xs
xsm
sm
md
lg

หุ้นไทยแรงจัดจนน่าวิตก เตรียมขอ ก.ล.ต.คุมเข้มวงเงินเทรด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


 ตลท.ชี้ตลาดหุ้นไทยร่วง 16 จุด ตามตลาดหุ้นต่างประเทศ และปรับฐานจากก่อนหน้าปรับตัวเพิ่มขึ้นเร็ว ตลาดหลักทรัพย์ฯ มั่นใจยังไม่เกิดฟองสบู่ จากมีปัจจัยพื้นฐานรองรับ แต่อาจเกิดฟองสบู่หุ้นเล็กที่ซื้อขายร้อนแรง 60 ตัว ซึ่งมี P/E เกิน 40 เท่า เตือนนักลงทุนระวังการลงทุน ด้านสมาคมโบรกเกอร์ฯ เตรียมซื้อข้อมูลฐานะการเงินจากบริษัทต่างชาติหวังช่วยนักวิเคราะห์ออกบทวิเคราะห์หุ้นกลางเล็กมากขึ้น ครอบคลุม 250 ตัวแรก รับวอลุ่มเทรดแตะ 6 หมื่นล้านบาทต่อวันร้อนแรงเกิน  พร้อมหารือ ก.ล.ต.คุม บล.ให้วงเงินเทรดหุ้นให้เหมาะสม

    ดัชนีตลาดหุ้นไทยส่งท้ายเดือนมกราคม (31 ม.ค.) เคลื่อนไหวอยู่ในแดนลบ รับแรงกดดันจากปัจจัยในต่างประเทศที่ผิดหวังต่อตัวเลขเศรษฐกิจในสหรัฐฯ อีกทั้งแรงเทขายทกำไรจากการปรับตัวของดัชนีในช่วงก่อนหน้านี้ โดยปิดที่ระดับ 1,474.20 จุด ลดลง 16.62 จุด หรือ -1.11%  มูลค่าการซื้อขาย 57,798.09 ล้านบาท
    
    โดยหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่ TRUE   มูลค่าการซื้อขาย   4,167.22  ล้านบาท ปิดที่    6.60 บาท ลดลง 0.35 บาท PTT    มูลค่าการซื้อขาย   3,073.35  ล้านบาท ปิดที่  341.00 บาท ลดลง 7.00 บาท PTTEP  มูลค่าการซื้อขาย   1,971.40  ล้านบาท ปิดที่  166.00 บาท ลดลง 0.50 บาท BJC    มูลค่าการซื้อขาย   1,965.76  ล้านบาท ปิดที่   75.00 บาท ลดลง 1.25 บาท และ PTTGC  มูลค่าการซื้อขาย   1,695.90  ล้านบาท ปิดที่   80.00 บาท ลดลง 0.75 บาท

    นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการชตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ (31 ม.ค.) ปรับตัวลดลงนั้นเป็นการปรับฐานตามตลาดหุ้นต่างประเทศที่ลดลงไม่ว่าจะเป็นสหรัฐอเมริกา และยุโรป ฯลฯ ประกอบกับตลาดหุ้นไทยมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นเร็วจาก 1,400 จุด ในปลายปีที่ผ่านมาอยู่ที่ระดับเกือบ 1,500 จุด ในวันก่อนหน้าในเวลาเพียง 1 เดือนเท่านั้น

ทั้งนี้ จากที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยขึ้นมาเร็วนั้นถือว่ายังไม่เกิดเป็นฟองสบู่ เพราะมีปัจจัยพื้นฐานรองรับจากที่บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) Forword  P/E ของตลาดหุ้นไทยจะอยู่ที่ 14 เท่า  ซึ่งแสดงว่ากำไรของ บจ.เติบโต 14% ทำให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ ประมาณ 200 จุด จากปลายปี 2555 ที่ 1,400 จุด มาอยู่ที่ 1,600 จุด ได้ไม่ใช่เรื่องแปลก ภายใต้ที่ไม่มีปัจจัยลบเข้ามากระทบรุนแรง

  อย่างไรก็ตาม อาจเกิดฟองสบู่ในหุ้นขนาดกลางและเล็ก ที่ปัจจุบันมีการเก็งกำไรที่สูง  ทำให้มีค่า P/E ปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิน 40 เท่า โดยปัจจุบันมีจำนวน 60 ตัวได้  จากการที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ มีมาตรการดูแลจากหากหุ้นไหนมีการซื้อขายที่ร้อนแรงก็จะให้โบรกเกอร์ต้องดำเนินการให้ลูกค้าวางเงินสดไว้ล่วงหน้ากับสมาชิกเต็มจำนวนที่จะซื้อ (Cash Balance)  โดยหุ้นที่ติด Cash Balance ทุกตัวนั้นลดความร้อนแรงในการซื้อขายลง

     สำหรับปัจจุบันยังมีหุ้นที่มีการซื้อขายร้อนแรงอยู่นั้นอยากให้นักลงทุนประเมินความเสี่ยงของตนเองก่อนที่จะเข้าลงทุนว่าสามารถรับความเสี่ยงในการลงทุนได้มากน้อยแค่ไหน  และหากจะลงทุนในที่มีการซื้อขายแรงนั้นก็จะต้องใช้เงินสดในการลงทุน อย่ากู้เงินเพื่อนำมาซื้อหุ้น เพราะหากเกิดผลเสียหายจะได้ไม่กระทบกับนักลงทุน และโบรกเกอร์ และอุตสาหกรรม

    ส่วนจากการที่ค่าเงินบาทมีการแข็งค่าขึ้นนั้น ไม่ได้ทำให้มีเม็ดเงินไหลเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นถือว่าอยู่ในระดับปกติใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา ไม่น่ากังวลอะไร แต่ผลกระทบกับบริษัทจดทะเบียนนั้นอาจมีบ้างในบางกลุ่ม อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า บจ.จจะสามารถปรับตัวได้

    น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวานนี้พักตัว เช่นเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่จะปรับฐาน จากปัจจัยตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ไม่เป็นไปตามคาด ทำให้กดดัน sentiment การลงทุนพอสมควร  อีกทั้งได้มีการปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างมากในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ตลาดมีการพักตัวเกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม ยังต้องจับตา Fund Flow และความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติเริ่มขายสลับออกมาให้เห็นมากขึ้น รวมไปถึงการเข้าไปทำ short ในตลาดอนุพันธ์ด้วย

    ดังนั้น แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (1 ก.พ.) น.ส.ธีรดา กล่าวว่า ตลาดยังอยู่ในกรอบการพักตัว โดยระหว่างทางอาจจะมีความผันผวนค่อนข้างมากจากการเก็งกำไรของนักลงทุน จึงแนะนำให้ระมัดระวัง พร้อมให้แนวต้าน 1,485-1,495 จุด แนวรับ 1,470 จุด

หุ้นแรงจัด-เตรียมคุมเข้มวงเงินเทรด
                นางภัทธีรา ดิลกรุ่งธีระภพ นายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย  กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย  มีแผนที่จะร่วมกันในการซื้อข้อมูลเกี่ยวกับงบการเงิน และฐานะทางการเงินของบริษัทจดทะเบียนไทย และต่างประเทศ จากบริษัทต่างประเทศที่มีการจัดทำข้อมูลเพื่อขายข้อมูล   เพื่อเป็นเครื่องมือช่วยให้นักวิเคราะห์สามารถหยิบข้อมูลเหล่านี้มาใช้ในการออกบทวิเคราะห์แนะนำการลงทุนผู้ลงทุนได้ทันที เมื่อหุ้นตัวนั้นๆ เป็นที่สนใจของนักลงทุน เนื่องจากปัจจุบัน หุ้นขนาดกลาง และเล็กอยู่นอก SET 100 มีปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น และนักลงทุนให้ความสนใจในหุ้นดังกล่าวแต่ยังไม่มีบทวิเคราะห์ออกมาเพื่อให้นักลงทุนทราบข้อมูลพื้นฐานบริษัท และนักวิเคราะห์เองไม่สามารถทำได้เท่าทันกับความสนใจลงทุนของนักลงทุน โดยคาดว่าจะพยายามให้มีการจัดทำบทวิเคราะห์ให้ครอบคลุมหุ้น 250 ตัวแรก  คาดว่าจะซื้อได้ภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้  

    ขณะเดียวกัน มูลค่าการซื้อขายหุ้นไทยเกิน 6 หมื่นล้านบาทต่อวันนั้นถือว่ามีการปรับตัวเพิ่มขึ้นเร็วเกินไป และปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นมาจากกลุ่มหุ้นขนาดเล็ก ได้กลายเป็นสิ่งที่สร้างความกังวลใจให้แก่ทางสมาคมโบรกเกอร์ แม้ว่าจะเป็นพัฒนาการที่ทางสมาคม และตลาดหลักทรัพย์ฯ ต้องการให้เกิดขึ้น แต่เนื่องจากเกิดขึ้นเร็ว และเป็นไปอย่างร้อนแรงเกินไป

    นอกจากนี้ ทางสมาคมโบรกเกอร์ฯ เพิ่งได้มีการหารือกับทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เมื่อเช้าวานนี้ (31 ม.ค.)  เรื่องที่จะให้โบรกเกอร์มีการพิจารณาการให้วงเงินซื้อขายกับลูกค้าในระดับเหมาะสม  และเป็นไปด้วยความรอบคอบระมัดระวังมากขึ้นด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้มีการให้วงเงินลูกค้ามากเกินไป เพราะหากเกิดความเสียหายอาจจะกระทบต่ออุตสาหกรรมหลักทรัพย์ได้

 
หุ้นพลิกร่วง16จุด เตือนฟองสบู่หุ้นเล็ก
ตลท.ชี้ตลาดหุ้นไทยร่วง 16 จุด ตามตลาดหุ้นต่างประเทศ และปรับฐานจากก่อนหน้าปรับตัวเพิ่มขึ้นเร็ว ตลาดหลักทรัพย์มั่นใจยังไม่เกิดฟองสบู่ เหตุมีปัจจัยพื้นฐานรองรับ แต่อาจเกิดฟองสบู่หุ้นเล็กที่ซื้อขายร้อนแรง 60 ตัว ซึ่งมีP/E เกิน 40 เท่า เตือนนักลงทุนระวังการลงทุน ด้านสมาคมโบรกเกอร์ฯ เตรียมซื้อข้อมูลฐานะการเงินจากบริษัทต่างชาติหวังช่วยนักวิเคราะห์ออกบทวิเคราะห์หุ้นกลางเล็กมากขึ้น ครอบคลุม 250 ตัวแรก รับวอลุ่มเทรดแตะ 6 หมื่นล้านบาทต่อวันร้อนแรงเกิน พร้อมหารือก.ล.ต.คุม บล.ให้วงเงินเทรดหุ้นให้เหมาะสม
กำลังโหลดความคิดเห็น