ตรงเป้า/สามยอด
ไม่รู้จะเกี่ยวกันหรือเปล่า แต่พอเสร็จศึกเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) ผลปรากฏว่า ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.จากพรรคประชาธิปัตย์ ชนะการเลือกตั้งเหนือ “จูดี้” พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.จากพรรคเพื่อไทย ได้เป็น ผู้ว่าฯ กทม.สมัยที่ 2
กระแสข่าวลือจะมีการเปลี่ยนตัวแม่ทัพนครบาล ที่ “แจ๊ด-มีวันนี้เพราะพี่ให้” พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นั่งกุมบังเหียน ผบช.น.อยู่ขณะนี้ ก็สะพัดในแวดวงสีกากี
เหตุที่สงสัยกระแสข่าวเปลี่ยนตัว ผบช.น.มาพัวพันกับการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ก็เพราะช่วงที่มีการหาเสียงเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ตลอด 2 เดือนที่ผ่านมา มีเสียงลือเสียงเล่ากันว่ามีการคาดโทษตำรวจโรงพักแต่ละพื้นที่ ในทำนองหากพื้นที่ไหนผลการเลือกตั้งออกมาปรากฏว่าผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทยแพ้ เจ้าของพื้นที่นั้นๆ ก็ต้องรับผิดชอบ
ด้วยการถูกกาหัวเอาไว้ในบัญชีหนังหมา ส่วนจะคิดบัญชีกันเมื่อไหร่ อย่างไร ไม่ได้มีใครอธิบายไว้ แต่ในแวดวงสีกากรต่างก็รับรู้อาจจะมีผลไม่มากก็น้อยในการแต่งตั้งถ้าจะมีขึ้น
พอมามีข่าวเปลี่ยนตัวระดับหัวหน้า ก็เลยหนีไม่พ้นที่จะต้องถูกเพ่งเล็งว่าจะเกี่ยวข้องกัน เพราะหากพิจารณาตามภาพรวม ในฐานะที่มีกลไกรัฐอยู่ในมือความได้เปรียบในการเลือกตั้งก็ย่อมสูง โดยเฉพาะกลไกรัฐที่ชื่อตำรวจ เมื่อผู้สมัครจากพรรครัฐบาลพ่ายแพ้การเลือกตั้งก็ไม่แปลกหาก “เสี่ยแจ๊ด” จะต้องรับผิดชอบ
อย่าลืมว่า แม้การเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.จะเป็นการเลือกตั้งระดับท้องถิ่น เลือกตั้งสนามเล็ก แต่ถ้าดูจากการวางตัว พล.ต.อ.พงศพัศ ที่มีข่าวมาตลอดตั้งแต่แรกว่าถูกเลือกจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พี่ชาย “นายกฯปู” ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้มาลงสมัครในนามพรรคเพื่อไทย
เพราะเห็นว่าชื่อเสียงด้านมวลชนและชาวบ้านรู้จักอย่างกว้างขวาง น่าจะได้รับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าฯ กทม.แทนที่จะเลือกจากคนในพรรคเพื่อไทยที่มีจำนวนมาก ย่อมบ่งบอกให้รู้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ หมายมั่นปั้นมือจะยึดสนามเลือกตั้งเมืองหลวงแค่ไหน และเมื่อผิดหวังไม่ได้ดังใจก็ไม่แปลกอะไรที่ผู้ช่วยพระเอกจะต้องถูกเชือดสังเวย
จริงอยู่ตามชื่อชั้นภาพลักษณ์ที่ออกสู่สายตาคนทั่วไปอาจจะมองว่า พล.ต.ท.คำรณวิทย์ น่าจะอยู่ในใจ พ.ต.ท.ทักษิณ เพราะเจ้าตัวประกาศอย่างชัดเจนมีความความสัมพันธ์กับ พ.ต.ท.ทักษิณ แค่ไหน ไม่ว่าจะเป็นภาพการให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ติดยศให้ หรือการให้สัมภาษณ์อื่นๆ จนสมาคมนักข่าวอาชญากรรรมแห่งประเทศไทย ถึงขนาดยกวลีเด็ดของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ให้เป็นวลีแห่งปี
“มีวันนี้เพราะพี่ให้”
แต่ถึงพี่จะให้อย่างไร หากพิจารณาจากอุปนิสัย พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ไม่แปลกใจถ้าจะมีการเปลี่ยนตัว ผบช.น.เพราะสิ่งที่ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ทำให้พี่ ตอนนี้พี่ก็ให้ตอบแทนไปแล้ว โดยเฉพาะตำแหน่งนครบาล กองบัญชาการระดับเกรดเอ เมื่อถึงจุดๆ หนึ่งการทำงานไม่ได้ผลเป็นที่น่าพอใจการเปลี่ยนแปลงย่อมเกิดขึ้นได้ตามสไตล์นักธุรกิจ ที่ต้องการความแปลกใหม่มาใช้บริการแทน
ข่าวลือครั้งนี้ก็ดูจะมีน้ำหนักไม่น้อย หากดูจากน้ำหนักของลูกพี่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี พี่เลิฟที่สนับสนุน พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ที่ระยะหลังน้ำหนักอะไรต่างๆ ก็ลดลง เห็นชัดๆ จากการแต่งตั้งโยกย้ายหลายระดับที่ผ่านมา “ตั๋ว” เด็กในคาถา เหลิมจะไม่ค่อยได้รับการโปรโมตเท่าที่ควร
รวมทั้งการทำงานในหน้าที่หลายครั้งถูกตำหนิ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการคุมงานภาคใต้ที่มีข่าวนายกฯยิ่งลักษณ์ ตำหนิเรื่องที่ ร.ต.อ.เฉลิม อิดออดการรับผิดชอบพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ รวมทั้งในการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.พื้นที่ฝั่งธนฯ ฐานที่มั่นคนใหญ่บางบอน ก็พลาดพลั้งให้กับคู่แข่งอย่างพรรคประชาธิปัตย์
ใครจะมาเสียบแทน พล.ต.ท.คำรณวิทย์ คุมเมืองหลวง?
ชื่อ พล.ต.ท.นเรศ นันทโชติ ผบช.ภ.1 โดดเด่นและน่าจะเป็นผู้ที่ถูกวางให้โยกข้ามห้วยไปนั่งคุมเมืองหลวงสลับกับ พล.ต.ท.คำรณวิทย์
พล.ต.ท.นเรศ มีสายสัมพันธ์ที่ดีกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ อย่างมาก จนได้รับการสนับสนุนให้ขยับขึ้นจาก รอง ผบช.ภ.1 ขึ้นเป็น ผบช.ภ.1 ช่วงการแต่งตั้งนายพลปลายปี 2555 ที่ผ่านมา ชนิดแบเบอร์ไม่มีคู่แข่ง เพราะ น.ส.ยิ่งลักษณ์ สั่งให้ พล.ต.ท.นเรศ ต้องมานั่ง ผบช.ภ.1 ห้ามใครยุ่ง
นอกจากนี้ ในช่วงที่เป็น ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอยุธยา ช่วงนั้นสถานการณ์การเมืองรุนแรงมาก พล.ต.ท.นเรศ ก็มีส่วนสำคัญในการช่วยงานหลายอย่าง จนเข้าตา พ.ต.ท.ทักษิณ และชื่นชอบการทำงานอย่างมากจนเป็นที่ไว้ใจคนหนึ่งในตำรวจ
กระทั่งมีกระแสอย่างต่อเนื่องว่าทั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ สนับสนุนให้ พล.ต.ท.นเรศ ก้าวเข้ามาทำงานในตำแหน่ง “ผบช.น.”คนใหม่
ในมุมกลับกันในส่วน พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ถามใจกันลึกๆ ก็เชื่อว่า เสี่ยแจ๊ดคงต้องการมาคุมภูธรภาค 1 มากกว่าต้องไปกดดันอยู่ในเมืองหลวง เพราะพื้นที่ภาค 1 ถือเป็นบ้านของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ที่รู้จักแทบทุกตารางนิ้ว โดยเฉพาะย่านปทุมธานี
การจะถูกสลับมากุมบังเหียน ผบช.ภ.1 ก็คงไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เนื่องจากในอนาคต พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ก็อยากเล่นการเมืองในพื้นที่ย่านปทุมธานีอยู่แล้ว การกลับถิ่นเก่าก็เหมือนเป็นการมาปูฐาน ก่อนออกมาเล่นการเมืองแบบเต็มตัว
อย่างไรก็ตาม กระแสข่าวการเปลี่ยนตัวแม่ทัพนครบาลคงไม่ได้เกิดขึ้นในวันสองวันนี้ แต่น่าจะเกิดขึ้นในช่วงการแต่งตั้งนายพลนอกฤดู ช่วงเดือนเมษายน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติกำลังเตรียมการขอเปิดตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญด้านนิติวิทยาศาสตร์ เทียบเท่า “รอง ผบ.ตร.” และตำแหน่งผู้ช่วย ผบ.ตร.เพิ่มอีก 1-2 ตำแหน่ง ซึ่งหากขั้นตอนการขอเปิดตำแหน่งเสร็จสิ้นลงตัว การแต่งตั้งนายพลนอกฤดูก็จะเกิดขึ้น และเมื่อนั้นก็จะทำให้เก้าอี้ระดับนายพลขยับเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง
โดยเฉพาะเก้าอี้ “ผบช.น.” ของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ด้วยก็เป็นได้.