ASTVผู้จัดการรายวัน - ตำรวจเมืองน่านบุกค้นบ้านพักนายดาบตำรวจ ชุดสืบสวนบกภ.จว.น่าน เหตุพัวพันขนเฮโรอีนล็อตใหญ่ 68.5 กก. จากชายแดนภาคเหนือล่องใต้ ส่งเครือข่ายมาเลย์
วานนี้(12 มี.ค.)พล.ต.ต.ณรงค์ชัย วงศ์สามี ผบก.ภ.จว.น่าน และพ.ต.อ.พิเชษฐ จีระนันติสิน รองผบก.ภ.จว. รับผิดชอบงานด้านยาเสพติด ได้สั่งการให้ตำรวจแบ่งชุดกำลังเข้าตรวจค้นบ้านพักของด.ต.ฉริยะ รชตวงศ์ชัย ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดน่าน รวม 6 แห่ง ตามหมายศาลจังหวัดน่าน หลังด.ต.ฉริยะ ถูกซัดทอดว่ามีส่วนพัวพันการค้าเฮโรอีนข้ามชาติ 68.5 กิโลกรัม ที่จับกุมได้ในจ.ชุมพร เมื่อวันที่ 9 มีนาคมที่ผ่านมา
โดยผู้ต้องหาเป็นน้องสาวและน้องเขยของด.ต.ฉริยะ และให้การซัดทอดว่าดต.ฉริยะเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการค้าเฮโรอีน ซึ่งนำมาจากอ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ ไปพักไว้ที่บ้านพักในอ.บ้านหลวง จ.น่าน ก่อนจะลำเลียงไปยังอ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เพื่อรอลูกค้าชาวมาเลเซียมารับของ โดยทำมาแล้วกว่า 7 ครั้ง
จากนั้นผู้บังคับบัญชาได้เรียกตัวด.ต.ฉริยะ มาสอบปากคำ แต่ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
สำหรับการจับกุมเฮโรอีนข้ามชาติล็อตใหญ่ มีขึ้นหลังตำรวจปราบปรามยาเสพติด ได้รับแจ้งจากสายว่าจะมีขบวนการลักลอบขนยาเสพติดผ่านจ.ชุมพร จึงวางกำลังเฝ้าติดตามพฤติกรรม กระทั่งพบรถบรรทุกฮีโน่ 6 ล้อ ทะเบียน 70-0425 น่าน ผ่านบริเวณจุดตรวจด่านสกัดกั้นยาเสพติด จ.ชุมพร จึงขอตรวจค้น แต่คนขับรถ คือ นายสาคร เปียสังข์ อายุ 42 ปี และนางญาณวัฒนา เปียสังข์ อายุ 40 ปี สองสามีภรรยา มีท่าทางพิรุธ ตำรวจจึงตรวจค้นรถอย่างละเอียด พบว่ามีการดัดแปลงบริเวณรอยต่อห้องโดยสารกับกระบะท้าย เป็นช่องลับซุกซ่อนเฮโรอีน 188 แท่ง น้ำหนัก 68.5 กิโลกรัม
เบื้องต้น ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ให้การรับสารภาพว่าเฮโรอีนทั้งหมดนำมาจากอ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ก่อนจะนำของมาเก็บไว้ที่บ้านในอ.บ้านหลวง จ.น่าน จากนั้นรอให้เครือข่ายยาเสพติดชาวมาเลเซีย สั่งให้นำของไปส่งตามจุดที่นัดหมาย ล่าสุดนัดส่งยาที่ปั้มน้ำมันแห่งหนึ่งในอ.หาดใหญ่ วันที่ 9 มีนาคม แต่ถูกเจ้าหน้าที่ด่านตรวจจ.ชุมพร จับกุมเสียก่อน
จากการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหาทั้ง 2 คน พบว่ามีพฤติกรรมลักลอบลำเลียงเฮโรอีนจากชายแดนภาคเหนือลงไปพื้นที่ภาคใต้กว่า 7 ครั้งแล้ว ซึ่งภายใน 1 ปี จะลำเลียงประมาณ 4 ครั้ง ได้ค่าจ้างครั้งละ 2 ล้านบาท และเมื่อประมาณ 3 เดือนที่ผ่านมา ตำรวจชุมพรสามารถยึดเฮโรอีนได้ 120 แท่ง
สำหรับการลำเลียงเฮโรอีนจะใช้รถยนต์บรรทุกพืชผลทางการเกษตรตบตา ขนผ่านเส้นทางอ.แม่อาย เข้าอ.แม่สรวย จ.เชียงราย ก่อนเข้าสู่จ.พะเยา ผ่านจ.น่าน แพร่ พิษณุโลก สุโขทัย นครสวรรค์ ก่อนเข้าสู่จ.ปทุมธานี เพื่อรอให้เครือข่ายยาเสพติดสั่งของ จึงจะนำลงภาคใต้ทันที
ล่าสุดตำรวจปราบปรามยาเสพติด ขยายผลจนพบว่ากลุ่มนี้มีผู้ร่วมขบวนการเป็นนักค้ายาเสพติดชาวมาเลเซีย ชื่อนายเบิร์ด จึงซ้อนแผนจับกุม โดยนัดส่งมอบเฮโรอีนบริเวณริมถนนข้างปั้มปตท. อ.จะนะ จ.สงขลา จนถึงเวลานัดหมาย นายเบิร์ดขับรถกระบะโตโยต้าวีโก้ สีดำ เข้าไปจอดเทียบรถบรรทุก 6 ล้อ ตำรวจจึงแสดงตัวเข้าจับกุมทันที
จากการสอบสวนนายเบิร์ด รับสารภาพว่าจะนำเฮโรอีนไปส่งที่รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย ที่ผ่านมาได้ค่าจ้างครั้งละ 5 แสนบาท ทำมาแล้ว 2 ครั้ง ส่วนเฮโรอีนล็อตนี้จะถูกกระจายต่อไปยังประเทศที่ 3 ทั้งฮ่องกง สิงคโปร์ ออสเตรเลีย รวมถึงสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีมูลค่าหลายร้อยล้านบาท
วานนี้(12 มี.ค.)พล.ต.ต.ณรงค์ชัย วงศ์สามี ผบก.ภ.จว.น่าน และพ.ต.อ.พิเชษฐ จีระนันติสิน รองผบก.ภ.จว. รับผิดชอบงานด้านยาเสพติด ได้สั่งการให้ตำรวจแบ่งชุดกำลังเข้าตรวจค้นบ้านพักของด.ต.ฉริยะ รชตวงศ์ชัย ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดน่าน รวม 6 แห่ง ตามหมายศาลจังหวัดน่าน หลังด.ต.ฉริยะ ถูกซัดทอดว่ามีส่วนพัวพันการค้าเฮโรอีนข้ามชาติ 68.5 กิโลกรัม ที่จับกุมได้ในจ.ชุมพร เมื่อวันที่ 9 มีนาคมที่ผ่านมา
โดยผู้ต้องหาเป็นน้องสาวและน้องเขยของด.ต.ฉริยะ และให้การซัดทอดว่าดต.ฉริยะเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการค้าเฮโรอีน ซึ่งนำมาจากอ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ ไปพักไว้ที่บ้านพักในอ.บ้านหลวง จ.น่าน ก่อนจะลำเลียงไปยังอ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เพื่อรอลูกค้าชาวมาเลเซียมารับของ โดยทำมาแล้วกว่า 7 ครั้ง
จากนั้นผู้บังคับบัญชาได้เรียกตัวด.ต.ฉริยะ มาสอบปากคำ แต่ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
สำหรับการจับกุมเฮโรอีนข้ามชาติล็อตใหญ่ มีขึ้นหลังตำรวจปราบปรามยาเสพติด ได้รับแจ้งจากสายว่าจะมีขบวนการลักลอบขนยาเสพติดผ่านจ.ชุมพร จึงวางกำลังเฝ้าติดตามพฤติกรรม กระทั่งพบรถบรรทุกฮีโน่ 6 ล้อ ทะเบียน 70-0425 น่าน ผ่านบริเวณจุดตรวจด่านสกัดกั้นยาเสพติด จ.ชุมพร จึงขอตรวจค้น แต่คนขับรถ คือ นายสาคร เปียสังข์ อายุ 42 ปี และนางญาณวัฒนา เปียสังข์ อายุ 40 ปี สองสามีภรรยา มีท่าทางพิรุธ ตำรวจจึงตรวจค้นรถอย่างละเอียด พบว่ามีการดัดแปลงบริเวณรอยต่อห้องโดยสารกับกระบะท้าย เป็นช่องลับซุกซ่อนเฮโรอีน 188 แท่ง น้ำหนัก 68.5 กิโลกรัม
เบื้องต้น ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ให้การรับสารภาพว่าเฮโรอีนทั้งหมดนำมาจากอ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ก่อนจะนำของมาเก็บไว้ที่บ้านในอ.บ้านหลวง จ.น่าน จากนั้นรอให้เครือข่ายยาเสพติดชาวมาเลเซีย สั่งให้นำของไปส่งตามจุดที่นัดหมาย ล่าสุดนัดส่งยาที่ปั้มน้ำมันแห่งหนึ่งในอ.หาดใหญ่ วันที่ 9 มีนาคม แต่ถูกเจ้าหน้าที่ด่านตรวจจ.ชุมพร จับกุมเสียก่อน
จากการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหาทั้ง 2 คน พบว่ามีพฤติกรรมลักลอบลำเลียงเฮโรอีนจากชายแดนภาคเหนือลงไปพื้นที่ภาคใต้กว่า 7 ครั้งแล้ว ซึ่งภายใน 1 ปี จะลำเลียงประมาณ 4 ครั้ง ได้ค่าจ้างครั้งละ 2 ล้านบาท และเมื่อประมาณ 3 เดือนที่ผ่านมา ตำรวจชุมพรสามารถยึดเฮโรอีนได้ 120 แท่ง
สำหรับการลำเลียงเฮโรอีนจะใช้รถยนต์บรรทุกพืชผลทางการเกษตรตบตา ขนผ่านเส้นทางอ.แม่อาย เข้าอ.แม่สรวย จ.เชียงราย ก่อนเข้าสู่จ.พะเยา ผ่านจ.น่าน แพร่ พิษณุโลก สุโขทัย นครสวรรค์ ก่อนเข้าสู่จ.ปทุมธานี เพื่อรอให้เครือข่ายยาเสพติดสั่งของ จึงจะนำลงภาคใต้ทันที
ล่าสุดตำรวจปราบปรามยาเสพติด ขยายผลจนพบว่ากลุ่มนี้มีผู้ร่วมขบวนการเป็นนักค้ายาเสพติดชาวมาเลเซีย ชื่อนายเบิร์ด จึงซ้อนแผนจับกุม โดยนัดส่งมอบเฮโรอีนบริเวณริมถนนข้างปั้มปตท. อ.จะนะ จ.สงขลา จนถึงเวลานัดหมาย นายเบิร์ดขับรถกระบะโตโยต้าวีโก้ สีดำ เข้าไปจอดเทียบรถบรรทุก 6 ล้อ ตำรวจจึงแสดงตัวเข้าจับกุมทันที
จากการสอบสวนนายเบิร์ด รับสารภาพว่าจะนำเฮโรอีนไปส่งที่รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย ที่ผ่านมาได้ค่าจ้างครั้งละ 5 แสนบาท ทำมาแล้ว 2 ครั้ง ส่วนเฮโรอีนล็อตนี้จะถูกกระจายต่อไปยังประเทศที่ 3 ทั้งฮ่องกง สิงคโปร์ ออสเตรเลีย รวมถึงสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีมูลค่าหลายร้อยล้านบาท