว่า กรณีที่มีกระแสข่าวการทิ้งใบจอง ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนว่า ยอดการทิ้งในจองมากจนส่งผลกระทบต่อผู้ผลิตหรือไม่ รวมถึงข้อมูลจากบริษัทไฟแนนซ์ที่ปล่อยกู้ในโครงการรถคันแรกด้วยว่ายังไม่มีตัวเลขเพิ่มเติมจากยอดที่เคยแจ้ง 2 พันราย โดยหากพิจารณาจากการทำธุรกรรมปกติก็จะมียอดยึดรถ เพราะผู้ซื้อที่สามารถผ่อนชำระได้ประมาณ 1% อยู่แล้ว แม้ว่าจะไม่มีโครงการรถคันแรก

ด้านนายมนัส แจ่มเวหา อธิบดี กรมบัญชีกลางกล่าวว่า การนำเงินคงคลังมาใช้เกิดขึ้นทุกปีอยู่แล้ว ตามมาตรา 7 (1) พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) เงินคงคลัง กรณีที่งบประมาณ ที่ตั้งไว้ไม่พอจ่าย ซึ่งกรณีการคืนเงินรถคันแรกเองได้รับความนิยมทำให้มีผู้เข้าร่วมโครงการมาก ก็อาศัยอำนาจรัฐมนตรีว่าการอนุญาตให้ใช้เงินคงคลัง เพราะมีรายจ่ายประจำที่ต้องสำรองไว้ เพื่อการจ่ายเงินเดือนข้าราชการเดือนละประมาณ 5 หมื่นล้านเท่านั้น โดยยอดที่จะคืนในงวดวันที่ 5 เมษายน ซึ่งมีประมาณ 5 หมื่นรายหรือเป็นเงินประมาณ 4-5 พันล้านบาท ไม่มีปัญหา รวมถึงงวดอื่นๆ

“โครงการรถคันแรกเป็นการจัดเก็บภาษีของการซื้อรถยนต์มาแล้ว และเก็บเป็นรายได้แผ่นดินในเงินคงคลัง ซึ่งมีเกือบ 1.3 แสนล้านบาท เพียงแต่รอให้ผู้ถือครองรถครบ 1 ปี จึงจะคืนให้ ซึ่งก็เป็นเงินที่ผู้เข้าโครงการจ่ายมาแล้ว และหากจะคิดทั้งโครงการต้องจ่ายคืนทั้งสิ้น 9 หมื่นล้านบาท ก็ยังมีส่วนต่างที่เหลือเป็นเงินคงคลังเกือบ 4 หมื่นล้านบาท” นายมนัสกล่าว.
กำลังโหลดความคิดเห็น