xs
xsm
sm
md
lg

รายย่อยเทรดสนั่น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - สรุปกุมภาพันธ์ รายย่อยเทรดสนั่นวันละ 4 หมื่นล้าน สูงกว่าช่วงเดียวกันปีก่อนที่เทรดเฉลี่ย1.2-1.5 หมื่นล้านต่อวัน หุ้น NonSet 100 พุ่ง ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยืนยันไม่นิ่งเฉย เฝ้าติดตาม รอจบ Q1 ก่อนสรุปสัดส่วนเม็ดเงินลงทุนที่แท้จริง หลังเจอวอลุ่มเทรดเฉลี่ยต่อวันแตะ 6 หมื่นล้านเพิ่มขึ้นจากปี 55 กว่าเท่าตัว พบ2 เดือนแรกกองทุนหุ้นเข้าซื้อดันสถาบันซื้อสุทธิเพียงกลุ่ม ส่วนวานนี้ไซปรัสกดทุกตลาดดิ่ง ของไทยลดลง 6 จุด
นายภากร ปีตธวัชชัย รองผู้จัดการหัวหน้าสายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กรและการเงิน
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยถึงแถลงสรุปภาวะการซื้อขายหลักทรัพย์เดือน ก.พ.56 ว่า
มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันรวมของ SET และ mai อยู่ที่ 62,047 ล้านบาท สูงสุดตั้งแต่ตลาดหลักทรัพย์ฯ เริ่มซื้อขาย โดยเพิ่มขึ้น 79.90%จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่อยู่ในระดับ 31,000 ล้านบาท และเพิ่มขึ้น6.98% จากเดือนมกราคม ขณะที่ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้ามีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 67,777สัญญา ใกล้เคียงกับเดือน ม.ค.56 แต่เพิ่มขึ้น 98.00%จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ทั้งนี้ ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ (SET Index) ณ สิ้นเดือน ก.พ.56 ปิดที่ 1,541.58 จุด เพิ่มขึ้น 10.75% จากสิ้นปี 55 และปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.57% เมื่อเทียบกับสิ้นเดือน ม.ค.
ผู้ลงทุนต่างประเทศขายสุทธิเป็นเดือนแรกที่ 17,229 ล้านบาท หลังจากซื้อสุทธิต่อเนื่อง 3 เดือน
ขณะที่ มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market capitalization)
ของ SET และ mai ณ สิ้นเดือนก.พ. ปรับสูงขึ้นตามทิศทางของ SET Index โดยอยู่ที่ 13,137,899 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.74% จากม.ค. และเพิ่มขึ้น 11.04% จากสิ้นปี 2555 ขณะที่ mai อยู่ที่ 183,175 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.25% จากม.ค. และเพิ่มขึ้น 37.71% จากสิ้นปี 2555
เช่นเดียวกับ Forward P/E ratio ของไทยปรับสูงขึ้นต่อเนื่อง โดย SET
อยู่ที่ 14.18 เท่า เพิ่มขึ้นจาก 13.59 เท่า ณ สิ้นเดือนก่อน ขณะที่ mai อยู่ที่ 18.72 เท่า เพิ่มขึ้นจาก 18.07 เท่า ณ สิ้นเดือนก่อนแต่ในทางตรงกันข้าม อัตราเงินปันผลตอบแทนของ SET และ maiปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 2.59% และ mai อยู่ที่ 1.18%
"ภาพรวม ก.พ.56 ความกังวลต่อแนวทางการแก้ปัญหาเศรษฐกิจยุโรปและสหรัฐอเมริกายังคงกดดันบรรยากาศการลงทุนทั่วโลก ขณะที่ตลาดทุนไทยได้รับปัจจัยบวกจากเศรษฐกิจในประเทศที่ขยายตัวหลังตัวเลข GDP ในไตรมาส 4/55 เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน และผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนที่ปรับดีขึ้น"นายภากร กล่าว
อย่างไรก็ตาม พบว่า การปรับตัวของหุ้นไทย มีการกระจายตัวไปยังกลุ่มอื่นๆ นอกเหนือกลุ่มหลักมากขึ้น โดย กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ วัดสุก่อสร้าง บริการ และธนาคารปรับตัวสูงขึ้นมาก อีกทั้งการซื้อสุทธิยังมากกลุ่มสถาบันเพียงกลุ่มเดียว จำนวน 19,466 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่มาจากกองทุนรวมหุ้น
ขณะที่ปริมาณการซื้อขายต่อวันของนักลงทุนทั่วไปก็เพิ่มขึ้นอยู่ในระดับ 40,000 ล้านบาท/วัน จากช่วงเดียวกันปีก่อนยังอยู่ที่ระดับ 12,000 -15,000 ล้านบาท

"เรารอดูไตรมาส1ก่อนก่อนว่า มันจะมีวอลุ่มจริงเท่าใดวอลุ่มที่อาจหายไปเท่าใด ต้องยอมรับว่าหุ้นในกลุ่มนอกSET100 ได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นสูงมาก เช่นเดียวกับกลุ่มSET 31-100 ที่ปรับตัวเช่นกัน เรากำลังประเมินหุ้นขนาดเล็ก แม้ไม่มีมาตรการออกมาเพิ่มเติม แต่ตลาดหลักทรัพย์ฯเฝ้ามองอยู่ตลอดเวลา
ส่วนการลงทุนผ่านระบบDMA ของนักลงทุนต่างประเทศมีเพียง 5-7%ของวอลุ่มเทรด ยังไม่มากนัก
โดยรวมทั้งนักลงทุนสถาบัน และต่างประเทศมีวอลุ่มเทรดมากขึ้นประมาณ 1-2พันล้าน แต่นักลงทุนทั่วไปเพิ่มสูงขึ้นมาก ปริมาณบัญชีที่แอคทีฟปีก่อน195,150 บัญชี แต่แค่ 2 เดือนตอนนี้เป็น 269,004 บัญชี ทั้งนักลงทุนใหม่และบัญชีเดิมที่กลับมาลงทุนหลังเห็นตลาดหุ้นดีขึ้น"

ขณะที่มูลค่ามาร์เกตแคปต่อจีดีพีประเทศ ตอนนี้ตลาดหุ้นไทยอยู่สูงกว่าจีดีพี 118% อินโดนีเซีย 44% ฟิลิปปินส์ 96%เกาหลี 99% มาเลเซีย 131% สิงคโปร์ 287% ฮ่องกง 1,085%

**หุ้นไทยร่วงจับตาแก้หนี้ไซปรัส
ความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทย วานนี้ (18มี.ค.) ปิดที่ระดับ 1,591.65 จุดลดลง 6.48 จุด หรือ 0.41%มูลค่าการซื้อขาย 65,277 ล้านบาทภาพรวมจากปัญหาไซปรัสกดดันการลงทุนทั่วโลกลดลง
น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย)กล่าวว่าตลาดหุ้นปรับลงจากปัญหาไซปรัสที่กดดันการลงทุนของตลาดหุ้นทั่วโลก แต่ยังน้อยกว่าเพื่อนบ้านเพราะได้ประโยชน์จากแรงซื้อนักลงทุนต่างชาติเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
ด้านทิศทางในวันนี้ (19 มี.ค.) ให้รอความชัดเจนประเด็นแก้หนี้จะผ่านความเห็นชอบของรัฐสภาไซปรัสหรือไม่หากไม่ผ่านก็จะต้องรอดูการแก้ปัญหาของระบบธนาคาร ซึ่งจะส่งผลต่อบรรยากาศการลงทุน แต่เชื่อว่าตลาดหุ้นไทยมี downside ไม่ลึกเพราะมองระยะกลาง-ยาวยังได้รับแรงสนับสนุนจากการเติบโตของเศรษฐกิจที่ดีภายในประเทศแนวรับ 1,585 แนวต้าน 1,600 จุด
กำลังโหลดความคิดเห็น