หยุดไปร่วมปีกลับมาอีกแล้วครับ เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญซึ่งเคยพูดเอาไว้แล้วว่าเป็นภารกิจของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่พี่ชายส่งมาเป็นนายกรัฐมนตรี แม้ว่าเธอจะปฏิเสธแล้วปฏิเสธอีกว่า ไม่ใช่เรื่องของเธอ เธอเป็นนายกรัฐมนตรีเพื่อแก้ปัญหาของประเทศชาติบ้านเมือง ไม่ได้มาเพื่อที่จะทำงานให้พี่ชาย ซึ่งก็เหมือนหลายๆ เรื่องที่เราเห็นกันอยู่ เป็นต้นว่า หนังสือพิมพ์ต่างประเทศลงข่าวว่าประเทศไทยมีนายกรัฐมนตรี 2 คน ทักษิณก็บอกว่า เป็นเรื่องน่าขำ เป็นเรื่องตลก หนังสือพิมพ์นั้นเชื่อถือไม่ได้ วันดีคืนดี ทักษิณก็บอกว่า ช่วยให้คนนั้นคนนี้ได้รับตำแหน่ง ส่วนตัวเองจะได้กลับบ้านเมื่อไรก็ไม่รู้
ส่วนน้องสาวบอกว่า ไม่เกี่ยวค่ะ ทุกอย่างดิฉันตัดสินใจค่ะ วันดีคืนดีทักษิณก็โทร.เข้ามาที่ประชุมพรรคสั่งโน่นสั่งนี่ ตำหนิโน่นตำหนินี่ วันดีคืนดีก็โทร.เข้ามาในที่ประชุม ครม.ตำหนิโน่นตำหนินี่ ส่วนน้องสาวก็บอกว่า ดิฉันเองค่ะ คนอื่นไม่เกี่ยวค่ะ อย่างหน้าระรื่นหาเค้าความอายแม้แต่น้อยนิดก็ไม่พบ
เรื่องอย่างนี้ใครโกหก ใครตอแหล ก็พิจารณาเอาเองเถอะครับพี่น้อง
กลับมาเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญ สมาชิกพรรคเพื่อไทย พรรครัฐบาลบอกว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ประชาชนได้ประโยชน์ แก้ไขรัฐธรรมานูญครั้งนี้ แก้ไขเพื่อประชาชน
ดูเอาเถอะครับ เรื่องที่มองเห็นๆ อย่างนี้มันก็หน้าด้านพูดได้ไม่อายปาก
แก้ไขมาตรา 68 เพื่อตัดหนทางประชาชน ถ้าหากทราบว่ามีการกระทำที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เป็นการปกครองอย่างอื่นซึ่งไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ผู้พบหรือผู้ทราบร้องต่ออัยการสูงสุดได้ทางเดียว ให้อัยการสูงสุดเป็นฝ่ายพิจารณาแต่เพียงฝ่ายเดียว จะส่งต่อให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยหรือไม่เป็นเรื่องของอัยการ
ถ้าหากอัยการไม่ส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญเรื่องก็จบ ขบวนการเปลี่ยนแปลงการปกครองที่ประชาชนพบว่าไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ พุทธศักราช 2550 ก็สามารถดำเนินการต่อไปได้
ในรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยแล้วว่า ประชาชนมีสิทธิที่จะร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญโดยตรงได้เลย โดยที่ศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้แสดงว่าเหนื่อยหน่าย ยุ่งยากหรือรำคาญที่จะต้องพิจารณาคำร้องของประชาชนแต่อย่างใด
ทำไมต้องตัดสิทธิประชาชนไม่ให้ส่งคำร้องโดยตรงต่อศาลรัฐธรรมนูญ?
เรื่องนี้องค์กรอัยการควรที่จะพิจารณาตัวเอง ตรวจสอบตัวเองว่า องค์กรแห่งนี้จะเหมือนองค์กรอีกหลายๆ แห่งที่ ทักษิณ ชินวัตร สามารถกินรวบไว้ได้เกือบหมดแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง องค์กรตำรวจที่นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่คนหนึ่งประกาศด้วยความภาคภูมิใจให้ชาวโลกรู้ว่า “ มีวันนี้เพราะพี่ให้” และพี่ที่ว่านั้นไม่ใช่ใคร หากแต่คือ นักโทษหนีคุก ทักษิณ ชินวัตร
มีตัวอย่างให้เห็นแล้วอดีตผู้พิพากษา อดีตอัยการได้รับแต่งตั้งให้เป็นโน่นเป็นนี่ เหมือนเป็นการปูนบำเหน็จที่รับใช้ทักษิณอย่างสุดจิตสุดใจ
อย่าลืมว่าการไม่อุทธรณ์ ไม่ฎีกาบางคดี ไม่ฟ้องบางคดีของอัยการในคดีที่เกี่ยวข้องกับทักษิณ ครอบครัวทักษิณ เป็นที่คลางแคลงใจของประชาชน และอยู่ในความสนใจของประชาชนตลอดมา และแน่นอนว่าย่อมกระทบกระเทือนต่อเกียรติยศชื่อเสียงขององค์กร อัยการโดยส่วนรวม
กรณีนี้ก็เช่นเดียวกัน ทำไมบรรดาขี้ข้าม้าใช้ของทักษิณจึงเลือกเอาเฉพาะอัยการ ทำไมตัดสิทธิประชาชน พวกเขาไม่ห่วง 15 ล้านเสียงที่เลือกเขามาหรอกหรือ หรือมั่นใจว่า 15 ล้านเสียงที่เลือกพวกเขามานั้นมันหมูในอวย บอกว่า พี่น้องพายเรือมาส่งผมถึงท่าแล้ว ผมจะขึ้นภูเขาไม่ต้องแบกเรือตามผมมา 15 ล้านเสียงนั้นก็ท่าทางเซื่องๆ ถอยกลับจากท่าปล่อยให้ทักษิณเดินขึ้นเขาคนเดียว เขาบอกว่า พี่น้องเกิดอะไรขึ้นก็ไปศาลากลางจังหวัด ไม่ต้องบอกก็เป็นที่รู้กัน แล้วในที่สุดศาลากลางจังหวัดก็วอดไปหลายหลัง
นี่มันประชาธิปไตยแบบไหน?
ความพยายามที่จะล้มหรือฉีกรัฐธรรมนูญ พุทธศักราช 2550 เมื่อปีที่แล้ว ล้มเหลวก็เพราะยังมีรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 ที่เปิดทางให้ประชาชนร้องศาลรัฐธรรมนูญได้โดยตรง หากพบเห็นการเปลี่ยนแปลงการปกครอง หรือความพยายามที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองที่ไม่เป็นไปตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ นั่นก็คือการแก้ไขบทบัญญัติว่าด้วยการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็นการตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญผ่านไปแล้ว 2 วาระ เกือบจะสำเร็จอยู่แล้ว แต่มีประชาชนหลายกลุ่มร้องศาลรัฐธรรมนูญเสียก่อน
ถ้าหากรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 เป็นไปอย่างที่เขาจะแก้ไขวันนี้ ป่านนี้รัฐธรรมนูญพุทธศักราช 2550 ก็ฉีกทิ้งไปแล้ว เพราะคำร้องเดียวกันนั้น อัยการสูงสุดไม่ส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย
เพราะฉะนั้น ถ้าหากแก้ไขมาตรา 68 ของรัฐธรรมนูญฉบับนี้สำเร็จ เขาจะฉีกรัฐธรรมนูญ พุทธศักราช 2550 ทิ้งเสียเมื่อไหร่ก็ได้
มาตราอื่นๆ ล้วนไม่จำเป็นต้องพูดถึง
ที่จะช่วยทักษิณให้พ้นคุก ที่จะได้เงิน 4.6 หมื่นล้านคืน ที่จะไม่ต้องขึ้นศาลในคดีอื่นๆ เขาก็จะพยายามหาทางว่า จะทำอย่างไรกับรัฐธรรมนูญเพื่อให้เป็นไปได้
ใครไปถามเรื่องนี้กับนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็จะได้รับคำตอบว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องของสภาค่ะ ส่วนรัฐบาลก็จะดูแลพี่น้องประชาชนให้อยู่ดีกินดีค่ะ
เป็นเช่นนี้ทุกครั้งไป เพราะแกท่องมาแค่นี้
ส่วนน้องสาวบอกว่า ไม่เกี่ยวค่ะ ทุกอย่างดิฉันตัดสินใจค่ะ วันดีคืนดีทักษิณก็โทร.เข้ามาที่ประชุมพรรคสั่งโน่นสั่งนี่ ตำหนิโน่นตำหนินี่ วันดีคืนดีก็โทร.เข้ามาในที่ประชุม ครม.ตำหนิโน่นตำหนินี่ ส่วนน้องสาวก็บอกว่า ดิฉันเองค่ะ คนอื่นไม่เกี่ยวค่ะ อย่างหน้าระรื่นหาเค้าความอายแม้แต่น้อยนิดก็ไม่พบ
เรื่องอย่างนี้ใครโกหก ใครตอแหล ก็พิจารณาเอาเองเถอะครับพี่น้อง
กลับมาเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญ สมาชิกพรรคเพื่อไทย พรรครัฐบาลบอกว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ประชาชนได้ประโยชน์ แก้ไขรัฐธรรมานูญครั้งนี้ แก้ไขเพื่อประชาชน
ดูเอาเถอะครับ เรื่องที่มองเห็นๆ อย่างนี้มันก็หน้าด้านพูดได้ไม่อายปาก
แก้ไขมาตรา 68 เพื่อตัดหนทางประชาชน ถ้าหากทราบว่ามีการกระทำที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เป็นการปกครองอย่างอื่นซึ่งไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ผู้พบหรือผู้ทราบร้องต่ออัยการสูงสุดได้ทางเดียว ให้อัยการสูงสุดเป็นฝ่ายพิจารณาแต่เพียงฝ่ายเดียว จะส่งต่อให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยหรือไม่เป็นเรื่องของอัยการ
ถ้าหากอัยการไม่ส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญเรื่องก็จบ ขบวนการเปลี่ยนแปลงการปกครองที่ประชาชนพบว่าไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ พุทธศักราช 2550 ก็สามารถดำเนินการต่อไปได้
ในรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยแล้วว่า ประชาชนมีสิทธิที่จะร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญโดยตรงได้เลย โดยที่ศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้แสดงว่าเหนื่อยหน่าย ยุ่งยากหรือรำคาญที่จะต้องพิจารณาคำร้องของประชาชนแต่อย่างใด
ทำไมต้องตัดสิทธิประชาชนไม่ให้ส่งคำร้องโดยตรงต่อศาลรัฐธรรมนูญ?
เรื่องนี้องค์กรอัยการควรที่จะพิจารณาตัวเอง ตรวจสอบตัวเองว่า องค์กรแห่งนี้จะเหมือนองค์กรอีกหลายๆ แห่งที่ ทักษิณ ชินวัตร สามารถกินรวบไว้ได้เกือบหมดแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง องค์กรตำรวจที่นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่คนหนึ่งประกาศด้วยความภาคภูมิใจให้ชาวโลกรู้ว่า “ มีวันนี้เพราะพี่ให้” และพี่ที่ว่านั้นไม่ใช่ใคร หากแต่คือ นักโทษหนีคุก ทักษิณ ชินวัตร
มีตัวอย่างให้เห็นแล้วอดีตผู้พิพากษา อดีตอัยการได้รับแต่งตั้งให้เป็นโน่นเป็นนี่ เหมือนเป็นการปูนบำเหน็จที่รับใช้ทักษิณอย่างสุดจิตสุดใจ
อย่าลืมว่าการไม่อุทธรณ์ ไม่ฎีกาบางคดี ไม่ฟ้องบางคดีของอัยการในคดีที่เกี่ยวข้องกับทักษิณ ครอบครัวทักษิณ เป็นที่คลางแคลงใจของประชาชน และอยู่ในความสนใจของประชาชนตลอดมา และแน่นอนว่าย่อมกระทบกระเทือนต่อเกียรติยศชื่อเสียงขององค์กร อัยการโดยส่วนรวม
กรณีนี้ก็เช่นเดียวกัน ทำไมบรรดาขี้ข้าม้าใช้ของทักษิณจึงเลือกเอาเฉพาะอัยการ ทำไมตัดสิทธิประชาชน พวกเขาไม่ห่วง 15 ล้านเสียงที่เลือกเขามาหรอกหรือ หรือมั่นใจว่า 15 ล้านเสียงที่เลือกพวกเขามานั้นมันหมูในอวย บอกว่า พี่น้องพายเรือมาส่งผมถึงท่าแล้ว ผมจะขึ้นภูเขาไม่ต้องแบกเรือตามผมมา 15 ล้านเสียงนั้นก็ท่าทางเซื่องๆ ถอยกลับจากท่าปล่อยให้ทักษิณเดินขึ้นเขาคนเดียว เขาบอกว่า พี่น้องเกิดอะไรขึ้นก็ไปศาลากลางจังหวัด ไม่ต้องบอกก็เป็นที่รู้กัน แล้วในที่สุดศาลากลางจังหวัดก็วอดไปหลายหลัง
นี่มันประชาธิปไตยแบบไหน?
ความพยายามที่จะล้มหรือฉีกรัฐธรรมนูญ พุทธศักราช 2550 เมื่อปีที่แล้ว ล้มเหลวก็เพราะยังมีรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 ที่เปิดทางให้ประชาชนร้องศาลรัฐธรรมนูญได้โดยตรง หากพบเห็นการเปลี่ยนแปลงการปกครอง หรือความพยายามที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองที่ไม่เป็นไปตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ นั่นก็คือการแก้ไขบทบัญญัติว่าด้วยการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็นการตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญผ่านไปแล้ว 2 วาระ เกือบจะสำเร็จอยู่แล้ว แต่มีประชาชนหลายกลุ่มร้องศาลรัฐธรรมนูญเสียก่อน
ถ้าหากรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 เป็นไปอย่างที่เขาจะแก้ไขวันนี้ ป่านนี้รัฐธรรมนูญพุทธศักราช 2550 ก็ฉีกทิ้งไปแล้ว เพราะคำร้องเดียวกันนั้น อัยการสูงสุดไม่ส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย
เพราะฉะนั้น ถ้าหากแก้ไขมาตรา 68 ของรัฐธรรมนูญฉบับนี้สำเร็จ เขาจะฉีกรัฐธรรมนูญ พุทธศักราช 2550 ทิ้งเสียเมื่อไหร่ก็ได้
มาตราอื่นๆ ล้วนไม่จำเป็นต้องพูดถึง
ที่จะช่วยทักษิณให้พ้นคุก ที่จะได้เงิน 4.6 หมื่นล้านคืน ที่จะไม่ต้องขึ้นศาลในคดีอื่นๆ เขาก็จะพยายามหาทางว่า จะทำอย่างไรกับรัฐธรรมนูญเพื่อให้เป็นไปได้
ใครไปถามเรื่องนี้กับนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็จะได้รับคำตอบว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องของสภาค่ะ ส่วนรัฐบาลก็จะดูแลพี่น้องประชาชนให้อยู่ดีกินดีค่ะ
เป็นเช่นนี้ทุกครั้งไป เพราะแกท่องมาแค่นี้