00 “มั่ว”และ “มักง่าย” กันได้ใจจริงๆ ทั้งรัฐบาล และพวกลูกน้องขี้ข้าทั้งหลาย สำหรับแนวคิดผลักดันนครรัฐปัตตานี หรือว่า เขตปกครองพิเศษปัตตานี ซึ่งแน่นอนว่าเรื่องแบบนี้ก็ต้องมีชื่อของ “เหลี่ยมจัด” ทักษิณ ชินวัตร มีเอี่ยวอยู่ด้วยไม่มากก็น้อย หรืออาจจะเป็นคนสั่งการโดยตรงเลยก็เป็นได้ หลังจากฟังพวก “กุนซือ” ข้างกายสรุปให้ฟังจนเคลิ้ม ที่ว่ามักง่ายก็คือ ในเมื่อสถานการณ์ในพื้นที่ฝ่ายรัฐยังไม่อาจควบคุมสถานการณ์ได้เลย ฝ่ายผู้ก่อความไม่สงบสามารถก่อเหตุได้ตามใจชอบ ไม่อาจเปิดเกมรุกทางยุทธศาสตร์ ยังไม่อาจได้ใจจากชาวบ้าน นี่ขนาดขบวนการโจรก่อการร้ายยังไม่มีการจัดตั้งอย่างเป็นทางการ จนเป็นองค์ขนาดใหญ่ มีการประกาศความรับผิดชอบหลังก่อเหตุ ลักษณะที่เป็นอยู่เหมือนกับแก๊งวัยรุ่น ที่ได้รับการยุยงให้เกลียดชังเจ้าหน้าที่ ฝ่ายเรายังไม่รู้แน่ชัดด้วยซ้ำเลยว่ากำลังต่อสู้อยู่กับใคร กลุ่มไหน
00 สถานการณ์ในชายแดนใต้ ที่ลุกลามบานปลายในเวลานี้ก็ต้องชี้หน้าไปที่ ทักษิณ ชินวัตร คนเดียวที่เป็นต้นเหตุ เพราะด้วยวิธีคิดแบบ “รัฐตำรวจ” ใช้อำนาจบาตรใหญ่ ข่มขู่คุกคาม อุ้มฆ่า และโดยเฉพาะอย่างในพื้นที่ละเอียดอ่อน มีความอ่อนไหวในทางประวัติศาสตร์มานานนับร้อยๆปีแบบนี้ มันก็ยิ่งไปกันใหญ่ และต้องไม่ลืมว่าพื้นที่สามสี่จังหวัดภาคใต้เป็นป่าเขา มีผู้นำชุมชน ผู้นำศาสนา มีมัสยิดเป็นศูนย์รวม เวลาเกิดเรื่องราวขึ้นมา กว่าจะทำให้กลายเป็นเรื่องปกตินั้นยากแสนยาก โดยเฉพาะบรรยากาศเรื่อง “ข่าวลือ” นั้นง่ายดายมาก ดังนั้นรัฐจะต้องใช้คนที่รู้จักพื้นที่ และคนที่เสียสละไฟแรง ลงไปแก้ปัญหา ไม่ใช่คนห่วยๆ ขี้โม้อย่าง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง หรือแม้แต่คนที่พูดแบบปากไม่มีหูรูดอย่าง พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร มาเป็นเลขาฯสมช. อย่างที่เป็นอยู่
00 คนพวกนี้ไม่เคยมีความเข้าใจในวัฒนธรรม อัตลักษณ์ของพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ คิดแต่เพียงว่าจะทำอย่างไรให้มีการหยุดยิง โดยต้องเจรจากับกลุ่มผู้ก่อการร้ายสักกลุ่มหนึ่ง สำหรับการ “สร้างภาพ” ทางการเมือง ซึ่งก็ไปคว้าเอา “บีอาร์เอ็น” ซึ่งสถานการณ์ปัจจุบันถือว่าตกรุ่นไปแล้ว ในพื้นที่ไม่เคยมีใครพูดถึงมาตั้งนานแล้ว ไม่อยากจะพูดว่าเป็น “ของปลอม” แต่คนพวกนี้ไม่ใช่ของจริงแน่นอน และการเจรจาไม่ว่าจะเป็นกลุ่มนี้ หรือกลุ่มที่ นายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นำทีมนำร่องไปเปิดหัวเอาไว้ที่มาเลเซียเมื่อวันก่อน มันก็เหมือนกับการยกระดับให้กลายเป็นองค์กรระดับสากล ที่สามารถเจรจากับฝ่ายรัฐบาล และต่อไปก็ต้องมีองค์กรระหว่างประเทศเข้ามาสังเกตการณ์ ทุกอย่างก็พัฒนาไปแบบนั้น จนกระทั่งอาจถึงขั้น “ลงประชามติ” แยกเป็นเขตปกครองตนเองหรือ ประเทศใหม่ ขึ้นมาก็เป็นได้ !!
00 ไม่อยากพูดว่า ทักษิณ เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์เรื่องพลังงานและธุรกิจในการทำ “ธุรกิจนายหน้าข้ามชาติ” กับนครรัฐปัตตานี เพราะยังไกลไปนิดหนึ่ง หลายคนอาจยังมองภาพในอนาคตเบลอๆ แต่ถ้าบอกว่าเขานั่นแหละที่ทำให้ชายแดนใต้ป่วน และเสี่ยงต่อการหลุดลอยออกไป ก็เป็นคนๆ เดียวกันนี่แหละ ใช่เลย และการแก้ปัญหาในเวลานี้ก็ไม่ต่างจากการสร้างภาพฉาบฉวย เหมือนกับการหวังผลทางธุรกิจเท่านั้น !!
00 ล่าสุด ก็ถึงบางอ้อ เมื่อหลุดออกมาจากปาก เหลิม ปากบอน เอ้ย..บางบอน ว่า ตัวต้นคิดเรื่อง นครรัฐปัตตานี อะไรเนี่ย ล้วนมาจาก "จิ๋วเจ้าเก่า" พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ นั่นเอง ทุกอย่างมันก็เข้าเค้า และทำท่าจะเป็นจริงอย่างที่ พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาฯสมช. เคยโพล่งออกมาก่อนหน้านี้ว่า "ปลายทางอยู่ที่นั่น" เพียงแต่ว่าถูก "ตบปาก" เสียก่อน จึงปฏิเสธแบบไม่เต็มปากเต็มคำ ทุด !!
00 สถานการณ์ในชายแดนใต้ ที่ลุกลามบานปลายในเวลานี้ก็ต้องชี้หน้าไปที่ ทักษิณ ชินวัตร คนเดียวที่เป็นต้นเหตุ เพราะด้วยวิธีคิดแบบ “รัฐตำรวจ” ใช้อำนาจบาตรใหญ่ ข่มขู่คุกคาม อุ้มฆ่า และโดยเฉพาะอย่างในพื้นที่ละเอียดอ่อน มีความอ่อนไหวในทางประวัติศาสตร์มานานนับร้อยๆปีแบบนี้ มันก็ยิ่งไปกันใหญ่ และต้องไม่ลืมว่าพื้นที่สามสี่จังหวัดภาคใต้เป็นป่าเขา มีผู้นำชุมชน ผู้นำศาสนา มีมัสยิดเป็นศูนย์รวม เวลาเกิดเรื่องราวขึ้นมา กว่าจะทำให้กลายเป็นเรื่องปกตินั้นยากแสนยาก โดยเฉพาะบรรยากาศเรื่อง “ข่าวลือ” นั้นง่ายดายมาก ดังนั้นรัฐจะต้องใช้คนที่รู้จักพื้นที่ และคนที่เสียสละไฟแรง ลงไปแก้ปัญหา ไม่ใช่คนห่วยๆ ขี้โม้อย่าง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง หรือแม้แต่คนที่พูดแบบปากไม่มีหูรูดอย่าง พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร มาเป็นเลขาฯสมช. อย่างที่เป็นอยู่
00 คนพวกนี้ไม่เคยมีความเข้าใจในวัฒนธรรม อัตลักษณ์ของพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ คิดแต่เพียงว่าจะทำอย่างไรให้มีการหยุดยิง โดยต้องเจรจากับกลุ่มผู้ก่อการร้ายสักกลุ่มหนึ่ง สำหรับการ “สร้างภาพ” ทางการเมือง ซึ่งก็ไปคว้าเอา “บีอาร์เอ็น” ซึ่งสถานการณ์ปัจจุบันถือว่าตกรุ่นไปแล้ว ในพื้นที่ไม่เคยมีใครพูดถึงมาตั้งนานแล้ว ไม่อยากจะพูดว่าเป็น “ของปลอม” แต่คนพวกนี้ไม่ใช่ของจริงแน่นอน และการเจรจาไม่ว่าจะเป็นกลุ่มนี้ หรือกลุ่มที่ นายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นำทีมนำร่องไปเปิดหัวเอาไว้ที่มาเลเซียเมื่อวันก่อน มันก็เหมือนกับการยกระดับให้กลายเป็นองค์กรระดับสากล ที่สามารถเจรจากับฝ่ายรัฐบาล และต่อไปก็ต้องมีองค์กรระหว่างประเทศเข้ามาสังเกตการณ์ ทุกอย่างก็พัฒนาไปแบบนั้น จนกระทั่งอาจถึงขั้น “ลงประชามติ” แยกเป็นเขตปกครองตนเองหรือ ประเทศใหม่ ขึ้นมาก็เป็นได้ !!
00 ไม่อยากพูดว่า ทักษิณ เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์เรื่องพลังงานและธุรกิจในการทำ “ธุรกิจนายหน้าข้ามชาติ” กับนครรัฐปัตตานี เพราะยังไกลไปนิดหนึ่ง หลายคนอาจยังมองภาพในอนาคตเบลอๆ แต่ถ้าบอกว่าเขานั่นแหละที่ทำให้ชายแดนใต้ป่วน และเสี่ยงต่อการหลุดลอยออกไป ก็เป็นคนๆ เดียวกันนี่แหละ ใช่เลย และการแก้ปัญหาในเวลานี้ก็ไม่ต่างจากการสร้างภาพฉาบฉวย เหมือนกับการหวังผลทางธุรกิจเท่านั้น !!
00 ล่าสุด ก็ถึงบางอ้อ เมื่อหลุดออกมาจากปาก เหลิม ปากบอน เอ้ย..บางบอน ว่า ตัวต้นคิดเรื่อง นครรัฐปัตตานี อะไรเนี่ย ล้วนมาจาก "จิ๋วเจ้าเก่า" พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ นั่นเอง ทุกอย่างมันก็เข้าเค้า และทำท่าจะเป็นจริงอย่างที่ พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาฯสมช. เคยโพล่งออกมาก่อนหน้านี้ว่า "ปลายทางอยู่ที่นั่น" เพียงแต่ว่าถูก "ตบปาก" เสียก่อน จึงปฏิเสธแบบไม่เต็มปากเต็มคำ ทุด !!